Advent of the Archmage – ตอนที่ 416: ยุคสมัยของลิงค์

Advent of the Archmage Chapter 416: ยุคสมัยของลิงค์

 

ราชาลีออนยืนอยู่หน้าสุดของกลุ่ม ด้านข้างของเขามีลูซี่ แจคเกอร์และนักเวทย์คนอื่นๆอีกมากมาย ลิงค์จํา เกรนซี เฟอดินันท์ และวิสมัลเลอร์ได้ แต่นอกจากสามคนนี้แล้ว คนอื่นๆก็เป็นนักเวทย์จากพระราชวังทั้งหมด

 

ในตอนที่ราชาลีออนเห็นลิงค์ “ลอร์ด สถานการณ์ทางตอนเหนือเป็นยังไงบ้าง?”

 

ทุกคนต่างมองลิงค์อย่างคาดหวัง ถ้าลิงค์กลับมา นั่นก็หมายความว่าสถานการณ์จะต้องดีขึ้นแล้ว แต่ว่า พวกเขาก็ยังคงต้องการฟังรายละเอียดจากลิงค์ก่อนพวกเขาถึงจะรู้สึกสบายใจได้

 

ลิงค์หัวเราะ “ไม่ต้องห่วง นั่งลงก่อนเถอะครับ”

 

ห้องโถงนั้นกว้างขวาง และมีเก้าอี้ตั้งอยู่เป็นวงกลมรอบห้องโถง ในตอนที่ทุกคนนั่งลง ลิงค์ก็เริ่มเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางตอนเหนือ เริ่มจากการต่อสู้ที่ป้อมโอริด้า เขาพูดเกี่ยวกับการย้ายถิ่นฐานของชาวยับบ้าและเล่าคร่าวๆเกี่ยวกับประสบการณ์ของเขาในอารากู่ รวมถึงการที่เขาขึ้นสู่ระดับตํานานด้วย

 

“สรุปคือ พวกเราได้รับชัยชนะ ส่วนพวกดาร์กเอลฟ์ก็ไม่มีกําลังพอที่จะสู้อีกต่อไปแล้วสินะ”

 

ทุกคนถอนหายใจออกมาอย่างช้าๆ พวกเขารู้สึกโล่งใจแต่ในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็รู้สึกหนักใจด้วย

 

ถึงแม้ว่าพวกดาร์กเอลฟ์จะได้รับความสูญเสียมากมาย แต่ว่าพวกเขาเองก็เช่นกัน พระสันตะปาปาสิ้นพระชนม์ นักรบระดับสูงเองก็ถูกฆ่าไปมากมาย พวกเขาเหลืออยู่แค่ 17,000 คนเท่านั้น การป้องกันของป้อมโอริด้าเองก็ถูกทะลวงเข้ามาได้ แม้ว่ามันจะเป็นแค่การเล่าเรื่องจากลิงค์ แต่มันก็ยังทําให้พวกเขาทุกคนรู้สึกกังวล

 

ไม่มีใครกล้าคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าป้อมโอริด้าถูกทําลาย แต่อย่างน้อย ในท้ายที่สุดแล้ว ป้อมโอริด้าก็ยังคงอยู่ในการควบคุมของมนุษย์

 

หลังจากที่ฟังเรื่องที่ลิงค์พูด ราชาลีออนก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ “ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าสงครามทางเหนือจะหนักหน่วงขนาดนี้ ถ้าเกิดว่าข้ารู้ข้าคงไม่ส่งคําขอกําลังเสริมไปหรอก มันเกือบทําให้พวกเราต้องต่อสู้กันเองแล้ว”

 

ลิงค์รู้สึกตงิดใจเมื่อได้ฟังเรื่องนี้ เขามองไปที่พระราชาแก่ๆและสีหน้าตําหนิตัวเองของเขา แต่ในเวลาเดียวกันเขาก็เห็นบางอย่างซ่อนอยู่ในดวงตาของพระราชา

 

ในฐานะพระราชาและนักการเมือง ลิงค์รู้ดีว่าคําพูดของเขานั้นมีความหมายมากกว่าที่แสดงออกมา ดังนั้นลิงค์จึงสังเกตุดูภาษากายของเขา

 

แม้ว่าบางส่วนราชาลีออนจะโทษตัวเอง แต่ว่าความรู้สึกจริงๆของเขาเกี่ยวกับสงครามและดยุคอาเบลนั้นเป็นบางเรื่องที่ลิงค์ไม่สามารถทําความเข้าใจได้ในตอนนี้

 

ลิงค์คิดเกี่ยวกับดยุคอาเบล

 

ในฐานะผู้บัญชาการ ดยุคอาเบลนั้นถือว่าทําได้ดีเลยทีเดียว แม้ว่าวิธีการบางอย่างของเขาจะดูคิดง่ายไปหน่อย แต่เขาก็เลือกที่จะอยู่ป้อมโอริด้า สิ่งที่เขาทํานั้นมันอาจจะดูเหมือนว่าทําเพื่อระวังภัยจากทางเหนือ แต่บางที เขาอาจจะทําแบบนี้เพื่อระวังราชาลีออนก็ได้

 

พอคิดถึงเรื่องพวกนี้ ลิงค์ก็ปวดหัวขึ้นมา เขาพยายามไม่คิดถึงมันอีก เรื่องการเมืองกับตระกูลอาเบลนั้นซับซ้อนมากๆ และพี่น้องคู่นี้จะต้องมีความลับที่ยังไม่เปิดเผยออกมาอย่างแน่นอน ดูจากความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ คงไม่มีใครกล้ายึดดินแดนของเขา อย่างน้อยสิ่งที่พวกเขาจะทําก็คือดึงให้เขาไปเข้าพวกด้วย

 

ทั้งหมดนี้เขาใช้เวลาในการคิดแค่นิดเดียวเท่านั้น ลิงค์ตัดสินใจที่จะผ่อนคลาย เขาถามออกมา “ป้อมโอริด้าต้องการกองกําลังและทรัพยากรอย่างมาก ลูซี่ พวกเราไม่สามารถให้กองกําลังกับพวกเขาได้แต่ว่าพวกเราสามารถส่งทรัพยากรไปได้ใช่มั้ย?”

 

ลูซี่นั้นไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว ครึ่งปีก่อน เธอเป็นทหารรับจ้างที่สดใสและมีความสามารถ แต่ตอนนี้ เธอสวมชุดเดรสสีแดงงดงาม และผมสีแดงเพลิงของเธอก็ถูกตัดให้สั้น เธอสวมตราประทับไว้ที่นิ้วของเธอ และมีแว่นสีเงินห้อยอยู่ที่คอ ตอนนี้เธอคือหัวหน้าฝ่ายจัดการของเฟิร์ด

 

ลูซี่หยิบหนังสือเล่มใหญ่ออกมาเปิดดู เธอเจอหน้าที่ต้องการและยื่นมันให้กับลิงค์ “ท่านคะ นี่คือสถานการณ์ปัจจุบันของเรา มากที่สุดที่พวกเราสามารถให้ได้ก็คือทรัพยากรสําหรับครึ่งปี ถ้ามากไปกว่านั้นมันจะไปกระทบกับการดําเนินการของเรา…ดังนั้นพวกเราจึงจําเป็นต้องให้ทางอาณาจักรสนับสนุนด้านเงินทุนเราถ้าเกิดว่าพวกเขาต้องการทรัพยากรมากกว่านี้”

 

ราชาลีออนมีท่าทีแปลกๆ เหตุผลนั้นชัดเจนมาก เขาไม่มีเงิน

 

เมืองฮอทสปริงล่มสลาย และทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเขาก็ถูกอาณาจักรเดลอนก้าเอาไปหมดแล้ว แถมประชาชนที่เหลืออยู่ในเมืองต่างก็พากันย้ายขึ้นเหนือหรือไม่ก็มาที่เฟิร์ด

 

สําหรับตัวเขา เขาเป็นราชาเพียงแค่ในนามเท่านั้น ตอนนี้เขาลี้ภัยมายังเฟิร์ด เขาต้องพึ่งพาสิ่งจําเป็นทุกอย่างจากเฟิร์ด แล้วเขาจะไปเอาเงินมาจากไหนมาจ่ายเฟิร์ดสําหรับค่าทรัพยากรล่ะ?

 

ลิงค์เข้าใจความคิดของพระราชา แต่ว่าเขาเองก็เข้าใจเจตนารมณ์ของลูซี่ เธอต้องการใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ในตอนนี้เพื่อกอบโกยผลประโยชน์มาให้เฟิร์ด

 

นี่เป็นโอกาสที่ดี และลิงค์ก็ตัดสินใจที่จะร่วมมือกับเธอ เขามองไปที่ตัวเลขที่อยู่ในหนังสือและพูด “อย่าพึ่งพูดถึงเรื่องเงินเลย เรื่องนั้นค่อยมาจัดการทีหลังก็ได้ ตอนนี้ พวกเราต้องผลิตทรัพยากรให้มากพอสําหรับคน 30,000 คนเป็นเวลา 1 ปี”

 

“ได้ค่ะลอร์ด แต่ว่าฉันต้องขอเตือนอีกครั้งนะคะว่าพวกเราไม่สามารถให้ฟรีๆได้ พวกเราต้องมีความรับผิดชอบต่อประชาชนของเราด้วย ถ้าพวกเราให้ทรัพยากรแก่พวกเขา พวกเราจะต้องได้รับบางอย่างเป็นการตอบแทน” ลูซี่พูดเธอกล่าวถึงข้อต่อรองอย่างจริงจัง

 

ราชาลีออนทนรับเรื่องนี้ไม่ไหวแล้ว ยิ่งเขาได้ยินมันมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งโกรธมากเท่านั้น เขาพูดอย่างเย็นชา “ลูซี่ ทางอาณาจักรจะไม่มีวันลืมบุญคุณในครั้งนี้อย่างแน่นอน ถ้าเกิดว่าเจ้าแบ่งทรัพยากรให้พวกเรา ทางเราจะยกเลิกภาษีของเฟิร์ดตั้งแต่นี้เป็นต้นไป”

 

อันที่จริง จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ราชาลีออนไม่มีอํานาจในการบังคับให้เฟิร์ดจ่ายภาษีด้วยซ้ำ ยังไงก็ตาม ลูซี่กําลังรอคําสัญญาจากพระองค์อยู่ เธอพยักหน้าอย่างจริงจัง “ทูลฝ่าบาท ในเมื่อท่านทรงตรัสเช่นนั้น หม่อมฉันก็ขอยอมรับข้อตกลงนี้ค่ะ”

 

ตอนนี้ลิงค์กลับมาแล้ว และเฟิร์ดในตอนนี้ก็มีระดับตํานานอยู่ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เฟิร์ดสามารถแยกตัวออกเป็นอิสระได้ แต่ปัญหาเพียงอย่างเดียวก็คือมันจะไม่ดีต่อชื่อเสียงของเฟิร์ด โดยเฉพาะกับชาวอาณาจักรนอร์ตัน อาณาจักรนอร์ตันนั้นมีผู้คนมากมายที่ซื่อสัตย์ต่ออาณาจักร และจะหันมาต่อต้านเฟิร์ดถ้าเกิดว่าเฟิร์ดก่อกบฏ

 

ดังนั้นแทนที่จะก่อกบฏ แต่เปลี่ยนไปขอค่าชดเชยจากราชาลีออนในเรื่องการช่วยเหลือแทนนั้นจะช่วยให้พวกเขาได้คะแนนจากชาวนอร์ตันเพิ่มขึ้นแถมยังสามารถรับผลประโยชน์ได้ในทันทีด้วย

 

นี่คือสิ่งที่ลูซี่วางแผนเอาไว้

 

ราชาลีออนรู้ดีว่าเธอต้องการอะไร และเขาก็รู้ดีว่าอาณาจักรของเขาต้องการความช่วยเหลือจากเฟิร์ด แถมเขาก็ไม่ได้มีอํานาจเหนือเฟิร์ดอีกต่อไปแล้วด้วย มันเหมือนกับว่าเขาเสียจุดยืนของตัวเองไป อย่างไรก็ตาม พระองค์ก็ไม่มีเรื่องอื่นให้ต่อรองแล้ว

 

ยอมให้ไปเถอะ ลิงค์เป็นนักเวทย์ระดับตํานานและยังเป็นเสาหลักที่คอยสนับสนุนอาณาจักรด้วย มันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วที่เขาจะได้รับสิทธิพิเศษ ยังไงซะ เขาก็ไม่มีทางขอร้องในเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลอยู่แล้ว นี่คือสิ่งที่ราชาลออนคิดปลอบใจตัวเอง

 

ลิงค์ไม่ได้สนใจว่าราชาจะรู้ถึงแผนการของพวกเขาหรือไม่เพราะมันเป็นแค่เรื่องเล็กๆ “ฝ่าบาทเกี่ยวกับเรื่องกําลังเสริมและทรัพยากรนั้น พระองค์สามารถส่งคนไปคุยกับลูซี่ได้เลยนะครับ ท่านสะดวกใช่ไหม?”

 

ราชาลีออนพยักหน้า”ไม่มีปัญหา

 

จากนั้นลิงค์ก็หันไปหานักเวทย์เกรนซีและถาม “สถานการณ์ของสถาบันเวทมนตร์อีสโควฟเป็นยังไงบ้าง?”

 

เกรนซีหัวเราะออกมาเบาๆ “สบายมาก แอนดรูวตายแล้ว และชาวเดลอนก้าก็ไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อสถาบันอีกต่อไป ทั้งหมดที่พวกมันทําได้ก็คือปิดล้อมสถาบัน”

 

ลิงค์รู้สึกโล่งใจที่ได้ยินอย่างนั้น “ดีเลย ครั้งนี้อาณาจักรเดลอนก้าล้ำเส้นเกินไปจริงๆ ในระหว่างที่พวกเรากําลังจัดการกับภัยร้ายจากทางเหนือ พวกมันก็บังอาจมาแทงข้างหลังพวกเรา!! พวกมันจะต้องได้รับบทเรียน!”

 

คําพูดของลิงค์นั้นเย็นชา และทุกคนที่อยู่ในห้องโถงก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมา พวกเขาหายใจไม่ออกและหลายคนก็ตัวซีดเผือดเพราะว่าแรงกดดันที่ลิงค์ปล่อยออกมา

 

ลิงค์รู้สึกตัวในเวลาไม่นานว่าเขาได้ปล่อยจิตสังหารอันรุนแรงออกมาและทําให้ทุกคนรู้สึกไม่สบายตัว หลังจากที่เขาใจเย็นลง ทุกคนก็ดูโล่งใจขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

 

อย่างที่คาดเอาไว้สําหรับนักเวทย์ระดับตํานาน-แรงกดดันที่เขาปล่อยออกมานั้นน่ากลัวมาก

 

ลิงค์ฝากเรื่องเกี่ยวกับการทหารให้แจ็คเกอร์เป็นคนจัดการ

 

ตอนนี้แจคเกอร์อยู่ที่ระดับสูงสุดของเลเวล 6 เขาสวมชุดเกราะหนักป้องกันเวทมนตร์ที่ดูเก่าและเป็นที่รักอย่างมาก เขารายงาน “ลอร์ดครับ ตอนนี้กองทัพของพวกเรากําลังปะทะกับพวกเดลอนก้าที่ชายแดนของเฟิร์ดอยู่ กองทัพของพวกเราอ่อนแอกว่าเล็กน้อย แต่ว่าพวกเราก็ยังสามารถรับมือได้เพราะพันตรีเซลืนกับดอเรียสเป็นเทพแห่งความตายภายในปาเกอแวนท์”

 

จะบอกว่าเซลีนเป็นคนที่ทําให้ศัตรูต้องถอนกําลังกลับก็ยังได้ เพราะว่าเธอฆ่าผู้บัญชาการของเดลอนก้าไปหลายคนทําให้กองทัพของพวกเขาเป็นอัมพาต

 

และเพราะเหตุนี้เองกองทัพที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นมาใหม่ของเฟิร์คจึงสามารถต่อสู้กับกองทัพของเดลอนก้าได้

 

ลิงค์พยักหน้าและพูด “โอเค ถ้างั้นฉันขอไปแนวหน้าซักหน่อยนะ”

 

เขาอยากไปพบเซลีนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทําได้

 

“ข้าจะไปส่งเจ้าที่นั่นเอง!” เฟลิน่าพูด “ตอนนี้ข้ากําลังว่างอยู่”

 

ร่างมังกรของเธอได้รับบาดเจ็บเพียงแค่เล็กน้อย และตอนนี้เธอก็ได้เปลี่ยนกลับมาเป็นร่างมนุษย์ บาดแผลพวกนั้นจึงหายไป

 

“ไม่ ไม่ ข้าต่างหากหล่ะที่จะเป็นคนพาไป เรือเหาะของข้าเร็วกว่าเจ้าอีก” แลนนี่เถียงขึ้นมา

 

“ไม่ แลนนี่ เธอจะต้องอยู่ที่นี่เพื่อคุยกับลูซี่เรื่องการจัดการสําหรับชาวยับบ้า พวกเราจะต้องเตรียมพื้นที่สําหรับประชาชนของเธอ ถูกไหม?” ลิงค์เตือนเธอ

 

“โถ่…เอางั้นก็ได้” แลนนี่ตอบอย่างไม่เต็มใจ

 

ลิงค์ยืนขึ้นและกําลังจะเดินออกไป แต่อยู่ๆเขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “ฝ่าบาท มีลิซมาช่วยท่านเอาไว้ใช่มั้ย?” ลิงค์ถาม

 

ราชาลีออนตกใจที่อยู่ๆก็ถามคําถามนี้ขึ้นมา แต่เขาก็พูดออกมา “ใช่ เขาเรียกตัวเองว่าแวนซ์ เห็นได้ชัดว่าเขาบังเอิญผ่านทางมา แม้ว่าเขาจะเป็นลิซ แต่ข้าก็อภัยโทษให้เขาและปล่อยเขาเดินทางอย่างอิสระ เขาน่าจะอยู่ภายในดินแดนเฟิร์ดนี่แหละ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”

 

“ข้าเคยเห็นเขามาก่อน ข้าไม่รู้ว่าจะอธิบายลักษณะของลิซยังไงดี แต่ว่าเขาดูไม่ได้เป็นภัยกับพวกเรานะ” เกรนซี่พูดเสริม

 

แน่นอน แวนซ์ไม่มีทางเป็นภัยคุกคามหรอก ลิงค์เป็นคนที่รู้ดีที่สุด เนื่องจากนี่เป็นโอกาสที่จะทําให้เขาได้รับการยอมรับจากผู้คน นี่คงจะเป็นทางที่ดีที่สุดแล้ว

 

“ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ถ้าผมว่างเมื่อไหร่ ผมจะลองไปหาเขาดูนะ” ลิงค์พูด

 

เกรนซีพยักหน้า “นั่นคงจะดีที่สุดแล้ว” เขาพูด

 

จากนั้นลิงค์ก็หันไปหาเฟลิน่า “ไปกันเถอะ”

 

ทั้งสองคนเดินออกไปที่ระเบียงของหอคอยเวทมนตร์ หลังจากนั้นสักพักก็มีเสียงคํารามของมังกรดังขึ้น และลิงค์กับเฟลิน่าก็บินไปทางเขตชายแดนทิศตะวันตกของเฟิร์ด

 

ทุกคนมองดูลิงค์กับเฟลิน่าบินออกไป หลังจากที่พวกเขาหายไป เกรนซีก็ถอนหายใจออกมาอย่างตื่นตัน “มันเป็นยุคสมัยใหม่แล้วจริงๆสินะ พวกหนุ่มสาวได้ไต่ขึ้นมาจนถึงจุดสูงสุดแล้ว”

 

หลังจากผ่านมา 300 ปี ฮีโร่ในตํานานก็ได้กลับมาในหมู่มนุษย์อีกครั้ง

 

มันเป็นช่วงเวลาอันสับสนวุ่นวายที่เต็มไปด้วยภัยภิบัติ แต่มันก็ยังเป็นโอกาสสําหรับมนุษย์ในการพัฒนา!

 

บรรยากาศในห้องโถงอึมครึม ทุกคนนั้นกําลังคิดเกี่ยวกับเรื่องต่างๆและไม่ได้คุยกันเลย

 

หลังจากผ่านไปซักพัก ลูซี่ก็ทําลายความเงียบลง “เอาหล่ะ ได้เวลาที่พวกเราจะไปทํางานแล้ว เจ้าหนู พวกเรามาคุยเรื่องเกี่ยวกับชาวยับบ้ากันเลยไหม?”

 

แลนนิโต้กลับ “อย่ามาเรียกข้าว่าเจ้าหนูนะ! ข้ามีชื่อว่าแลนนี่!”

 

แลนนี่ทําหน้าขึงขังและเอามือท้าวเอว เธอนั้นดูเหมือนกับเม็ดถั่วเล็กๆที่กําลังจะระเบิดเลย

 

ช่างเป็นโชคร้ายสําหรับเธอ สิ่งนี้ไม่ได้ทําให้เธอดูน่าเกรงขามขึ้น แต่มันกลับทําให้ทั้งห้องระเบิดเสียงหัวเราะออกมา สิ่งนี้ทําให้บรรยากาศในห้องโถงผ่อนคลายขึ้นเยอะ หลังจากที่พวกเขาหัวเราะออกมาลูซี่ก็พูด “ฉันขอโทษ แลนนี่ ฉันไม่ได้อยากจะเสียมารยาท มันแค่… เธอน่ารักเกินไปหน่ะ 555!”

 

แลนนี่โกรธยิ่งกว่าเดิม แต่ว่าเธอก็ไม่สามารถทําอะไรได้ ในท้ายที่สุดแล้ว เธอก็พูดขึ้นมาอย่างจนปัญญา “ช่วยหยุดหัวเราะซักทีได้ไหม? มาคุยเรื่องที่ต้องคุยกันดีกว่า”

 

ในขณะเดียวกัน ลิงค์ที่ขี่หลังของเฟลิน่าก็กําลังเล่ากระบวนการที่เขาได้รับพลังมังกรให้ฟัง พวกเขามุ่งหน้าไปได้ครึ่งทางก่อนที่ลิงค์จะเล่าจบ เขาหัวเราะและพูด “ท้ายที่สุดแล้ว มันก็เป็นแค่เรื่องของความบังเอิญที่โชคดีมากๆเท่านั้นแหล่ะน่ะ”

 

เฟลิน่าคิดว่ามันเหลือเชื่อและไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี หลังจากเงียบไปนานเธอก็พูดออกมา “ข้าคิดว่าราชินีของพวกเราจะต้องพึงพอใจกับข่าวนี้มากแน่ๆ ตอนนี้เผ่ามังกรของเรามีผู้เชี่ยวชาถเพิ่มอีกคนแล้ว บางที่องค์ราชินีอาจจะมอบยศดยุคให้เจ้าก็ได้นะ”

 

“มันจําเป็นด้วยหรอ?”ลิงค์ถาม เขาตกตะลึง อ้างอิงจากเรื่องที่เขารู้เกี่ยวกับชนเผ่ามังกร ดยุคมังกรแดงนั้นมีความหมายแฝงอยู่ ซึ่งก็คือพระราชสวามีที่ราชินีมังกรเป็นคนเลือก ถ้าเกิดว่าเขายอมรับมัน นั่นจะทําให้เขามีปัญหามากขึ้นไม่ใช่หรอ?

 

เฟลิน่ามองดูสีหน้าของลิงค์และรู้ในทันทีว่าเขากําลังคิดอะไรอยู่ เธอหัวเราะ “เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว ลิงค์ นี่เป็นประเพณีภายในชนเผ่าของเราและใช้กันเฉพาะภายในหมู่มังกร ในโลกมนุษย์ เจ้าจะยังคงเป็นลอร์ดแห่งเฟิร์ดเหมือนเดิม และไม่ได้ได้รับผลกระทบอะไรทั้งนั้น”

 

“หรอ ถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันก็ยินดีรับมันนะ”

 

หลังจากบินไปอีกซักพัก พวกเขาก็เห็นชายแดนของเฟิร์ดอยู่เบื้องหน้าพวกเขา แถมลิงค์ยังเห็นป้อมปราการอยู่ด้านหน้าและกองทัพโผล่ออกมาจากปาเกอแวนท์ซึ่งพวกเขาเป็นคนของเฟิร์ด

 

ภายในกลุ่มพวกเขามีผู้หญิงที่กําลังขี่เสือยักษ์สีเขียวอยู่ เธอถือปืนคาบศิลาอันใหญ่และเดินอย่างน่าเกรงขามอยู่ที่แนวหน้าของกองทัพ

 

เธอมีผมสั้นสีม่วงเข้ม ดวงตาสีดํา และสวมชุดหนังสีเขียวเข้ม เธอคือเซลีน

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset