Advent of the Archmage – ตอนที่ 315: ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของราชินี

วิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้ผู้คนดีใจก็คือการให้ในสิ่งที่เขาต้องการ ยังไงก็ตาม เราจะต้องไม่ใจดีเกินไปจนคนอื่นคิดว่าเราเป็นไอโง่

 

เกรเทลได้ทำการสืบเรื่องของลิงค์อย่างละเอียดก่อนที่เธอจะมาถึง หลังจากที่คิดอยู่ซักพัก ก็มีความคิดนึงเข้ามาในหัวของเธอ

 

เธอพูด “ลิงค์ ข้าได้ยินมาว่าเจ้ากำลังทำการวิจัยเกี่ยวกับเวทย์มิติ ถ้าเกิดว่าข้าคิดไม่ผิด เจ้ากำลังเขียนวิทยานิพนธ์ที่เกี่ยวข้องกับกฎของมิติอยู่ใช่ไหม?”

 

ลิงค์มองเกรเทลด้วยสีหน้าสับสน เขาไม่เข้าใจเจตนาของเธอ แต่ถึงยังไงนี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาจำเป็นต้องปิดบัง เขาพยักหน้าแล้วพูด “ใช่ครับ ”

 

“ขอข้าดูแบบร่างของมันหน่อยสิ?”

 

ลิงค์รู้สึกกระตือรือร้นขึ้นมาในทันทีที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้

 

เขาจำได้ว่าภายในเกม, เกรเทลเป็นผู้เชี่ยวชาญเวทย์มิติ ซึ่งอันที่จริงแล้ว ชนเผ่ามังกรนั้นเป็นที่รู้จักกันว่ามีพรสวรรค์ในเวทย์มิติ และหลักฐานก็คือหมอกวงกตที่ปกคลุมหุบเขามังกรอยู่

 

จุดประสงค์ของเธอก็คือการแนะนำการเขียนวิทยานิพนธ์ให้กับเขา!

 

“ถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ” ลิงค์พูด

 

จากนั้น ลิงค์ก็หยิบวิทยานิพนธ์ของเขาออกมา วิทยานิพนธ์เล่มนี้หนากว่าเล่มที่เขาเคยแสดงให้มิลด้าดู ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาเขียนมันเพิ่ม

 

ลิงค์ไม่ได้ยอมแพ้เรื่องการวิจัยมิติ  เขามักจะค้นคว้ามันในตอนที่เขามีเวลาว่าง  ตอนนี้มันมีหน้าใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก 20 หน้า

 

เกรเทลศึกษาวิทยานิพนธ์อย่างละเอียด ในตอนแรก เธออ่านมันอย่างสบายๆ และให้ความคิดเห็นบางจุดตามปกติ การวิเคราะห์ของเธอนั้นเจาะจงและมีคุณค่า แต่ละส่วนของมันสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆให้ลิงค์อย่างมากมาย

 

ความเร็วในการอ่านของเธอนั้นลดลงหลังจากที่เธออ่านไปถึงกลางเล่ม เธอใช้เวลา 2 นาทีต่อ 1 หน้า ยังไงก็ตาม การวิเคราะห์ของเธอก็ยิ่งลึกและประณีตขึ้นตามด้วย ลิงค์สามารถเข้าใจพวกมันได้แค่บางส่วนเท่านั้น เขาจดบันทึกในส่วนที่ไม่เข้าใจเอาไว้เพื่อการค้นคว้าในอนาคต

 

วิทยานิพนธ์นั้นมีทั้งหมด 150 หน้า และมีอย่างน้อย 20 หน้า, ที่ความเร็วในการอ่านของเกรเทลลดลงไปอย่างมาก เธอใช้เวลาถึงครึ่งชั่วโมงในการอ่านหน้านึง และพอถึงหน้าที่ 2 นับจากท้าย เธอก็อุทานออกมา “ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะมาได้ถึงระดับนี้แล้ว นี่มันเป็นส่วนที่ละเอียดอ่อนมากๆของวิทยานิพนธ์เล่มนี้  ข้าขอเวลาคิดก่อนพักนึงนะ, แล้วเดี๋ยวข้าจะแนะนำให้ เอาแบบนี้เป็นไง ในระหว่างที่ข้าอ่านวิทยานิพนธ์ของเจ้า, เจ้าก็ไปทำธุระของเจ้าเถอะ แล้วข้าจะกลับมาในวันพรุ่งนี้พร้อมกับคำแนะนำที่มากกว่านี้”

 

“ถ้าได้แบบนั้นก็ดีเลยครับ”

 

จากนั้นเกรเทลก็เดินออกไปพร้อมกับวิทยานิพนธ์ ในอีกด้านหนึ่ง ลิงค์เองก็อ่านหนังสือเครื่องรางต่อ และพอเขาไปถึงจุดที่ไปต่อไม่ได้ เขาก็จะหันกลับมาที่วิทยานิพนธ์ของเขาและเขียนมันต่อ

 

เกรเทลมาเร็วมากในเช้าวันต่อมา เธอพาเฟลิน่ามาด้วย เฟลิน่านั้นหายดีแล้ว หลังจากที่ราชินีมังกรแดงได้พูดคุยเรื่องบางอย่างกับลิงค์, เธอก็จะออกจากหุบเขามังกรไปพร้อมกับลิงค์และนานะเพื่อตามหาเทพที่ถูกเนรเทศ

 

เฟลิน่านั้นเป็นผู้หญิงที่สวยและน่าดึงดูด เธอเป็นที่ชวนจับจ้องอย่างไม่ต้องสงสัย ยังไงก็ตาม เมื่อเธอมายืนอยู่ข้างกับราชินีมังกรแดง ความเปล่งประกายของเธอก็ดูหมองลงไปในทันที

 

เกรเทลนั้นเป็นเหมือนกับแม่เหล็ก, ดึงดูดทุกความสนใจมาอยู่ที่เธอ

 

โดยปกติแล้ว การดึงดูดนี้มันเป็นแค่สัญชาติญาณเท่านั้น สายตาของลิงค์เผลอมองไปที่เกรเทลแปปนึงก่อนที่เขาจะได้สติ หลังจากที่ทักทายเกรเทล เขาก็มองเฟลิน่าด้วยความเป็นห่วง แล้วถาม “เธอยังดูโทรมอยู่เลย อยากพักผ่อนเพิ่มอีกสักสองสามวันไหม?”

 

เฟลิน่ายิ้มอย่างขอบคุณและพูด “ไม่จำเป็นหรอก องค์ราชินีได้ช่วยรักษาแผลของข้าด้วยตัวเอง ข้ารู้สึกดีกว่าทุกครั้งซะอีก”

 

“ถ้างั้นก็เยี่ยมไปเลย” ลิงค์พึมพำ แต่ภายในใจของเขา เขาก็ตัดสินใจแล้วว่าจะหยุดพักระหว่างทางบ่อยขึ้นเพื่อแบ่งเบาภาระของเฟลิน่า

 

เกรเทลแค่ยิ้มออกมาและรอให้การสนทนาของพวกเขาจบลง จากนั้น เธอก็คืนวิทยานิพนธ์ให้ลิงค์และให้ข้อคิดเห็น “ข้าต้องบอกเลยว่าความคิดของเจ้ามันซับซ้อนและแปลกใหม่มากๆ หลายๆทฤษฏีที่เจ้าใส่ลงไปในนั้นเป็นแบบดั้งเดิมและประณีตมาก ข้าพยายามเติมเต็มมันอย่างถึงที่สุดแล้ว หวังว่าพวกมันคงจะช่วยเจ้าได้บ้างนะ”

 

ความดูถูกเหยียดหยามของเธอที่มีต่อมนุษย์คนนี้ได้หายไปหมดแล้ว ในตอนนี้เธอมองว่าลิงค์เป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถพูดคุยกับเธอได้อย่างเท่าเทียมกัน

 

ลิงค์รับวิทยานิพนธ์คืนมาและเปิดดูมันผ่านๆ เขาสังเกตุเห็นว่ามันมีหน้าเพิ่มมาอีก 5 หน้า  จากนั้นเขาก็อ่านในส่วนที่ถูกเพิ่มเข้ามาแล้วตกใจที่เขาสามารถทำความเข้าใจได้แค่บางส่วนเท่านั้น  นี่ทำให้ความสงสัยของเขาไปถึงจุดขีดสุดและทำให้เขาอ่านมันอย่างละเอียด ณ ตรงนี้เลย ในระหว่างที่เขาอ่าน ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างและเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น และในท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ไม่สามารถห้ามตัวเองให้ทุบโต๊ะด้วยความดีใจได้

 

ลิงค์นึกขึ้นได้ว่าเขาสูญเสียความเยือกเย็นไป เขาจึงพูดออกมา “ขอโทษนะครับ, องค์ราชินี สมการเวทมนตร์พวกนี้ประณีตมาก มันส่องประกายเหมือนกับดวงดาวบนฟากฟ้าเลย!”

 

จากนั้นเกรเทลก็ยิ้มและดูเหมือนว่าเธอจะส่องประกายยิ่งกว่าเดิมอีก

 

เธอไม่ได้รู้สึกอะไรในตอนที่มีคนชื่นชมรูปร่างของเธอ เธอคุ้นเคยกับการชื่นชมแบบผิวเผินพวกนี้แล้วหลังจากที่มีชีวิตอยู่มาเกือบ 2,000 ปี ถ้าเกิดว่ามีใครบางคนมาจ้องหน้าของเธอนานๆ เธอก็จะรู้สึกขยะแขยงและรำคาญ ยังไงก็ตาม เธอรู้สึกประสบความสำเร็จและมีคุณค่าเมื่อลิงค์ชื่นชมสติปัญญาและความรู้ของเธอ

 

และยิ่งไปกว่านั้น มนุษย์คนนี้ยังรู้ขอบเขตของเขาด้วย เขาจ้องมาที่เธอแค่แปปเดียวก่อนที่จะเบือนสายตาหนี แถมเขายังปฏิบัติกับเฟลิน่าด้วยความเคารพอีกด้วย

 

จากนั้นเกรเทลก็ตอบ “ข้ารู้สึกเป็นเกียรติมากที่เจ้าชอบมันนะ”

 

เฟลิน่าเห็นภาพเหตุการณ์นี้ เธอมองสับไปสับมาระหว่างลิงค์กับเกรเทลด้วยความสงสัย เธอสงสัยว่าลิงค์ทำอะไรลงไป, ทำไมราชินีถึงได้มีความสุขนัก

 

การตายและการทรยศของดยุคทั้ง 3 กับการพังทลายลงของตราชั่งสมดุลนั้นน่าจะทำให้เธอโศกเศร้าอย่างมาก ยังไงก็ตาม เกรเทลนั้นกลับทำเหมือนกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นเลย

 

ในอีกด้านหนึ่ง ลิงค์รู้ว่าพวกเขากำลังจะต้องออกเดินทางแล้วและนี่ก็คือโอกาสสุดท้ายที่เขาจะได้รับคำแนะนำอันมีค่าจากเกรเทล ดังนั้นเขาจึงถือโอกาสนี้ปรึกษากับนักเวทย์มิติผู้เชี่ยวชาญคนนี้

 

และด้วยความที่เกรเทลกำลังอารมณ์ดีมากๆ เธอจึงตอบเขาอย่างอดทน

 

มีเนื้อหาบางส่วนที่เกิดการถกเถียงกัน และลิงค์ก็จะถามหาข้อสรุปจากเกรเทล ซึ่งเขาจะโต้เถียงโดยอิงพื้นฐานจากเหตุผลและการวิเคราะห์อย่างแม่นยำล้วนๆ และมันก็ยังเหมือนเดิม ความคิดของเขานั้นเฉียบคมและมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดคำถามที่เฉียบแหลม เกรเทลต้องใช้เวลาในการคิดอยู่นานก่อนที่เธอจะสามารถตอบคำถามเขาได้

 

การถกเถียงเกือบทั้งหมดนั้น ลิงค์เป็นคนผิดตลอดเลย ยังไงก็ตาม มีอยู่สองจุดที่เกรเทลเองก็ผิดพลาดเช่นกัน

 

“นี่ข้าผิดได้ยังไงกันเนี่ย?” เกรเทลตกใจ เธอร่ำเรียนเวทมนตร์มา 2,000 ปีและได้พัฒนาจิตใจให้แข็งแกร่งมากๆ ดังนั้น, พอมาคิดว่าขุมสมบัติแห่งความรู้ที่เธอฝึกมานานหลายปีเกิดข้อผิดพลาด! และยิ่งไปกว่านั้น เธอยังได้รับการแก้ไขจากมนุษย์ด้วย! เธอคงได้พบกับคู่ปรับของเธอเข้าจริงๆแล้ว

 

พวกเขาทั้งสองคนเอาแต่ถกเถียงกันไปมาจนลืมเวลาไปเลย ในบางครั้ง พวกเขาจะตกอยู่ในความเงียบเพื่อคิดเรื่องสมการเวทมนตร์ และเมื่อการถกเถียงรุนแรงขึ้น พวกเขาก็จะตะโกนออกมาเสียงดังเพื่อยืนยันความคิดของตัวเอง เฟลิน่าเฝ้ามองเหตุการณ์เหล่านี้ด้วยความสับสน

 

เวลาหนึ่งวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งมันเป็นวันที่ลิงค์ควรจะออกเดินทาง

 

มีแค่เกรเทลเท่านั้นที่ได้สติกลับมาเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืน ยังไงก็ตาม เธอยังรู้สึกอยากพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ให้มากกว่านี้ หลังจากคิดอยู่พักนึง เธอก็พูด “เฟลิน่า ทำไมเจ้าไม่พักผ่อนอีกซักสองสามวันหล่ะ?”

 

“เข้าใจแล้วค่ะ, องค์ราชินี” เฟลิน่ากำลังจะบอกกับพวกเขาว่าเวลาไม่มีแล้ว แต่ในตอนนั้นเองเธอก็เห็นดวงตาที่เปล่งประกายของเกรเทล มันหายากมากที่เกรเทลจะเจออะไรที่ทำให้รู้สึกสนใจจนหัวใจของเธอหลุดพ้นจากความโศกเศร้า เฟลิน่าไม่กล้าที่จะชิงความสุขไปจากเธอและทำได้แค่พยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้

 

หลังจากนั้น เกรเทลก็หันกลับมามองลิงค์แล้วพูด “ถึงแม้ว่า สมมุติฐานในเรื่องทฤษฏีการขยายมิติทับซ้อนของเจ้าจะซับซ้อนมากๆ แต่มันก็ยังมีจุดบกพร่องอยู่ ข้ายังไม่สามารถบอกได้ว่าปัญหานั้นอยู่ตรงไหน แต่ว่ามันต้องผิดอย่างแน่นอน คืนนี้แยกย้ายกันไปพักผ่อนเถอะ ข้าจะพิสูจน์มันให้เจ้าได้เห็นภายในเช้าวันพรุ่งนี้อย่างแน่นอน!”

 

ลิงค์จะกลายเป็นคนบ้าเมื่อมันเป็นเรื่องเวทมนตร์ เขาเอาแต่ยึดติดกับการพูดคุยเรื่องนี้ เขาลืมไปแล้วว่าเกรเทลเป็นถึงราชินีของมังกรแดงและพูดแย้ง “ผมไม่คิดว่ามันมีปัญหานะ! ผมเองก็จะพิสูจน์มันให้คุณได้เห็นเหมือนกัน!”

 

“เหอะ ไม่เห็นต้องหัวแข็งขนาดนั้นเลยนี่ พรุ่งนี้พวกเราจะได้เห็นดีกันอย่างแน่นอน!” เกรเทลจ้องเขาตาเขม็งก่อนที่จะออกไป

 

หลังจากนั้นลิงค์ก็ใช้ช่วงเวลาที่เหลือในการพักผ่อน ราชินีมังกรแดงเป็นบุคคลระดับตำนานและแทบไม่จำเป็นต้องพักผ่อนเลย ยังไงก็ตาม เขานั้นยังคงเป็นมนุษย์ที่มีความรู้สึกเหน็ดเหนื่อยจากการที่ต้องใช้สมองพูดคุยกันมาตลอดทั้งวัน แต่ถึงยังไง, เขาก็ยังคงดึงดันที่จะหาโอกาสพูดคุยเรื่องเวทมนตร์กับบุคคลอันแข็งแกร่งที่ไม่ได้พบเจอได้บ่อยๆ

 

เช้าวันต่อมา เกรเทลก็มาเคาะประตูห้องเขาตอนเช้าตรู่ เธอตะโกน “ลิงค์ ตื่นได้แล้ว สัญชาตญาณของข้าถูกจริงๆด้วย! สมการของเจ้ามันผิดพลาด!”

 

ปัง! เสียงเคาะประตูดังไปทั่วห้อง ทำให้ลิงค์สะดุ้งตื่นขึ้นมาจากการนอนหลับ

 

“นานะ เปิดประตูให้ทีสิ”

 

หลังจากการหาวฟอดใหญ่ ลิงค์ก็ลุกขึ้นมานั่งพร้อมกับดวงตาสลึมสลือ จากนั้นเขาก็ดูนาฬิกาแล้วรู้ว่านี่มันพึ่งจะตี 4 เอง เขาได้นอนไปแค่ 4 ชั่วโมงเท่านั้น

 

จากนั้นเขาก็เอามือวางบนหัวแล้วนั่งนิ่งๆอยู่บนเตียง เขายังคงรู้สึกได้ถึงอาการปวดหัวและความเหน็ดเหนื่อยจากการพูดคุยกันเมื่อวาน

 

จากนั้นเกรเทลก็เดินมาอยู่ข้างหน้าเขาด้วยความตื่นเต้น เธอพูด “ลิงค์ ลิงค์…อ๋อ ร่างกายของมนุษย์ยังคงอ่อนแอเกินไปสินะ”

 

ท่าทีของลิงค์ทำให้อารมณ์และความตื่นเต้นของเธอหมดไป เธอไม่ได้พักเลยหลังจากที่ออกไปจากห้องของลิงค์เพราะว่ามันไม่จำเป็นสำหรับเธอ เธอทำงานตลอดทั้งคืนและในที่สุดเธอก็พบจุดบกพร่องของสมการ เธอไม่สามารถห้ามความตื่นเต้นนี้เอาไว้ได้และรีบวิ่งตรงมาบอกให้ลิงค์รู้ในทันที เธอนั้นไม่เคยคิดเลยว่าลิงค์กำลังพักผ่อนอยู่ ซึ่งนี่มันแย่มากq

 

แม้ว่าเธอจะชนะการโต้เถียงเรื่องความรู้นี้ แต่เธอก็คงไม่รู้สึกว่าเธอประสบความสำเร็จ

 

มันจะน่าพึงพอใจกว่าหากพวกเขาทั้งคู่ได้พยายามอย่างถึงที่สุด เพราะความคิดของพวกเขาจะหมุนอย่างรวดเร็ว จุดประกายข้อโต้แย้งอันชาญฉลาดและการพูดคุยกัน มีเพียงแค่การพูดคุยกันเท่านั้นที่จะทำให้จิตใจของเธอหลุดพ้นจากความโศกเศร้าที่เพิ่งจะเกิดขึ้นได้ไม่นาน

 

ยังไงก็ตาม ไม่มีใครในชนเผ่ามังกรที่สามารถเติมเต็มความปรารถนานั้นได้ มังกรส่วนใหญ่นั้นมีพรสวรรค์ในการเป็นนักรบและความสามารถในการต่อสู้อันแข็งแกร่ง ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ได้เชี่ยวชาญในทฤษฏีอันซับซ้อนของเวทย์มิติ  การพูดคุยเรื่องทฤษฏีเวทย์มิติกับพวกเขานั้นอาจจะทำให้พวกเขาตายได้

 

มันช่างน่าเสียดายที่คนน่าอัศจรรย์อย่างลิงค์มีร่างกายที่อ่อนแอ

 

ตอนนี้ เกรเทลได้ลืมความตั้งใจแรกในการตามหาด้านดีของลิงค์ไปแล้ว เธอแค่ต้องการหมกตัวอยู่กับการวิจัยเวทย์มิติเพื่อที่จะได้หลุดพ้นจากความเจ็บปวดที่อยู่ในจิตใจของเธอ

 

“ข้าสามารถตามหาคนอื่นได้…หรือว่าไม่กันนะ นักเวทย์มิตินั้นหายากมาก! ยิ่งไปกว่านั้น คนที่น่าอัศจรรย์อย่างลิงค์คงหาไม่ได้ง่ายๆแน่ๆ เขาอาจจะเป็นแค่คนๆเดียวในโลกฟิรุแมนที่มีความรู้มากขนาดนี้”

 

หลังจากที่คิดอยู่ซักพัก ความคิดก็ผุดขึ้นมาในหัวของเกรเทล จากนั้นเธอก็รีบพูดโพล่งขึ้นมา “ลิงค์ ทำไมเจ้าไม่ลองเข้ากระบวนการมังกรดูล่ะ?”

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset