Advent of the Archmage – ตอนที่ 386: ทักษะเวทย์ขั้นสูง: ก้าวพริบตา

Chapter 386: ทักษะเวทย์ขั้นสูง: ก้าวพริบตา

 

พวกเขาอยู่หมู่บ้านใบไม้ผลิไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ลิงค์กับพรรคพวกไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากออกจากหมู่บ้าน แล้วมุ่งหน้าขึ้นเหนือ

 

ปานั้นไม่ใช่สถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด มีทหารแห่ออกมาจากในเมืองมุ่งหน้าเข้าปาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนี่เป็นเพราะเอลฟ์ที่อยู่ในเมืองส่วนใหญ่ถูกฆ่าตายหมดแล้วและทหารก็ทําได้แค่ออกมาข้างนอกเพื่อตามหาเอลฟ์คนอื่นๆ กลุ่มของลิงค์เดินทางอย่างระมัดระวังและพวกเขาก็โชคดีที่ไม่เจอกับอันตรายในระหว่างทางเลย

 

ด้วยสภาพแบบนี้ พวกเขาเดินทางขึ้นเหนือไปได้ 15 ไมล์ และพอท้องฟ้าเริ่มมีด ทหารที่มาจากหมู่บ้านใบไม้ผลิก็เริ่มทยอยกลับหมู่บ้าน ลิงค์และกลุ่มของเขารู้สึกโล่งใจ

 

“ที่หมู่บ้านใบไม้ผลิมีทหารอยู่ประมาณ 1,500 คน ด้วยระยะห่างขนาดนี้ พวกเราน่าจะปลอดภัยแล้วหล่ะ” มิลด้า พูด ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ มิลด้าถูกนานะอุ้มมาโดยตลอด และไม่มีโอกาสเปลี่ยนชุดของเธอเลย เธอยังคงสวมผ้าคลุมอยู่และที่ใต้ผ้าคลุมนั้น เธอก็สวมแค่กระโปรงธรรมดาๆ ส่วนท่อนบนของเธอไม่ได้สวมใส่อะไรเลย

 

โชคไม่ดีที่เธอทําได้แค่ใช้ผ้าคลุมปกปิดร่างกายของเธอจนกระทั่งพวกเขามีโอกาสหยุดพักให้เธอได้เปลี่ยนเสื้อผ้า

 

หลังจากเดินทางไปได้อีกไม่กี่ไมล์ ท้องฟ้าก็เริ่มมืด ริเอลพูดขึ้นมา “ดูนั่น ต้นไม้ตรงนั้นมีโพรงอยู่ด้วย มันกว้างกําลังดี คืนนี้พวกเราน่าจะพักที่นั่นได้อยู่นะ”

 

ลิงค์มองตามและมองเห็นแต่ใบไม้หน้าๆ ดังนั้นเขาจึงย่อตัวลง แล้วเขาก็พบสิ่งที่ริเอลพูด มันมีโพรงอยู่ที่ต้นไม้จริงๆต้นไม้นั้นใหญ่มาก กว้างประมาณ 60 ฟุตได้ ส่วนโพรงต้นไม้นั้นมีขนาดกว้าง 5 ฟุต ถ้าเกิดว่าข้างในโพรงมีขนาดกว้างกว่านี้อีกซักหน่อย มันคงจะเป็นสถานที่ที่ดีพอสําหรับผ่านช่วงกลางคืนได้เลย

 

“ระวังด้วยหล่ะ ปกติในโพรงต้นไม้มักจะมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่ด้วย” เจ้าหญิงมิลด้าพูด

 

ลิงค์พยักหน้า หลังจากที่คิดอยู่พักนึง เขาก็ใช้เวทย์แสงส่องเข้าไปในต้นไม้ เวทมนตร์ส่องแสงสีขาวอ่อนๆออกมาแล้ว ค่อยๆทําให้ต้นไม้สว่างขึ้น

 

3 วินาทีต่อมา หมีตัวใหญ่ที่มีไหล่กว้าง 6 ฟุตก็พุ่งออกมาจากต้นไม้ มันคํารามในขณะที่วิ่งออกมา และสามารถสัมผัสได้ถึงความตื่นกลัวในเสียงคํารามของมัน บางทีอาจจะเป็นเพราะว่ามันไม่เคยเจออะไรบางอย่างแบบเวทย์แสงมาก่อน

 

ด้วยความที่มันตื่นตระหนก มันจึงไม่ได้ดูว่าวิ่งไปทางไหนแล้วสะดุดล้ม แต่ไม่นานนัก มันก็ลุกกลับขึ้นมาและเริ่มทําการวิ่งต่อ แล้วหลังจากนั้นไม่นาน ก้นกลมๆใหญ่ๆของมันก็หายไป

 

“โอเค ต้นไม้น่าจะปลอดภัยแล้ว เจ้าหมีขี้กลัวนั่นคงจะไม่กลับมาอีกในเร็วๆนี้หรอก” ลิงค์พูด

 

พวกเขาทั้งสี่เข้าไปในโพรงต้นไม้ริเอลเป็นคนแรกที่เข้าไป ในตอนที่เขาเข้าไป เขาก็ปิดจมูกด้วยความรังเกียจในทันที “โอโห กลิ่นนี่มันแย่ยิ่งกว่ากางเกงในของคนแคระหญิงอีกนะเนี่ย”

 

ลิงค์ร่ายเวทย์ทําความสะอาดในทันที เขารอจนเวทย์ทําความสะอาดทําความสะอาดโพรงเสร็จก่อนแล้วค่อยเข้าไป

 

ในโพรงนั้นยังคงมีกลิ่นอยู่จางๆแต่ว่ามันก็น้อยแล้ว ตอนนี้มันอยู่ในระดับที่รับได้แล้ว

 

หลังจากที่เข้ามาในโพรง ลิงค์ไม่ได้พักผ่อนเลย แต่เริ่มทําการสลักเครื่องรางเอาไว้ตามพื้นที่รอบๆก่อน 10 นาทีต่อมา ทางเข้าโพรงต้นไม้ก็ถูกปกคลุมด้วยประตูเวทมนตร์ ประตูเวทมนตร์นี้มีลักษณะแทบจะเหมือนกับเปลือกไม้เลย ยิ่งไปกว่านั้น ร่องรอยของเวทมนตร์ก็ไม่สามารถไหลออกไปจากที่นี้ได้อีกด้วย มันดูเหมือนของจริงมากๆ

 

ในตอนที่เขาจัดการเสร็จเรียบร้อยเขาก็กลับเข้าไปข้างในและพักผ่อน

 

โพรงนี้ดูจากภายนอกแล้วไม่ใหญ่มาก แต่ว่าข้างในนั้น จริงๆแล้วมันค่อนข้างกว้างมาก มันมีพื้นที่ทั้งหมด 210 ตารางฟุต และที่สําคัญกว่านั้น มีทางเดินเล็กๆอยู่ใกล้กับบนสุดของโพรงที่เอาไว้ให้คนหนึ่งคนคลานผ่านด้วย

 

จะเห็นได้ว่าทางออกของเส้นทางนี้อยู่ตรงจุดที่ต้นไม้เริ่ม แตกกิ่งก้านออกไป มันอยู่สูงจากพื้น 90 ฟุต มันเป็นเส้นทางหนีที่ดีมากๆ

 

ลิงค์ใช้เวทมนตร์แสงติดเอาไว้ที่ด้านบนของโพรง ด้วยแสงนั้น เขาก็เอาอาหารกับน้ําออกมา นี่เป็นของที่ลิงค์มักจะเตรียมเอาไว้อยู่แล้วตามปกติ ในโลกที่เต็มไปด้วยอันตรายแบบนี้ เขารู้ว่าเขาจะต้องออกเดินทางแบบนี้บ่อยๆ

 

หลังจากที่เดินมาทั้งวัน ทุกคนต่างก็หิวโซ พวกเขากินอาหารรับประทานอย่างเงียบๆ

 

หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เจ้าหญิงมิลด้าก็หามุมว่างซักมุมนึ่ง และด้วยการใช้ผ้าคลุมแทนผ้าม่าน เธอก็เปลี่ยนชุดของเธออย่างรวดเร็ว

 

ริเอลไม่รู้ถึงสถานการณ์ของเจ้าหญิงมิลด้า (ไม่ได้สวมเสื้อ) เขามองเธอและถามด้วยความสงสัย “มิลด้า เจ้าทําอะไรหรอ? เจ้าจะช่วยตัวเองในสถานการณ์แบบนี้เนี่ยนะ? เก็บแรงเอาไว้เถอะ พวกเรากําลังหลบหนีอยู่นะ”

 

ใบหน้าของมิลด้าแดงก่ําในทันที เธอจ้องไปยังคนแคระผู้ที่ไม่รู้จักควบคุมคําพูดของตัวเองอย่างเจ็บแค้นและพูดออกมาเสียงดัง “หุบปากไปซะ!”

 

ริเอลมองไปที่ลิงค์อย่างเหนื่อยหน่าย “ข้าอุตส่าห์หวังดีแท้ๆ…”

 

“เอาเถอะ อย่าไปยุ่งเรื่องของคนอื่นเค้าเลย ไปพักผ่อนเถอะ” ลิงค์รู้ว่าคนแคระนั้นมักจะชอบแกล้งเล่นสนุกกับคนอื่น เขารีบยื่นผ้าคลุมหนังหมีให้กับริเอลและเร่งให้เขาเข้า นอนในทันที

 

ริเอลเองก็เหนื่อยมากแล้ว เขาใช้เรี่ยวแรงไปเยอะ เขาเดินทางมาถึงที่นี่ด้วยตัวเองโดยไม่มีนานะคอยอุ้มหลังจากที่ได้ ผ้าคลุมหนังหมีมา เขาก็นอนลง ไม่นานนัก ในโพรงต้นไม้ก็เต็มไปด้วยเสียงกรนเบาๆ

 

ลิงค์พักผ่อนอยู่ครู่นึ่งหลังจากที่เขากินอาหารเสร็จ และไม่นานนัก เรี่ยวแรงของเขาก็ฟื้นฟูกลับมาอย่างเต็มที่

 

เขานั่งลงบนผ้าคลุมอีกผืนนึงแล้วหยิบกระดาษเวทมนตร์ออกมา จากนั้นเขาก็เขียนมัน

 

การต่อสู้กับหัวหน้าทหารก่อนหน้านี้อันตรายจริงๆ แต่ว่าภายใต้แรงกดดันอันมหาศาลนั้น ลิงค์รู้สึกว่าเขาได้ก้าวข้ามขีดจํากัดแล้ว เขาใช้แรงบัลดาลใจที่เขารู้สึก เขียนสูตรคํานวนขึ้นมามากมาย

 

ไม่นานนัก อารมณ์ของเข้าก็พุ่งพล่าน ในระหว่างที่เขาเขียนกระดาษเวทมนตร์ เวทย์มิติบทใหม่ก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา

 

ลิงค์นั้นมีสมาธิมากจนไม่ได้สนใจสิ่งรอบตัวเลย ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกว่ามีใครบางคนเข้ามาใกล้เขา เขาได้กลิ่นอันแสนคุ้นเคยและรู้ว่าเป็นเจ้าหญิงมิลด้าที่เข้ามาดูว่าเขากําลังทําอะไรอยู่ เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยๆจนลิงค์เริ่มที่จะชินกับมัน เขากลับมาสนใจกระดาษที่เขากําลังเขียนอยู่ และเริ่มทําการคํานวนต่อ

 

หลังจากที่ผ่านไปพักนึง อยู่ๆลิงค์ก็รู้สึกได้ถึงน้ําหนักกดลงมาที่ไหล่ขวาของเขา เขาหันไปมอง แล้วเห็นเจ้าหญิงมิลด้านั่งเอนตัวมาทางเขาและหัวของเธอก็หนุนอยู่ที่ไหล่ของเขา เธอผลอยหลับไปแล้ว บางทีมันอาจจะเป็นเพราะความหนาวเย็นในเวลากลางคืน เธอขดตัวและขยับเขามาซุกใกล้ๆลิงค์

 

ลิงค์พยายามทําตัวให้นิ่งที่สุดและค่อยๆใช้มือแห่งนักเวทย์ หยิบผ้าคลุมที่ตกอยู่ที่พื้นขึ้นมาห่มเธอ

 

จากนั้นเขาก็หันไปมองนานะ นานะไม่สามารถรู้สึกเหนื่อยล้าได้ในตอนนี้ เธอกําลังมองดูแมลงบินขึ้นลงโพรงของต้นไม้ด้วยความสนใจอย่างมาก

 

ลิงค์หัวเราะก่อนที่จะหันกลับมาทํางานของเขา ทันใดนั้นเองเขาก็รู้สึกตัวว่ามีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นกับร่างกายของนานะ ลิงค์พบว่าพละกําลังของนานะนั้นเพิ่มขึ้น และยังมีร่องรอยมานาอยู่ในร่างกายของเธอด้วย

 

นี่น่าจะเป็นเพราะผลของแก่นแท้แห่งชีวิต ในตอนที่สถานการณ์ปลอดภัยแล้ว ฉันคงต้องตรวจสอบมันให้ละเอียดซะแล้วล่ะ ตอนนี้สมาธิทั้งหมดของลิงค์ทุ่มให้กับเวทย์มิติบทใหม่ที่เขากําลังสร้าง และเขาไม่มีเวลาที่จะตรวจสอบนานะ เขาทําการคิดสูตรคํานวนสําหรับเวทย์มิติใหม่

 

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า

 

หลังจากผ่านไปอีกชั่วโมง ในที่สุดลิงค์ก็เขียนถึงช่วงสุดท้ายของกระดาษเวทมนตร์ ตอนนี้ โครงสร้างเวทมนตร์เวอร์ชั่นสมบูรณ์ได้อยู่บนแผ่นกระดาษแล้ว

 

นี่เป็นเวทมนตร์บทใหม่ที่สามารถเอามาทดแทนเวทย์หลบหนีอันดับ 1 ของลิงค์ ข้ามมิติได้เลย

 

แม้ว่าข้ามมิติจะเป็นเวทย์ระดับตํานานเลเวล 10 แต่ลิงค์ก็ใช้งานมันบ่อยมาก ยิ่งไปกว่านั้น เขาเป็นนักเวทย์มิติ ซึ่งนั่นหมายความว่าเขารู้จักเวทมนตร์นี้เสมือนกับว่ามันเป็นหลังมือของเขา แต่ว่ามันก็ยังคงเป็นเวทย์ระดับตํานานอยู่ดี และการออกแบบของมันก็ค่อนข้างดีมากๆด้วย มันมีเพียงแค่ส่วนเล็กๆเท่านั้นที่ลิงค์สามารถปรับแต่งได้

 

แต่พอมาถึงตอนนี้ในที่สุดลิงค์ก็สามารถก้าวข้ามขีดจํากัดของเวทมนตร์ได้แล้ว

 

ข้อความได้ปรากฏขึ้นบนทัศวิสัยของเขา

 

ผู้เล่นลิงค์สร้างทักษะเวทย์ขั้นสูงสุดระดับตํานาน ผู้เล่นได้รับ 500 แต้มโอมนิ

 

โปรดตั้งชื่อเวทมนตร์

 

โดยไม่คาดคิด เขาได้รับรางวัลเป็นแต้มโอมนิจํานวนมหาศาลนี้ทําให้ลิงค์ดีใจมาก เขาคิดอยู่พักนึงและพูดออกมา “ขอตั้งชื่อมั่นว่า ก้าวพริบตา”

 

ระบบได้แสดงข้อความใหม่ขึ้นมา

 

ก้าวพริบตา

 

เวทย์มิติระดับตํานาน เลเวล 10

 

พลังงานที่ใช้: 2500 พลังงานมังกรหรือมากกว่านั้น (การเพิ่มแต้มจะทําให้ระยะก้าวพริบตาไกลขึ้น)

 

ระยะเวลาร่าย: 0.01วินาที

 

ผล: หลังจากที่ร่ายเวทย์ผู้ใช้จะสามารถวาร์ปไปที่ไหนก็ได้ในทันที ในระยะ 700 ฟุต

 

(หมายเหตุ: มุ่งหน้าต่อไปแล้วเผาผลาญพลังมังกรของเจ้าซะ)

 

คําอธิบายนี้ทําให้ลิงค์รู้สึกปวดใจ เวทย์มิตินั้นดีมากและสามารถใช้ในการผสมการโจมตีกับดาบและเวทมนตร์ของเขาได้ มันเป็นเวทย์ปลิดชีพที่ดี ปัญหาเดียวของมันก็คือการใช้พลังงานที่ค่อนข้างมาก

 

การก้าวพริบตา 1 ครั้งใช้พลังมังกร 2500 แต้ม ต่อให้ลิงค์มีอัตราการฟื้นพลังที่รวดเร็ว แต่มันก็ค่อนข้างสูงเกินไปอยู่ดี ที่สําคัญคือ เขาสามารถใช้มันได้แค่ 2 ครั้งในการต่อสู้

 

ยิ่งมันใช้เวลาในการเดินทางน้อยเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งใช้มานามากขึ้นเท่านั้น นี่เป็นกฎพื้นฐานของธรรมชาติ ลิงค์คิดในใจและถอนหายใจออกมา

 

การออกแบบของเวทมนตร์นี้ง่ายมากๆ มันง่ายยิ่งกว่าเวทย์ข้ามมิติซะอีก ยิ่งไปกว่านั้น ลิงค์เป็นคนสร้างเวทมนตร์นี้ และเข้าใจมันเป็นอย่างดี ต่อให้เขาไม่ต้องฝึกฝน เขาก็รู้สึกคุ้นเคยกับเวทย์นี้มากๆแล้ว

 

ในส่วนของ 500 แต้มโอมนินั้น ลิงค์มองไปที่แต้มมังกรสูงสุดของเขา-ตอนนี้มันคือ 7700 แต้ม ลิงค์มีลางสังหรณ์ว่า เขาใกล้จะไปถึงระดับตํานานแล้ว เขาแค่ต้องการแรงผลักดันอีกเล็กน้อย

 

ตอนนี้ พละกําลังของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาตัดสินใจที่จะเก็บ 500 แต้มโอมนินี้เอาไว้ใช้ในอนาคต ถ้าเกิดว่าเขาเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เขาก็จะใช้แต้มพวกนี้ในการฝ่าฟันมัน

 

ในที่สุด ลิงค์ก็เริ่มรู้สึกเหนื่อยและเตรียมตัวที่จะพักผ่อน

 

เขาจับตัวเจ้าหญิงมิลด้านอนลงอย่างระมัดระวังแล้วพวกเขาทั้งคู่ก็นอนลงใต้ผ้าคลุม

 

เขาหลับตาลง และเขาก็เข้าสู่ห้วงความฝันในทันที มันเป็นฝันที่ดีมากๆ เขาฝันถึงเซลีน

 

เขาฝันว่าเขากําลังมีความสุขกับการใช้ชีวิตอยู่ที่เฟิร์ด เขาฝันว่าเขากําลังลูบผิวอันเนียนนุ่มของเซลีน ค่อยๆยื่นมือของเขาไปจับที่หน้าอกที่อ่อนนุ่มของเธอ เซลีนหัวเราะและบอกว่าเลิกแกล้งเธอได้แล้ว จากนั้น เธอก็ยื่นมือไปจับน้องชายของเขาที่กําลังแข็งอยู่ เธอควักมันออกมา และทั้งสองก็เริ่มพูดคุยกันอย่างลามก

 

สิ่งที่พวกเขาพูดกันนั้นเป็นเสียงพึมพํา ลิงค์จําไม่ค่อยได้ว่าเขาพูดอะไรไปบ้าง ยังไงก็ตาม มันรู้สึกอบอุ่นและสงบ หลังจากนั้นพวกเขาทั้งสองก็กอดกันและนอนลงบนเตียง พวกเขากลิ้งไปกลิ้งมา และในที่สุด พวกเขาก็เป็นหนึ่งเดียวกัน

 

ลิงค์พบว่าเขาหมกหมุ่นอยู่กับฝันหวานเกี่ยวกับเซลีนนี้

 

ในตอนที่เขากําลังจะต่อ ลิงค์ก็ได้ยินเสียงร้องเบาๆจากข้างๆเขา

 

เสียงร้องนี้ทําให้ลิงค์ตื่นขึ้นมา อะไรกัน? ศัตรูหรอ?

 

หลังจากที่ตื่นขึ้นลิงค์ก็ตกตะลึง

 

เขากําลังฝันหวานอยู่ แต่ตอนนี้ ในความเป็นจริง เขากําลังกอดหญิงสาวอยู่ และนั่นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากเจ้าหญิงมิลด้า

 

ตอนนี้เขากําลังนอนอยู่ใต้ผ้าคลุมผืนใหญ่ และข้างใต้นั้นก็ มีเขากับเจ้าหญิงมิลด้าอยู่ ร่างกายของพวกเขาทั้งคู่แนบชิดกันมากจนลิงค์รู้สึกได้ถึงไออุ่นจากเจ้าหญิงมิลด้า

 

“อุ๊บส์…” ลิงค์พูดไม่ออก

 

ที่แย่ยิ่งกว่านั้นก็คือ นานะที่นั่งอยู่ตรงมุมห้องนั้น ไม่ได้มองไปที่แมลงบนต้นไม้อีกต่อไปแล้ว แต่กลับมองมาที่พวกเขาแทน

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset