Advent of the Archmage – ตอนที่ 456: ดยุคเหล็กดูผิดปกติไป

 

Advent of the Archmage Chapter 456: ดยุคเหล็กดูผิดปกติไป

 

สคินอร์สแต่งตัวได้แนบเนียนมากจนคนอื่นแทบจำไม่ได้ว่าเป็นเขา ลิงค์ดูออกว่าเขามีเรื่องสำคัญอยากคุยด้วย

 

  ลิงค์ดีดนิ้วเรียกสคินอร์สเบาๆแล้วส่งลำแสงเล็กๆลอยไปทางเขา

 

  เวทย์ไร้ร่องรอย

 

  สคินอร์สหายตัวไปจากตรงนั้นในทันที

 

  ลิงค์ส่งสัญญาณให้เขาเข้าไปที่หอคอยเวทมนตร์พร้อมกับเขาเขาสามารถสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของแสงในตอนที่สคินอร์สเดินตามหลังเขา

 

  จำนวนนักเรียนที่อยู่ในหอคอยเวทมนตร์ชั้น1 นั้นเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 80 คน ในทันทีที่เขาเดินมาถึงประตู พวกนักเรียนก็สังเกตเห็นเขาในทันที และทุกคนก็รีบยืนขึ้นทำความเคารพอย่างลุกลี้ลุกลน

 

  ก่อนหน้านี้ลิงค์ไม่ชินกับการถูกเป็นที่เคารพ; แต่ตอนนี้ เขาไม่ค่อยสนใจมันมากนัก เขาทักทายนักเรียนหนุ่มสาวด้วยการโบกมือให้ก่อนที่จะเดินขึ้นไปชั้นบนของหอคอยเวทมนตร์

 

  และในตอนที่พวกเขามาถึงห้องใต้หลังคาที่อยู่ชั้นบนสุดของหอคอยลิงค์ก็ดีดนิ้วของเขาและยกเลิกเวทย์หายตัวของสคินอร์ส

 

  ห้องใต้หลังคานั้นเต็มไปด้วยของใช้ประจำวันเขาพิงไปที่อะไรบางอย่างที่เต็มไปด้วยขน และลิงค์ก็รอให้สคินอร์สเข้ามาในห้อง จากนั้นเขาก็ร่ายเวทย์กำแพงเสียงใส่กำแพง

 

  “โอเคนายพูดได้แล้ว”

 

  สคินอร์สส่งคริสตัลความทรงจำให้กับลิงค์“ลอร์ดลิงค์ ท่านควรจะดูสิ่งนี้นะ”

 

  ลิงค์รับคริสตัลจากเขาพอเปิดใช้มัน ภาพอันเรือนรางก็ปรากฏขึ้นในอากาศ ภาพนั้นถูกถ่ายจากมุมต่ำ ซึ่งเป็นหลักฐานที่บ่งบอกว่าผู้ถ่ายมีความระมัดระวังอย่างมากในการใช้คริสตัลความทรงจำในขณะที่อยู่ท่ามกลางฝูงชน

 

  ภาพนั้นแสดงให้เห็นถึงด้านหลังของกลุ่มทหารจากนั้นก็มีเสียงพูดดังขึ้น “นักเวทย์คนนี้ได้ทำการฝึกเวทมนตร์แห่งความมืด ในตอนที่เขาถูกจับได้ ไม่เพียงแค่เขาจะไม่ยอมเผยแพร่เรื่องเวทมนตร์ของเขาสู่สาธารณะ แต่เขายังทำร้ายผู้สอบสวนด้วย มีนักรบได้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย เขาจะต้องเป็นสมุนของกองกำลังแห่งความมืดแน่ๆ!”

 

  ในตอนที่เขาพูดจบก็มีเสียงดังมากๆเกิดขึ้น แต่ว่าในภาพนั้นไม่ได้แสดงให้เห็นว่าต้นเสียงมาจากไหน แต่ลิงค์ก็คุ้นชินกับมันมากจนถึงขนาดที่เขารู้ว่ามันคือเสียงศรีษะของใครบางคนหลุดออกจากบ่า

 

  “นั่นมันเสียงดยุคอาเบลใช่ไหม?”

 

  ”ใช่ครับ”

 

  ภายในภาพพอการตัดศรีษะจบลง ทหารที่อยู่รอบๆก็เริ่มแยกย้ายออกไปตามที่ต่างๆ นักเวทย์ที่ซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มคนนั้นได้ถ่ายรูปลานประหารเอาไว้เสี้ยวนึงก่อนที่เขาจะเก็บคริสตัลความทรงจำ

 

  ตรงจุดนี้ลิงค์ได้กดหยุดภาพ

 

  บนลานประหารมีศพไร้หัวอยู่ทั้งหมด4 ศพ ซึ่งนี่หมายความว่ามีสามคนถูกประหารไปก่อนที่จะถึงคิวของนักเวทย์ ดยุคอาเบลกับนายพลคนอื่นๆนั่งอยู่บนม้านั่งสูงที่อยู่ห่างออกไป สีหน้าของพวกเขาดูเคร่งเครียด

 

  พอดูภาพพวกนี้จบลิงค์ก็ปิดคริสตัลความทรงจำและพูดกับสคินอร์ส “ก็แค่กองทัพกุดหัวพวกคนบาปและพวกคนที่ไม่เชื่อฟัง ฉันไม่เห็นเข้าใจเลยว่าทำไมมันสำคัญจนถึงกับต้องเอามาให้ฉันดู”

 

  เสียงจากคริสตัลได้บอกถึงเหตุผลของการประหารอย่างชัดเจน:การฝึกเวทมนตร์แห่งความมืดและการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่นั้นผิดกฎหมายหลังจากที่ป้อมโอริด้าปะทะกับกองทัพแห่งความมืด พวกเขาก็มีความตื่นตัวต่อเวทมนตร์แห่งความมืดมากขึ้น สิ่งที่นักเวทย์คนนั้นทำมันไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตาย

 

  สคินอร์สพยักหน้า“ถ้าอิงจากสิ่งที่ท่านเห็นในภาพอย่างเดียว มันก็คงจะดูปกติแหล่ะครับ แต่ข้าสัมผัสได้ว่าช่วงหลังมานี้ท่านดยุคดูเกรี้ยวกราดมากขึ้น”

 

  “นายหมายความว่ายังไง?”ลิงค์รู้ว่าสคินอร์สไม่ได้มาหาเขาเพียงเพราะลางสังหรณ์อย่างเดียวแน่ๆ; เขาจะต้องเอาหลักฐานมาด้วยอย่างแน่นอน

 

  สคินอร์สมองไปนอกหน้าต่างหลังจากการปะทะทางเหนือ ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาดูเหี่ยวลงไปมาก และมีกระจุกผมหงอกอยู่ที่ขมับของเขา เขาขมวดคิ้วและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “หลังจากที่ท่านจากไปได้ไม่นาน ดยุคก็เริ่มปรับปรุงกองทัพด้วยการตั้งหน่วยพิเศษขึ้นมาเพื่อทำการสอบสวนนักรบทุกคน รวมไปถึงที่มาของพวกเขาด้วย สำหรับนักเวทย์ พวกเขาจะต้องทำการเปิดเผยสิ่งที่ค้นพบในงานวิจัยของพวกเขาสู่สาธารณะ มันดูไม่ค่อยมีอะไรมากในตอนแรก แต่หลังจากที่ทำไปได้ 1 เดือน พวกเขาก็เริ่มลงมือสืบสวนหนักข้อขึ้น จนไปถึงจุดที่พวกเขาไม่อาจถอยกลับได้แล้ว”

 

  สคินอร์สหันมามองลิงค์“ข้าเคยเห็นเจ้าหน้าที่คนนึงถูกแขวนคอเพียงเพราะว่าเขามีเขี้ยวปีศาจอยู่ในครอบครอง และยังมีแม้กระทั่งนักรบที่สลักไม้เป็นรูปซัคคิวบัสขึ้นมาเพียงเพราะนึกสนุกและเขาก็ถูกกุดหัวเพราะเหตุนั้น นักเวทย์คนที่ถูกประหารในภาพนั่น ไอ้ ‘เวทมนตร์ดำ’ ที่เขาฝึกอยู่ก็คือเวทย์เลเวล 4 ดวงตาแห่งวิญญาณ มันเป็นเวทย์ตรวจจับที่ไม่มีพิษภัย และเหตุผลที่เขาทำร้ายเจ้าหน้าที่ก็เพราะว่าเจ้าหน้าที่ได้ฉีกงานวิจัยของเขาต่อหน้าต่อตา ช่วงหลังๆมานี้มันดูเหมือนกับว่าท่านดยุคจะทำมากเกินไปเลย ในตอนนี้จะบอกว่าเขาเป็นบ้าไปแล้วก็ยังได้”

 

  ลิงค์ขมวดคิ้วเรื่องนี้มันดูเกินไปจริงๆนั่นแหล่ะ เขาถาม “มีใครลองบอกเรื่องนี้กับเขารึยัง?”

 

  “อาจารย์ใหญ่ของสถาบันเวทมนตร์อีสโควฟได้เข้าไปคุยกับเขาแล้วแต่พวกเขาก็ยังไม่ลงรอยกัน ดยุคยอมสงบอยู่ได้ไม่กี่วัน และหลังจากนั้นไม่นานเขาก็กลับมาทำการสอบสวนอีกครั้ง”

 

  “นี่ราชาลีออนรู้เรื่องรึเปล่า?”ลิงค์ถาม

 

  “ครับพระองค์รู้เรื่องแล้ว องค์ราชาได้ทรงเขียนจดหมายไปหาเขาหลายฉบับ แต่ว่าก็อย่างที่ท่านรู้ หลังจากที่เมืองฮอทสปริงค์พังทลายไป อำนาจของราชาก็ได้ตกต่ำจนถึงขีดสุด ดูเหมือนว่าดยุคจะไม่สนใจพระองค์ซักเท่าไหร่” สคินอร์สตอบ

 

  ในที่สุดลิงค์ก็ถามออกมา“นอกจากเรื่องนี้แล้ว ช่วงนี้การเพิ่มการป้องกันของดยุคอาเบลเป็นยังไงบ้าง?”

 

  “ด้วยความที่เขาเกรี้ยวกราดขึ้นกว่าแต่ก่อนเขาจึงจัดการเรื่องนี้ได้ดีขึ้นมาก ในป่าทมิฬทุกๆวันจะมีปีศาจกว่า 30 ตัวถูกสังหาร ในระยะแรก พวกเราฆ่าดาร์กเอลฟ์ไปได้มากว่า 100 คนแทบทุกวัน และตอนนี้ พวกเราก็หาดาร์กเอลฟ์ในระยะ 200 ไมล์รอบๆป้อมโอริด้าไม่เจอแม้แต่คนเดียว นอกจากนี้ยังมีครั้งนึงด้วยที่คานอร์สได้จัดการปราบปีศาจเลเวล 8 ดยุคตบรางวัลให้เขาอย่างงามและเขาก็ได้กลายเป็นหัวหน้าของกองกำลังที่1”

 

  เรื่องนี้เป็นความจริงทั้งหมดสคินอร์สได้รายงานทุกสิ่งที่เขาเห็นให้กับลิงค์โดยที่ไม่ปิดบังอะไรเลย

 

  “อย่างนี้นี่เอง”ลิงค์ตกลงสู่ความเงียบ

 

  สำหรับคนธรรมดาอย่างสคินอร์สสิ่งที่ดยุคอาเบลทำนั้นอาจจะดูโหดร้ายและดูรุนแรงเกินไป แต่ในสายตาของลิงค์ ดยุคได้ทำตามหน้าที่ของเขาอย่างพอดิบพอดี ไม่มากหรือน้อยเกินไป

 

  หน้าที่แรกของดยุคอาเบลกก็คือการปกป้องป้อมปราการจากพวกปีศาจและดาร์กเอลฟ์จากป่าทมิฬเขาไม่ควรถูกกล่าวหาเพราะเขาทำได้ดีมากถึงขนาดนี้

 

  และที่สำคัญกว่านั้นลิงค์เป็นแค่ลอร์ดของเฟิร์ด เรื่องพวกนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขา

 

  การเขียนจดหมายขอเข้าพบดยุคเป็นการส่วนตัวมันไม่ใช่เรื่องจำเป็นสำหรับเขาณ จุดนี้ ในเมื่อราชาลีออนกับมาสเตอร์แอนโทนี่ได้พูดเรื่องพวกนี้ไปแล้ว และมันก็ไม่ได้ผล ดังนั้นหากเขาทำไปมากกว่านี้อาจจะทำให้ดยุคโกรธขึ้นมาได้ และบางทีมันอาจจะลามมาถึงเขาได้ด้วยซ้ำ

 

  ยังไงก็ตามนี่เป็นเรื่องที่เขาไม่อาจมองข้ามได้ ดยุคอาเบลได้รับความบอบช้ำจากสงครามครั้งใหญ่ และในเมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ สภาพจิตใจของเขาก็คงจะไม่ดีซักเท่าไหร่ ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย

 

  หลังจากที่คิดอยู่พักนึงลิงค์ก็ตัดสินใจว่าทางที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็คือการรอดูไปก่อน

 

  เขาหยิบเศษทอเรียมและหินคุนดำออกมาและเริ่มร่ายเวทย์เสริมพลังให้พวกมันประมาณ 10 นาทีต่อมา เขาก็สร้างหินรูนที่เกิดจากการผสมของวัตถุดิบทั้งสองได้ จากนั้นเขาก็ใส่พลังมังกรเข้าไป และลิงค์ก็ส่งหินรูนให้กับสคินอร์ส “ฉันคิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่ฉันจะเข้าไปแทรกแซงได้สักเท่าไหร่ เอาหินรูนนี่กลับไปทางเหนือและทำการสังเกตการณ์ต่อนะ ถ้ามีอะไรคืบหน้าไปมากกว่านี้ให้รายงานมาที่ชั้น และถ้าเกิดว่านายคิดว่าตัวเองตกอยู่ในอันตราย ก็ให้ใช้หินรูนอันนี้เพื่อร่ายเวทย์เทเลพอร์ท 2,000 ฟุตแบบใช้ครั้งเดียวซะ”

 

  สคินอร์สรับหินรูนไปและอ้าปากขึ้นมาเหมือนจะพูดอะไรซักอย่างก่อนที่จะปิดปากเงียบ

 

  “มีอะไรอีกหรอ?”

 

  สคินอร์สถอนหายใจออกมา“จริงๆแล้ว ข้าไม่ได้มีแผนที่จะกลับไปในครั้งนี้ ตอนนี้อุปกรณ์ระดับพระเจ้าหายไปแล้ว และพวกดาร์กเอลฟ์ก็พ่ายแพ้ไปแล้วด้วย ข้าไม่มีความคิดที่จะเป็นทหารอีกต่อไป มันกดดันมากเกินไป ข้ามาที่นี่เพียงเพื่อส่งข้อความให้กับท่าน จากนั้นข้าก็จะออกไปทำการผจญภัยทั่วทวีปต่อ”

 

  ลิงค์ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี“งั้นนายก็เป็นทหารหนีทัพสินะ?”

 

  แน่นอนว่าเขาเป็นคนเจ้าเล่ห์เขาเลือกที่จะบอกข้อมูลอันแสนสำคัญนี้และตั้งใจจะหนีไปหลังจากที่เขาได้รับหินรูนจากลิงค์!

 

  สคินอร์สเริ่มกลัว“ท่านคงจะไม่บังคับให้ข้ากลับไปที่ป้อมปราการใช่มั้ย?”

 

  การถูกประหารคือชะตากรรมที่รอทหารหนีทัพทุกคนอยู่

 

  ลิงค์ส่ายหัว“ไม่หรอก ในเมื่อนายไม่คิดจะกลับไป ฉันก็แค่ต้องส่งคนอื่นไปทำหน้าที่สังเกตุการณ์ทางเหนือแทนนายเท่านั้นเอง…ก็นายบอกว่าจะออกไปผจญภัยใช่มั้ยหล่ะ?”

 

  “ครับนั่นเป็นสิ่งที่ข้าใฝ่ฝันมาโดยตลอด” ในตอนที่เขาพูดเรื่องนี้ สีหน้าของเขาก็ดูตื่นเต้นขึ้นมาในทันที

 

  ลิงค์ค่อนข้างตกใจกับเรื่องนี้เขาถามต่อ “อ้อ ฉันจำได้ว่าในตอนแรกที่นายมาเจอฉัน นายบอกว่ามีแผนการจะไปหลุมศพของราชาคนแคระองค์ก่อนใช่มั้ย เกิดอะไรขึ้นกับพรรคพวกของนายหล่ะ?”

 

  “ความจริงคือพวกเขาได้พบจุดจบที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ นักบวชหญิงยังคงมีชีวิตอยู่ แต่ว่าคนอื่นตายไปในการต่อสู้หมดแล้ว เธอจะลงไปทางใต้กับข้า ท่านยังอยากจะไปกับพวกเราอยู่มั้ย?”

 

  ตอนนี้ลิงค์เป็นนักเวทย์ระดับตำนานทำไมเขาถึงต้องลดตัวไปปล้นสุสานกับเขาด้วยหล่ะ?

 

  ลิงค์ส่ายหัวและยิ้มให้“ไม่หล่ะ ฉันไปไม่ได้ ฉันยุ่งอยู่กับเรื่องของเฟิร์ดหน่ะ แต่ถ้าเกิดว่านายจะไป ฉันมีอะไรบางอย่างที่อยากจะให้นายหาให้ฉันสักหน่อย และนายจะได้รับการตอบแทนอย่างดีสำหรับค่าเหนื่อยของนายด้วยนะ”

 

  ดวงตาของสคินอร์สเป็นประกายขึ้นมาในทันที“ข้าไม่ต้องการเงิน ข้าขอแลกเปลี่ยนกับอุปกรณ์เวทมนตร์เพียงเท่านั้น! จะให้ข้าขโมยกางเกงในของราชินีมังกรแดงก็ยังได้เลยนะถ้าเกิดว่าท่านสามารถมอบอุปกรณ์เวทมนตร์ให้กับข้าเป็นการแลกเปลี่ยนได้!”

 

  “…”ลิงค์ทำหน้างงให้กับสิ่งนี้ เขาแทบไม่เชื่อหูตัวเอง ทำไมเขาต้องอยากได้กางเกงในของราชินีมังกรแดงด้วยหล่ะ? ชายคนนี้เปลี่ยนไปเยอะเลยหลังจากที่เขาประกาศบอกว่าจะออกจากกองทัพ

 

  ลิงค์หยิบเศษโจกุออกมาแล้วส่งให้กับเขา“ฉันอยากได้หินที่เหมือนกับก้อนนี้ ระหว่างการเดินทางก็หามาให้ได้เยอะๆหล่ะ แล้วก็ ในระหว่างที่ตามหาหินพวกนี้นายอาจจะไปเจอเข้ากับสมาชิกของเผ่ามังกร ถ้าเจอก็ให้แสดงสิ่งนี้ให้พวกเขาดูนะ แล้วพวกเขาจะให้นายเอาหินไปได้”

 

  จากนั้นลิงค์ก็ให้ชิ้นส่วนเกล็ดมังกรสีดำกับสคินอร์สซึ่งมันเป็นสิ่งที่ยืนยันตัวตนของเขาในเผ่ามังกร

 

  “ข้าเข้าใจแล้ว”สคินอร์สลองเล่นกับมันดูเล็กน้อย ด้วยความอยากรู้ว่ามันทำมาจากอะไร

 

  “สำหรับรางวัลของนายถ้าเกิดว่านายสามารถเอาโจกุมาให้ฉันได้ 100 ชิ้น ฉันจะสร้างอุปกรณ์ระดับตำนานให้ชิ้นนึงตามที่นายต้องการเลย”

 

  สคินอร์สพยักหน้าอย่างรุนแรงก่อนที่ลิงค์จะพูดจบซะอีก“เป็นมีดระดับตำนานจะได้ไหมครับ? เอาหล่ะ ไม่ว่ายังไงข้าก็จะทำให้ได้ เอ่อ แล้วสำหรับเพื่อนนักบวชสาวของข้าล่ะ?”

 

  “เธอเองก็จะได้รับรางวัลเหมือนกันนายก็แค่พาเธอมาที่นี่ แล้วเธอเองก็จะได้รับอุปกรณ์เวทมนตร์จากฉันเหมือนกัน”

 

  “นั่นไม่ใช่ปัญหาเลยครับข้าจะพกเกล็ดนี้ติดตัวไปด้วยและจะนำโจกุกลับมา 100 ชิ้นก่อนที่ท่านจะรู้ตัวเสียอีก”

 

  “เอามาให้มากเท่าที่จะหาได้เลยนะจำเอาไว้ โจกุ 100 ชิ้นต่ออุปกรณ์เวทมนตร์ 1 ชิ้น”

 

  สคินอร์สถอนหายใจออกมายาวๆ“หึหึ ท่านนี่รู้วิธีทำให้คนตั้งใจทำงานหนักจริงๆนะ”

 

  หลังจากที่ตกลงกันเสร็จสคินอร์สก็รู้สึกตัวว่าเขาไม่มีเงินอยู่เลย และเขาก็เป็นโจรที่จะไม่ขโมยเงินด้วย ดังนั้นเขาจึงยอมกล้ำกลืนความอับอายและขอเงินจากลิงค์ก่อนที่จะออกไปจากห้องด้วยสีหน้าพึงพอใจ

 

  ลิงค์กลับมาที่ห้องและพักผ่อนเล็กน้อยมันเป็นเวลาไม่นานนักก่อนที่ลูซี่จะเข้ามาในห้องของเขา

 

  “ลอร์ดคะเหมืองดินต้านทานเวทมนตร์ของเราถูกขุดจนหมดแล้วค่ะ และทางกองกลางก็แทบจะไม่มีเงินเหลือเลย”  ลูซี่กางสมุดบัญชีให้ลิงค์ดูซึ่งทุกอย่างในนั้นเป็นสีแดงไปหมด พวกเขาขาดดุลมาเป็นระยะเวลานานแล้ว

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset