Advent of the Archmage – ตอนที่ 466: การลอบโจมตีใต้น้ํา

Advent of the Archmage Chapter 466: การลอบโจมตีใต้น้ํา

 

บนเรือธงนกกระจอกวายุเงิน

ไบรอันเอาแต่หมกตัวเองอยู่ในห้องของตัวเองตั้งแต่ตอนที่เขากลับมา

 

เขาดูผิดปกติราวกับว่าเขาได้ใช้พลังทั้งหมดในร่างไปแล้ว เขานั่งพิงอยู่ที่มุมเตียงในห้องของเขา

 

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็หยิบหนังสือเวทมนตร์ขึ้นมาอ่าน เขามักจะทําอย่างนี้เสมอเพื่อทําให้เขาใจเย็น

 

ยังไงก็ตาม ในครั้งนี้ ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ผลเหมือนครั้งก่อนๆ

 

ในตอนที่เขาเปิดหนังสือ สิ่งเดียวที่โผล่ขึ้นมาในใจเขาก็คือภาพเหตุการณ์ตอนที่อยู่บนดาดฟ้า เขาไม่สามารถหยุดคิดถึงใบหน้า คําพูด และทุกๆการกระทําของนักเวทย์หนุ่มได้

 

หลังจากผ่านไปพักใหญ่ๆ เขาก็ถอนหายใจออกมา “ในปีที่ข้าได้ขึ้นไปถึงระดับตํานาน ข้าเองก็มั่นใจในความแข็งแกร่งเหมือนกับเขา แต่ว่าทุกอย่างมันจบลงหลังจากที่ข้าได้พบกับฟิโอน่า…”

 

ในตอนนี้ไม่มีหนทางถอยกลับแล้ว ทางเดียวที่เหลืออยู่ก็คือเขาต้องเดินไปตามเส้นทางนี้ให้จบ ลิงค์จะต้องตายและถูกยึดโอกาสที่จะเข้าร่วมกับไฮเอลฟ์ถ้าเกิดว่าไบรอันสามารถทํามันได้อย่างราบรื่น

 

ไบรอันปิดหนังสือลง เขาลุกขึ้นและตรงไปที่ประตูเพื่อที่จะไปสูดอากาศจากทะเลที่ดาดฟ้าเรือ

 

ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น พร้อมกับมีเสียงพูดดังมาจากข้างนอก “ท่านนักทํานาย ข้าขอเข้าไปได้ไหม?”

เขาคือนักเวทย์วอนเฮลอน เขาเป็นขุนนางไฮเอลฟ์ที่มีสายเลือดของไฮเอลฟ์บริสุทธิ์ไหลเวียนอยู่ในร่างกาย แม้ว่าเขาจะเรียกไบรอันว่า “ท่านนักทํานาย” แต่เขาก็รู้ว่าวอนเฮลอนนั้นไม่เคยคิดว่าพวกเขาเท่าเทียมกัน

 

แต่ก็แน่นอนว่านี่เป็นแค่เรื่องเล็กน้อยสําหรับเขา

 

“เข้ามา” ไบรอันเอารูนล็อกออกจากประตู

 

วอนเฮลอนเข้ามาในห้องและบิดประตู หลังจากนั้นเขาก็พูดด้วยน้ําเสียงอันแผ่วเบา “ท่านนักทํานาย ข้าต้องรู้ให้ได้ว่าตอนนี้มัน เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

 

ในคืนนี้ พวกเขาถอยออกจากเฟิร์ดโดยที่ไม่ได้มีการปะทะกัน ซึ่งนี่นับเป็นเรื่องที่น่าอับอายอย่างถึงที่สุดทําหรับทั้งนกกระจอกวายุเงินและกองทัพนักเวทย์ ลูกเรือและสมาชิกของกองทัพนักเวทย์ต่างก็รู้สึกโกรธมากกับเรื่องนี้

 

ไบรอันไม่ได้คิดที่จะปิดบังความจริงจากเขา “ลิงค์กับชนเผ่ามังกรได้ร่วมมือเป็นพันธมิตรกัน ตอนนี้เขาแต่งงานกับราชินีมังกรแดงแล้ว”

 

พันธมิตรกับชนเผ่ามังกรนั้นเป็นเรื่องที่เขาจะละเลยไม่ได้ ไบรอันไม่ได้สงสัยเรื่องที่ลิงค์พูดเลย ตอนนี้เมืองมอดไหม้เต็มไปด้วยนักรบมังกรแดงมากมาย รวมทั้งผู้อาวุโสมังกรแดงด้วย ตอนแรกเขาตกใจที่เห็นมัน เขาพึ่งมารู้ความจริงที่หลังว่าลิงค์นั้นได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นดยุคของเผ่ามังกรแล้ว

 

วอนเฮลอนรู้สึกตกตะลึงกับคําตอบของไบรอัน มันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครจินตนาการถึง มันคือมุขตลกร้ายที่ทําให้ผู้ฟังได้แต่หัวเราะเจื่อนๆออกมา

 

นักเวทย์ไฮเอลฟ์ผายมือออก “ข้าไม่คิดเลยว่าเรื่องมันจะกลายเป็นแบบนี้ ขอโทษด้วยนะท่านนักทํานาย ที่ข้าสงสัยท่าน แต่ว่านี่มันอุกอาจเกินไปแล้ว!”

 

“ถ้าเกิดว่าข้าไม่ได้เห็นผู้อาวุโสมังกรแดงอยู่ในเฟิร์ด ข้าก็คงจะไม่เชื่อเหมือนกัน…แต่ถึงยังไง ถ้าเกิดว่าลิงค์ไม่คิดที่จะย้อมแพ้เรื่องเกาะแม่เหล็ก พวกเราก็อาจจะต้องทําสงครามกัน และโอกาสที่พวกเราจะชนะในสงครามนั้นก็น้อยมากๆ”

 

“นี่ท่านตั้งใจจะส่งหนามทมิฬออกไปหรอ?”

 

“ลิงค์รู้เรื่องหนามทมิฬ แถมยังรู้จักเงาคู่ด้วย ข้าไม่รู้ว่ามันไปได้ข้อมูลพวกนี้มาจากไหน แต่อย่างนึงที่ข้ารู้แน่ๆก็คือมันเตรียมการป้องกันตัวเองเอาไว้ดีมากๆ การใช้นักฆ่าไปฆ่ามันในตอนที่หลับนั้นมีโอกาสสําเร็จต่ํามาก”

วอนเฮลอนรู้สึกจนปัญญาและเงียบไปพักใหญ่ๆก่อนที่ในที่สุด เขาจะพูดออกมาด้วยน้ําเสียงหงุดหงิด “ข้าคิดว่าพวกเราควรให้องค์ราชินีเป็นคนตัดสินใจว่าจะทํายังไงต่อจากนี้ดี”

 

ในตอนนี้มีทางเลือกอยู่แค่สองทาง: คือการที่พวกเขายอมรับความพ่ายแพ้ หรือไม่ก็จับอาวุธขึ้นมาและสู้จนตัวตาย และวอนเฮลอนรู้ว่านี่เป็นหนทางที่ดีที่สุดที่มีอยู่ในตอนนี้

 

ในประวัติศาสตร์ 3,000 ปีของไฮเอลฟ์ นี่อาจจะเป็นครั้งแรกเลยที่นกกระจอกวายุเงินได้ล่าถอยโดยไม่ได้ทําการต่อสู้

 

นี่เป็นความอับอายอย่างมากในประวัติศาสตร์ของพวกเขา

 

วอนเฮลอนรู้สึกเศร้าและตรงไปทางประตูพร้อมที่จะออกจากห้อง ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงระเบิดดังมาจากข้างนอก

 

ผ่านหน้าต่าง วอนเฮลอนเห็นว่านกกระจอกวายุเงินลําที่อยู่ข้างๆนั้นถูกเงาดําที่ได้ผุดขึ้นมาจากในทะเลแยกเป็นสองส่วน

 

และคลื่นกระแทกของมันก็ซัดมาโดนเข้ากับเรือที่วอนเฮลอนและไบรอันอยู่ มันทําให้เรือทั้งลํากระเด็นไปอีกทางอย่างรุนแรง และทําให้ไฮเอลฟ์ทั้งสองล้มกลิ้งอยู่ในห้อง

 

ในขณะที่กําลังล้มกลิ้ง มีแสงสีขาวเกิดขึ้นที่ร่างของวอนเฮลอน เขาร่ายเวทย์เทเลพอร์ท และด้วยเสียงเบาๆ ร่างของเขาก็หายไปจากห้องพัก เกิดเสียงดังขึ้นอีกครั้ง และไฮเอลฟ์ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งที่กลางอากาศสูงจากเรือ 100 ฟุต

 

ในอีกด้านนึง ร่างของไบรอันนั้นได้สลายกลายเป็นหมอก เขาพุ่งออกมาจากหน้าต่างที่แตกและออกมาข้างนอก

 

ในตอนที่ทั้งสองลอยอยู่กลางอากาศ พวกเขาก็เห็นสัตว์ประหลาดสีดําตัวเดิมโผล่ขึ้นมาจากใต้ทะเลและจัดการทุบนกกระจอกวายุเงินที่ยังไม่ได้ฟื้นสมดุลกลับมา ด้วยเสียงปะทะดังสนั่น เรืออันแข็งแกร่งก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ

ในการปะทะครั้งนี้ ลูกเรือและนักเวทย์ที่อยู่บนเรือตายไปหลายคน บางคนก็บาดเจ็บสาหัสและบางคนก็หนีไปได้ สถานการณ์บนเรือนั้นเต็มไปด้วยความวุ่นวาย และท้องทะเลก็เต็มไปด้วยเลือดของไฮเอลฟ์

 

ในตอนที่นกกระจอกวายุเงินลําที่สองถูกทําลาย เงาสีดําก็พุ่งตรงไปยังเรือลําที่สามด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ

“หยุดมันซะ!” ไบรอันตะโกน ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เขาก็เริ่มร่ายเวทย์ ใบไม้สีเงินถูกยิงออกจากคทาระดับตํานาน, ฟิโอน่า และพุ่งไปทางเงาสีดํา

 

นี่เป็นไพ่ตายของไบรอัน มันเหมือนกับสายฟ้าฟาด ใบไม้เฉือนใส่เงาสีดําที่อยู่ในทะเล

 

แต่เขาก็ไม่ได้คํานึงถึงการตอบสนองของมัน ในตอนที่เขาร่ายเวทมนตร์ เงาสีดําก็ทําการหลบด้วยการดําลึกลงไปในทะเล

 

“มันกําลังจะหนี! แปลงพิภพ!”

 

เกิดแสงสว่างขึ้นที่ตาของไบรอันและใบไม้สีเงินก็โปร่งแสงขึ้นมา จากนั้นมันก็พุ่งลงไปในทะเลเพื่อไล่ตามเป้าหมายของมันโดยที่ไม่ได้ช้าลงเลย, มันเหมือนกับว่าน้ําทะเลที่อยู่รอบๆใบไม้นั้นถูกหยุดไปพักนึง

 

ในตอนที่ใบไม้กําลังจะไปถึงเงาดํา จู่ๆก็เกิดเสียงดังสนั่นขึ้นที่พื้นผิวทะเล นกกระจอกวายุเงินลําสุดท้ายได้ถูกเงาดําอีกตัวพุ่งเข้ามาทะลวงเรือจากด้านล่างและถูกทําลายไปในทันที

 

ในเวลาไม่ถึง 5 วินาที นกกระจอกวายุเงินทั้งสามลําก็ถูกทําลายจนหมด

 

หลังจากนั้นเงาสีดําก็พุ่งจากในทะเลขึ้นมาบนฟ้า

ในตอนนั้นเองไบรอันก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขากําลังเจอกับอะไรอยู่ มันคือปลาจะละเม็ดเงิน แต่ว่าขนาดของมันใหญ่กว่าปลาจะละเม็ดเงินปกติถึง 10 เท่า มันมีความยาว 30 ฟุต และเกล็ดทั่วร่างของมันก็เป็นสีแดงเข้มที่เต็มไปด้วยแสงของรูนเวทมนตร์

 

“นี่มันสัตว์เวทมนตร์! พวกมันมีกันสองตัว!” ไบรอันตะโกน

 

วอนเฮลอนที่ลอยอยู่กลางอากาศข้างๆเขา ได้ยกคทาขึ้นแล้วไปทางปลา พร้อมกับตะโกนออกมา “คมดาบสูญญากาศ!”

 

คมดาบสูญญากาศ

 

เวทย์มิติเลเวล 8

 

คําอธิบาย: สร้างสภาวะสูญญากาศขึ้นมาโดยใช้มานาดูดเอาอากาศออกทั้งหมด ทําให้เกิดเป็นใบมีดสูญญากาศที่คมมากๆ และสามารถตัดวัสดุต่างๆที่มีตัวตนได้

(หมายเหตุ: เป็นเวทย์มิติลับของไฮเอลฟ์)

แผ่นใสๆสีเงินได้พุ่งผ่านอากาศไป และในวินาทีที่ 10 มันก็โดนเข้ากับปลาจะละเม็ดเงิน!

 

ครีน! เกล็ดสีดําของสัตว์ประหลาดได้ปล่อยแสงสีแดงอ่อนๆออกมา ทันใดนั้นเองคมมีดสูญญากาศก็สลายไปในอากาศ ทําให้ร่างของปลานั้นไร้รอยขีดข่วน ในวินาทีต่อมา ปลาก็ได้กลับลงไปในทะเลและดําลึกลงไปใต้ทะเล

 

ไบรอันเห็นทุกอย่างและมองด้วยความตกตะลึง “นั่นพลังศักดิ์สิทธิ์นี่! มันไม่ใช่สัตว์เวทมนตร์ธรรมดา มันคือสัตว์ศักดิ์สิทธิ์!”

 

มีแค่พลังศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่สามารถปัดเป่าการโจมตีมิติได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

ในตอนนั้นเอง ใบไม้สีเงินก็ไล่ตามสัตว์เวทมนตร์ที่อยู่ใต้ทะเลทัน

ด้วยเสียงดังแหลม ร่างของปลาจะละเม็ดเงินก็ปล่อยแสงแบบเดียวกันออกมาและป้องกันตัวเองจากการโจมตีของไบรอัน ยังไงก็ตาม ใบไม้สีเงินนั้นรุนแรงกว่าคมมีดสุญญากาศของวอนเฮลอนถึง 10 เท่าและสามารถทะลวงการป้องกันของมันได้ มันทะลวงเข้าไปในร่างของปลา ทําให้เกิดบาดแผลลึกครึ่งฟุต

แต่ว่า…ใบไม้สีเงินก็สามารถไปได้ไกลมากที่สุดเพียงเท่านั้น ก่อนที่มันจะต้องกลับมาฟื้นแรงอยู่ใต้น้ํา

 

บาดแผลครึ่งฟุตนั้นเป็นแค่แผลเล็กๆสําหรับปลาที่ตัวใหญ่ขนาดนี้ ด้วยการสะบัดครีบ มันก็เริ่มเร่งความเร็วขึ้นมาบนผิวน้ําอีกครั้ง ในครั้งนี้ มันได้กินลูกเรือผู้รอดชีวิตที่ลอยอยู่บนทะเล

” ช่วยด้วย!”

 

“ไม่นะ ขาของข้า!”

 

“โอ้พระเจ้า ช่วยข้าด้วย!”

 

เหลาลูกเรอทลอยอยู่โดตกอยู่ในความยุงเหยงกอนที่พวกเขาจะถูกกระแทกด้วยคลื่น มีแค่นักเวทย์บางส่วนเท่านั้นที่สามารถลอยบนอากาศได้ ส่วนสมาชิกลูกเรือที่เหลือต่างก็ลอยอยู่ในน้ํารวมไปถึงผู้บัญชาการกองเรือด้วย

 

ที่กลางทะเล พวกเขานั้นไร้พลังเมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับปลาจะละเม็ดเงินขนาดยักษ์ที่สามารถจมเรือทั้งลําได้ด้วยเวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาที

ปลาอีกตัวก็กลับมาบนผิวน้ําและเริ่มไล่กินพวกเอลฟ์ที่เหลืออยู่

 

น้ําทะเลได้กลายเป็นสีแดงเพราะเลือดของเหยื่อที่พวกมันกินในทันที

 

นักเวทย์ไฮเอลฟ์กว่า 30 คนที่ลอยอยู่กลางอากาศได้ง่าย เวทย์ใส่ปลาจะละเม็ดเงินพร้อมกัน แต่ว่าการโจมตีของพวกเขานั้นก็ไม่มีประโยชน์อะไร

ในบรรดาเหล่าไฮเอลฟ์ในกองเรือ มีเพียงแค่ไบรอันเท่านั้นที่สามารถสร้างความเสียหายให้กับปลาพวกนี้ได้ แต่ว่าถึงจะเป็นเวทย์ที่รุนแรงที่สุดของเขา ก็ยังความเสียหายให้กับปลาได้แค่เล็กน้อยเท่านั้น

 

สีหน้าของเหล่านักเวทย์ที่ลอยอยู่ซีดเผือด พวกเขาปล่อยเวทย์ออกมาด้วยความสิ้นหวัง แต่ว่าความพยายามของพวกเขาก็ได้ประโยชน์ พวกเขาทําได้แค่มองพวกพ้องถูกเจ้าปลายักษ์สองตัวนี้กินอย่างโหดเหี้ยม

 

ในเวลาแค่ครู่เดียวจํานวนลูกเรือของไฮเอลฟ์ก็ลดลงไปอย่างรวดเร็ว

 

“ท่านนักทํานาย พวกเราจะทํายังไงกันดี?” วอนเฮลอนตะโกน ตอนนี้เขาจนปัญญาแล้ว

 

“พวกเราทําได้แค่หนี ข้ารู้สึกได้ว่านี่เป็นแค่การเริ่มต้นของการลอบโจมตี ตอนนี้มันอันตรายเกินไปที่จะอยู่ที่นี่ต่อ!” พอพูดจบ ไบรอันก็เริ่มบินไปทางแผ่นดินใหญ่

 

เขาตะโกนกลับไปหานักเวทย์คนอื่นๆ “ทุกคน ไปทางแผ่นดินใหญ่ เร็วเข้า! เร็วๆหน่อย!”

 

พวกเขายังออกมาจากแผ่นดินใหญ่ได้ไม่ไกลมาก ซึ่งมันเป็นที่เดียวที่พวกเขาสามารถหนีไปได้ ถ้าพวกเขาไปในทะเลไกลกว่านี้อีก พวกเขาจะต้องถูกฆ่าอย่างแน่นอน

 

ในขณะที่มองปลายักษ์สองตัวและลูกเรือผู้รอดชีวิตที่ตะโกนร้องขอความช่วยเหลืออยู่ด้านล่าง พวกนักเวทย์ก็ลังเลอยู่พักนึง จากนั้นพวกเขาก็กัดปากของตัวเองและตัดใจที่จะช่วยเหลือพวกเขา

พวกเขาเลิกมองลูกเรือที่กําลังดิ้นรนและค่อยๆบินตามไบรอันไปทางแผ่นดินใหญ่ทีละคนๆ

 

ในตอนที่พวกเขาบินไปได้แค่ 100 ฟุต ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากพื้นผิวของทะเล “พวกนักเวทย์ ทําไมพวกเจ้าถึงคิดจะไปกันแล้วหล่ะ? ข้าพึ่งจะมาถึงที่นี่เองนะ”

 

เสียงนั้นดังมาจากทุกทิศทาง มันไม่มีทางตัดสินได้เลยว่าต้นเสียงมาจากทางไหนกันแน่ มันเหมือนกับว่าทะเลที่อยู่ข้างล่างนั้นเป็นคนคุยกับพวกเขา

 

ซึ่งนั่นเป็นเหตุการณ์ที่น่ากลัวมาก

 

แม้แต่ไบรอันก็ตกใจกับมัน จากนั้นเขาก็ตะโกนออกมา “ลิงค์ ข้ารู้นะว่าเป็นเจ้า ถ้าเจ้าอยากจะฆ่าข้า ก็เข้ามาตรงๆสิ การลอบโจมตีแบบนี้มันเป็นการกระทําที่ขี้ขลาดมากเลยนะ!”

 

5555 ไบรอัน เจ้าเป็นคนตลกจริงๆ ถือว่าเป็นรางวัลให้กับความโง่ของเจ้าแล้วกันนะ ข้าจะฆ่าเจ้าเป็นคนสุดท้าย”

 

ดวงตาของวอนเฮลอนเบิกกว้าง เขามองหาศัตรอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ว่าที่เขาเห็นนั้นก็มีแค่ความมืด เขาตะโกนออกมาอีกครั้ง “เจ้าเป็นใครกันแน่? เจ้าไม่ใช่ลิงค์หรอ?”

 

“ข้าเป็นใครนั้นไม่สําคัญหรอก ที่สําคัญก็คือพวกเจ้าทุกคนจะต้องตายที่นี่ เดี๋ยวนี้”

 

พอพูดจบแสงสีแดงเข้มก็ถูกยิงออกมาจากทะเล ด้วยความที่ตอบสนองไม่ทัน นักเวทย์คนนึงจึงโดนลําแสงนั้นเข้าไป เขามองลงมาและเห็นรูขนาดเท่ากําปั้นที่หน้าอกของตัวเองก่อนที่เขาจะร่วงลงจากท้องฟ้าในสภาพตาเหลือก

 

ไบรอันหมดความตั้งใจที่จะต่อสู้ในทันทีที่ได้เห็นภาพนี้ “นี่มันเวทย์ศักดิ์สิทธิ์! พวกเราสู้กับมันไม่ได้ หนีเร็ว!”

 

พูดตามตรง เวทย์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดนั้นมีเลเวล 19 ขึ้นไป แต่ว่าพลังของมันถูกลดลงไปมากเนื่องจากพลังของภพมนุษย์ แต่ว่าเวทย์ศักดิ์สิทธิ์นั้นก็ยังคงรุนแรงกว่าเวทย์อื่นๆในภพมนุษย์ ซึ่งรวมไปถึงเวทย์ระดับตํานานด้วย

 

ศัตรูยังคงซ่อนตัวอยู่ จนถึงตอนนี้ ไบรอันก็ยังไม่รู้ว่าศัตรูของเขา ซ่อนตัวอยู่ที่ไหนกันแน่ และที่เหนือกว่าสิ่งอื่นใด เขาสามารถใช้เวทย์ศักดิ์สิทธิ์ได้ด้วย มันเป็นการต่อสู้ที่พวกเขาไม่สามารถเอาชนะได้ การหนีคือทางเลือกเดียวของพวกเขา

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset