Advent of the Archmage – ตอนที่ 66: ดาร์กเอลฟ์?

ฉึก! ฉึก! ฉึก! กิลเดิร์น ยิงธนู 3 ดอกตามลำดับอย่างรวดเร็ว ลูกศรเหล็กถูกยิงผ่านอากาศไป ดอกแรกพุ่งไปที่หัวใจของ แอนดี้ ดอกต่อไปพุ่งไปที่ตาและดอกสุดท้ายพุ่งไปที่ท้อง และลูกศรทั้งหมดได้แทงโดนเป้าหมาย

 

เกราะหนังของ แอนดี้ อาจมีคุณสมบัติป้องกันเวทมนต์ก็จริง แต่ว่าเมื่อเจอกับลูกธนูที่ทำด้วยเหล็กที่ยิงจากธนูใหม่อันแข็งแกร่ง มันก็ไร้ประโยชน์อย่างสมบูรณ์!

 

ลูกธนูทั้งสามพุ่งทะลุผ่านตัว แอนดี้ เขาตายก่อนที่เขาจะมีเวลาได้ร่ำร้องเสียอีก

 

จากนั้นแจ้งเตือนก็เด้งขึ้นมาในอินเตอเฟส แต่ว่า ลิงค์ ไม่ได้สนใจที่จะตรวจดูเนื้อหา เขาสนใจแค่แต้มโอมนิเท่านั้น หลังจากที่เขาตรวจสอบว่าตอนนี้เขามี 40 แต้มโอมนิแล้ว เขาก็ใช้20แต้มโอมนิในการเพิ่มค่ามานาสูงสุดอย่างไม่รอช้า

 

ตอนนี้มานาสูงสุดของเขาเพิ่มเป็น148แต้ม และมานาของเขาก็มี 21 แต้ม ซึ่งมากพอที่จะใช้นกหวีดได้แล้ว

 

จากการที่ แอนดี้ ตาย ลิงค์ ได้ทุ่มความสนใจทั้งหมดไปที่นักเวทย์ผ้าคลุมดำที่อยู่ห่างออกไป 200 ฟุต

 

คทาคริสตัลเพลิงที่มือของเขาส่องแสง และในเวลา 0.2 วินาทีต่อมา นกหวีดก็ได้พุ่งผ่านอากาศ พุ่งไปอย่างรวดเร็วไปหานักเวทย์ผ้าคลุมดำ

 

นักเวทย์เพิ่งจัดการกับการโจมตีของลูกแก้วไปก่อนหน้านี้ เขาคงไม่คิดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงเกิดขึ้นในเวลาไม่กี่วินาที เขาสับสน แต่ว่าการตอบสนองของเขาก็ยังคงรวดเร็ว ด้วยฝีเท้าที่รวดเร็วดั่งสายฟ้า เขาหันไปหลบที่ด้านหลังของต้นไม้

 

เขาไม่สามารถหลบนกหวีดของ ลิงค์ ที่หลังต้นไม้ได้ แต่ว่าอย่างน้อยมันก็ป้องกันเขาจากลูกธนูได้ ดังนั้นเขาจึงสามารถเพ่งสมาธิไปกับการร่ายเวทย์ได้โดยไม่ต้องกลัวลูกธนู

 

หลังจากที่เขาหลบหลังต้นไม้ เขาก็ได้ยินเสียงของนกหวีดที่กำลังพุ่งมาทางเขา ในตอนที่มันพุ่งทะลุบาเรียป้องกันของเขา เขาก็ยกคทาขึ้นมาข้างหน้าแล้วร่ายเวย์

 

“โล่เยือกแข็ง!”

 

ทันใดนั้นโล่สามเหลี่ยมที่มีขนาด 10 ตารางฟุตก็ปรากฏขึ้นมาข้างหน้าเขา โล่นี้ไม่เหมือนกับโล่น้ำแข็งที่ใช้ในแกลดสโตน—มันมีพื้นผิวที่ใหญ่กว่า และทนทานกว่าและความเร็วในการร่ายก็เร็วกว่ามากด้วย มันถูกสร้างเสร็จในเวลาเพียง 0.3 วินาทีเท่านั้น

 

นี่คือเวทย์โล่น้ำแข็งที่ถูกปรับปรุงด้วยเวทย์ระดับสุดยอด

 

เคร้ง! ทันทีที่โล่เยือกแข็งก่อรูปเสร็จ ก็มีแรงกระแทกที่ทิ้งรอยสีขาวไว้ข้างบนมัน และรอยสีขาวนั่นก็แตกออกและกระจายไปทั่วโล่ราวกับใยแมงมุม ดูเหมือนว่าโล่กำลังจะพังทลายลง

 

แต่ว่ายังมีนกหวีดที่พุ่งมาหานักเวทย์อีกลูกจากด้านหลัง!

 

หนามแห่งความตายที่หมุนอย่างรวดเร็วได้อ้อมผ่านป่าเพื่อมาถึงด้านหลังของนักเวทย์ และพุ่งตรงเข้าไปหาหัวใจของเขา!

 

นักเวทย์ผ้าคลุมดำได้พบเจอกับความหวาดกลัวในชีวิตของเขา เขาคิดไม่ถึงว่าการร่ายเวทย์ของนักเวทย์หนุ่มจะรวดเร็วและดุดันดั่งพายุเฮอริเคนเยี่ยงนี้ ในตอนนี้เขารู้สึกได้ว่าเขารับรู้ถึงพลังที่แท้จริงของ ลิงค์ แล้ว และเขาก็ไม่อาจปฏิเสธความกดดันที่กำลังเกิดขึ้นกับเขาได้

 

ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะสามารถจัดการกับ โฮล์มส์ ได้ด้วยเวทย์ระดับต่ำอย่างเขวี้ยง โฮล์มส์ คงจะดูถูกนักเวทย์หนุ่มคนนี้อย่างแน่นอน และนั่นก็คือสิ่งที่เขาต้องชดใช้!

 

ความพ่ายแพ้ของ โฮล์มส์ แสดงให้เห็นถึงความจริงที่ความสามารถในการต่อสู้ของนักเวทย์กับความรู้ในเวทมนตร์นั้นเป็นสองสิ่งที่แตกต่างกัน รากฐานพลังของนักเวทย์นั้นมาจากความรู้ของพวกเขาในข้อเท็จจริงและทฏษฎีเวทมนตร์ แต่ว่าในเวลาเดียวกัน พวกที่ยึดในกฏกับทฤษฎีก็ไม่ได้หมายความว่าจะเก่งในการต่อสู้เสมอไป และมันก็ไม่สามารถแทนที่กับประสบการณ์ได้!

 

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือนักเวทย์ส่วนใหญ่เป็นนักวิชาการและรองลงมาก็เป็นนักรบที่เชี่ยวชาญการต่อสู้

 

เมื่อนักเวทย์ทั้งสองต่อสู้กัน สิ่งที่ใช้วัดผลจริงๆก็คือระยะและความเร็วในการร่ายมนตร์ที่พวกเขาสามารถทำได้ ซึ่งทั้งหมดนั้น—มันไม่ได้สนว่าเลเวลของเวทย์มนตร์หรือความแข็งแกร่งของมานานั้นมีมากขนาดไหน—มันเป็นเพียงแค่ตัวเลขที่ดูดีบนกระดาษแต่ในความเป็นจริง มันไม่มีความหมายอะไรเลยในสนามรบ

 

แม้ว่าคุณจะรู้จักเวทมนตร์ระดับสูงหรือว่าสามารถใช้เวทมนตร์ที่แข็งแกร่งกว่าคู่ต่อสู้ได้ แต่ถ้าเกิดว่าคุณใช้มันช้าเกินไป ทั้งหมดที่ทำมาก็ล้วนแต่จะศูนย์เปล่า!

 

และนั่นก็คือเหตุผลที่เหล่านักเวทย์ที่ต้องการจะแข็งแกร่งในการต่อสู้ถึงพยายามอย่างมากเพื่อพัฒนาเวทย์มนตร์ขั้นสูงสุด โดยเฉพาะการพัฒนาที่เพิ่มความเร็วและระยะในการร่ายเวทย์ของพวกเขา

 

แต่มันได้ถูกพิสูจน์แล้วในตอนนี้ว่า นักเวทย์ผ้าคลุมดำไม่ได้พัฒนาทักษะนี้มากเท่าที่เขาต้องการ หรืออย่างน้อยมันก็ไม่มากพอที่จะต่อกรกับระยะและความเร็วในการร่ายเวทย์ของ ลิงค์

 

ความจริงแล้วนักเวทย์เลเวล 4 โดนกดดันและไล่ตอนให้เข้าสู้สถานะป้องกันด้วยนกหวีดของ ลิงค์

 

ในตอนที่นกหวีดพุ่งมาหาเขา เขาไม่มีเวลาที่จะร่ายเวทย์โจมตี สิ่งที่เขาทำได้ทั้งหมดคือร่ายเวทย์ป้องกัน

 

พรึ่บ!ในทันใดนั้น โล่ฟองอากาศโปร่งแสงคล้ายกับคริสตัลก็ปรากฏขึ้นรอบๆตัวของนักเวทย์

 

เวทย์ป้องกันกายภาพ:โล่รอบทิศทาง

เวทย์เลเวล1

ผล:สร้างสนามพลังที่จะผลักทุกอย่างที่พยายามจะทะลุผ่านโล่ ยิ่งความเร็วของวัตถุที่เจาะทะลุมีมากเท่าไหร่ พลังการผลักก็จะมากขึ้นเท่านั้น

 

นกหวีดของ ลิงค์ ปะทะกับโล่ทันทีที่มันปรากฏขึ้นและช้าลงอย่างเห็นได้ชัดในตอนที่มันเข้าสู่สนามพลัง ในเสี้ยววินาทีต่อมา ตอนที่มันอยู่ห่างจากนักเวทย์เพียงแค่ฟุตเดียว ความเร็ว 600 ฟุตต่อวินาทีนั้นก็ช้าลงจนเกือบจะหยุดอยู่กับที่

 

ในที่สุด มันก็หยุดในระยะประมาณ 4 นิ้วก่อนถึงตัวของนักเวทย์ เขาสามารถเห็นพื้นผิวของหนามเหล็กที่กำลังหมุนอยู่ได้ ว่ามีรูนจำนวนมากส่องแสงสีแดงอย่างต่อเนื่อง และดูไม่เสถียรอย่างมาก

 

จากการสังเกต นักเวทย์ผ้าคลุมดำรู้ว่ามันซับซ้อนและเวทย์ระดับสูงนี้จะโจมตีใน 2 ระดับ ระดับแรกคือการกระแทกทางกายภาพและต่อมาจะเป็นการระเบิด!

 

“บ้าเอ้ย!” นักเวทย์สบถออกมา เขารู้ว่าแรงระเบิดนั้นจะถูกปล่อยและไม่เพียงแต่ต้องจัดการกับไฟเท่านั้นแต่เขาจะต้องพบกับเศษเหล็กจำนวนมากที่จะกระจายออกในทุกทิศทางจากการระเบิด เขารู้ว่าโล่ของเขานั้นไม่เพียงพอต่อการป้องกันเศษเหล็กอย่างแน่นอน

 

จากนั้นนักเวทย์ผ้าคลุมดำก็ได้แสดงพลังที่แท้จริงของนักเวทย์เลเวล 4 — ด้วยเวลาเพียงน้อยนิด เขาได้ร่ายเวทย์เลเวล 0 โล่ป้องกันพื้นฐานใส่ตัวเขาอย่างรวดเร็ว มันเป็นแค่เวทย์เลเวล 0 ดังนั้นเขาจึงร่ายมันได้เร็วมาก ความจริงแล้วเขาไม่ได้ร่ายมันแค่ครั้งเดียว แต่ในเวลาอันสั้นเขาได้ร่ายมันใส่ตัวเองถึง 5 ครั้ง ในตอนก่อนที่นกหวีดจะระเบิด

 

ปัง! เศษเหล็กกระจายไปทั่วทิศทาง พวกมันส่วนใหญ่ถูกโล่ปัดออก แต่บางส่วนก็เจาะทะลุโล่มาได้และโดนตัวนักเวทย์ เปลวเพลิงกระจายจากการระเบิดในทุกทิศทางเช่นกัน แต่ว่านักเวทย์มีโล่และผ้าคลุมของเขาป้องกันอยู่ ไม่มีเปลวเพลิงไปถึงร่างกายของนักเวทย์แม้แต่นิดเดียว

 

เสียงร้องแห่งความเจ็บปวดดังออกมาจากปากของนักเวทย์อย่างไม่สามารถหยุดได้ เขาจะต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นแหวนที่มือขวาของเขาก็เปล่งแสงและร่างกายของนักเวทย์ก็ถูกห่อหุ้มไปด้วยแสงสีขาว 0.1 วินาทีต่อมา นักเวทย์ก็ได้หายไปในอากาศและโผล่ขึ้นมาอีกครั้งในระยะที่ห่างออกไป 100 หลา!

 

เขาได้ใช้เวทย์เทเลพอร์ทระยะสั้น-เบิร์ส!

 

ปัง! นกหวีดอีกลูกระเบิดในที่ๆเขาอยู่เมื่อตะกี้ ถ้าเกิดว่าเขาหนีช้าไปกว่านี้แค่วินาทีเดียว เขาก็น่าจะกลายเป็นศพไปแล้วในตอนนี้

 

หลังจากที่เขาอยู่ห่างออกไป 300 ฟุต คทาของนักเวทย์ผ้าคลุมดำก็ส่องแสงอีกครั้ง และใน 1.8 วินาทีต่อมา สัตว์ที่มีพลังเวทมนตร์มหาศาลก็เริ่มก่อตัวขึ้น-เหยี่ยวขี้เถ้า

 

เหยี่ยวขี้เถ้า

เวทย์เลเวล3

ผล:เหยี่ยวตัวขนาดมหึมาที่จะเคลื่อนย้ายผู้ร่ายด้วยความเร็วดั่งหงส์ป่า

 

ควันสีเทาพวยพุ่งออกมาจากอัญมณีสีฟ้าที่ปลายคทามิธริลของนักเวทย์ผ้าคลุมดำ จากนั้นควันก็ผสานรวมเข้ากับฝุ่น หญ้า กิ่งไม้ และแสงอื่นๆเกิดขึ้นเป็นเหยี่ยวขนาดยักษ์ จากนั้นนักเวทย์ผ้าคลุมดำก็ขึ้นไปขี่หลังของมัน เหยี่ยวยักษ์ได้กระพือปีกและบินขึ้นไปบนท้องฟ้า

 

เพื่อหลบจากนกหวีดของ ลิงค์ เหยี่ยวได้บินเปลี่ยนเส้นทางเป็นระยะๆ ขึ้นบนลงล่าง ซิกแซกซ้ายขวา พอมันบินไปไกลกว่า 1000 ฟุตเพียงเท่านั้น หรือหมายถึงพอพวกเขาปลอดภัยจากระยะการโจมตีของ ลิงค์ มันก็เร่งความเร็วและรีบพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

 

นักเวทย์ผ้าคลุมดำหนีไปแล้ว!

 

ไม่มีทางที่จะตามนักเวทย์ไปได้ในตอนนี้ ดังนั้นทั้งหมดที่ ลิงค์ ทำได้คือจ้องไปที่นักเวทย์ที่บินหนีไปด้วยนกยักษ์

 

ในตอนที่นักเวทย์ผ้าคลุมดำหนีไป คริสตัลโกเล็มก็ยอมแพ้และหยุดการโจมตีในทันที มันไม่ได้พังทลายลงแต่มันกลับยืนนิ่งๆไม่ขยับแทน

 

แจ็คเกอร์ ถอยจากเจ้ายักษ์ในทันทีและถอนหายใจเฮือกใหญ่ เหงื่อไหลท่วมหน้าผากของเขาเหมือนกับว่าเขาไปยืนตากฝนมา สวรรค์รู้ดีว่าการต่อสู้นี้เป็นยังไงสำหรับ แจ็คเกอร์ และเขาอยู่ในสภาพใกล้ตายมากแค่ไหน

 

ยังไงก็ตาม มันไม่ได้แย่ไปทั้งหมด เขารู้สึกว่าการต่อสู้ที่รุนแรงทำให้เขาได้ปลดปล่อยความสามารถของตัวเองจากความคิดของเขาเองที่คอยรั้งเขาเอาไว้ ตอนนี้เขามีความมั่นใจเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ว่าเขาจะสามารถขึ้นสู่เลเวล 4 ได้

 

ลิงค์ ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเช่นกัน เขาจ้องไปที่ร่างของนักเวทย์ที่ค่อยๆหายลับฟ้าไป

 

“พวกเราถูกดาร์กเอลฟ์หลอกแล้ว!” ลิงค์ พูดพลางหัวเราะอย่างขมขื่น

 

ในตอนที่เปลือกเหล็กของนกหวีดของ ลิงค์ เจาะทะลุร่างกายนักเวทย์หลังจากที่มันระเบิด ลิงค์ สังเกตุเห็นว่าเลือดที่กระเด็นออกมานั้นเป็นสีน้ำเงินเข้มปนกับสีม่วง—ซึ่งนั่นเป็นลักษณะของเลือดของดาร์กเอลฟ์

 

มันน่าสงสัยเล็กน้อยที่เหตุการณ์ที่สถาบันเวทมนตร์อีสโควฟเกิดขึ้นครึ่งปีหลังจากโศกนาฏกรรมพระจันทร์สีเลือด ซึ่งนั่นเป็นตอนที่พวกดาร์กเอลฟ์ลอบเข้ามาเพื่อก่อเรื่องชั่วรร้าย

 

สุดท้าย ลิงค์ ก็ได้กลับเข้าสู่หน้าอินเตอเฟสและเช็คแจ้งเตือนล่าสุด เขารู้สึกกระวนกระวายใจในทันทีที่เห็นเนื้อหาของภารกิจอันใหม่ที่เปิดขึ้นมา

 

ภารกิจเปิดใช้งาน:สืบหาเบาะแส

รายละเอียดภารกิจ:สืบหาสมาชิกสาขาของสมาคมและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับนักเวทย์ดาร์กเอลฟ์เพิ่มเติม

รางวัลตอบแทน:20แต้มโอมนิ

 

นักเวทย์ดาร์กเอลฟ์ต้องการอะไรกันแน่นะ? ลิงค์ รู้สึกหวาดหวั่นอย่างมากเพราะว่าจากที่เขาเรียนรู้มาจากธรรมชาติของเกมและเหตุการณ์เมื่อเร็วๆนี้ เขารู้ว่านักเวทย์ดาร์กเอลฟ์ไม่ได้มาเล่นๆแน่

 

ช่างมันเถอะ ฉันเหนื่อยเกินไปที่จะคิดอะไรในตอนนี้ ฉันจะรอนายพลแอนเดอร์สันมาแล้วพวกเราค่อยตัดสินใจว่าจะทำอะไรต่อไปดี

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset