Advent of the Archmage – ตอนที่ 333: แมวดำที่ไม่มีความซื่อสัตย์

พวกมนุษย์สัตว์นั้นทุ่มสุดตัวจริงๆในการต่อสู้กับมังกรอันน่ากลัวนี้ ขุนศึก 2 คนถูกส่งมายังสนามรบ โดยมีขุนศึกฟ้าแยกโฮลุน และขุนศึกแห่งความรุ่งโรจน์ อวาตาร์ แถมยังมีหมอผีระดับสูงมาด้วยอีกห้าคน มันมีข่าวลือว่าชนเผ่ามนุษย์สัตว์ได้ส่งหมอผีระดับสูงออกมาครึ่งนึงเพื่อภารกิจนี้เลย

 

นอกจากพวกที่แข็งแกร่งแล้ว ก็มีอัศวินระดับสูงอีก 2,000 คน จุดประสงค์หลักของพวกเขาคือการป้องกันพวกมนุษย์สัตว์บ้าคลั่งไม่ใช่การต่อสู้กับมังกรระดับตำนาน

 

ลิงค์มองเห็นขุนศึกแห่งความรุ่งโรจน์ อวาตาร์อย่างรวดเร็ว

 

เขานั้นมีอายุพอๆกับโฮลุน ประมาณ 35 ปี เขาถักผมของเขาอย่างเรียบร้อยและดูเหมือนว่าจะทำตัวสงบเสงี่ยมกว่าโฮลุน ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีลักษณะเด่นที่ชัดเจน เขาถือค้อนสงครามไว้ข้างๆ มีเปลวเพลิงสีแดงแผ่ออกมาจากค้อนสงครามเป็นบางครั้ง นี่คือพลังของธาตุไฟ

 

อวาตาร์นั้นเป็นคนไม่ค่อยพูด เขาไม่ได้เป็นคนที่มีความกระตือรือร้นและอารมณ์ฉุนเฉียวแบบโฮลุน เขาแค่ทำความเคารพเล็กน้อยในตอนที่เห็นลิงค์และพูด “ยินดีที่ได้พบนะครับท่านลอร์ดแห่งพื้นที่รกร้างเฟิร์ด”

 

เห็นได้ชัดว่าเขาทำการบ้านมาดีและรู้จักตัวตนของลิงค์ ซึ่งนี่มันดีกว่าโฮลุนเยอะเลย

 

เพื่อเป็นการแสดงมารยาทแก่เขา ลิงค์จึงทำการทักทายคืนอย่างเคารพพร้อมกับพูดออกมา ”ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบกับคุณนะครับ อวาตาร์”

 

อวาตาร์เป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในชนเผ่ามนุษย์สัตว์ เขามีท่าทีของความเป็นผู้ใหญ่ที่หาไม่ได้ในมนุษย์สัตว์คนอื่น ภายในเกมเขาเป็นคนที่รวบรวมชนเผ่ามนุษย์สัตว์ที่แตกแยกกันให้เป็นปึกแผ่นและกลายเป็นราชาของอาณาจักรมนุษย์สัตว์แห่งใหม่

 

หลังจากนั้นเขาก็ได้ต่อต้านความต้องการของผู้คนของเขาและได้เปลี่ยนมุมมองของพวกเขาในสายตาของเผ่าพันธุ์อื่น จากนั้นเขาก็ได้นำมนุษย์สัตว์มาเข้าร่วมกับกองกำลังพันธมิตรเพื่อต่อสู้กับกองกำลังปีศาจ

 

และเขาเองก็เป็นมนุษย์สัตว์คนแรกที่ได้รับพลังระดับตำนานและในเวลาเดียวกันนั้นเขาก็เป็นนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในค่ายแห่งแสงด้วย

 

ในตอนที่โฮลุนตาย อวาตาร์นั้นได้เป็นหัวหน้าผู้บัญชาการของกองทัพพันธมิตร เขานำกองทหารที่แข็งแกร่งกว่า 70,000 นายไปต่อสู้กับกองทัพปีศาจที่แข็งแกร่งกว่า 60,000 ตัว และก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงกับทั้งสองฝ่าย

 

เขาได้เสียชีวิตในตอนที่ต่อสู้กับโนโซม่า แต่การฆ่าเขานั้นโนโซม่าก็ต้องสูญเสียไปมากเหมือนกัน แขนซ้ายของโนโซม่าหัก และซี่โครงของเขาก็โดนค้อนสงครามฟาดเข้าไปเต็มๆ ซึ่งนี่ทำให้เขาต้องถอยกลับไปที่ป้อมปีศาจของเขา

 

มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากที่ผู้เล่นบางคนได้เข้าไปทำภารกิจยึดป้อมปีศาจและได้ต่อสู้กับโนโซม่า

 

มันอาจจะพูดได้เลยว่าลิงค์ไม่สามารถฆ่าลอร์ดแห่งความมืดในตอนที่เขามีพลังเต็มที่ได้ เหตุผลที่ทำให้ทีมของเขาประสบความสำเร็จได้นั้นเกิดจากการเสียสละของผู้แข็งแกร่งหลายคนก่อนหน้าพวกเขา

 

หลังจากเหตุการณ์นั้น ลิงค์ก็เคารพมนุษย์สัตว์คนนี้อย่างถึงที่สุด

 

หลังจากนั้น ลิงค์ก็ไปพบกับพวกหมอผีระดับสูง หลังจากที่พวกเขารู้จักกันพวกเขาก็ออกเดินทางในทันที

 

พวกมนุษย์สัตว์ไม่รู้ที่อยู่ที่แน่นอนของอิเซนดิลัน พวกเขาทำได้แค่กลับมายังสนามรบเพื่อหาเบาะแส

 

ยังไงก็ตาม  พวกเขาก็ไม่ได้อะไรอยู่ดี แต่ว่าลิงค์รู้ที่อยู่ที่แน่นอนของอิเซนดิลัน แบบเฉพาะเจาะจงด้วย ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะแมวดำได้บอกข้อมูลกับเขา

 

อีโลดิมกระซิบข้างหูของลิงค์ในขณะที่พวกเขาเดินทาง “ไปทางทะเลสาบคริสตัลบลู อิเซนดิลันน่าจะพักรักษาตัวอยู่ที่ไหนซักแห่งแถวๆนั้น มีมังกรอยู่ข้างเขา 2 คนและสัตว์มังกรอีกมากกว่า 20 ตัว แถมยังมีมนุษย์สัตว์บ้าคลั่งอีก 1,000 ตัวคอยปกป้องเขาอยู่ด้วย”

 

“แกรู้ทั้งหมดนี้ได้ยังไงกัน?”ลิงค์กระซิบถาม

 

“ข้าไปพบเขามาหลายครั้งแล้ว ข้าค่อนข้างมั่นใจในเรื่องความแข็งแกร่งของเขา ยิ่งไปกว่านั้น ข้าเพิ่งจะเจอกับเขาเมื่อไม่กี่วันก่อน เขากำลังมีปัญหาอย่างใหญ่หลวงอยู่เลย หน้าอกของเขาเปิดออกอย่างเต็มที่  ข้าคิดว่าเขาน่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนในการรักษาตัวนะ “ดูเหมือนว่าอีโลดิมจะทิ้งความหยิ่งทะนงของเขาให้กับอาหารอร่อยๆ เขาได้แฉอิเซนดิลันจนหมดเปลือก

 

“เข้าใจแล้วหล่ะ” ลิงค์ได้รับเจตคติใหม่กับแมวดำตัวนี้ นับจากนี้ไปเขาจะต้องคอยสังเกตุทุกการกระทำของอิโลดิมอย่างระมัดระวัง

 

ลิงค์ไม่สามารถบอกข้อความพวกนี้ได้โดยตรง จากนั้นเขาก็คิดอยู่พักนึงก่อนที่จะไปหาอวาตาร์ ขุนศึกแห่งความรุ่งโรจน์มีชื่อเสียงที่ดีและเป็นเรื่องปกติที่เขาจะได้เป็นผู้บัญชาการของภารกิจนี้

 

“ลอร์ดแห่งมนุษย์ ท่านมาที่นี่ด้วยเหตุผลอะไรรึ?” อวาตาร์พูดด้วยลักษณะเหมือนกับนักกวี เขานั้นระวังตัวมากตลอดการเดินทางนี้ ที่ถนนทุกเส้น เขาจะส่งมนุษย์สัตว์ไปลาดตระเวนบริเวณรอบๆก่อน และจะเดินทางก็ต่อเมื่อมั่นใจแล้วว่ามันปลอดภัย

 

ในสังคมของมนุษย์สัตว์ไม่มีโรงเรียนสอนนักรบและก็ไม่มีคนที่มีความรู้พอที่จะสืบทอดด้วย มันเป็นพรสวรรค์ของเขาล้วนๆที่ทำให้อวาตาร์มีทักษะสงครามถึงระดับนี้ได้

 

“เวทมนตร์ของผมบอกว่าอิเซนดิลันอยู่ที่ทะเลสาบคริสตัลบลู พวกเราต้องไปที่นั่น”

 

“ท่านมั่นใจนะ?”อวาตาร์ถามอย่างไม่เชื่อ

 

“ผมมั่นใจ”

 

โฮลุน ที่ยืนอยู่ข้างๆพยักหน้าแล้วพูด “มาสเตอร์นั้นแข็งแกร่งมาก ถ้าไม่ใช่เพราะการปรากฏตัวของเขา พี่น้องของข้าก็คงจะตายไปหมดแล้ว”

 

หลังจากที่เงียบไปพักนึง อวาตาร์ก็เลือกที่จะเชื่อลิงค์ เขาตะโกนเสียงดัง “พวกเราจะไปทางนี้กัน”

 

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ข้อความภายในเกมก็ปรากฏขึ้นบนทัศนวิสัยของลิงค์

 

ชุดภารกิจระดับอีพิคขั้นที่ 3 : เกลี้ยกล่อมเสร็จสิ้น

ผู้เล่นได้รับค่าโอมนิ 50 แต้ม

ภารกิจขั้นที่4: ปราบมังกร!

รายละเอียด 1: จัดการลูกน้องของอิเซนดิลันและขัดขวางไม่ให้เขาชุบชีวิตพวกมัน

รายละเอียด 2: จัดการอิเซนดิลัน

รางวัล 1: ผู้เล่นจะได้รับค่าโอมนิ 100 แต้มต่อลูกน้องที่จัดการได้หนึ่งตัว

รางวัล2: หากฆ่าอิเซนดิลันได้ ผู้เล่นจะได้รับคัมภีร์แห่งความรู้ของไบรอัน

 

ลิงค์เลือกที่จะรับเควส

 

เขามีคัมภีร์แห่งความรู้อยู่หนึ่งเล่มแล้วซึ่งเขาได้ทำความเข้าใจมันจนหมดแล้ว มันสามารถเพิ่มอัตราการฟื้นฟูมานาของเขาได้เป็นสองเท่า ถึงแม้ว่ามันอาจจะดูทรงพลัง แต่จริงๆแล้วมันคือคัมภีร์ที่กากที่สุด คัมภีร์เล่มอื่นๆนั้นแข็งแกร่งกว่าเล่มนี้ ถ้าเกิดไม่ใช่ความจริงที่ว่าเขาไม่มีเวลา เขาก็คงจะจัดภารกิจตามหาพวกมันแล้ว

 

ไม่คิดเลยว่าระบบเกมนั้นจะให้คำภีร์เล่มนึงกับเขาเป็นของรางวัล

 

หลังจากผ่านไปซักพัก ลิงค์ก็พูด “เวทย์ของผมบอกว่าอิเซนดิลันนั้นมีลูกน้องคอยปกป้องเขาอยู่มากมาย มีทั้งมังกรแดง สัตว์มังกรและมีแม้กระทั่งกลุ่มมนุษย์สัตว์บ้าคลั่งกลุ่มใหญ่ด้วย เพราะฉะนั้นระวังตัวให้ดีหล่ะ”

 

“ขอบคุณสำหรับคำเตือนของท่านนะ” อวาตาร์พูดพร้อมกับพยักหน้าแล้วเดินทางไปด้วยความระมัดระวังอย่างเต็มที่

 

2 ชั่วโมงต่อมา หน่วยลาดตระเวนก็ได้ชี้ไปบนฟ้าแล้วพูด “ดูนั่น มีมังกรอยู่บนฟ้าด้วย!”

 

ทุกคนมองขึ้นฟ้าและเห็นเงาเบลอๆลอยอยู่บนฟ้า เฟลิน่าเป็นคนเดียวที่เห็นได้อย่างชัดเจน “นั่นคือสัตว์มังกร มันมีความแข็งแกร่งอยู่ที่เลเวล 6 ดูจากสภาพของมันแล้ว มันน่าจะเป็นหน่วยลาดตระเวนที่อิเซนดิลันส่งมานะ”

 

อวาตาร์ขมวดคิ้วในทันทีแล้วพูด “นี่เป็นการบอกว่ามันรู้ถึงการมาของพวกเราแล้วใช่ไหม?”

 

ลิงค์พยักหน้าและพูด “มังกรมีสายตาดียิ่งกว่านกอินทรี ไม่มีทางที่พวกมันจะมองไม่เห็นพวกเราหรอก”

 

อวาตาร์หยิบค้อนสงครามที่อยู่ที่หลังของเขาออกมาในทันทีและตะโกน “เตรียมต่อสู้!”

 

อัศวินขั้นสูงนั้นอยู่ห่างกันในตอนแรก ยังไงก็ตาม หลังจากที่มีคำสั่ง พวกเขาก็มาต่อแถวกันและตื่นตัวเต็มที่ มันเป็นเครื่องช่วยยืนยันว่าพวกเขาได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีในฐานะลูกน้องของอวาตาร์ และมันก็ยังเป็นข้อพิสูจน์อย่างชัดเจนในเรื่องความเก่งกาจของเขาในด้านการบัญชาการด้วย

 

ถึงแม้ว่าการจัดแถวที่เป็นระเบียบจะมีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ธรรมดา แต่มันก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่ฉลาดนักในการสู้กับมังกรที่สามารถโจมตีเป็นวงกว้างได้ด้วยลมหายใจมังกร หลังจากนั้นลิงค์ก็กระซิบ “การโจมตีด้วยลมหายใจมังกรนั้นทำความเสียหายเป็นวงกว้าง ถ้าเกิดว่าพวกเราจัดแถวแบบนี้ต่อไปหล่ะก็….”

 

ก่อนที่ลิงค์จะพูดจบ อวาตาร์ก็เข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อแล้ว

 

เขายกค้อนสงครามขึ้นและตะโกน “กระจายตัวกันซะ!”

 

อัศวินระดับสูงกระจายตัวออกอย่างเป็นระเบียบ พวกเขาแต่ละคนอยู่ห่างกัน 45 ฟุต เห็นได้ชัดเจนว่าพวกเขาถูกฝึกมาเป็นอย่างดีเพื่อภารกิจนี้

 

มันใช้เวลาไม่นานก่อนที่อิเซนดิลันจะปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับลูกน้องของเขา ซึ่งคนที่นำหน้ามาก็คือธีออนและสัตว์มังกรอีก 20 กว่าตัวที่ด้านหลังเขา ส่วนโอริซ่าก็ถูกปกป้องอย่างดีอยู่ตรงกลางวงของสัตว์มังกร ในขณะที่อิเซนดิลันอยู่ด้านหลังสุดของกลุ่ม

 

และที่ภาคพื้นดินก็มีกลุ่มมนุษย์สัตว์ขนาดใหญ่ พวกเขามีประมาณ 1,000 คน

 

ก่อนหน้านี้ อิเซนดิลันได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงจากการต่อสู้กับกองทัพมนุษย์สัตว์ ในครั้งนี้ เขาเลือกอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ ซึ่งจะต้องผ่านลูกน้องของเขาทั้งหมดก่อนจึงจะมาถึงตัวเขาได้

 

อิเซนดิลันมีกองทัพที่น่าเกรงขามจริงๆ อย่างน้อยก็สำหรับภายนอก พละกำลังของกองทัพของเขานั้นดูเหมือนจะสามารถจัดการกองทัพมนุษย์สัตว์ได้ตลอดเวลา  โดยเฉพาะกลุ่มมังกรที่บินอยู่บนท้องฟ้า พวกเขาได้ยึดน่านฟ้าอย่างสมบูรณ์แล้ว ทำให้พวกเขาได้เปรียบทางอากาศ

 

สีหน้าของอวาตาร์เปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเห็นกองทัพมหึมาและตะโกน “รูปแบบป้องกัน! หมอผี ใช้เวทย์เหินฟ้าซะ!”

 

หมอผีที่แก่เหมือนโครงกระดูกได้เดินออกมาพร้อมกับโทเท็มรูปหน้ามนุษย์ในมือของเขา เขาปักคทายาว 6 ฟุตลงบนพื้นดินและเริ่มเต้นรำอย่างบ้าคลั่งรอบๆคทาพร้อมกับร่ายเวทย์แปลกๆออกมาด้วย หลังจากนั้นเขาก็คำรามอย่างดุร้าย ทำให้เกิดแสงสีขาวห่อหุ้มพรรคพวกของเขาทุกคนที่อยู่ในสนามรบ แม้กระทั่งลิงค์ก็เช่นกัน

 

ลิงค์พบว่าเขานั้นถูกห้อมล้อมด้วยเวทย์ลมพายุ และในเวลาเดียวกันนั้นเองเขาก็รู้สึกว่าตัวเขาเบามาก จากนั้นเขาก็ลองก้าวเดินดูและพบว่าเขาสามารถเดินไปได้ 9 ฟุตโดยที่ไม่ต้องออกแรงอะไรเลย

 

“เป็นพลังที่สะดวกจริงๆ” ลิงค์สามารถบอกได้เลยว่าพวกอัศวินระดับสูงมีความเร็วเพิ่มขึ้นมาก ในตอนที่พวกเขาวิ่ง เงาของพวกเขาก็จะเกิดขึ้นในจุดที่พวกเขาเคยอยู่

 

ขุนศึกฟ้าแยกโฮลุนได้หยิบขวานใหม่ของเขาออกมาและตะโกนอย่างกระตือรือร้น “555 ข้าจะฆ่าพวกกิ้งก่ายักษ์ทิ้งให้หมดด้วยอาวุธของข้า!”

 

จากนั้นอวาตาร์ ก็เริ่มทำการเตรียมการอย่างเป็นระบบ “โฮลุน พาพวกอัศวินระดับสูงไปสู้กับพวกมนุษย์สัตว์บ้าคลั่งซะ ข้าต้องการให้เจ้าจัดการพวกมันให้ได้ภายในเวลา10นาที!”

 

พวกเขาได้เปรียบจากการที่มีอัศวิน 2,000 คนและขุนศึกเลเวล 9 หนึ่งคนต่อมนุษย์สัตว์บ้าคลั่ง 1,000 คน

 

“ไว้ใจข้าได้เลย!”

 

“ฮาเลอร์ เมอร์ซ่า เดลต้า พวกเจ้าช่วยข้าจัดการกับพวกมังกรที่อยู่บนฟ้าที”

 

“รับทราบ” หมอผีทั้ง 5 พยักหน้าในตอนที่ขานรับ

 

ลิงค์อึ้งจนพูดไม่ออกกับการเตรียมการนี้ แม้ว่าเขาจะเป็นขุนศึกเลเวล 9 แต่การจัดการกับมังกรทุกตัวที่อยู่บนฟ้าด้วยคนเพียงแค่ 6 คนมันก็ดูบ้าบิ่นเกินไป  แถมในกลุ่มนี้ยังมีแม้กระทั่งมังกรระดับตำนานรวมอยู่ด้วย เขาจะต้องมั่นใจในความสามารถของตัวเองมากแน่ๆ

 

ยังไงก็ตาม ลิงค์เองก็รู้ว่าอวาตาร์ไม่มีทางเลือกนอกจากทำอย่างนี้  ก่อนที่อวาตาร์จะขอให้เขาช่วย ลิงค์ก็พูด “ผมจะจัดการกับพวกสัตว์มังกรเอง คุณสนใจแค่พวกมังกรแดงก็พอ”

 

มีสัตว์มังกรอยู่ประมาณ 20 ตัวในท้องฟ้า และพวกมันก็แยกตัวอยู่ห่างกัน พวกมันมีเลเวล 6 และรวดเร็วมาก มันจะลดความกดดันลงไปได้มากถ้าเกิดว่าลิงค์ช่วยจัดการกับพวกตัวเล็กๆเจ้าปัญหานี้ได้ จากนั้นอาวาตาร์ก็พยักหน้าให้เขาด้วยความขอบคุณ

 

ด้วยการใช้ประโยชน์จากช่วงที่การต่อสู้ยังไม่เริ่มขึ้น ลิงค์ก็หันไปพูดกับเฟลิน่า “หลังจากนี้ให้เธอเป็นคนจัดการกับพวกสัตว์มังกรนะ อยู่ห่างๆกับอิเซนดิลันเอาไว้ด้วยหล่ะ”

 

“เข้าใจแล้ว”

 

“นานะ พาแมวไปกับเธอและช่วยโฮลุนจัดการพวกมนุษย์สัตว์บ้าคลั่งซะ พยายามจัดการพวกมันให้หมดภายใน 5 นาทีนะ โฮลุนจะได้ไปช่วยจัดการกับอิเซนดิลันต่อ”

 

“รับทราบค่ะ” นานะจ้องไปที่แมวดำที่อยู่ในมือของเธอ หลังจากที่คิดอยู่พักนึง เธอก็เอาแมวดำยัดเข้าไปในร่องอกก่อนที่จะจัดชุดเกราะหนังของเธอให้แน่นขึ้น

 

“นี่ ปล่อยข้านะ! เดี๋ยวข้าก็ตายจากความเร็วเคลื่อนที่ของเจ้าหรอก!” แมวดำดิ้นอย่างต่อเนื่อง พยายามที่จะหนีจากนานะ

 

“เจ้าแมวน้อยน่ารัก นานะจะคอยระวังนะ ไม่ต้องกังวลหรอก” นานะลูบหัวของเอโลดิมเบาๆเพื่อปลอบเขาก่อนที่จะยัดกลับเข้าไปในชุดเกราะของเธอ

 

จากนั้นแมวดำก็ยอมแพ้อย่างไม่เต็มใจ

 

ในอีกด้านนึง อิเซนดิลันไม่ได้มีแผนอะไร สายตาของเขาจ้องไปที่คนๆเดียวตลอดเวลา เขาจ้องมาที่ลิงค์และพูด “เจ้าตัวกระจ้อย ข้าตามหาเจ้าไปทั่วเลยนะ!”

 

นักเวทย์ชาวมนุษย์คนนี้ไม่เพียงแค่ทำลายเวทย์ชุบชีวิตของเขาเท่านั้นแต่ยังทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสด้วย ดังนั้นเขาจึงเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่ง

 

เขามองไปที่ลิงค์แค่คนเดียว

 

ส่วนเรื่องแมวดำงั้นเหรอ? อีโลดิมนั้นอยู่ไกลเกินไปและไม่มีความสำคัญ ยิ่งไปกว่านั้น นานะได้ยัดอิโลดิมเข้าไปในเกราะของเธอ ทำให้เขาหายากยิ่งกว่าเดิม และเนื่องจากปัจจัยเหล่านี้ จึงดูเหมือนว่าอิเซนดิลันจะละทิ้งรายละเอียดที่สำคัญเหล่านี้ไป

 

 

“บุก!” ขุนศึกแห่งความรุ่งโรจน์อวตาร์ตะโกน

 

เขาชี้ขวานรบไปยังมนุษย์สัตว์บ้าคลั่ง อัศวินหมาป่าระดับสูงเริ่มเหวี่ยงอาวุธของพวกเขาและพุ่งไปหามนุษย์สัตว์บ้าคลั่งในทันทีพร้อมกับตะโกนออกมาด้วย

 

ขุนศึกฟ้าแยกโฮลุนขี่หมาป่าสีขาวอยู่ เขาอยู่หน้าสุด, และเสียงของเขาก็ดังที่สุด “มาสู้กันสิ! ไอพวกแมลงสาป, เอาอุปกรณ์ระดับพระเจ้าของข้าไปกินซะ!”

 

โฮกก! มังกรบนฟ้ากระจายตัวกัน พวกเขาบินลงมา, และเล็งไปที่อัศวินหมาป่าที่อยู่ข้างล่าง

 

พวกทหารระดับสูงนั้นมีเลเวลเฉลี่ยอยู่ที่ 4 และบางคนก็มีเลเวล 5 สำหรับคนทั่วๆไปนั้น, นี่ก็ถือว่าแข็งแกร่งมากๆแล้ว แม้กระทั่งมนุษย์สัตว์บ้าคลั่งก็ยังแข็งแกร่งกว่าพวกเขาแค่นิดหน่อยเท่านั้นเอง อย่างไรก็ตาม, พวกเขาไม่สามารถต่อกรกับมังกรอันแข็งแกร่งที่มีเลเวลอย่างน้อย 6 ได้

 

ลิงค์เองก็ขี่หมาป่าอยู่, ,และกำลังไล่ตามอัศวินหมาป่า พอเห็นว่ามังกรกำลังจะพุ่งมาหาพวกเขา, เขาก็ชี้คทาขึ้นฟ้า “ผู้สังหารปีศาจ!”

 

ฟู่ว! แส้สีแดงปรากฎขึ้นในอากาศเบื้องหน้าเขา เหมือนกับอสรพิษเพลิง, มันขยายตัวไปหลายฟุตในทันที, และพุ่งไปหามังกรตัวนึงด้วยความเร็วแสง

 

มีแสงตัดผ่านท้องฟ้า จากนั้นก็มีเสียงร้าวอันน่ากลัว มังกรตัวนั้นถูกโจมตีที่กลางอก นี่เป็นเวทย์เลเวล 8 มังกรเลเวล 6 จะรับมันได้ยังไงหล่ะ? มันระเบิดตายกลางอากาศ!

 

ฝนเลือดเริ่มตกลงมาจากท้องฟ้า แต่นี่ก็เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น

 

แส้สีแดงนี้เหมือนกับเสียงเพรียกแห่งความตายจากพระเจ้า มันนเคลื่อนไหวตามปราถนาในระยะ 300 ฟุต มีมังกรสี่ตัวอยู่ใกล้ๆ ซึ่งพวกมันทุกตัวก็ระเบิดในเวลาสามวินาที

 

ลิงค์ไม่ได้อยู่กับที่ เขาควบคุมหมาป่าไปซ้ายทีขวาที, และวิ่งไปทุกที่ที่มังกรกำลังจะโจมตีอัศวินหมาป่า ก่อนที่มังกรจะลงมาถึง, แส้มฤตยูก็ไปถึงตรงนั้นแล้ว

 

ตูม, ตูม, ตูม! มีมังกรอีกสามตัวระเบิดเป็นชิ้นๆ

 

มังกรต่างก็ส่งเสียงร้องออกมา พวกมันโฉบขึ้นฟ้าและไม่กล้าลงมาที่พื้นอีก นักเวทย์ที่อยู่ข้างล่างนั่นน่ากลัวเกินไป! เวลาเพิ่งผ่านไปแค่ไม่กี่วินาที, แต่พวกเขาก็ตายไปครึ่งนึงแล้วในขณะที่นักรบหมาป่ายังไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรเลย พวกเขาไม่สามารถปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปได้!

 

อวาตาร์จดจ่อสายตาอยู่กับอิเซนดิลันและมังกรยักษ์อีกสองตัว จากนั้นเขาก็ชำเลืองมองไปที่สนามรบ และพอเห็นภาพนี้, เขาก็รู้สึกโล่งอก

 

มังกรบนฟ้านั้นไม่ใช่ภัยคุกคาม, และลูกน้อยของเขาก็ตายไปแค่นิดเดียว นักเวทย์มนุษย์คนนี้นี่เหมาะสมกับชื่อเสียงที่ได้มาจริงๆ นี่มันยอดเยี่ยมมาก

 

ในอีกด้านนึง, อิเซนดิลันเริ่มหมดความอดทนแล้ว “พวกเจ้าทั้งสอง” เขาพึมพำ “ไปดึงดูดความสนใจของนักเวทย์คนนั้นซะ ข้าจะร่ายเวทย์แล้ว”

 

เขากำลังตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบ ศัตรูที่มีนั้นรวมถึงนักสู้เลเวล 9 สองคน, หมอผีระดับสูงห้าคน, นักรบมังกรเลเวล 8 หนึ่งคน, และหุ่นเชิดเวทมนตร์ที่รวดเร็วอย่างเหลือเชื่ออีกหนึ่งตัวด้วย

 

ในการเผชิญหน้ากับศัตรูเหล่านี้, แม้กระทั่งอิเซนดิลันก็สามารถพ่ายแพ้ได้จากความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยถ้าเขาพยายามจะต่อสู้โดยตรง แต่ก็โชคดีที่, เขามีอีกวิธีนึง ในตอนที่ธีรอนกับโอลิซ่าพุ่งไปหาลิงค์, อิเซนดิลันก็กระพือปีกของเขาและบินสูงขึ้น ไม่กี่วินาทีต่อมา, เขาก็อยู่ที่ความสูง 3,000 ฟุต พลังของมังกรระดับตำนานนั้นเริ่มแผ่ซ่านในตัวเขา

 

มีแหวนคริสตัลสีแดงห้อมล้อมรอบตัวเขา, เกิดเป็นวงแหวนยาว 300 ฟุต คลื่นพลังอันน่าหวาดกลัวหลั่งไหลออกมาจากแหวนแสงอย่างต่อเนื่อง และชั้นหมอกหนาสีแดงที่เหมือนกับสายฟ้าก็ปรากฎขึ้น พวกมันเพิ่มจำนวนและกระจายไปทุกทิศทาง

 

ท้องฟ้าทั้งหมดเริ่มเปลี่ยนสี รัศมีสีแดงเข้มกระจายไปทั่ว, และปกคลุมเป็นระยะหลายไมล์ เมฆสีขาวเปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับว่าพวกมันกำลังลุกไหม้

 

ภาพนี้มันราวกับจุดจบของโลก มีเสียงดังมาจากข้างใน “เจ้าพวกมนุษย์, จงหมอบคลานด้วยความหวาดกลัว! และริ้มรสเพลิงมังกรสิ้นโลกซะ!”

 

นี่คือเทคนิคการต่อสู้ของเขา มันง่ายและรุนแรงมากๆ!

 

ไม่ว่าศัตรูจะมีเยอะแค่ไหนหรือเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งเพียงใด, เขาก็แค่จำเป็นต้องใช้ข้อได้เปรียบจากความสามารถบินของเขาและร่ายเวทย์ศักดิ์สิทธิ์อันสุดยอดนี้ จากนั้นโลกก็จะตกอยู่ในความเงียบ

 

ที่พื้น, ทุกคนหยุดต่อสู้และมองขึ้นไปด้วยความสับสน

 

ธีรอนกำลังจะตะครุบลิงค์ แต่พอเห็นเวทย์นี้, เขาก็ตัวแข็งทื่อและถามโอลิซ่า, “พวกเราจะตายจากเวทย์ของท่านดยุคด้วยใช่ไหม?”

 

โอลิซ่าพยักหน้า “หลังจากใช้เวทย์นี้, นอกจากเขา, ก็จะไม่มีใครรอดอีก…แต่เขาจะชุบชีวิตพวกเราอย่างแน่นอน”

 

พอได้ยินแบบนี้, ธีรอนก็ไม่รู้สึกกลัวอีก เขาพุ่งไปหาลิงค์ต่อ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่กลัว, แต่มนุษย์สัตว์บ้าคลั่งและมังกรที่บินอยู่ต่างก็รู้สึกตื่นกลัว พวกเขาไม่ได้รับการชุบชีวิต ถ้าพวกเขาตาย,พวกเขาก็จะตายจริงๆ ดยุคพร้อมที่จะฆ่าพวกเขาอย่างเห็นได้ชัดแล้วพวกเขาจะสู้ต่อไปทำไมหล่ะ?

 

พวกเขาพากันหันหลังหนี

 

ที่ฝั่งของอวาตาร์, เสียงของหมอผีระดับสูงคนนึงสั่นในขณะที่พูด “สถานการณ์ไม่ดีแลย มังกรตัวนั้นเป็นบ้าไปแล้ว เวทย์ศักดิ์สิทธิ์ของมันน่ากลัวจริงๆ มันสามารถทำลายทุกอย่างได้เลย!”

 

ในฐานะนักสู้เลเวล 9, อวาตาร์เองก็รู้สึกได้ถึงอันตรายร้ายแรง มันแทบจะรู้สึกสิ้นหวัง; และที่สิ้นหวังยิ่งกว่าก็คือการที่ศัตรูอยู่บนฟ้าที่ความสูงสามพันฟุต เขาไม่สามารถตอบโต้ได้ด้วยซ้ำ

 

เขาทำได้แค่รอความตาย

 

โฮลุนเองก็หยุดฆ่า เขาชี้ขวานไปหาอิเซนดิลันที่อยู่บนฟ้าอย่างเดือดดาลและคำราม “ไอขี้ขลาด! เจ้ามันแมลงสาปโสโครก! ลงมาต่อสู้กับข้าสิ!”

 

“เจ้ามนุษย์, จงคุกเข่าซะ! จงสิ้นหวังซะ!” อิเซนดิลันจะไม่ลงมาอย่างเห็นได้ชัด เขาชอบความรู้สึกสงบก่อนการโจมตี

 

บนพื้น, นานะเองก็หยุดไล่ตามมนุษย์สัตว์บ้าคลั่งเหมือนกัน เธอกลับมาหาลิงค์ เอามีดออกมา, แล้วชี้ไปที่หัวของแมวดำพร้อมกับถาม “นายท่าน, นานะควรฆ่ามันไหม?”

 

แมวดำดิ้นรนและในที่สุดก็โผล่หัวออกมาจากคอเสื้อของนานะ พอเห็นลิงค์, มันก็ขอร้อง “หยุดรอได้แล้ว ถ้าเจ้ามัวแต่รออยู่, เวทย์ศักดิ์สิทธิ์นั้นก็มาถึงพอดิสิ ทำลายมันซะ!”

 

ลิงค์ไม่มีทางเลือกอื่น ด้วยการชำเลืองมองนานะ, เขาก็พูดออกมา “ถ้ามันทำอะไรตุกติกก็จัดการทิ้งซะ”

 

“เร็วเข้าสิ! ข้าไม่ได้โกหกนะ!” ตอนนี้แมวดำรู้สึกผิดจริงๆ มันไม่ได้โกหกในครั้งนี้ ทำไมมนุษย์คนนี้ถึงไม่เชื่อมันนะ?

 

ลิงค์เอาคทาออกมาโดยไม่สนใจมัน เขาชี้คทาไปหามังกรที่อยู่บนฟ้าแล้วพูด, “พอรอทซัน แอคซิน่า ทัคค่า โมราต้า, ปลดล็อค!”

 

ครึ่งแรกนั้นเป็นชื่อ ถ้าให้เจาะจงกว่านี้, มันคือชื่อที่แท้จริงของแมวดำ

 

ชื่อที่แท้จริงของพระเจ้านั้นไม่ใช่แค่ชื่อ มันเก็บสัญญาและกฏอันเก่าแก่เอาไว้เป็นจำนวนมหาศาล ซึ่งการพูดชื่อที่แท้จริงนั้นก็คือการอัญเชิญพลังนั้น ส่วนประโยคสุดท้าย—ปลดล็อค—ก็คือการอัญเชิญชนิดของพลังอย่างเฉพาะเจาะจง

 

ประโยคของลิงค์เป็นเหมือนกับคำสาป มันหมายความว่า, ด้วยชื่อที่แท้จริงของพระเจ้า, ขออัญเชิญสัญญาเก่าแกมาปลดล็อคพลังบิดเบือนทั้งหมดในโลกนี้

 

ซึ่งเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ของอิเซนดิลันก็ใช้พลังบิดเบือน

 

ในตอนที่ลิงค์พูดจบ, บอลแสงขนาดเท่ากำปั้นก็ปรากฎขึ้นที่ปลายคทาของเขา มันอยู่ตรงนั้นเป็นเวลาครึ่งวินาทีก่อนที่ลำแสงบางๆจะยิงออกไป มันรวดเร็วมากๆ ในชั่วพริบตา, มันก็เลื้อยเข้าไปในรัศมีสีแดงเข้มรอบตัวอิเซนดิลัน

 

ในตอนนั้นเอง, หมอกสีแดงเหมือนกับสายฟ้าที่อยู่ในรัศมีก็ขยายไปทุกทิศทางเป็นระยะมากกว่า 1,000 ฟุต ท้องฟ้าเป็นสีแดงเข้มราวกับว่าจุดจบของโลกกำลังมาถึง

 

แต่ในตอนที่แสงสีขาวมุดเข้าไปข้างใน, ทุกๆอย่างก็เปลี่ยนไป

 

ตูม, ตูม!

 

สายฟ้าแตกระแหงในกลุ่มหมอกสีแดงในทันที ในเวลาเดียวกันนั้นเอง, สายฟ้าสีขาวนับไม่ถ้วนก็กระจายไปตามหมอกสายฟ้าสีแดง, และสลายมันอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ผ่านไปสามวินาที, หมอกสีแดงก็หายไปจนหมด ในขณะเดียวกัน ท้องฟ้าสีแดงก็หายไปด้วย และฟ้าก็กลับมาสดใสอีกครั้ง

 

ในที่สุด, โล่ป้องกันสีแดงรอบตัวอิเซนดิลันก็หายไปเช่นกัน ข้างในนั้น, ชั้นสายฟ้าสีขาวกำลังห่อหุ้มอิเซนดิลันเอาไว้, ภายใต้สายฟ้า, อิเซนดิลันยังคงนิ่งเหมือนรูปปั้น

 

สภาพนี้คงอยู่เป็นเวลาพักนึง หลังจากนั้นร่างของเขาก็เริ่มร่วง

 

โฮลุนตกตะลึงจนพูดไม่ออก นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นมังกรร่วงลงมาโดยไม่มีเหตุผล นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

 

แต่ว่าอวาตาร์เห็นมันอย่างชัดเจน เขาทั้งตกใจและมีความสุข “นักเวทย์มนุษย์เป็นคนทำ มันกำลังร่วงลงมา, และนี่ก็เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะฆ่ามัน! ตามข้ามา!”

 

ธีรอนกับโอลิซ่าเองก็ตกตะลึงจนพูดไม่ออก

 

“ทำไมท่านดยุคถึงไม่ขยับเลยหล่ะ?”

 

“นักเวทย์เป็นคนทำ ข้าไม่รู้เลยว่ามันใช้เวทย์อะไร!” ทั้งหมดที่โอลิซ่ารู้สึกก็คือความไม่เชื่อ พลังของท่านดยุคแข็งแกร่งพอที่จะทำลายทุกอย่างในระยะหลายไมล์ได้ แล้วทำไมมันถึงถูกเกลียวเชือกสีขาวทำลายได้หล่ะ?

 

นี่มันเวทย์อะไรกัน?

 

ตูม! อิเซนดิลันดิ่งกระแทกพื้นจากความสูงหลายพันฟุต

 

เขาร่วงลงมาในอัตราความเร็ว 500 ฟุตต่อวินาที เขาชนเข้ากลับพื้นหญ้านุ่มๆ, และนี่ก็เห็นได้ชัดว่าไม่พอที่จะทำให้มังกรที่แข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อตัวนี้บาดเจ็บได้ อย่างไรก็ตาม, สายฟ้าที่จำกัดการเคลื่อนไหวของเขาก็ไม่ได้หายไปอย่างสมบูรณ์หลังจากที่ร่วงลงมา เขายังรู้สึกชาอยู่

 

“ข้าว่าแล้ว! ข้าว่าแล้วเชียวว่าไอนักเวทย์นั่นจะทำเสียเรื่อง! บ้าจริง!” อิเซนดิลันตะโกน เขากระพือปีก, พยายามที่จะบินอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม, ปีกของเขาได้รับบาดเจ็บและอ่อนแอมาก ด้วยการพยายามสุดแรง, เขาสามารถบินขึ้นได้แค่เล็กน้อยเท่านั้น

 

ตอนนี้อวาตาร์มาถึงแล้ว ด้วยเวทย์ของหมอผีที่อยู่ในตัวเขา, อวาตาร์ก็ดูเปล่งประกาย มีบอลธาตุหลากสีหมุนอยู่รอบตัวเขาอย่างรวดเร็ซ ขวานต่อสู้ของเขาเหวี่ยงขวานไปที่ขาของอิเซนดิลันโดยไม่ลังเล “เจ้าหนีไปไหนไม่ได้แล้วหล่ะ!”

 

ขุนศึกฟ้าแยงโฮลุนเองก็มาถึงในเวลาแทบจะพร้อมกัน ในตอนที่เขาเห็นอิเซนดิลันร่วงลงมา, เขาก็รู้ว่านี่เป็นโอกาสหายากในการฆ่ามังกรตัวนี้ เขาเลิกสนใจมนุษย์สัตว์บ้าคลั่งในทันทีแล้ววิ่งมาหา

 

“หึ, เจ้าแมลงสาป, เอาอุปกรณ์ระดับพระเจ้าของข้าไปกินซะ!”

 

ก่อนที่เขาจะมาถึง, ก็มีเสียงฟุบดังขึ้น ร่างของเขาเริ่มส่องแสง นี่เป็นเสียงของหมอผีที่ร่ายเวทย์ใส่เขา

 

เทพแห่งเพลิงพิโรธ!

เทพแห่งพลังวายุ!

กระแสสายฟ้าคลั่ง!

โล่ปฐพี!

บาเรียโลหะ!

 

ในตอนที่โฮลุนเข้ามาใกล้อิเซนดิลัน, เขาก็เปล่งประกายอย่างเจิดจ้าเหมือนกับอวาตาร์ ภายใต้การสนับสนุนของหมอผีระดับสูง, พลังของเขาก็เพิ่มขึ้นอีก 50%

 

“ตายซะ!” เขาเหวี่ยงขวานไปที่ขาอีกข้างของอิเซนดิลัน, ในจังหวะที่แทบจะพร้อมกันกับการโจมตีของอวาตาร์

 

ในการเผชิญหน้ากับขุนศึกมนุษย์สัตว์สองคนนั้น, อิเซนดิลันไม่สามารถหยุดได้เลย และที่แย่ไปกว่านั้น, เขายังชาอยู่ เขาพยายามจะถอยด้วยพลังทั้งหมด ในขณะที่กำลังถอย, เขาก็เปิดใช้โล่ไปด้วย

 

พลังคริสตัลสีแดงห่อหุ้มเขา, เกิดเป็นโล่พลังมังกรหนาสองฟุต

 

ในจังหวะต่อมา, ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น ขวานของโฮลุนโจมตีโดนโล่ก่อน ระเบิดแสงและพลังของธาตุต่างๆชนเข้ากับโล่ และในที่สุด, มันก็ระเบิดออกเหมือนกับดอกไม้ไฟอันสวยงาม

 

พลังของโฮลุนก็น่ากลัวเช่นกัน; แม้กระทั่งอวาตาร์ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา แถมเขายังได้รับขวานของลิงค์มาด้วย มันดูดซับพลังชีวิตจำนวนมหาศาลจากการฆ่ามนุษย์สัตว์บ้าคลั่งเมื่อก่อนหน้านี้ ตอนนี้, โฮลุนรู้สึกฟิตจนถึงขีดสุด ขวานได้ไปถึงระดับที่เขาไม่เคยไปถึงมาก่อนแล้ว

 

ด้วยการเพิ่มความช่วยเหลือของธาตุเข้าไป, เวทย์ของอิเซนดิลันก็ไม่สามารถหยุดขวานได้ มันแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆในทันทที

 

ในอีกด้านนึง, อวาตาร์เห็นภาพนี้และตระหนักได้ว่าขวานนั้นสามารถทำลายโล่ได้ เขาจงใจลดความเร็วลงและโจมตีในจังหวะที่โล่แตก ซึ่งการโจมตีนี้ก็ไม่มีอะไรมาต้านทานเลย มันโดยอิเซนดิลันเข้าเต็มๆ

 

ตูม! ด้วยเสียงดังสนั่น, ขากว้างยี่สิบฟุตของอิเซนดิลันก็ถูกขยี้ เลือดและเนื้อสดๆกระจายไปทั่ว มีคลื่นที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าพุ่งผ่านขาไป มันบิดเบี้ยวและเขาก็กลายเป็นคนพิการในทันที

 

อิเซนดิลันร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด สายฟ้ารอบตัวเขาหายไปในที่สุด ความชานั้นเบาลงในขณะที่ความเจ็บปวดก็รุนแรงขึ้นเช่นกัน

 

“ออกไปให้ห่างๆข้าซะ!” เขากระพือปีกอย่างเดือดดาล สายลมรุนแรงถูกพัดออกมา

 

อวาตาร์พลิกตัวในทันที เขานอนกับพื้น, และกำดินเอาไว้, ดังนั้นเขาจึงไม่ถูกลมพัดปลิว แต่ว่าโฮลุนนั้นไม่ได้หลบมัน มันไม่ใช่ว่าเขาตอบสนองช้ากว่าอวาตาร์, แต่เป็นเพราะว่าเขาไม่มีทักษะในการคาดการณ์ล่วงหน้า

 

เขาถูกพัดกระเด็นจากการโจมตีนี้ ที่กลางอากาศ, อิเซนดิลันอ้าปากกว้าง ลมหายใจมังกรออกมา, พุ่งตรงไปที่โฮลุน

 

ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายนี้, โฮลุนเปิดใช้ออร่าต่อสู้ทั้งหมดของเขาออกมาในทันทีเพื่อหยุดลมหายใจมังกร อย่างไรก็ตาม, ลมหายใจมังกรระดับตำนานนั้นแข็งแกร่งเกินไป ออร่าต่อสู้ของเขาถูกกลืนด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ และถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป, เขาก็คงจะถูกย่างทั้งเป็นในเวลาสองวินาที

 

นี่ข้ากำลังจะตายงั้นรึ? ความคิดนี้แล่นเข้ามาในหัวของเขา

 

ในจังหวะนั้นเอง, แสงสีขาวก็สว่างขึ้นรอบตัวเขาและหายไป ทันทีหลังจากนั้น, สภาพแวดล้อมรอบตัวโฮลุนก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ลมหายใจมังกรอันร้อนระอุหายไปแล้ว, และเขาก็อยู่ใต้อิเซนดิลัน เขาอยู่ตรงช่วงท้องของมังกร ภายใต้มัน, มีติ่งเนื้อขนาดสองฟุตห้อยอยู่ มันคือลูกป๋องแป๋งของมังกร

 

นี่คือโอกาสดี!

 

ความคิดของโฮลุนนั้นง่ายมาก เขาไม่สงสัยว่าทำไมจู่ๆเขาถึงมาอยู่ที่นี่ เขาคิดแค่ว่าเขาต้องทำมัน!

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset