Advent of the Archmage – ตอนที่ 72: โล่หนาม, ดาบวายุ และธนูปลิดชีพ

ไม่มีร้านค้าร้านไหนในเมืองริเวอร์โควฟที่จะเปิดขายโลหะที่มีค่าและมีราคาแพงอย่างมิธริลซึ่งโดยปกติมักจะใช้กับอักขระเวทย์มนตร์ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับ แจ็คเกอร์ เพราะเขามีลู่ทางของเขาเอง

 

เวลาผ่านไปเพียงแค่หนึ่งวันเท่านั้นหลังจากที่ ลิงค์ อธิบายทุกๆอย่างเกี่ยวกับการเสริมพลังให้ แจ็คเกอร์ ฟัง, แต่เขาก็สามารถหาแร่มิธริลความบริสุธิท์สูงน้ำหนัก 10 ปอนด์ ที่เก็บเนื้อเมธริลไว้มากกว่า 60% มาได้ เขาใช้เงินไป 2300 เหรียญทองกับมิธริล 6 ปอนด์— ซึ่งมันไม่ใช่การต่อรองที่แย่เลย

 

เหตุผลที่เขาสามารถหามาได้มากขนาดนี้ในเวลาอันสั้นเช่นนี้ก็เพราะการฟอกมิธริลนั้นมีกระบวนการที่ซับซ้อนอย่างเหลือเชื่อ โลหะที่เก็บมานาเอาไว้ชนิดนี้มีจุดหลอมละลายที่สูงมาก, ดังนั้นไฟธรรมดาจึงไม่มีความร้อนพอที่จะสกัดพวกมัน

 

แต่ถ้าคุณเป็นนักเวทย์, เรื่องมันก็จะง่ายขึ้น ทั้งหมดที่ ลิงค์ ต้องทำก็คือใช้เวทย์ปลดออกและในเวลาไม่นาน, มิธริลบริสุทธิ์ก็ถูกสกัดออกมาจากแร่, แล้วเขาก็ได้มิธริลมาทั้งหมด 6.2 ปอนด์

 

จากนั้น, เขาก็เอาโล่ของ แจ็คเกอร์, ดาบของ ลูซี่ และธนูของ กิลเดิร์น มาแล้วเดินตรงกลับเข้าไปในห้องของเขาและเริ่มปรับปรุงพวกมัน

 

“ขอเวลาฉันสามวันนะ” นี่เป็นคำพูดสุดท้ายที่พวกเขาได้ยินจากเขาก่อนที่เขาจะหายเข้าไปในห้อง

 

ข้างนอกห้อง, แจ็คเกอร์ กับคนที่เหลือมองหน้ากัน, ไม่มีใครรู้ว่าอาวุธของพวกเขาจะเปลี่ยนไปแบบไหนในอีกสามวันข้างหน้านี้

 

“ข้าสงสัยจังว่าการได้ควงโล่เวทย์มนตร์มันจะรู้สึกยังไง” แจ็คเกอร์ พูดในขณะที่ถูมือของเขาอย่างจริงจังด้วยความคาดหมายในสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับโล่ของเขา

 

“ใครจะไปรู้หล่ะ?” ลูซี่ พูด “ฉันต้องไปฝึกดาบ” เธอหยิบดาบเหล็กที่เอาไว้ใช้ฝึกของเธอขึ้นมาแล้วเดินออกไปข้างนอกและเริ่มฝึกกับหุ่นไม้ที่อยู่ข้างนอกใกล้กับซุ้มที่พัก

 

ดูเหมือนว่าเธอจะจดจ่อกับการฝึกฝน, แต่ในความเป็นจริง, วันนี้เธอรู้สึกว่าวุ่นใจไม่ใช่น้อยและมันก็ส่งผลกับศักยภาพในการฝึกของเธอ โดยปกติ, เธอสามารถแทงทะลุหุ่นไม้ได้อย่างรวดเร็ว และเก้าในสิบครั้งเธอจะสามารถแทงทะลุหัวใจของมันอย่างแม่นยำได้อย่างง่ายดาย แต่วันนี้, เธอสามารถทำได้แค่ห้าในสิบครั้งเท่านั้น

 

โถ่, ลิงค์ อายุแค่ 17 เองนะ, แล้วเขาก็ยังเป็นเด็กใสซื่อบริสุทธิ์อยู่เลย, เขาอาจจะถูกรังแกในสถาบันก็ได้ ลูซี่ รู้ว่า ลิงค์ จะเข้าไปเรียนที่สถาบันในเร็วๆนี้, และเธอก็อดเป็นห่วงเขาไม่ได้

 

กิลเดิร์น เป็นคนๆเดียวที่ใจเย็นที่สุดและมีสมาธิที่สุดในบรรดาพวกเขาทั้งสาม จิตวิญญาณของเขาถูกกระตุ้นจากการต่อสู้อย่างดุเดือดกับ แอนดี้ และดาร์กเอลฟ์นักเวทย์ เขาไม่อยากจะรู้สึกหมดหนทานเมื่อต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามที่แข็งแกร่งเหมือนกับที่เขาทำในวันนั้น, ซึ่งตั้งแต่นั้นมา, เขาก็ฝึกฝนตัวเองเหมือนกับคนบ้า, พยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะพัฒนาทักษะการยิงธนูของเขา แล้วเขาก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมด้วย ศักยภาพของเขาแทบจะไม่พัฒนาแล้วไม่ว่าเขาจะพยายามมากขนาดไหน, แต่ช่วงนี้เขาทำให้มันคืบหน้าได้จริงๆ

 

และแล้ว, ช่วงเวลาสามวันก็ผ่านไป

 

ในตอนเที่ยงวันของวันที่สาม, ลิงค์ เดินหาวออกมาจากห้องของเขาและสังเกตุเห็นคนใช้กำลังกวาดทางเดินอยู่

 

“บอก จอน ที่อยู่ในครัวให้ทำอะไรให้ฉันกินหน่อยสิ, ฉันหิวแล้ว” ลิงค์ สั่ง

 

“ได้ค่ะ, นายท่าน” คนใช้พูดก่อนที่จะรีบไปที่ห้องครัว

 

“แล้วก็ถ้าเธอเห็น แจ็คเกอร์ กับคนที่เหลือระหว่างทาง, บอกพวกเขาให้มาหาฉันด้วยนะ อาวุธของพวกเขาพร้อมแล้ว” ลิงค์ พูดเสริมก่อนที่คนใช้จะจากไป คนใช้พยักหน้าด้วยความเคารพเป็นการตอบสนอง

 

ไม่กี่นาทีต่อมา, แจ็คเกอร์, ลูซี่, และ กิลเดิร์น ก็มายืนอยู่ที่หน้าห้องของ ลิงค์, ลูซี่ กำลังถือจานอาหารอยู่ในมือของเธอ—มันคือเนื้อแกะย่าง, อาหารที่เขาชอบกินที่สุด

 

ลิงค์ จ้องไปที่จานอาหาร เขาคว้ามันจากมือของ ลูซี่ และรีบยัดอาหารเข้าปาก ในเวลาเดียวกันนั้น, เขาก็ชี้ไปที่ห้องแล้วพูด “อาวุธของพวกนายอยู่ข้างใน, พวกนายเข้าไปหยิบเองได้เลย”

 

ทั้งสามเข้าไปข้างในและเห็นตูวางของที่ทำด้วยไม้อยู่กลางห้องของ ลิงค์ ของที่วางอยู่มีโล่, ดาบ, และธนู เมื่อสามวันก่อน, อาวุธพวกนี้ยังดูเรียบๆและธรรมดา, แต่ตอนนี้, พวกเขาไม่สามารถจำพวกมันได้เลยแม้ว่าจะเป็นเจ้าของก็ตาม

 

โล่เหล็กหนักๆกลายเป็นสีดำเข้ม, และพื้นผิวของมันในตอนนี้ก็ปกคลุมด้วยหนามเหมือนกับเม่น ส่วนในด้านของดาบ, มันดูเหมือนกับถูกปกคลุมด้วยแสงสีขาว ในตอนที่สังเกตุดูใกล้ๆจะเห็นว่าแสงสีขาวนี้เกิดขึ้นจากสายลมหมุนเล็กๆ และสุดท้าย, ธนูไม้ธรรมดาๆของ กิลเดิร์น ตอนนี้มันได้กลายเป็นสีดำบริสุทธิ์พร้อมกับเส้นออร่าสีแดงที่กำลังวิ่งผ่านพื้นผิวของมันเหมือนกับเส้นเลือด

 

ดวงตาของทหารรับจ้างทั้งสามเบิกกว้างในตอนที่พวกเขาเห็นอาวุธของพวกเขา แค่ลักษณะภายนอกของพวกมันเพียงอย่างเดียวก็สามารถสร้างความตกใจและความรู้สึกหวาดกลัวให้กับทุกๆคนได้

 

ลิงค์ ยืนพิงกำแพงข้างประตูกำลังเคี้ยวเนื้อแกะย่าง เขายิ้มแล้วพูด “แจ็คเกอร์, ฉันเพิ่มเวทย์หนามและบาเรียป้องกันระดับต่ำเข้าไปในโล่ของนาย—อักขระเวทย์ที่ถูกฝังอยู่ข้างในโล่จะช่วยทำให้มันแข็งแกร่งขึ้นและปกป้องนายจากแรงกระแทก ถ้านายใช้โล่ป้องกันการโจมตี, ฝ่ายตรงข้ามจะรู้สึกว่าถูกสะท้อนการโจมตีจากหนาม ซึ่งส่วนนี้จะใช้งานได้ประมาณ 100 ร้อยครั้ง อีกส่วนก็บาเรียป้องกันมันจะช่วยปกป้องนายจากเวทย์มนตร์ที่ต่ำกว่าเลเวล 2 แล้วฉันก็ได้ใส่เวทย์ฟื้นฟูเข้าไปในโล่ด้วย, เพราะฉะนั้นต่อให้โล่ได้รับความเสียหายด้วยการโจมตีทางกายภาพ, มันก็จะฟื้นฟูในเวลาสามวัน, แล้วจะกลับมาอยู่สภาพเดิม, ดังนั้นนายสามารถใช้โล่นี้ได้เป็นเวลาหนึ่งปี หลังจากหนึ่งปีผ่านไป ฉันจะเติมมานาของฉันเข้าไปใหม่เพื่อกระตุ้นคุณสมบัติเวทย์มนตร์ของโล่, แต่ฉันเดาว่าตอนนั้นนายจะได้โล่ใหม่แล้วนะ”

 

เวทย์มนตร์ฟื้นฟูอยู่ในสาขาการเสริมพลัง—มันใช้เพื่อขยายคุณสมบัติเวทย์มนตร์ของอุปกรณ์และอาวุธ ในโลกนี้, ผลของเวทย์มนตร์ที่ใส่เข้าไปในอาวุธจะหายไปตามกาลเวลา อาวุธเดียวที่จะไม่หายไปตามกาลเวลาก็คืออาวุธที่ผ่านการเสริมพลังและเกิดความศักดิ์สิทธิ์หรืออาวุธศักดิ์สิทธิ์ (หรือพูดอีกนัยนึงก็คือ, อุปกรณ์ที่อยู่ในระดับตำนาน)

 

ทักษะการเสริมพลังของ ลิงค์ ในตอนนี้อยู่แค่ในระดับปกติ, และถึงแม้ว่าเขาจะมีประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในการสร้างคทาของตัวเอง, ทักษะของเขาก็ยังคงห่างไกลจากระดับที่จำเป็นในการผลิตอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์หรืออาวุธศักดิ์สิทธิ์

 

แต่ถึงกระนั้น, แจ็คเกอร์ ก็รู้สึกดีใจมากๆกับโล่ที่ถูกปรับปรุงขึ้นมาใหม่ เขาหยิบโล่แพรวพราวขึ้นมา, โบกมันไปมาอยู่สองสามครั้ง, และพูดออกมา “นี่เป็นโล่ที่ดีที่สุดที่ผมเคยถือเลยครับ!”

 

เขาพบว่าไม่เพียงแค่โล่จะถูกเสริมพลังด้วยเวทย์มนตร์เท่านั้น, แต่รูปร่างและคุณสมบัติของมันก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน พื้นผิวที่หยาบกระด้างได้หายไปและถูกแทนที่ด้วยพื้นผิวที่ราบเรียบ, อีกทั้งตรงศูนย์กลางของมันก็ยังถูกปรับให้พอดีกับมือเป็นอย่างดี, แทบจะเหมือนกับว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของแขนเขา

 

“นายท่าน, มันมีชื่อไหมครับ?” แจ็คเกอร์ ถาม

 

“ถ้านายไม่ว่าอะไรหล่ะก็, ฉันขอตั้งชื่อมันว่าโล่หนาม!” ลิงค์ พูดพลางหัวเราะ

 

“เป็นชื่อที่ดีอะไรอย่างนี้” แจ็คเกอร์ จับโล่ด้วยสองมืออย่างระมัดระวังราวกับว่ามันทำมาจากแก้ว, แล้วเขาก็กลัวว่าเขาจะทำมันหักหรือได้รับความเสียหาย

 

ลูซี่ หยิบดาบของเธอขึ้นมาเช่นกันและในตอนที่มันอยู่ในมือของเธอ, ดวงตาของเธอก็สดใสขึ้นมา ดาบเบามากจนเหมือนกับว่ามันไม่มีน้ำหนักเลย, และพอถืออยู่ในมือ, มันก็ให้ความรู้สึกราวกับว่ามันผสานเข้ากับร่างกายของเธอ—ราวกับว่าดาบเป็นส่วนที่ยื่นออกมาจากแขนของเธอ

 

“ลองแทงมันไปข้างหน้าดูสิ” ลิงค์ พูด, ขณะที่เขากัดเนื้อแกะย่างอีกคำนึง มันเป็นความจริงที่ว่ามันเป็นอาหารจานโปรดของเขา และมันก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่เขาจะไม่ได้กินมันอีกพอเขาเข้าไปเรียนที่สถาบัน

 

ลูซี่ ทำตามคำแนะนำและแทงดาบไปข้างหน้า

 

ฟู่ววว! ลมหมุนเล็กๆที่อยู่รอบๆคมดาบผสานกันอย่างกระทันหันและกลายเป็นลมกรดขนาดใหญ่ลูกนึง มันพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับการแกว่งดาบและผลของลมกรรโชกก็รุนแรงพอที่จะทำให้เก้าอี้ตัวนึงกระเด็นไปไกลถึงแปดฟุต

 

“ทำมันอีกครั้งนึงสิ” ลิงค์ พูด

 

ลูซี่ ทำแบบเดิมซ้ำอีกครั้ง, และในขณะที่เธอแทงดาบ, กริดโปร่งแสงก็พุ่งออกมาจากดาบและยิงผ่านอากาศ มันพุ่งไปโดนกำแพงที่อยู่ห่างออกไป 12 ฟุต ดาบลมได้ข่วนกำแพงหิน, ทิ้งลอยไว้บนมันและส่งฝุ่นกระจายไปทั่วทุกที่ ถ้าพลังเช่นนี้ตรงไปที่มนุษย์เป็นๆ, มันคงจะทำความเสียหายได้อย่างมาก

 

ลูซี่ เชื่อว่าความช่วยเหลือพิเศษจากลมหมุนนี้จะทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้นในการต่อสู้และช่วยชดเชยพลังทางกายภาพที่ขาดหายไปของเธอ

 

“นี่มันอาวุธศักดิ์สิทธิ์นี่!” ลูซี่ อุทานขึ้นมา, สัมผัสดาบที่อยู่ในมือของเธอด้วยความรัก

 

“มันยังไกลเกินกว่าที่จะเรียกว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์นะ เธอเรียกมันว่าดาบวายุก็แล้วกัน” ลิงค์ ตอบกลับ

 

“ดาบวายุหรอ? เป็นชื่อที่เข้ากันอะไรอย่างนี้” ลูซี่ เก็บดาบเข้าไปในฝักอย่างระมัดระวัง เหมือนกับที่ แจ็คเกอร์ ทะนุถนอมโล่ใหม่ของเขา, หัวใจของ ลูซี่ คงจะสลายถ้ามีรอยข่วนซักรอยนึงปรากฏขึ้นบนดาบ

 

และสุดท้าย, มันก็ถึงตาของ กิลเดิร์น

 

เขาหยิบธนูขึ้นมา, ใส่ลูกธนู, และดึงสายธนู ทันใดนั้น, ออร่าสีแดงบนธนูก็ไปรวมกันที่ปลายลูกศร— นี่ทำให้เขาตกใจ, และผ่อนสายธนู, แล้วออร่าสีแดงก็ไหลกลับเข้าไปในธนู

 

“ไม่ต้องกลัว ลองยิงมันดูสิ เอางี้ไหมลองเล็งไปที่ต้นไม้ที่อยู่ข้างนอกหน้าต่างจากตรงนี้?” ลิงค์ พูด

 

กิลเดิร์น พยักหน้า, เดินไปที่หน้าต่างจากนั้นก็ยิงธนูไปที่ต้นไม้ในทันที

 

ชู่ววววว! ในเวลาต่อมา, กิลเดิร์น ก็ได้ยินเสียงดังมาจากต้นไม้ แต่ธนูที่เขายิงออกไปกลับหายไป

 

“ลูกธนูหายไปไหนครับ?” กิลเดิร์น ที่ตกตะลึงถามขึ้น

 

“ข้างในลำต้นของต้นไม้ต้นนั้น” ลิงค์ พูด “นายเห็นออร่าสีแดงที่ต้นไม้ไหม?”

 

กิลเดิร์น พยักหน้า, ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสับสน

 

“ฉันใส่เวทย์เข้าไปในธนูเพื่อทำให้เส้นทางของลูกศรของนายคงที่ แล้วฉันก็ใส่เวทย์, ความคมลงไปด้วย ด้วยเวทย์มนตร์พวกนี้, ลูกศรของนายจะแม่นยำมากๆ, และมันก็จะสามารถเจาะได้แม้แต่พื้นผิวที่แข็งที่สุด ฉันขอเรียกมันว่าธนูปลิดชีพก็แล้วกัน”

 

กิลเดิร์น กอดธนูของเขาในทันที, แล้วคิดว่าเขาคงไม่ได้มีส่วนร่วมกับมัน เขาคิดว่ากระเป๋าสะพายหนังกวางเก่าๆที่เขาใช้เก็บธนูของเขาไม่ดีพอสำหรับธนูคันนี้อีกต่อไปแล้ว, ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะใช้เงินบางส่วนซื้อกระเป๋าสะพายขนมิ้งค์แทน

 

ทหารรับจ้างเหล่านี้เป็นคนบ้านนอก ดังนั้นมันจึงเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นหรือสัมผัสอาวุธเวทย์มนตร์ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องแปลกใจเลยที่พวกเขาจะหวงแหนพวกมันและปฏิบัติกับอาวุธของพวกเขาด้วยความใส่ใจอย่างเต็มที่

 

“เอาหล่ะ, ตอนนี้กลับไปทำงานได้แล้ว ฉันจะพักผ่อน” ลิงค์ โบกมือของเขาเพื่อไล่ผู้ติดตามของเขา และเขาเองก็กินอาหารเสร็จแล้ว

 

เขาเหนื่อยมากจริงๆ, ดังนั้นหลังจากที่กินอาหารอย่างรวดเร็ว, เขาก็ล้มตัวลงบนเตียงและหลับไป

 

เขานอนหลับฝันดี ในตอนที่เขาตื่นขึ้นมา, มันก็เป็นตอนเช้าของอีกวันนึงแล้ว จิตวิญญาณของเขาในตอนนี้กระปี้กระเปร่าขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ เขาลงมาที่ห้องโถงหลักชั้นล้างแล้วพบว่ามีอาหารเช้าน่ารับประทานจัดเรียงรายไว้บนโต๊ะอาหารและ แจ็คเกอร์ กับคนที่เหลือก็กำลังรอเขาอยู่

 

ลิงค์ ทักทายพวกเขา, จากนั้นก็นั่งลงและเริ่มกิน อาหารเช้าแสนอร่อยได้เตรียมไว้อย่างถูกต้องตามความชอบของเขา, ดังนั้นเขาจึงมีความสุขในทุกๆคำ

 

ขณะที่พวกเขากำลังยุ่งกับการรับประทานอาหาร, ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ลิงค์ เงยหน้าขึ้นแล้วเห็นอัศวินคนนึงก็เดินเข้ามาข้างในกระท่อม เขาสวมชุดเกราะเหล็กเต็มตัวที่เต็มไปด้วยรอยขีดข่วนและรองเท้าเหล็กทั้งสองข้างของเขาก็เต็มไปด้วยดินโคลน พอเขาเข้ามาข้างในแล้วเห็น ลิงค์, เขาก็ถอดหมวกเหล็กออกในทันที, เผยให้เห็นใบหน้าที่เหนื่อยล้า เขาคืออัศวินของอาณาจักร แอนเดอร์สัน

 

“ท่าน ลิงค์, พวกเราพบรังของพวกสมาคมแล้วครับ!”

 

ช่างเป็นเวลาที่เหมาะเจาะอะไรขนาดนี้!

 

ลิงค์ พยักหน้าจากนั้นก็ทักทายอัศวิน “ท่านนายพล, มากินอาหารเช้ากับพวกเราแล้วทำความสะอาดชุดเกราะของท่านก่อนเถอะ หลังจากนั้น, พวกเราทุกคนจะออกเดินทางไปหาพวกสมาคมด้วยกัน”

 

แอนเดอร์สัน รีบกลับมาในชั่วข้ามคืนเพราะมันเป็นคำสั่งจากองค์หญิง แอนนี่ ก่อนที่เธอจะไปเมืองหลวง ซึ่งเขาก็รู้สึกเหนื่อยและหิวโหยอย่างเต็มที่, ดังนั้นเขาจึงรับคำเชิญของ ลิงค์ อย่างยินดีมากๆ เขาเดินเข้ามาข้างในห้องโถงหลัก, ขอบคุณ ลิงค์, แล้วรีบกระเดือกอาหารบนโต๊ะอย่างรวดเร็วในทันทีที่ก้นของเขาติดเก้าอี้

 

ในเวลานี้, ลิงค์ กับพวกทหารรับจ้างกินอาหารกันจนอิ่มแล้ว

 

“ถ้างั้นพวกเราไปเตรียมตัวให้พร้อมกันเถอะ” ลิงค์ พูด

 

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset