Advent of the Archmage – ตอนที่ 488: การต่อสู้ระดับตํานาน(4)

Advent of the Archmage Chapter 488: การต่อสู้ระดับตํานาน(4)

สายฟ้าพุ่งใส่เขาอย่างฉับพลัน เกิดระเบิดขึ้นเป็นชุดในอากาศ และแสงก็ทําให้ดยุคอาเบลตาพร่าไปพักนึง

จากนั้นเขาก็เห็นใครบางคนที่คาดไม่ถึง

“คาร์โนสหรอ?” เขาตกตะลึง เขารู้ว่าคาร์โนสมีพลังเลเวล 9 แต่ว่าพลังที่เขาปล่อยออกมาเมื่อสักครู่นั้นได้สร้างแรงกดดันกับเขาอย่างมาก พลังการโจมตีของเขาอยู่ในระดับเดียวกับดยุค

คาร์โนสไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เขาพุ่งตัวไปข้างหน้าพร้อมกับถือดาบเอาไว้ในมือข้างนึง พร้อมที่จะแทงไปที่หัวใจของดยุคอาเบล เขาตะโกน “ท่านแม่ทัพ ข้ามาที่นี่เพื่อหยุดยั้งความบ้าคลั่งของท่าน!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ความโกรธของดยุคอาเบลก็พุ่งจนถึงขีดสุด “ข้าฟังคําพูดของเจ้ามามากพอแล้ว! มนุษย์อย่างพวกเจ้านี่จริงๆเลย! ชอบพยายามเข้ามาหลอกข้าด้วยลมปากชั่วร้ายของพวกเจ้า!”

ดวงตาของเขากลายเป็นสีแดง พร้อมกับออร่าแห่งความมืดที่หมุนอยู่รอบตัวเหมือนกับพายุ จากนั้นเขาก็เหวี่ยงดาบพลบค่ําของผู้กล้าไปทางสายฟ้าที่กําลังเข้ามาทางเขา

“การสังหารผู้คนคือความจริงอันเด็ดขาดของโลกใบนี้!”

เสียงของดยุคอาเบลนั้นเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมที่ไม่สามารถอธิบายได้ “ข้าจะฆ่าทุกคนที่เข้ามาขวางทางข้า! ข้าจะฆ่าทุกคนที่ทําให้ข้าโกรธ! ข้าจะสังหารทุกชีวิตและจะทําให้ความตาย และการทําลายตกลงมาสู่โลกใบนี้!”

ในตอนที่พูดเรื่องเหล่านี้ เขาก็สามารถจัดการสายฟ้าของคาร์โนสและป้องกันการโจมตีจากดาบสายฟ้าเวทมนตร์ของเขาได้ แรงสั่นสะเทือนวิ่งผ่านดาบของดยุคและพยายามที่จะไปทําลายอาวุธของคาร์โนสให้เป็นชิ้นๆ

ยังไงก็ตาม ต้องขอบคุณประสบการณ์การต่อสู้หลายสิบปีของเขา ในตอนที่คาร์โนสรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนจากดาบของดยุค เขาก็ดึงดาบสายฟ้ากลับในทันที เขารู้ว่ามันไม่สามารถเทียบชั้นกับอาวุธของศัตรูได้ คาร์โนสดึงดาบกลับมาอย่างรวดเร็ว มันเหมือนกับว่าที่มือของเขาไม่ใช่ดาบ แต่เป็นขนนกอย่างไรอย่างนั้น

ในตอนที่โจมตีศัตรูล้มเหลว ดยุคอาเบลก็ปล่อยเสียงหัวเราะอันหม่นหมองออกมา เขาเปิดใช้ความสามารถพิเศษของดาบระดับตํานาน: พลบค่ํานิรันดร์

คาร์โนสนั้นถูกทําให้ไร้การป้องกันด้วยการเปิดใช้สกิลต่อสู้ เขาสัมผัสได้ว่าท้องฟ้าสว่างขึ้นด้วยเวทย์แสงขนาดใหญ่ ก่อนที่มันจะมืดลงอย่างมากและกลายเป็นสีแดงฉานรอบตัวเขาได้กลาย สภาพเป็นทะเลทรายในทันที ซึ่งเขาอยู่ตัวคนเดียวและกําลังเผชิญหน้ากับทหารม้าพันกว่าคนที่กําลังพุ่งมาทางเขา

ต่อให้เป็นผู้กล้าก็คงไม่สามารถซื้อได้นานนักเมื่อต้องเจอกับจํานวนที่มหาศาลเช่นนี้

“ดาบนี้สามารถส่งผลกับประสาทสัมผัสของข้าได้ด้วยหรอ?”

ในตอนที่ดูเหมือนว่าเขากําลังจะถูกคลื่นทหารม้ากลืนกิน ลําแสงก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้าและกลายร่างเป็นมือขนาดยักษ์ ฝ่ามือแสงนั้นได้ขยายไปเต็มท้องฟ้าเป็นระยะกว่า 1,000 ไมล์ ทั่วทั้งท้องฟ้าสว่างขึ้นในตอนที่มันปรากฏตัว จากนั้นมือนี้ก็ลดความสูงลงมา และด้วยนิ้วโป้งขนาดยักษ์ มันก็ขยี้ทหารม้าทุกคนที่อยู่ข้างใต้

ภาพลวงตานั้นสลายไป และคาร์โนสก็เห็นมือเวทมนตร์ที่เปล่งแสงสว่างสีขาวกําลังจับดาบของดยุคอยู่ และเขาเองก็สังเกตุเห็นด้วยว่าดาบนั้นอยู่ห่างจากร่างของเขาไปแค่ครึ่งฟุตเพียงเท่านั้น

ลิงค์ได้ร่ายมือเวทมนตร์จากคทาของเขาด้วยมือข้างเดียว และสามารถหยุดดาบของดยุคได้ทันเวลา ในขณะที่มืออีกข้างนึ่งของเขานั้นกําลังปัดป้องการโจมตีจากหอกของนากาไปด้วย

มันคือหัตถ์ไททัน เวทย์ไฟที่ลิงค์เคยสร้างความสะพรึงในปาทมิฬมาแล้ว ในช่วงนี้เขาไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้มัน แต่ในตอนที่เขาว่าง เขาก็ได้ทําการปรับแต่งมันเล็กน้อย ขนาดของเวทมนตร์เล็กลงมามากตั้งแต่ตอนนั้น แต่ว่าผลของเวทมนตร์ก็ได้เพิ่มขึ้นเป็นเลเวล10

อีกอย่างนึง ด้วยความที่โครงสร้างเวทมนตร์ค่อนข้างง่ายๆ ลิงค์จึงสามารถร่ายมันออกมาได้โดยไม่ยากนัก

และด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงสามารถขัดขวางสกิลต่อสู้ของดยุคได้อย่างทันท่วงที

คาร์โนสเห็นช่องว่างและเริ่มทําการโต้กลับ!

ดาบของเขาไม่สามารถเทียบชั้นกับของดยุคได้ และเขาก็พึ่งฟื้นมาจากอาการบาดเจ็บ แต่ในอีกด้านนึง คาร์โนสนั้นมีทักษะการต่อสู้ที่ไม่เหมือนใคร ดยุคอาเบลอาจจะมีพลังระดับตํานาน แต่ว่าทักษะการต่อสู้ของเขาก็ยังคงเหมือนเดิม

แม้ว่าจะมีดาบระดับตํานาน แต่ดยุคอาเบลก็สามารถสู้กับคาร์โนสได้ในระดับสูสีเท่านั้น

ยังไงก็ตาม การต่อสู้ของลิงค์กับคาทูช่านั้นได้แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างด้านพลังอย่างชัดเจน แม้ว่าทักษะการต่อสู้ของเธอจะพอๆกับลิงค์ แต่พลังโดยรวมของคาบูชานั้นไม่สามารถเทียบกับเขาได้เลย ข้อได้เปรียบเพียงอย่างเดียวของเธอในการต่อสู้นี้ก็คือผลหนามแห่งโชคชะตาของหอกแห่งชัยชนะ แต่ว่าในตอนนี้หนามแห่งโชคชะตาก็ไร้ผลไปแล้ว เธอจึงไม่ใช่ศัตรูที่คู่ควรกับลิงค์ อีกต่อไป

คนอื่นอาจจะเห็นเหมือนกับว่าลิงค์แทงดาบใส่เธออย่างลวกๆ แต่ว่าในการโจมตีแต่ละครั้งนั้น เขาได้เล็งไปที่จุดอ่อนของเธอ และเธอก็ถูกบังคับให้หลบหรือป้องกันดาบของเขาด้วยการเต้นรําอันละเอียดอ่อนซึ่งสามารถทําให้เธอตายได้ตลอดเวลา

หลังจากที่รับดาบของลิงค์ไปได้ 5 ครั้ง เธอก็ตะโกนออกมา “โมลิน่า รีบโจมตีซักทีสิ!”

มีบางอย่างผิดปกติ พวกเขาสู้กันมานานกว่า 4 วินาทีแล้ว มีเวทย์ศักดิ์สิทธิ์บทไหนกันที่ใช้เวลาในการร่ายนานกว่า 4 วินาที?

“ข้าถูกเล็งอยู่!” เสียงของโมลิน่าดังขึ้น “มีพลซุ่มยิงอยู่ด้วย เธอเล็งมาที่ข้าและตอนนี้ก็กําลังรอจังหวะที่ข้าเสียสมาธิอยู่ ข้าสัมผัสได้ว่าการโจมตีของเธอสามารถทะลวงโล่แห่งการทําลายของข้าได้!”

 

คาทูช่าพูดไม่ออก ที่หางตาของเธอ เธอเห็นโมลิน่ายืนอยู่เฉยๆเหมือนกับก้อนอิฐ

เธอรู้สึกเสียวสันหลังวาบ โมลิน่านั้นเป็นนากานักบวชที่สามารถร่ายเวทย์ศักดิ์สิทธิ์อันทรงพลังได้ แต่ถ้าเกิดเธอถูกจํากัดการเคลื่อนไหวแบบนี้ แล้วพวกเธอจะมีโอกาสชนะในการต่อสู้นี้ได้ยังไง?

ด้วยความสิ้นหวัง เธอจึงแทงหอกเข้าไปที่หน้าอกของลิงค์ด้วยแรงทั้งหมดของเธอ โดยไม่สนถึงความปลอดภัยของตัวเอง

ซึ่งลิงค์ก็แค่ก้าวถอยหลังเพื่อหลบปลายหอก

จากนั้นคาทูช่าก็ถอยกลับไปข้างๆโมลิน่าในทันทีและพูดออกมา “เจ้าไปหยุดลิงค์ เดียวข้าจัดการกับคนซุ่มยิงให้เอง!”

โมลิน่าพยักหน้า ด้วยการระเบิดพลังศักดิ์สิทธิ์แห่งการทําลาย เธอก็ชี้นิ้วไปที่ลิงค์ และปล่อยเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ที่เธอเตรียมเอาไว้ออกมาะบ้าคลั่ง!

บ้าคลั่ง

เวทย์ศักดิ์สิทธิ์แห่งการทําลาย

คําอธิบาย: เป้าหมายจะถูกทําให้บ้าคลั่งด้วยผลของเวทย์และจะเริ่มทําการโจมตีทุกอย่างที่อยู่ ในบริเวณใกล้เคียง ระยะเวลาของเวทย์นี้ขึ้นอยู่กับเลเวลของเป้าหมาย เวลาส่งผลที่นานที่สุดก็คือ 1 วัน

(หมายเหตุ: ยอมแพ้ต่อความบ้าคลั่งซะ เจ้าพวกมนุษย์!)

คนที่อยู่ใกล้ลิงค์ที่สุดในตอนนี้ก็คือคาร์โนส ภายใต้ผลของเวทมนตร์ ลิงค์จะเล็งเป้าหมายไปที่เขาในทันที และการที่ถูกโจมตีจากทั้งสองทาง คาร์โนสก็จะถูกฆ่าในทันที

นอกจากนี้ เวทย์นี้ยังมีคุณสมบัติที่ไม่เหมือนกับเวทย์อื่น มันมีวิธีการใช้งานที่ละเอียดอ่อนกว่า และด้วยเหตุนั้นเองมันจึงถูกขัดขวางได้ยากเป็นพิเศษ

แม้ว่าลิงค์จะยังมีออร่าปาฏิหาริย์ปกคลุมอยู่รอบตัว แต่ว่ามันก็ไม่มีผลกับเวทย์ศักดิ์สิทธิ์นี้ ในชั่วพริบตา ลิงค์ก็รู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างเข้ามาในจิตใจของเขา มันบดบังประสาทสัมผัสของเขา

“แย่แล้ว มันคือเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ประเภทสะกดจิต!”

ลิงค์ตอบสนองอย่างรวดเร็ว และเขาก็เปิดใช้งานเวทย์สายเลือดมังกร: วิญญาณมังกร

วิญญาณมังกร

เวทย์สายเลือด

 

คําอธิบาย: ผู้ใช้จะเพิ่มการป้องกันทางจิตอย่างมหาศาล โดยขึ้นอยู่กับเลเวลของผู้ใช้

(หมายเหตุ: แผดเผาวิญญาณแห่งมังกร!)

ด้วยการใช้เวทย์สายเลือด ลิงค์ก็รู้สึกถึงระเบิดความร้อนในหัวของเขาในทันที กลุ่มเมฆที่บดบังสติของเขานั้นได้ถูกเผาจนสลายไปไม่เหลือซากในทันที

และกระบวนการทั้งหมดนี้ก็ใช้เวลาไปไม่ถึง 1 วินาที!

ในตอนที่เขาได้ประสาทสัมผัสกลับคืนมา เขาก็ได้ยินเสียงมาจากทางคาทูช่า มันคือเสียงกระสุนของเซลืนที่ถูกนากาปัดป้องได้

ในตอนนั้นเอง แสงสีแดงเข้มก็เปล่งออกมาจากร่างของนากานักบวช ที่ด้านหลังของเธอ วังวนขนสีแดงเข้มได้แตกหน่อออกมาจากหลังของเธอ

ลิงค์ไม่รู้ว่าเธอจะปล่อยเวทย์ศักดิ์สิทธิ์แบบไหนออกมา แต่สิ่งที่สําคัญในช่วงเวลาสั้นๆนี้ก็คือไม่มีใครมาคอยขัดขวางเขา ทําให้เขาสามารถเริ่มร่ายเวทย์ตอบโต้ศัตรูได้

เขาเรียกลูกบอลมิติออกมาซึ่งมันได้ระเบิดและส่งคลื่นไปทั่วอากาศ มันปกคลุมดยุคอาเบล นากานักบวช และคาทูช่าที่อยู่ในระยะแสดงผลของมัน

“โซมิติ!”

ทั้งสามคนตัวแข็งที่อไปชั่วขณะ แต่ด้วยความที่พวกเขาต่างก็มีพลังระดับตํานาน พวกเขาจึงสามารถสลัดการยับยั้งมิติออกมาได้ภายในชั่วเสี้ยววินาที

แต่ว่าแค่นี้มันก็นานพอแล้วสําหรับลิงค์กับคาร์โนส!

คาร์โนสคว้าโอกาสไว้ในทันทีและแทงดาบของเขาไปที่หน้าอกของดยุคอาเบล สายฟ้าได้ระเบิดออกมาจากใบดาบ ช็อตดยุคจนเขาคุกเข่าลงกับพื้นอย่างไร้ชีวิตชีวา และด้วยแรงสั่นสะเทือนนี้เอง ดาบของดยุคก็ร่วงลงมาที่พื้นด้วย

ที่อีกด้านนึ่งของการต่อสู้ ลิงค์ได้ส่งดาบของเขาทะลุผ่านลูกบอลแห่งความสิ้นหวัง และปลายดาบก็แทงเข้าไปที่หน้าอกของคาทช่า มันแทงตรงเข้าไปที่หัวใจของเธอ จากนั้นเขาก็บิดดาบ และขยี้หัวใจของนากาเป็นชิ้นๆ ในเวลาเดียวกันนั้นเอง พลังมังกรก็ไหลผ่านดาบและเริ่มเข้าไปอาละวาดในร่างของเธอ

ด้วยความที่ไม่สามารถกรีดร้องได้ คาทูช่าจึงทําได้แค่ยืนอยู่เฉยๆ สีหน้าของเธอซีดลง ดวงตาของเธอเสียประกายไปเพราะว่าเธอได้ตายลงไปแล้ว

“ไม่นะ!!”

นากานักบวชสามารถหลุดพ้นจากโซ่มิติของลิงค์ได้ เธอส่งเสียงกรีดร้องออกมา แล้วเข้ามารับร่างของคาทช่าเอาไว้ก่อนที่มันจะร่วงถึงพื้น เธอห่อหุ้มปีกสีแดงเข้มเอาไว้รอบตัวพวกเธอทั้งสอง คน

จากนั้นร่างกายของพวกเธอก็เริ่มเลือนราง พวกเธอพยายามจะหนี!

แต่ลิงค์เองก็ไม่ได้ตั้งใจจะปล่อยให้มีใครรอดไปได้

เขาแทงดาบผ่านลูกบอลแห่งความสิ้นหวังอีกครั้ง และปลายดาบก็แทงเข้าไปที่หลังของนากานักบวชในทันที

กระสุนของเซลืนก็โดนเธอในเวลาเดียวกัน

มันพุ่งผ่านอากาศทะลุร่างของนากานักบวชไป และในท้ายที่สุดมันก็ตกลงไปที่พื้นข้างหลังเธอ

นากานักบวชได้หายตัวไปก่อนที่ดาบของลิงค์หรือกระสุนของเซลีนจะเข้าไปโดนเป้าหมาย

ลิงค์ขมวดคิ้ว เขาไม่เคยเห็นเทคนิคการหนี้แบบนี้มาก่อน

เขาเดินไปยังจุดที่นากาหายตัวไปและร่ายเวทย์ตรวจจับทั้ง 3 เวทย์ ตรวจจับระลอกคลื่นมิติตรวจจับมิติ และการตรวจจับแนวระนาบ ลําแสงเวทมนตร์ทั้ง 3 ได้ส่องไปทั่วทั้งพื้นที่ แต่ว่ามันกลับไม่สามารถหาความผิดปกติทางมิติได้เลย

ศัตรูไม่ได้ใช้เวทย์เคลื่อนย้าย และไม่ได้เดินทางผ่านภพอื่นๆเลย

นากาทั้งสองหายตัวไปเหมือนกับน้ําค้างที่ระเหยในตอนเช้า, มีเพียงแค่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าตอนนี้พวกเธออยู่ที่ไหน

ลิงค์ไม่สามารถทําความเข้าใจกับการหายตัวไปของพวกเธอได้เลย

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Descent of the God of Magic, DGM, 法神降临
Score 7.8
Status: Ongoing Type: Author: , , Released: 2016 Native Language: Chinese
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset