Advent of the Archmage – ตอนที่ 322: ผู้ล่าและผู้ถูกล่า

“ลิงค์, เกิดอะไรขึ้น?” เฟลิน่าบินลงมา

 

“ฉันฆ่าโทเดลรอนไปแล้ว” ลิงค์พูดข่าวดีก่อน

 

“หา? มันก็ถูกฆ่าไปตั้งนานแล้วไม่ใช่หรอ?” เฟลินายังประมวลผลเหตุการณ์ทุกอย่างไม่ได้

 

“ครั้งนี้ฉันฆ่ามันแล้วจริงๆ ฉันหยุดไม่ให้อิเซนดิลันชุบชีวิตมัน, และตอนนี้อิเซนดิลันก็เพ่งเล็งมาที่ฉันแล้ว” นี่คือข่าวร้าย

 

เฟลิน่ากลืนน้ำลายด้วยความตกใจแล้วถามซ้ำ “เจ้ากำลังจะบอกว่าดยุคเพ่งเล็งเจ้าแล้วหรอ?”

 

“ใช่, ตอนนี้ไปกันเถอะ ไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วย” ลิงค์ขี่คอนานะและตระหนักได้ว่าตอนนี้แผ่นหลังของนานะนุ่มกว่าเดิมอีก ก่อนหน้านี้, เธอเป็นโลหะอ่อนแต่ก็ยังรู้สึกขี่คอไม่ค่อยสบายหลังจากที่ผ่านไปพักนึง ซึ่งตอนนี้, เธอตัวนุ่ม, ขี่คอสบาย, และมีไออุ่นอ่อนๆด้วย, เธอแทบจะเหมือนมนุษย์จริงๆเลย

 

ไม่เลว, ไม่เลว แก่นแท้แห่งชีวิตของราชินีมังกรแดงนี่เป็นของที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ลิงค์อดคิดไม่ได้

 

เฟลิน่าพูดไม่ออก เธอไม่เข้าใจว่าทำไมลิงค์ถึงทำตัวใจเย็นได้ขนาดนี้ การตกเป็นเป้าหมายของมังกรระดับตำนานนั้นก็ไม่ต่างจากตายไปแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม, เธอต่อสู้ร่วมกันกับลิงค์มาหลายครั้งแล้ว พวกเขาเคยเผชิญหน้ากับศัตรูที่มีอุปกรณ์ระดับพระเจ้าที่ป่าทมิฬทางตอนเหนือ, เคยเผชิญหน้ากับไฮเอลฟ์อันเดธเลเวล 9, และเคยต่อสู้กับโอซีริส เธอรู้ว่าถ้าลิงค์ทำตัวใจเย็นแบบนี้, มันก็หมายความว่าเขาหาทางแก้ได้แล้ว

 

แล้วก็เป็นไปตามที่คาดไว้, ลิงค์พูด, “ไม่ต้องห่วงนะ ฉันสามารถหนีจากมันได้, และมันก็ไม่มีทางหาพวกเราเจอหรอก”

 

ในขณะที่เขาพูด, เสียงของอิเซนดิลันก็ดังเตือนในหัวของเขาอีก เจ้ามนุษย์, เจ้าหนีไปไหนไม่ได้หรอก ข้าจะเผาผลาญดวงวิญญาณของเจ้าซะ

 

เจ้ามนุษย์, เจ้าไม่รู้สินะว่ามาหาเรื่องใคร! งั้นข้าจะบอกให้, มันคือข้าไงหล่ะ, อิเซนดิลัน, ราชาแห่งมังกรแดงผู้ถูกเลือกโดยพระเจ้า!

 

เจ้ามนุษย์, ตอนนี้หยุดซะเถอะ ยืนอยู่เฉยๆแล้วรอรับการตัดสินของข้าซะดีๆ!

 

เจ้ามนุษย์…!

 

เสียงยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งเวลาผ่านไป, มันก็ยิ่งชัดเจนขึ้น ซึ่งนี่หมายความว่าอิเซนดิลันได้ออกมาจากปราสาทของเขาและกำลังไล่ล่าพวกเขามาติดๆ อย่างไรก็ตาม, เรื่องแค่นี้ไม่เป็นปัญหาหรอก นานะรวดเร็วมากๆและสามารถวิ่งด้วยความเร็ว 650 ฟุตต่อวินาทีพร้อมกับแบกลิงค์ไปด้วยโดยที่แทบไม่ต้องใช้แรงอะไรเลยได้

 

ถ้าลิงค์ไม่ได้ร่ายเวทย์ป้องกันใส่ตัวเอง, เขาก็อาจจะถูกสายลมฆ่าเอาได้

 

ด้วยความเร็วระดับนี้, เฟลิน่าแทบจะตามมาไม่ไหว, และใช้เรี่ยวแรงเพิ่มขึ้นมาก เธอกลายร่างเป็นมังกรและตามไปติดๆทางอากาศ ทั้งสามคนวิ่งหนีอย่างบ้าคลั่งและนานะก็แบกลิงค์เดินทางระยะ 30 ไมล์ได้ในเวลาห้านาที ความเร็วนี้มันป่าเถื่อนมากจริงๆ

 

“เอาหล่ะ, ตอนนี้หยุดได้แล้ว” ลิงค์พูด เสียงในหัวของเขาชัดเจนขึ้นอีกครั้ง, แต่โดยรวมแล้ว, มันก็ไม่เป็นอะไรหรอก เพราะอิเซนดิลันไม่ได้เร็วอย่างที่ลิงค์คาดเอาไว้

 

จากนั้นนานะก็หยุดวิ่ง, ลิงค์เอามีดจุดแตกหักออกมา และด้วยการหลับตาสัมผัสถึงสภาพแวดล้อมรอบตัว, เขาก็ตัดอากาศอย่างรวดเร็ว

 

เจ้ามนุษย์, ข้าเห็นเจ้า—

 

ด้วยการหั่นเบาๆ, เสียงของอิเซนดิลันก็หายไปจากหัวของลิงค์อย่างสมบูรณ์ จากนั้น, ความหวาดที่ไม่สามารถอธิบายได้ก็ลดลงจนมันเบาบางมากๆ ซึ่งนี่หมายความว่าอิเซนดิลันยังคงตามหาเขาอยู่แต่ก็คลาดกันไปแล้ว

 

“เฟลิน่า, ลงมาเถอะ พวกเราปลอดภัยแล้ว” ลิงค์ตะโกนขึ้นฟ้า

 

เฟลิน่ากระพือปีกแล้วแล่นลงมาที่พื้นหญ้า เธอจ้องลิงค์อย่างสงสัย “ปลอดภัยหรอ? ยังไง?”

 

เธอไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงอะไรเลย

 

“ฉันตัดสัมผัสวิญญาณระหว่างพวกเราไปแล้ว” ลิงค์อธิบายอย่างรวดเร็ว “มันไม่รู้หรอกว่าตอนนี้พวกเราอยู่ที่ไหนกันแน่และทุ่งสีทองก็กว้างขวางมากๆ ถ้าพวกเราระวังให้ดี, ก็คงจะไม่มีปัญหาอะไรหรอก”

 

เฟลิน่าได้รับคำอธิบายเพียงแค่ผิวเผิน ตัดสัมผัสวิญญาณ? ยังไงกัน? เธอไม่รู้ว่านี่เชื่อถือได้แค่ไหน, แต่เธอก็ไว้ใจลิงค์ ในเมื่อเขาบอกว่ามันไม่เป็นอะไร, ถ้างั้นพวกเขาก็จะปลอดภัยอย่างแน่นอน

 

ลิงค์ลงจากหลังของนานะแล้วพูด, “อิเซนดิลันยังรู้อยู่ว่าตอนนี้พวกเราอยู่ที่ไหนดังนั้นพวกเราต้องรีบออกไปไวๆ”

 

“นายท่าน, จะให้นานะแบกต่อไหม?” นานะถาม

 

“ตอนนี้ยังไม่ต้องหรอก พวกเราจะใช้วิธีใหม่” ในขณะที่เขาพูด, ลิงค์ก็เปิดใช้ข้ามมิติ แสงสีขาวปกคลุมพวกเขาทั้งสามคน, และพวกเขาก็ย้ายพื้นที่ไปอีกครึ่งไมล์หลังจากเสียงฟุบเบาๆ แต่ว่ามันยังไกลไม่พอ, ดังนั้นลิงค์จึงใช้เวทย์นี้อีกครั้ง, และพวกเขาก็เคลื่อนย้ายอีกครั้ง

 

ตอนนี้ลิงค์มีค่ามานาสูงสุดถึง 17,000 แต้ม เขาใช้เวทย์นี้ต่อเนื่องกันห้าครั้งโดยไม่กังวลอะไรเลยและใช้มานาไป 9,000 แต้ม พวกเขาเดินทางสามไมล์ได้ในระยะเวลาสามวินาที

 

และนี่ยังไม่ใช่ทั้งหมด

 

ข้ามมิตินั้นเป็นเวทย์ระดับตำนาน, แต่พวกมันก็ยังทิ้งระลอกคลื่นมิติเอาไว้ในขณะที่เคลื่อนย้าย ซึ่งอีกฝ่ายสามารถใช้ร่องรอยพวกนี้ตามหาพวกเขาได้

 

ลิงค์คงจะไม่ต้องกังวลหากถูกศัตรูทั่วๆไปพบเจอ, แต่ว่าสำหรับคนระดับตำนานอย่างอิเซนดินลันนั้นเขายอมทุ่มพลังสุดตัว เขาไม่สามารถสะเพร่าได้

 

หลังจากที่หยุดข้ามมิติ, เขาก็ใช้ความเข้าใจด้านมิติของเขาลบร่องรอยที่อยู่ในโครงสร้างมิติทีละนิดๆ มันอาจจะดูซับซ้อนยุ่งยาก, แต่มันก็เป็นเหมือนกับจิ้งจอกที่ใช้หางของมันกวาดหิมะ, เพื่อทำลายหลักฐานทั้งหมดและทำให้เป็นไปไม่ได้ที่จะแกะรอยพวกมัน

 

ประมาณสองนาทีต่อมา, ลิงค์ก็พูด “เฟลิน่า, ไม่ต้องบินแล้วนะ เดี๋ยวเธอจะเป็นเป้าหมายที่สังเกตุได้ง่าย”

 

“เข้าใจแล้ว” เธอไม่กล้าบินมั่วซั่วหากสถานการณ์ยังไม่ชัดเจน เพราะถ้าเธอบังเอิญเจอเข้ากับอิเซนดิลันบนฟ้า, เธอก็คงจะถูกทำให้กลายเป็นเศษเนื้อ

 

จากนั้นลิงค์ก็ร่ายเวทย์หายตัวใส่พวกเขาทั้งสามคนเพื่อทำให้อิเซนดิลันมองไม่เห็นพวกเขาจากบนฟ้า

 

หลังจากการเตรียมการทั้งหมดนี้, ความน่าสะพรึงกลัวสุดท้ายก็หายไป นี่หมายความว่าพวกเขาหนีจากสายตาของอิเซนดิลันได้สำเร็จแล้ว จากนั้นเขาก็หันไปพูดกับนานะ, “อุ้มฉันต่อเถอะ ครั้งนี้, ใช้พลังเต็มที่เลย ใช่, แบบนั้นแหล่ะ”

 

นานะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุด ความเร็วของเธอนั้นเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 1,000 ฟุตต่อวินาที เฟลิน่าแทบจะไล่ตามไม่ได้ แต่แทนที่จะบอกให้นานะลดความเร็วลง, ลิงค์กลับร่ายเวทย์เพิ่มความเร็วให้เฟลิน่าแทน จากนั้นเธอก็เร็วขึ้นในทันทีและมาอยู่ข้างหลังนานะ

 

“ลิงค์, ในเมื่อพวกเราหนีมันมาได้แล้วทำไมพวกเราถึงยังต้องเดินทางด้วยความเร็วขนาดนี้หล่ะ?” เฟลิน่ายังรู้สึกว่าเธอใช้พลังงานมากเกินไป

 

เห็นได้ชัดว่าลิงค์คิดถึงเรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง “อิเซนดิลันยังไล่ตามพวกเรามาอยู่ตลอดนั่นแหล่ะ, และมันก็คุ้นเคยกับความเร็วของพวกเราด้วย” เขาอธิบาย “ต่อให้มันไม่สามารถตามหาพวกเราได้, แต่มันก็ยังพอเดาตำแหน่งคร่าวๆได้ ในตอนนี้, ถ้ามันใช้เวทย์ค้นหาระยะไกล, พวกเราก็จะถูกเจอตัว แต่ว่าด้วยการวิ่งแบบนี้จะสามารถทำให้มันคำนวนผิดพลาดได้ ดังนั้นตราบใดที่มันไม่สามารถตามหาพวกเราด้วยเวทย์ค้นหาได้, พวกเราก็จะปลอดภัยอย่างแท้จริง!”

 

คำอธิบายพวกนี้ทำให้เฟลิน่าปวดหัว, แต่ก็โชคดีที่เธอเข้าใจ ด้วยการกัดฟัน, เธอก็ตามหลังนานะต่อไป

 

“นายท่าน, พวกเราจะไปที่ไหนหรอคะ?”

 

“เมืองเมฆขาว…แต่ว่าอย่าไปทางใต้ตรงๆนะ มันจะทำให้พวกเราตกเป็นเป้า ไปทางตะวันออกก่อนและไม่ต้องห่วงเรื่องทิ้งร่องรอยเอาไว้ พวกเราอยากทิ้งร่องรอยบางอย่างเอาไว้หลอกอิเซนดิลันอยู่แล้ว และในตอนที่พวกเราครอบคลุมระยะได้ไกลพอ, พวกเราก็จะย้อนกลับมาใหม่”

 

ถ้าพวกเขาห่วงเรื่องร่องรอยของพวกเขา, พวกเขาก็คงจะไม่สามารถวิ่งเร็วได้อย่างเต็มที่ และถ้าลิงค์ร่องรอยบางอย่างเอาไว้, อิเซนดิลันก็คงจะถูกหลอกอย่างแน่นอน แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาโง่ มันแค่เพราะเขามีร่องรอยเพียงเท่านี้ ดังนั้นก็เลยถูกบังคับให้ตามพวกมันไป นี่คือกลยุทธโจ่งแจ้ง

 

“รับทราบค่ะ” นานะตอบและเปลี่ยนเส้นทางในทันที

 

หลังจากที่เดินทางไปได้อีก 65 ไมล์, พวกเขาก็เดินทางผ่านมาได้ประมาณ 70 ไมล์แล้วเมื่อรวมกับระยะทางก่อนหน้านี้ “โอเค” ลิงค์พูด “ตอนนี้พวกเราจะลดความเร็วลงนะ”

 

เฟลิน่าถอนหายใจด้วยความโล่งอก แม้ว่าจะมีเวทย์ของลิงค์, แต่เธอก็ยังรู้สึกเหนื่อยจากการวิ่งเต็มที่เป็นเวลานานอยู่ดี เธอชำเลืองมองนานะและเห็นว่าเธอยังปกติดีอยู่ เฟลิน่าต้องยอมรับเลยว่าความเร็วของหุ่นเชิดเวทมนตร์ตัวนี้บ้าคลั่งมาก

 

ในอีกด้านหนึ่ง, ลิงค์ได้เปิดใช้ข้ามมิติเพื่อเดินทางลงใต้โดยไม่ลังเล ตอนนี้เขายังมีมานาเหลืออยู่กว่า 8,000 แต้ม หลังจากที่ดื่มยามานาคุณภาพสูง, เขาก็ฟื้นฟูมานามาได้อีก 2,000 แต้มและใช้ข้ามมิติห้าครั้งอย่างรวดเร็ว

 

หลังจากการลบร่องรอยเหมือนกับก่อนหน้านี้, เขาก็ถอนหายใจออกมาในที่สุด “โอเค, ตอนนี้พวกเราน่าจะเดินทางลงใต้แบบไม่ต้องรีบได้แล้วหล่ะ แต่ก็ระวังตัวกันเอาไว้หน่อยก็ดีนะ”

 

 

หลังจากที่พวกลิงค์จากไปได้ไม่ถึงห้านาที, สิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ก็ปรากฎขึ้นบนฟ้า เขามาเหมือนกับสายฟ้าฟาดสีแดงเข้ม, และโฉบเหนือจุดที่ลิงค์ร่ายเวทย์ข้ามมิติในทันที

 

เขาสูงเกือบ 200 ฟุต, และมีขนาดพอๆกับราชินีมังกรแดง มีควันสีแดงเข้มห่อหุ้มอยู่รอบตัวเขา ดวงตาของเขาเป็นสีแดงเลือดเหมือนกับไฟที่กำลังลุกไหม้, ณ ที่แห่งหนึ่ง, เขาได้บินลงมาและกลายเป็นไอในตอนที่อยู่บนอากาศที่ความสูง 300 ฟุต

 

บอลหมอกนั้นจอดลงพื้นอย่างนุ่มนวล ในตอนที่หมอกหายไป, ผู้ชายในชุดคลุมนักเวทย์สีแดงเข้มก็ปรากฎขึ้น

 

เขามีผมสีแดงเข้ม, และดวงตาสีแดงแพรวพราว ใบหน้าที่ขาวซีดของเขาดูหล่อและอายุน้อยมากๆ เขาเหมือนกับคนอายุ 20 ปีเลย, แต่ออร่ารอบตัวเขานั้นกลับเหมือนผู้สูงอายุที่ผ่านการใช้ชีวิตมาอย่างยาวนาน

 

เขาคือผู้ทรยศคนแรกของมังกร—ดยุคมังกรแดงอิเซนดิลัน

 

ในขณะที่ยืนอยู่ในทุ่งหญ้า, อิเซนดิลันก็มองไปรอบๆ ไอเจ้านี่มันหายไปจากตรงนี้ดังนั้นมันน่าจะมีรอยเท้า, กลิ่น, หรืออะไรซักอย่างอยู่, ใช่ไหม?

 

ไม่กี่วินาทีต่อมา, เขาก็พบรอยเท้าเข้าจริงๆ มีทั้งหมดสามแบบสินะ แบบที่หนึ่งมีขนาดเล็กและดูเหมือนของเด็กผู้หญิง, แต่ว่าเธอหนักจนผิดปกติเลยหล่ะ—น่าจะมากกว่า 200 ปอนด์เลยมั้ง ส่วนอีกชุดนึงมีขนาดกว้างและเห็นได้ชัดว่าเป็นของมังกร ส่วนแบบสุดท้ายนั้นดูธรรมดาเหมือนกับน้ำหนักร่างกายทั่วไปสินะ จากกลิ่นที่เหลืออยู่ในอากาศ, น่าจะเป็นมนุษย์

 

ก่อนหน้านี้, อิเซนดิลันสัมผัสตำแหน่งของพวกเขาได้อ่อนๆและส่งรังสีคุกคามไปให้ได้ระดับนึง, แต่ถึงกระนั้น, เขาก็ไม่รู้ตำแหน่งที่แน่นอนเลย

 

ธีรอนกลับมาแล้วรายงานว่าศัตรูมีสามคน คนนึงเป็นนักเวทย์มนุษย์เลเวล 8, อีกคนเป็นหญิงสาวมนุษย์ที่มีความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ, แล้วก็มีเฟลิน่าด้วย มันคือกลุ่มที่แปลกประหลาด

 

อิเซนดิลันมองไปรอบๆ เขาพยายามหารอยเท้าที่พวกเขาทิ้งเอาไว้, แต่ครั้งนี้, เขากลับล้มเหลว

 

ไม่มีร่องรอยการออกเดินทางเลย พวกมันแค่หายไปเฉยๆงั้นหรอ หึ, นี่ช่างน่ารำคาญจริงๆ อิเซนดิลันขมวดคิ้ว เขายื่นมือออกไปในขณะที่กำลังครุ่นคิด มีแสงสีทองเปล่งออกมาจากปลายนิ้วของเขา, และเขาก็ชี้ไปในอากาศ มันคือดวงตามิติ

 

ดวงตามิติ

เวทย์ตรวจจับระดับตำนาน

รายละเอียด: ผู้ร่ายจะทำสัญลักษณ์พลังงานอ่อนๆเอาไว้ในพื้นที่รอบๆเพื่อให้โครงสร้างมิติแสดงออกมาได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งเวทย์นี้จะช่วยให้ผู้ร่ายตามรอยเป้าหมายที่ใช้เวทย์มิติในการหนีได้

(หมายเหตุ: ไม่มีที่ให้ซ่อนหรอกนะ!)

 

บรรยากาศรอบตัวอิเซนดิลันแวววาว, และอากาศในรัศมี 300 ฟุตก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนเป็นน้ำ มีริ้วแสงและเงาหลายเส้นที่ร่างโครงสร้างมิติออกมาอย่างแม่นยำ

 

อิเซนดิลันตรวจสอบอย่างละเอียดเป็นเวลาสองนาทีเต็ม คิ้วของเขาเริ่มกระตุก พวกมันสามคนหนีไปทางช่องว่างมิติจริงๆ, แต่ความเข้าใจด้านมิติของนักเวทย์คนนี้พอๆกับข้าเลย มันเล่นลบร่องรอยทิ้งไปหมดเลยหรอเนี่ย

 

ศัตรูแบบไหนหล่ะที่จัดการได้ยุ่งยากที่สุดในโลกมนุษย์?

 

แบบแรกเลยก็คือนักเวทย์มิติ สำหรับคนพวกนี้, มิติก็คือทะเล เมื่อไหร่ที่ต้องการ, พวกเขาก็สามารถลงน้ำและหนีไปที่ไหนสักที่ที่ไกลออกไปหรือไม่ก็ซ่อนตัวอยู่เพื่อรอจังหวะโจมตีได้ พวกเขาไม่สามารถหยุดได้เลย

 

ร่องรอยของอิเซนดิลันถูกตัดทิ้งหมดแล้ว เขาไม่มีวิธีไล่ตามพวกเขาเลย แผนการของนักเวทย์มนุษย์คนนี้น่ากลัวเกินไป, แถมเขายังถอดรหัสเทคนิคการชุบชีวิตได้ด้วย อิเซนดิลันต้องหาเขาให้เจอให้ได้!

 

แต่ก็โชคดีที่, เขาเข้าถึงร่องรอยพื้นฐานได้!

 

มันใช้เวทย์เคลื่อนย้าย, แต่มันเป็นการเคลื่อนย้ายเฉพาะกิจ, และพวกมันก็ไม่สามารถเดินทางไปไกลได้ด้วย ขีดจำกัดน่าจะห้าไมล์สินะ จากความเร็วของพวกมันในช่วงก่อนหน้านี้, พวกมันน่าจะสามารถเดินทางได้แค่ 40 ไมล์เท่านั้นในช่วงเวลานี้ ข้าจะตามหาพวกมันในรัศมี 60 ฟุต!

 

ด้วยความคิดนี้ในหัว, อิเซนดิลันก็นั่งลงบนพื้นและหลับตา ไม่กี่วินาทีต่อมา, แสงสีแดงเข้มก็พุ่งผ่านเขาอยู่พักนึง จากนั้นแสงก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรงและกระจายออกไปด้วยความเร็วที่ไม่สามารถจินตนาการได้

 

หลังจากผ่านไปประมาณห้าวินาที, ภาพก็ปรากฎขึ้นในหัวของอิเซนดิลัน

 

ไม่มีคนอยู่ทางตะวันออกแต่มีสัญญาณการเคลื่อนไหวที่สูงมากในทุ่งหญ้า พวกมันไปตะวันออก!

 

อิเซนดิลันลืมตาขึ้นด้วยความเหนื่อยล้าเล็กน้อย การค้นหาในระยะ 60 ไมล์นั้นกินพลังงานไปเยอะมาก, และเขาก็รู้สึกเหนื่อย เขายังไม่พบพวกเขาเลย, แต่เขาก็เริ่มเหนื่อยแล้ว

 

ไอนักเวทย์เจ้าเล่ห์, ก่อนหน้านี้แกชะลอความเร็วเอาไว้สินะ วางแผนกับคำนวนได้ดีนี่แต่โชคร้ายหน่อยนะ, ที่ดันมาเจอกับข้า!

 

เขายืนขึ้น, แปลงร่างเป็นมังกร, กระพือปีก, และมุ่งไปทางตะวันออกอย่างรวดเร็ว

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset