Advent of the Archmage – ตอนที่ 93: ขอเวลาฉันสิบวัน

เช้าวันต่อมา, เดเร็ค ได้ประกาศออกมาว่า ลิงค์ จะมีหน้าที่รับผิดชอบในการสร้างคำภีร์ด้วยสีหน้าที่เบิกบาน

 

เขาไต่ระดับขึ้นมาสูงขึ้นเล็กน้อยนับตั้งแต่ที่เขาได้กลายเป็นนักเวทย์เลเวล 3 อย่างเป็นทางการ ลิงค์ เองก็ได้แสดงพรสวรรค์ของเขาในการเขียนคำภีร์ แม้แต่ วอร์วิค, ที่กำลังจะออกจากหอคอยเวทย์มนตร์, ก็ยังแนะนำให้แต่งตั้ง ลิงค์ เป็นตัวแทนของเขา

 

ดังนั้น, แม้ว่าจะมีคนคัดค้านอยู่บ้าง, แต่การแต่งตั้งก็ค่อนข้างที่จะราบลื่น

 

จากนั้น วอร์วิค ก็ส่งมอบหน้าที่ความรับผิดชอบทั้งหมดของเขาให้กับ ลิงค์

 

ขณะที่ วอร์วิค อธิบายงาน, ลิงค์ ก็ได้รู้ผลประโยชน์สองอย่างที่เขาจะได้รับ

 

อย่างแรกคือลิสท์รายชื่อที่เขากำลังจะได้รับ เขาจะสามารถติดต่อประสานงานกับพ่อค้าคำภีร์เวทย์มนตร์ได้โดยตรงโดยไม่ต้องผ่านบุคคลที่สาม ซึ่งนี่คงจะช่วยเขาได้อย่างมากสำหรับแผนการในอนาคตของเขาในการหาเหรียญทองเพิ่มขึ้น

 

อย่างที่สองก็คือ, เขาจะมีหน้าที่รับผิดชอบในการซื้อวัตถุดิบสำหรับการสร้างคำภีร์เวทย์มนตร์ ซึ่งนี่รวมทั้งหอคอยเวททย์มนตร์ทั้งหมดจากวัสดุพื้นฐานไปจนถึงวัสดุคุณภาพสูง! นักเวทย์เต็มตัวมักจะหยิ่งเกินกว่าที่จะมาข้องเกี่ยวกับธุระแบบนี้ ดังนั้น, พวกเขาจึงมักจะให้นักเวทย์ที่น่าเชื่อถือที่มาสถานะต่ำกว่าเป็นคนจัดการ

 

จากรายการพวกนี้, ลิงค์ ได้รับข้อมูลมากมายเกี่ยวกับหอคอยเวทย์มนตร์

 

หลังจากที่ วอร์วิค อธิบายจบ, ลิงค์ ก็นั่งลงและเริ่มตรวจสอบการซื้อขายที่ผ่านมาของหอคอยเวทย์มนตร์ พวกมันได้ถูกบันทึกรายละเอียดเอาไว้มากมายลงไปในสมุดบันทึกเล่มหนาๆ

 

เขาพิจารณาแต่ละหน้าและพบสิ่งที่เขากำลังตามหาภายในเวลาไม่กี่นาที

 

วอร์วิค ซื้อหนังวัวทาริค 30 แผ่นเป็นจำนวนรวมทั้งหมดของสามครั้งในช่วง 50 วันที่ผ่านมานี้ หนังชนิดนี้ใช้ในการสร้างคำภีร์เวทย์มนตร์เลเวล 5 และสูงกว่าเท่านั้น อย่างไรก็ตาม, จำนวนของหนังวัวทาริคที่หอคอยเวทย์มนตร์ซื้อไปนั้นดูไม่ปกติเลย

 

คำภีร์เวทย์มนตร์ระดับสูงต้อองการพลังเวทย์จำนวนมากและสร้างยากมากๆ นักเวทย์เลเวล 6 สามารถสร้างได้แค่แผ่นเดียวเท่านั้นในช่วงเวลาหนึ่งเดือน เพราะฉะนั้นจึงไม่มีความจำเป็นเลยที่จะซื้อพวกมัน 30 แผ่นในทุกๆเดือน

 

ถ้าพวกมันถูกใช้ในการสร้างคำภีร์เวทย์มนตร์จริงๆ, ก็คงจะมีจำนวนคำภีร์เวทย์มนตร์ที่บ้ามากๆในหอคอยเวทย์มนตร์ของ เบล อย่างไรก็ตาม, เห็นได้ชัดว่า เบล ไม่ได้มีเรี่ยวแรงและเวลาในการสร้างคำภีร์พวกนี้

 

ถ้างั้นทำไม เบล ถึงสั่งหนังวัวทาริคมามากขนาดนี้หล่ะ? วอร์วิค อาจจะไม่รู้แต่ ลิงค์ มั่นใจว่าเขารู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น

 

การผลิตหนังวัวทาริคนั้นเกิดขึ้นที่ที่ราบทาริคทางตะวันตก หนังพวกนี้มาจากสัตว์เวทย์มนตร์พื้นเมืองในพื้นที่แถบนั้น เหตุที่มันถูกเรียกว่าหนังวัวก็เพราะหน้าตาของมัน, ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมันไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับวัวเลย

 

สัตว์เวทย์มนตร์พวกนี้มีความสัมพันธ์กับน้ำและทนต่อภัยแล้งและน้ำท่วม หนังของพวกมันโดยหลักๆแล้วจะใช้ในการสร้างคำภีร์เวทย์มนตร์ระดับสูง, แม้ว่าสะสารบางอย่างจะสามารถสกัดได้จากผิวหนังของพวกมันก็ตาม อย่างไรก็ตาม, การใช้งานแบบหลังนั้นไม่ได้เป็นที่รู้จักกันและไม่ค่อยได้ใช้กันด้วย

 

สะสารที่ว่าเป็นที่รู้จักกันในชื่อกาวแห่งความตาย; มันถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในเวทย์มนตร์ปลุกชีพเพื่อปะติดปะต่อร่างกายส่วนต่างๆเข้าด้วยกัน

 

แม้ว่าหนังวัวทาริคจะผ่านกรรมวิธีทางการเล่นแร่แปรธาตุมาแล้ว, แต่กาวแห่งความตายก็ยังสามารถสกัดออกมาจากมันได้!

 

เขาลงความเห็นได้ว่า เบล กำลังทดลองกับเวทย์มนตร์แห่งความมืดตั้งแต่ตอนที่เห็นรากวิญญาณป่าเงียบสงบในห้องของ เดเร็ค แล้ว อย่างไรก็ตาม, ด้วยหลักฐานชิ้นนี้, เขาสามารถทำให้มันแคบลงไปอีกโดยการลงความเห็นว่าเวทย์มนตร์ที่ เบล กำลังทดลองอยู่นั้นคือเวทย์ปลุกชีพ!

 

“เบล, นายอยากจะเป็นอมตะจริงๆสินะ! ช่างโง่อะไรอย่างนี้!” ลิงค์ ปิดหนังสืออย่างสุภาพแล้วเยาะเย้ย

 

วิธีเดียวที่จะกลายเป็มอมตะก็คือกลายเป็นพระเจ้า! เส้นทางอื่นๆจะทำให้เกิดการทำลายของจิตวิญญาณอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

แต่นั่นก็เว้นแต่ว่าสงครามระหว่างแสงสว่างและความมืดจะจบลงด้วยชัยชนะของฝ่ายความมืดและโลกตกอยู่ในการควบคุมของเทพแห่งความมืด มีแค่วิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้หมอผีมีโอกาสได้เจิดจรัส

 

เบล ไม่มีเวลารอจนถึงตอนนั้นได้อย่างเห็นได้ชัด เขาเองก็ไม่สามารถบอกอนาคตได้ พอคิดว่าเขาจะละทิ้งทุกๆสิ่งแล้วเดินบนเส้นทางแห่งความมืด, รวมถึงการพยายามปิดบังร่องรอยของเขาด้วยวิธีเด็กๆพวกนี้! ช่างโง่อะไรอย่างนี้!

 

ลิงค์ ทำความสะอาดโต๊ะของเขาก่อนที่จะแจ้งกับ แมต “ฉันจะออกไปข้างนอกสักชั่วโมงนึงนะ”

 

“เข้าใจแล้ว” แมต ตอบกลับ

 

ยังไงซะ, พวกเขาก็ไม่ใช่ทาสและได้รับอนุญาติให้เดินทั่วสถาบันได้อย่างอิสระ

 

ลิงค์ เป็นคนที่ระมัดระวัง เพื่อที่จะไม่เพิ่มความสงสัย, ขั้นแรกเขาจึงนำสมุดกลับไปที่ห้องของเขาและซ่อนมันในจี้เก็บของของเขา จากนั้นเขาก็เดินออกจากหอคอยเวทย์มนตร์ด้วยมือเปล่าและเดินเล่นอยู่รอบๆจตุรัสเหมือนคนปกติก่อนที่จะหยุดอยู่หน้าหอคอยเวทย์มนตร์ของ เอร์เรร่า

 

เขาได้รับอนุญาติให้เขาพบในสิบนาทีต่อมา

 

“ฉันพบหลักฐานแล้ว”

 

ลิงค์ ไม่ปล่อยให้เสียเวลาแล้วหยิบสมุดที่เขาซ่อนอยู่ในจี้เก็บของออกมา

 

เอร์เรร่า มองสมุดแล้วถาม “มันก็ดูปกติดีนี่, เว้นแต่การซื้อวัสดุทำคำภีร์ที่มีคุณภาพสูงเกินไป นี่มันหมายความว่ายังไงกัน?”

 

ในสายตาของนักเวทย์ธรรมดาๆทั่วไป, เวทย์มนตร์ปลุกชีพนั้นเป็นสิ่งต้องห้าม—นักเวทย์ไม่ได้รับอนุญาติให้ไปยุ่งกับมันเลยด้วยซ้ำ, ไม่ต้องพูดถึงการทดลองอะไรบางอย่างที่อันตรายเลย

 

แม้ว่าการรู้จักศัตรูนั้นจะเป็นยุทธวิธีที่ดีอย่างไม่ต้องสงสัย, แต่ความล่อตาล่อใจของเวทย์มนตร์ปลุกชีพนั้นรุนแรงเกินไป และนี่จะรุนแรงมากเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่แข็งแกร่ง, รวมทั้งนักเวทย์แก่ๆเองก็พบว่ามันยากที่จะต่อต้านความยั่วยวนของความเป็นอมตะ ดังนั้นนักเวทย์จึงต้องแบนการใช้เวทย์มนตร์นี้อย่างสมบูรณ์

 

แม้แต่ เอร์เรร่า ที่เป็นนางฟ้าแห่งแสงที่ตื่นขึ้นมา, ก็ยังมีความรู้ทางด้านเวทย์มนตร์จำกัดแค่สิ่งที่เธอเรียนรู้มาในช่วงที่อยู่ในดินแดนมนุษย์เท่านั้น ดังนั้นเธอจึงไม่มีความรู้ในเรื่องเวทย์มนตร์ปลุกชีพและไม่รู้การใช้งานอีกวิธีนึงของหนังวัวทาริค

 

ลิงค์ ชี้ไปที่การซื้อหนังวัวทาริคบนสมุดแล้วพูด “ปัญหาก็คือนี่นั่นแหล่ะ!”

 

“มันคืออะไร? มันพิเศษขนาดนั้นเลยหรอ?” เอร์เรร่า ถาม ดวงตาของเธอจดจ่ออยู่กับ ลิงค์, เธอสับสนกับชนิดของปัญหาที่ ลิงค์ พบ

 

ลิงค์ พูดไม่ออก จากความรู้ของเขา, เขาควรจะไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเวทย์มนตร์ปลุกชีพ ความจริงที่ว่าเขารู้ข้อมูลพวกนี้อธิบายได้แค่อย่างเดียวเท่านั้น, นั่นก็คือเขาเคยอ่านหนังสือเวทย์มนตร์แห่งความมืด

 

ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้อย่างแน่นอน

 

ลิงค์ มีความคิดผุดขึ้นมาในทันที เขาอธิบายความพิเศษของหนังวัวทาริคอย่างใจเย็น, กาวแห่งความตายและความจริงที่ว่ากาวสามารถสกัดจากหนังชนิดนี้ได้แม้ว่ามันจะผ่านกระบวนการมาแล้วก็ตาม ซึ่งเขาอธิบายละเอียดมาก

 

ตามที่คาดเอาไว้, เอร์เรร่า ถาม “เธอรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?”

 

“เทพแห่งแสงบอกฉัน” ลิงค์ ใช้ไพ่ตายของเขา

 

“ฉันเข้าใจแล้ว” เอร์เรร่า ยอมเชื่อเรื่องราวที่น่าเหลือเชื่อของเขา!

 

ถ้าเป็นนักเวทย์คนอื่นๆ, ลิงค์ คงจะล่วงคาที่ไปแล้ว เพราะยังไงซะ, ใครจะไปเชื่อเรื่องที่น่าเหลือเชื่ออย่างการที่พระเจ้าประทานความรู้ให้กับคนธรรมดากันหล่ะ อย่างไรก็ตาม, เอร์เรร่า เป็นนางฟ้าแห่งแสงและเธอก็เชื่ออย่างเต็มที่ว่า ลิงค์ เป็นผู้ที่ถูกเลือก ไม่มีเรื่องที่น่าตกใจอะไรสำหรับการที่พระเจ้าจะมอบความรู้ให้กับผู้ที่ถูกเลือก

 

เอร์เรร่า ยังคงมีปัญหา “แต่ฉันไม่สามารถรายงานมันให้กับมาสเตอร์ แอนโทนี่ ได้ เขารู้ว่าฉันไม่มีความรู้ทางด้านเวทย์มนตร์แห่งความมืดเลย เขาจะสงสัยเธออย่างแน่นอน แล้วเขาก็คงจะไม่เชื่อเรื่องการที่พระเจ้ามอบความรู้ให้หรอก”

 

ลิงค์ มีความคิดดีๆ “นั่นมันง่ายมาก, คุณก็ไปเผชิญหน้ากับ เบล แล้วเปิดเผยความลับของเขาซะสิ หลังจากนั้นเขาก็คงจะลุกลี้ลุกลน, ทำให้เกิดความผิดพลาดมากขึ้นและในที่สุด, หลักฐานที่เป็นชิ้นเป็นอันในการทดลองเวทย์มนตร์แห่งความมืดของเขาก็จะเปิดเผยออกมา ซึ่งข้อเสียเดียวของแผนการนี้ก็คือความเสี่ยงของมัน มีโอกาสสูงมากที่ เบล จะปิดปากพวกเราเพื่อให้การทดลองของเขาสำเร็จ”

 

เอร์เรร่า หัวเราะออกมา “ฆ่าฉันหรอ? นั่นมันเป็นไปไม่ได้หรอก ระดับเวทย์มนตร์ของฉันอาจจะต่ำกว่า, แต่เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันอย่างแน่นอน”

 

เลเวลของนักเวทย์นั้นควรจะฟังหูไว้หูเอาไว้ในการต่อสู้ ถ้านักเวทย์เลเวล 1 สามารถร่ายเวทย์มนตร์ได้เร็วพอและมีการรับรู้ในการต่อสู้ที่ดี เขาก็สามารถฉีกกระชากหัวใจของนักเวทย์ที่แข็งแกร่งได้ด้วยเวทย์มนตร์เลเวล 1 หนามน้ำแข็ง

 

ถ้า เอร์เรร่า มั่นใจขนาดนั้น, ก็แสดงว่าเธอต้องมีเวทย์มนตร์ขั้นสุดยอดเป็นไพ่ตายในมือของเธอแน่

 

“แล้วคุณคิดว่ายังไง?” ลิงค์ ถาม

 

“เวลามันกระชั้นชิดแล้ว, ฉันจะแก้ปัญหาตอนนี้เลย” เอร์เรร่า เห็นด้วยและคว้าคทาไพลินของเธอ, เตรียมที่จะไปเผชิญหน้ากับ เบล

 

“เดี๋ยวก่อนสิ” ลิงค์ พูด

 

“มีปัญหาอะไรหรอ?”

 

“พวกเรารออีกสักสิบวันได้ไหม?” ลิงค์ ขอคำขอแปลกๆขึ้นมา

 

“ทำไมหล่ะ?” เอร์เรร่า สับสน

 

“ฉันจะฟื้นฟูจากสภาพอ่อนแอของฉันในอีกห้าวัน, และฉันต้องการอีกห้าวันในการฟื้นพลังของฉันให้เต็ม แล้วหลังจากนั้น, ฉันก็จะมีพลังมากพอที่จะช่วยคุณในการต่อสู้ นอกจากนี้, พวกเราก็อาจจะพบหลักฐานใหม่ในช่วงไม่กี่วันหลังจากนี้ก็ได้ คุณว่ายังไง?”

 

แม้ว่า เอร์เรร่า จะมั่นใจ, แต่เธอก็กำลังจะไปล่วงล้ำอาณาเขตบ้านของคนอื่น มันจะปลอดภัยกว่าถ้าเดินทางไปกับผู้ช่วยที่ไว้ใจได้

 

เอร์เรร่า คิดอยู่ครู่นึงแล้วพยักหน้า “ก็ได้, สิบวันนะ”

 

เอร์เรร่า ไม่ใช่คนหุนหันพลันแล่น เธอทำการค้นคว้าพื้นเพของ ลิงค์ มาแล้ว และรู้ว่าเขาเป็นนักเวทย์ที่แข็งแกร่งในการต่อสู้ เธอคงจะมั่นใจมากขึ้นถ้ามีเขาอยู่ข้างๆ

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset