Advent of the Archmage – ตอนที่ 465: รับหนึ่งเหรียญทองเป็นค่าชดเชย

Advent of the Archmage Chapter 465: รับหนึ่งเหรียญทองเป็นค่าชดเชย

 

หอคอยเวทมนตร์

 

  การมาของไบรอันท์นั้นเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงแต่มันก็มีเหตุผลมันคงจะแปลกมากถ้าไฮเอลฟ์ไม่ตอบสนองอะไรเลยหลังจากที่ลิงค์ขโมยเกาะแห่งนั้นไป

 

  หลังจากหยุดนิ่งไปสักพัก,ลิงค์ก็ยิ้มออกมา “วันนี้อากาศดีนะ, สายลมยามค่ำคืนได้พัดพากลิ่นดอกไม้มาด้วย พวกเราไปเดินเล่นกันหน่อยดีไหม?”

 

  ไบรอันท์ส่ายหัว“มนุษย์บนถนนเดินยั้วเยี้ยอย่างกับมด มันน่าเบื่อจะตาย พวกเราไปที่ดาดฟ้าหอคอยเวทมนตร์ของเจ้าดีกว่าไหม? แค่พวกเราสองคนนะ”

 

  “ได้สิ”ลิงค์พยักหน้าแล้วส่งสัญญาณด้วยสายตาให้ทุกคนหยุดเป็นห่วง จากนั้นเขาก็ผายมือออกเป็นการเชื้อเชิญ “เชิญครับ”

 

  ไบรอันท์ลุกขึ้นแล้วเดินขึ้นบันไดวนรอบกำแพงหอคอยเวทมนตร์ลิงค์เดินตามหลังเขา เขาดูไม่ระวังตัวเลย; ดูเหมือนว่าเขาจะเตรียมตัวเอาไว้แล้ว

 

  ในตอนที่ขึ้นไปถึงชั้นแรก,ไบรอันท์ก็เห็นเอเลียร์ดยืนอยู่ตรงมุมบันได เขาชำเลืองมองเอเลียร์ดเพื่อดูให้แน่ใจว่าใช่จริงๆ, ดวงตาของเขาเปล่งแสง เขาส่ายหัวแล้วถอนหายใจออกมา “มีพรสวรรค์จริงๆ แต่น่าเสียดายที่มาขลุกอยู่กับพวกมนุษย์”

 

  พอพูดจบ,เขาก็เดินขึ้นไปต่อ

 

  หลังจากขึ้นไปได้ไม่กี่ขั้น,เอเลียร์ดก็พูดขึ้นมาอย่างกระทันหัน “ไบรอันท์, ลิงค์ได้เล่าเรื่องของนายให้ฉันฟังแล้ว, เพราะฉะนั้นฉันรู้จักนาย ฉันรู้นิสัยคนอย่างนายดี และมันทำให้ฉันดูถูกนายขึ้นไปอีก, ไอ้คนทรยศ!”

 

  ไบรอันท์หยุด,พลังของเขาแผ่ออกมา ลิงค์ก้าวมาข้างหน้าแล้วเอามือวางบนไหล่ของเขา พร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้ม “กับคนที่อ่อนแอกว่านายก็ยังหัวร้อนง่ายๆแบบนี้หรอ?”

 

  “ฮึ!”ไบรอันท์คลายพลังของเขาแล้วเดินไปที่ชั้นบนสุดของหอคอยเวทมนตร์ต่อ

  แล้วไม่นานนักทั้งสองก็ไปถึงชั้นบนสุด

 

  พวกเขาอยู่สูงจากพื้นดินประมาณ300 ฟุต, และรอบๆก็เป็นพื้นที่เรียบทั้งหมด จากชั้นบนสุด, พวกเขามองเห็นแสงไฟสลัวๆจากบ้านเรือนหลายพันหลังในเมืองมอดไหม้ พวกมันดูเหมือนกับทะเลแห่งดวงดาว จากจุดที่พวกเขามองลงไปนั้นมันให้ความรู้สึกเหมือนกับพระเจ้าที่กำลังเฝ้ามองสิ่งมีชีวิตทั้งหลายอยู่

 

  “เจ้าเก่งนะที่สร้างเมืองแบบนี้ได้ในเวลาแค่สองปี”ไบรอันท์พยักหน้าด้วยความพอใจ

 

  ลิงค์ส่ายหัว“นายไม่มีสิทธิ์มาแสดงความคิดเห็นในเรื่องของฉัน ฉันจะทำเป็นว่าไม่ได้ยินประโยคเมื่อสักครู่ก็แล้วกัน, แต่ฉันจะไม่อนุญาติให้มีอีกแล้วนะ”

 

  “นี่เจ้า….เอาเถอะ,แต่การรับฟังความคิดเห็นมันเป็นเรื่องที่ดีสำหรับคนหนุ่มนะ” ไบรอันท์ชำเลืองมองลิงค์แล้วยิ้มให้ “ข้านึกว่าเจ้าจะตายในหมู่บ้านมังกรซะแล้ว, ข้าคิดไม่ถึงเลยนะว่าเจ้าจะโชคดีขนาดนี้ เจ้าไม่เพียงแค่รอดมาได้เท่านั้น, แต่เจ้ายังเริ่มขโมยสิ่งนั้นในทะเลด้วย”

 

  ลิงค์ขยับมือเล็กน้อยมีแสงสว่างขึ้นแล้วเก้าอี้ก็ลอยขึ้นมา เขาเอาเก้ามานั่งในขณะที่พูด “ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดเรื่องอะไร เอาจริงๆ, ผมไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าคุณมาที่นี่ทำไม พวกเราไม่ได้มีเรื่องอะไรต้องคุยกันนี่, ถูกไหม?”

 

  ไบรนอันท์อยากจะเรียกเก้าออกมานั่งเหมือนกับลิงค์,เขาพยามเอาออกมาแต่ก็ล้มเหลว เขารู้ว่าลิงค์แกล้งขัดขวางเขา, ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่ยืน

 

  เขาหันไปมองทะเลอันมืดมิดที่อยู่ไกลออกไปแล้วพูดขึ้นมาอย่างกระทันหัน “เมืองมอดไหม้เป็นสถานที่ที่ดีนะ มันติดทะเลและเป็นท่าเรือน้ำลึก เรื่องเลวร้ายสำหรับคนที่ใช้ชีวิตติดทะเลก็คือการที่ต้องเผชิญหน้ากับพายุหรือเฮอริเคน, แต่ที่นี่ไม่มีเลย”

 

  คำพูดนี้แฝงไปด้วยการคุกคาม

 

  ลิงค์เอนตัวพิงเก้าอี้แล้วเอามือเท้าคางพร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้ม “ใช่ ก็เหมือนกับเกาะรุ่งอรุณนั่นแหล่ะ, พวกเราต่างก็ฝากชีวิตเอาไว้กับทะเล”

 

  ดินแดนของพวกเขาทั้งคู่มีลักษณะทางภูมิศาสตร์คล้ายกันไม่มีประเด็นอะไรที่จะมาคุกคามกันเองเลย

 

  ไบรอันท์หัวเราะเบาๆแล้วมองลิงค์ด้วยความดูถูก“เผ่าของเราได้ปกครองเกาะรุ่งอรุณมาหลายพันปีแล้ว พวกเราเคยเจอพายุมานับไม่ถ้วน พวกเราไม่กังวลหรอก”

 

  ไฮเอลฟ์ภูมิใจกับความสันโดษพวกเขาเสริมสร้างเกาะรุ่งอรุณมายาวนานจนมันแข็งเหมือนกับเหล็กกล้า คำขู่ของลิงค์ไม่ได้ใกล้ความเป็นจริงเลย

 

  นั่นคือความจริง,และลิงค์ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ อย่างไรก็ตาม, เขาเปลี่ยนเรื่องคุยแล้วยิ้มให้ “เกาะรุ่งอรุณยอดเยี่ยมทุกอย่าง, เว้นเสียแต่เรื่องที่มันโดดเดี่ยวเกินไปหน่อย มันถูกล้อมรอบด้วยน้ำไม่ค่อยมีเหมืองเท่าไหร่ พวกนายไม่มีอะไรเลยและจำเป็นต้องจัดหาวัตถุดิบจากแผ่นดินใหญ่ ถ้าถูกพายุโจมตีแล้วเรือค้าขายทุกลำถูกพัดออกไป, จะเป็นยังไงกันนะ?”

 

  เขาไม่สามารถจัดการเกาะรุ่งอรุณได้,แต่เขาก็สามารถหยุดเรือได้ นั่นคือข้อเสียเปรียบของการขนส่งทางทะเล ตกเป็นเป้าได้ง่าย, และไม่มีที่ให้หลบซ่อน ตราบใดที่ลิงค์ทุ่มความพยายามทั้งหมดลงไปในการต่อสู้กับไฮเอลฟ์, เขาก็สามารถทำลายทั้งระบบการค้าขายด้วยตัวเองได้!”

 

  ไบรอันท์กลืนคำพูดกลับไปเพราะเรื่องนี้เขาจ้องลิงค์อยู่พักใหญ่ๆก่อนที่จะพูดออกมา “เจ้ามันตัวคนเดียว แต่พวกเรามีกองทัพนักเวทย์ไฮเอลฟ์ระดับสูงเป็นพันคน”

 

  ในเมื่อพวกเขามาถึงจุดนี้แล้ว,เขาจึงไม่ใช้คำพูดที่สวยหรูอีกแล้วพูดออกมาตรงๆ ลิงค์ไม่สะทกสะท้าน เขารู้สถานการณ์ของไฮเอลฟ์ดี

 

  ภายในเกมส์,เขาเคยไปที่เกาะรุ่งอรุณและคุ้นเคยกับสภาพทางภูมิศาสตร์โดยทั่วไปของที่นั่น, ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมที่ใช้ในการสร้างวัง, นักเวทย์ที่โดดเด่น, และอื่นๆ

 

  ตอนนี้,ไบรอันท์มั่นใจแล้วว่าลิงค์เป็นคนขโมยเกาะแม่เหล็ก, แต่ลิงค์คงจะไม่มีทางยอมรับแน่ๆ และที่สำคัญกว่านั้น, ในเมื่อไบรอันท์มาหาลิงค์ด้วยตัวเอง, มันก็หมายความว่าตอนนี้ไฮเอลฟ์ไม่อยากจะสู้กับเขา บางทีพวกเขาอาจจะกลัวหรือแค่ไม่อยากทำลายความสัมพันธ์ไปมากกว่านี้

 

  ซึ่งนี่ทำให้ลิงค์เห็นช่องโหว่ว

 

  “ไบรอันท์”เขาพูด “นายคงไม่ได้มาที่นี่เพื่อเถียงกับฉันเฉยๆใช่ไหม เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น, มันคงจะเปลืองเวลาฉันมาก”

 

  ในที่สุดไบรอันท์ก็ตรงเข้าประเด็นเขาชี้ไปยังจุดที่ลิงค์ซ่อนแร่แม่เหล็กแล้วพูด “เผ่าของข้าอยากได้เจ้าสิ่งนั้นครึ่งนึง!”

 

  “แล้วถ้าฉันไม่ให้หล่ะ?”ลิงค์ถามกลับ

 

  ไบรอันท์ไม่ได้ประหลาดใจกับเรื่องนี้,แต่เขามั่นใจว่าเขาสามารถโน้มน้าวลิงค์ได้, เพราะเขามีไพ่ตายซ่อนอยู่!

 

  “ถ้างั้นก็จะไม่มีใครได้มันไปเรือรบของข้าเล็งไปที่มันแล้ว ถ้าเจ้าไม่ตกลง, พวกเราจะยิงลำแสงทะลวงเลเวล 10 แล้วแร่แม่เหล็กทั้งหมดก็จะหายไป”

 

  ลิงค์คิดอยู่พักนึงแต่ก็ยังส่ายหัวอยู่“ถ้าทำอย่างนั้น, พวกนายจะตายเอานะ ฉันจะทำลายนกกระจอกวายุเงิน และนับจากวันนี้เป็นต้นไป, นักรบมังกรของฉันและตัวฉันเองจะขัดขวางการค้าทั้งหมดจากเกาะรุ่งอรุณไปฟิรุแมน จะไม่มีเรือลำไหนผ่านไปได้ทั้งนั้น!”

 

  เขาพูดเรื่องทั้งหมดนี้ด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งราวกับว่าเขาแค่กำลังพูดเรื่องดินฟ้าอากาศในเวลาเดียวกันนั้นเอง, ตราประทับสีดำก็ปรากฎขึ้นในมือของเขา

 

  ในตอนที่ไบรอันท์เห็นมัน,เขาก็สะดุ้ง, แล้วสูญเสียความเยือกเย็นไปในที่สุด “ตราประทับดยุคมังกร, แถมเป็นสีดำด้วย, กับราชินีมังกรแดงหรอ, นะนี่มัน…เป็นไปได้ยังไงกัน!? ยัยแก่นั่น…เจ้าเพิ่งจะอายุแค่ยี่สิบเอ็ดเองนะ!”

 

  ตราประทับดยุคมังกรสีดำนั้นถือเป็นของพิเศษไบรอันท์เป็นคนฉลาดและอ่านหนังสือมาหลายเล่ม ดังนั้นเขาจึงรู้ความลับพวกนี้ดี

 

  ก่อนที่จะเห็นตราประทับนี้,ไบรอันท์มีความมั่นใจในการเจรจาของเขา แต่ตอนนี้, มันเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงเลยว่าลิงค์ได้รับการสนับสนุนจากมังกร…ไฮเอลฟ์ไม่กลัวเผ่ามังกรหรือเฟิร์ด, แต่ถ้าทั้งคู่ผนึกกำลังกัน, พวกเขาก็เป็นคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อกับเกาะรุ่งอรุณ

 

  ลิงค์ไม่ได้พูดอะไรเขายังคงเงียบอยู่, และรอให้ไบรอันท์คัดกรองความคิดของเขา

 

  หลังจากผ่านไปพักใหญ่ๆ,ไบรอันท์ก็เรียกสติกลับมาได้ในที่สุด เขายังไม่ยอมแพ้ ด้วยการจ้องลิงค์ตาไม่กระพริบ, เขาก็พูดออกมา “นี่เจ้าตั้งใจจะเป็นศัตรูกับเผ่าของข้าจริงๆหรอ? คิดดีๆนะ นี่จะต้องเป็นเส้นทางที่ยากลำบากแน่ สามร้อยปีก่อน, ข้าเองก็เคยพยายามมาแล้ว, แต่ความเป็นจริงได้บอกข้าว่ามันเป็นไปไม่ได้”

 

  ลิงค์ไม่ได้ตอบเขาลุกขึ้นแล้วเดินถอยไป, พร้อมทั้งเอาดาบราชามังกรพิโรธออกมา เขาไม่ได้ใช้พลังอะไรเลยแต่แกล้งทำเป็นแทงไบรอันท์สามครั้ง

 

  มันเป็นเรื่องที่แปลกมากดาบของลิงค์ไม่มีพลัง, และการเคลื่อนไหวของเขาก็ช้าจนน่าหัวเราะ ดูเหมือนว่าเขากำลังแทงส่วนที่ไม่สำคัญตามแขนขาของไบรอันท์แทนที่จะเป็นอวัยวะภายใน แต่ถึงกระนั้น, ร่างกายของไบรอันท์กลับสั่นอย่างรุนแรงในทุกๆการแทง

 

  หลังจากแทงครั้งที่สาม,หน้าผากของไบรอันท์ก็เต็มไปด้วยเหงื่อ ใบหน้าของเขาขาวซีดเหมือนกระดาษ

 

  เกร๊งลิงค์เก็บดาบของเขาแล้วยิ้มออกมาบางๆ “ฉันเก่งเรื่องการหาจุดอ่อนของคนอื่นและนั่นก็เป็นความจริงสำหรับทั้งผู้คนและเผ่าพันธุ์ ถ้านายไม่เชื่อฉัน, พวกเรามาลองดูกันซักตั้งก็ได้นะ”

 

  ไบรอันท์ทำได้แค่ลุกขึ้น“สามสิบเปอร์เซนต์!” เขากัดฟัน

 

  ลิงค์ส่ายหัว

 

  “สิบเปอร์เซนต์ขาดตัว!”

 

  ลิงค์ยังส่ายหัวอยู่แล้วเขาก็โยนเหรียญทองให้ไบรอันท์หนึ่งเหรียญ “ถ้านายอยากได้ส่วนแบ่งขนาดนั้น, นายเอาเหรียญทองนี้ไปได้เลย ไม่ให้ไปมากกว่านี้แล้ว”

 

  ไบรอันท์ไม่อยากรับมันเขาไม่ได้ยื่นมือออกมาด้วยซ้ำ, แต่ด้วยเหตุผลบางประการ, เขารู้สึกว่ามีบางอย่างเย็นๆอยู่ในมือของเขา มันคือเหรียญทอง ลิงค์ใช้เวทย์มิติย้ายเหรียญเข้ามาอยู่ในมือของเขา

 

  ความเย็นได้กระตุ้นฝ่ามือของไบรอันท์,ทำให้แก้มของเขาร้อนฉ่า ความอัปยศสุดพรรณากำลังลุกพล่านในใจเขา เขาเอาคทาออกมา, และมานาก็แผ่ออกมาโดยอัตโนมัติ

 

  ลิงค์หัวเราะเขาแค่มองไบรอันท์, และรอให้เขาทำอะไรซักอย่าง

 

  คลื่นมานาในตัวไบรอันท์สงบลงอย่างช้าๆเขาจ้องลิงค์, และทำตัวเหมือนผู้มีอายุ “เจ้าหนุ่ม, เจ้าจะต้องชดใช้ให้กับการกระทำที่อวดดีของตัวเอง!”

 

  พอพูดจบ,เขาก็หันหลังกลับ ตอนนี้เงาของเขาดูห่อเหี่ยว, และออร่าอันแข็งแกร่งก็หายไปด้วย ทั้งหมดที่เหลืออยู่ก็คือความรู้สึกอันหนาแน่นของอายุและความเซื่องซึม

 

  พอเห็นแผ่นหลังของเขา,ลิงค์ก็รู้ว่าการสนทนาจบลงแล้ว เขาจะได้พบกับการโจมตีของไฮเอลฟ์ในอีกไม่นานนี้

 

  “ฉันเคยได้ยินมาว่าไฮเอลฟ์มีกองกำลังลับที่เรียกว่าหนามทมิฬนักฆ่าพวกนั้นมีทักษะสูงมาก ในหมู่พวกเขา, จะมีคู่หูสองคนที่ชื่อว่าเงาคู่ พวกเขาแต่ละคนมีมีดระดับตำนานอยู่และมีอุปกรณ์เวทมนตร์เพิ่มความเร็วด้วย พวกเขาไม่เคยทำภารกิจล้มเหลว ถ้ากลับไปก็ฝากบอกราชินีด้วยนะว่าฉันอยากเจอพวกเขา”

 

  ไบรอันท์สะดุ้งเขาตกใจมาก ทั้งหนามทมิฬและเงาคู่นั้นเป็นความลับสุดยอดของเกาะรุ่งอรุณ ถ้าลิงค์รู้, มันก็หมายความว่าเขาเตรียมตัวมาดีแล้ว

 

  เขาไม่รู้ว่าลิงค์ได้รับข้อมูลพวกนี้มาจากในเกมส์

 

  “ความปราถนาของเจ้าได้กลายเป็นจริงแน่”ไบรอันท์เร่งความเร็วขึ้น

 

  เขาออกไปจากหอคอยเวทมนตร์โดยไม่หยุดพักพอออกมาข้างนอก, เขาก็แปลงเป็นเมฆแสงและลอยไปทางทะเล หลังจากผ่านไปสักพัก, เขาก็มาอยู่เหนือแร่แม่เหล็ก เขาเห็นแสงสว่างในเหมืองนั้น มีคนขุดเหมืองมากมายกำลังขุดอยู่ตรงนั้นด้วยเสียงก้องแก้งอย่างต่อเนื่อง

 

  เขาอยากจะโยนแสงกัดกร่อนลงไปตรงนั้นและเปลี่ยนไอ้พวกคนขุดเหมืองให้กลายเป็นโคลนจริงๆ,แต่เขาก็ต้องห้ามใจตัวเองเอาไว้

 

  พอบินผ่านมันไปแล้ว,เขาก็เข้ามาในทะเลได้หนึ่งพันฟุต มีลูกบอลหมอกอยู่ตรงนั้น ในตอนที่ผ่านมันเข้าไป, เขาก็เห็นนกกระจอกวายุสามลำจอดรออยู่ แล้วไบรอันท์ก็ลงไปที่ดาดฟ้าของเรือรบ

 

  นักเวทย์คนนึงรีบเดินเข้ามาเขาคือนักเวทย์เลเวล 9 วอนเฮลอน “ท่านนักทำนาย, เป็นยังไงบ้างครับ?” เขาถาม

 

  “มันจบแล้วหล่ะ”สีหน้าของไบรอันท์หม่นหมอง

 

  “ถ้างั้น…พวกเราจะ…?”วอนเฮลอนชี้ไปทางเหมืองที่อยู่ไกลๆ

 

  “ไม่,กลับกันเถอะ สถานการณ์มันเกินกว่าที่ข้าคิดเอาไว้ พอพวกเรากลับไปถึงแล้ว, ข้าจะไปรายงานเรื่องนี้ให้องค์ราชินีทราบด้วยตัวเอง” พอพูดจบ, ไบรอันท์ก็ตรงเข้าไปในห้องพัก, และทิ้งความสับสนกับความหงุดหงิดเอาไว้ให้วอนเฮลอน

 

  หลังจากผ่านไปพักนึง,กองเรือไฮเอลฟ์ก็เริ่มถอยกลับ ซู่ว, ซู่ว เสียงคลื่นกระทบกัน แล้วเรือรบทั้งสามลำก็ออกจากน่านน้ำของเฟิร์ดไปเงียบๆ

 

  ที่ริมฝั่งทะเล,ลิงค์มองนกกระจอกวายุเงินแล่นออกไป เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขารู้สึกกังวลจริงๆว่าไบรอันท์อาจจะขาดสติและทำอะไรผลีผลามได้ หากเป็นเช่นนั้นมันจะกลายเป็นปัญหาหลายๆอย่าง, นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงตามมาเฝ้าดู

 

  ตอนนี้พอพวกเขาจากไปแล้ว,สถานการณ์ก็ดีขึ้นมาก

 

  พอเห็นว่านกกระจอกวายุเงินหายไป,ลิงค์ก็กลับไปที่หอคอยเวทมนตร์, แต่หลังจากที่เดินไปได้ไม่กี่ก้าว, เขาก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาและมองไปทางใต้ของทะเล เขารู้สึกว่ามีบางอย่างซ่อนอยู่ตรงนั้น มันคือสิ่งแปลกๆที่ดูเหมือนว่าจะตามนกกระจอกวายุเงินอยู่

 

  แทบจะในเวลาเดียวกัน,ข้อความก็ผุดขึ้นมาในทัศนวิสัยของเขา

 

  เปิดภารกิจ:ไล่ตาม

 

  รายละเอียด:แอบตามนกกระจอกวายุเงินของไฮเอลฟ์อย่างลับๆ

 

  รางวัลภารกิจ10 โจกุ

 

  ลิงค์สงสัยขึ้นมาแล้วเขาร่ายเวทย์ลอยในทันทีและใช้สนามพลังบิดเบือนมิติผลักตัวเองออกไป เขาร่ายเวทย์หายตัวแล้วเริ่มไล่ตามนกกระจอกวายุเงินจากระยะห่างออกไปหนึ่งพันฟุต

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset