Alchemy Emperor of the Divine Dao – ตอนที่ 1466

เสน่ห์ของจักรพรรดินีนั้นเต็มไปด้วยอำนาจแห่งการดึงดูด

อย่าว่าแต่เหล่าราชารุ่นเยาว์ แม้กระทั่งเซียนทั้งเก้าก็ยังหวั่นไหว

“ข้าต้องการตัวนาง”

“ข้าต้องการตัว…”

เซียนทั้งเก้ายังไม่ทันพูดจบ จู่ๆจักรพรรดินีก็เดินไปยังใต้แท่นที่นั่งของเซียนหมิงซินและยืนเคียงข้างหลิงฮัน

ภรรยาก็ต้องอยู่เคียงข้างสามี นางจะเป็นต้องเลือกด้วยรึ?

ใบหน้าของเซียนทั้งเก้าแปรเปลี่ยนเป็นมืดมนทันที ท่าทีของเจ้าคืออะไร? พวกข้ายังพูดไม่เสร็จพวกเขาเป็นตัดสินใจเลือกเสียแล้ว นี่เจ้ายังเห็นเซียนอยู่ในสายตารึไม่?

หากเปลี่ยนจักรพรรดินีเป็นคนอื่น หรือต่อให้เป็นกู่ต้าวอี้ก็คงไม่อาจหลบหนีความโกรธของเซียนได้พ้น แต่เนื่องจากจักรพรรดินีเป็นคนทำ ด้วยเสน่ห์อันงดงามของนางจึงทำให้ทุกคนรู้สึกยอมรับได้

“หลงเซียงเยว่!”

คนที่สี่คือหลงเซียงเยว่ สตรีผู้นี้มีท่าทางเด็ดเดี่ยวและเยือกเย็นราวกับเป็นมังกรแท้จริงในร่างมนุษย์ การที่นางถูกเรียกเป็นคนที่สี่ทำให้ใบหน้าของนางไม่มีรอยยิ้มประดับเอาไว้เลยแม้แต่น้อย

ในสายตาคนอื่น อันดับสี่อาจจะเป็นอันดับที่สูงมากแล้ว แต่สำหรับนางมันคือความอัปยศ

เป้าหมายของนางคืออันดับหนึ่ง!

เพียงแต่ว่าแค่เป็นผู้แพ้ในตอนนี้ไม่ใช่ว่านางจะเป็นผู้แพ้ตลอดไป สักวันหนึ่งนางจะต้องเอาเหนือกว่าทั้งสามคนได้อย่างแน่นอนและขึ้นเป็นราชาอันดับหนึ่งแย่งยุคสมัย ไม่ว่าอย่างไรนางก็เป็นทายาทของมังกรแท้จริงแถมสายเลือดของนางยังบริสุทธิ์มากอีกด้วย นางมีโชคชะตาที่จะอยู่ในตำแหน่งที่สูงส่งและก้มมองสิ่งมีชีวิตทั้งปวง

นางเลือกเซียนคนที่สอง เซียนอวิ๋นเซี่ย อีกฝ่ายเป็นเซียนสตรีเพียงคนเดียวในหมู่เซียนทั้งเก้าและเป็นมนุษย์ที่มีสายเลือดของสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์โบราณ สำหรับนางแล้วเซียนผู้นี้คือตัวเลือกที่ดีที่สุด

“เทียนเซี่ยตี้เอ้อ!”

 

“ซื่อเฉินเฟิง!”

“……”

สุดยอดราชาแต่ละคนถูกขานชื่อและเลือกเซียนที่ตนเองจะยอมให้ชี้แนะ เพียงแต่ว่ามีแค่ราชีระดับสามเท่านั้นที่มีสิทธิ์สามารถเลือกเซียนได้พร้อมกันเก้าคน เมื่อมาถึงคราวของราชาระดับสอง นอกจากจักรพรรดิพิรุณกับเซียนหวู่เซียงแล้ว คนอื่นๆถูกขานชื่อโดยเซียนเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

หลังจากผ่านไปถึงราชาระดับหนึ่ง คนที่ถูกเซียนขานชื่อยิ่งมีน้อยลงไปอีก

แต่ก็มีบางคนที่เป็นกรณีพิเศษอย่างคนที่ชื่อหูเฉิงอี้ ด้านหลังของเขามีแสงจันทราส่องสว่างออกมา มันไม่ใช่แสงจากดวงจัทราของระดับสุริยันจันทราแต่เป็น ‘กายหยาบจันทรา’ ที่หายาก แสงจันทราจะช่วยให้พละกำลังของผู้ที่อยู่ภายใต้อำนาจของมันเพิ่มพูนขึ้นมหาศาล

ความสามารถของเขาทรงพลังเป็นอย่างมากซึ่งสามารถสนับสนุนการต่อสู้เป็นกลุ่มได้ดีจึงมีเซียนหลายคนที่สนใจเขา แต่ท้ายสุดแล้วหูเฉิงอี้ก็เลือกที่จะอยู่ภายใต้การชี้แนะของเซียนที่สาม เซียนขวงยวี่

อีกคนหนึ่งคือลู่ขานซื่อ แขนสองข้างของเขาคือหอกยาว ยิ่งระดับพลังสูงขึ้น พลังของแขนหอกนี้ก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วย ซึ่งมีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ในระดับเดียวกัน

ความสามารถของเขาคือกายหยาบที่หายาก ‘กายาศาสตราวุธ’ ผู้ครอบครองกายานี้จะเกิดมาพร้อมกับส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายที่เป็นอาวุธ

เขาเลือกอยู่ภายใต้การชี้แนะของเซียนที่ห้าเซียนเถียเตาเนื่องจากเซียนเถียเตาก็มีกายาศาสตราวุธเช่นกันซึ่งอีกฝ่ายย่อมสามารถชี้แนะเขาได้ดีที่สุด

เซียนหวู่เซียง ติงผิง จิ่วเยาและจักรพรรดิพิรุณนั้นถูกเลือกโดยเซียนมากมาย แต่มีเพียงจิ่วเยาคนเดียวเท่านั้นที่เลือกอยู่ภายใต้การชี้แนะจากเซียนหมิงซิน หรือก็คือมีเพียงเซียนหมิงซินที่เข้าร่วมกับสำนักย่อยที่แปด

พรรคพวกคนอื่นๆนั้นเลือกเข้าร่วมกับสำนักย่อยอื่น สตรีนกอมตะเองก็โชคดีเป็นอย่างมากที่ถึงแม้พรสวรรค์จะไม่โดดเด่นแต่ก็ยังถูกเซียนอวิ๋นเซี่ยเลือก บางอาจทีอาจจะเป็นเพราะราชาสตรีนั้นหาได้ยากยิ่ง

ครึ่งวันผ่านไปศิษย์ทั้งเก้าร้อยคนก็ถูกคัดเลือกเสร็จสิ้น แน่นอนว่าคนที่ไม่ได้รับเลือกก็ต้องจากไปและรอให้สำนักละอองดาราเปิดรับศิษย์อีกครั้งในอีกล้านปีข้างหน้า

สำนักย่อยทั้งเก้าแยกกระจัดกระจายห่างกันออกไปทั่วดาวมู่ถู หากจะไปยังจากสำนักย่อยหนึ่งไปอีกสำนักย่อยหนึ่ง ต่อให้เป็นจอมยุทธระดับดาราก็ต้องใช้เวลาสิบวัน

สตรีนกอมตะไม่ค่อยเต็มใจแยกจากหลิงฮันเท่าไหร่ นางตั้งว่าหลังจากทุกอย่างลงตัวแล้วนางจะหาโอกาสไปพบหลิงฮันอีกครั้ง

หลิวจวินเทียนเองก็ปรากฏตัวเช่นกัน เขามองไปยังหลิงฮันด้วยแววตาซับซ้อนและแฝงไว้ด้วยจิตสังหาร

พรสวรรค์ของหลิงฮันเป็นอันดับสองในหมู่ราชาทั้งหมดซึ่งทำให้ความมั่นใจของเขาสั่นไหวเล็กน้อยและเลิกล้มความคิดที่จะแก้แค้นให้แก่น้องชายในตอนนี้

รอก่อน… รอให้เขามีพลังเพียงพอเสียก่อน

หลิงฮันมองกลับไปและเผยจิตสังหารออกมา

หากมีโอกาสเขาก็จะสังหารหลิวจวินเทียนเช่นกัน

นอกจากนั้นหลิวจวินเทียนก็ยังมีเนี่ยเทียนเฉิงกับตันจิงอี่ที่เกลียดหลิงฮัน เพราะความสัมพันธ์ระหว่างเขากับจักรพรรดินี

ในหมู่คนที่หลิงฮันรู้จัก อู่เมี่ยนผ่านจนคัดเลือกและรับการชี้แนะจากเซียนที่สาม หยางหลินผ่านการคัดเลือกและรับการชี้แนะจากเซียนที่เจ็ด แต่แม่นางหยุนกับเย่วหยิงนั้นไม่ผ่านการคัดเลือกและทำได้เพียงหันหลังกลับ

 

ฉือหวงกับเป่ยหวงนั้นแน่นอนว่าต้องผ่านการคัดเลือก ทั้งสองเลือกรับการชี้แนะจากเซียนจากเซียนที่เก้า เซียนจิ่วชิง

ไม่มีเวลาให้กล่าวอำลาหรือให้สนทนากันเป็นครั้งสุดท้าย

เซียนหมิงซินยกศิษย์ทั้งร้อยขึ้นบนฝ่ามือปราณก่อเกิดขนาดใหญ่ไปยังสักนักย่อยที่แปดซึ่งก่อตั้งอยู่บนเนินเขาเขียวขจีที่มองขึ้นฟ้าจะพบเพียงแค่เมฆสีขาว

การรับแนะนำศิษย์นั้นไม่จำเป็นต้องให้เซียนเป็นคนจัดการ ปรมาจารย์ระดับวารีนิรันดร์เป็นคนนำพาทุกคนไปยังลานที่พัก “พวกเจ้าทุกคนเข้าไปยังลานที่พักตามลำดับ ในที่พักของพวกเขาจะมีแผ่นหยกวางอยู่ หากอ่านข้อความบ่นแผ่นหยกพวกเจ้าก็จะเข้าใจกฎข้อปฏิบัติของสำนักละอองดารา”

หลังจากกล่าวเขาก็ลอยจากไป ตัวตนระดับวารีนิรันดร์เองก็ไม่ใช่ว่าจะมีเวลาว่างเช่นกัน

หลิงฮันและคนอื่นๆกำลังจะเดินเข้าไปในลานที่พัก แต่จู่ๆพวกเขาก็พบว่าประตูของลานที่พักนั้นเปิดออกเอง หลังจากนั้นก็มีคนนับสิบคนเดินออกมาบังประตูทางเข้าเอาไว้

ชายคนแรกที่เดินนำหน้าออกมากวาดสายตามองเหล่าศิษย์ใหม่และกล่าว “เหตุใดศิษย์ในคราวนี้ถึงได้มีแต่พวกไร้ความสามารถเช่นนี้? คนไร้ความสามารถอย่างพวกเจ้าไม่มีคุณสมบัติจะเดินผ่านประตู พวกเจ้าต้องคลานผ่านช่องลอดสุนัข!”

เขาชี้ไปยังมุมหนึ่งของประตูที่มีช่องลอดสุนัขถูกขุดเอาไว้

เมื่อเหล่าศิษย์ใหม่มองไปที่ช่องลอด หรือว่านี่จะเป็นพิธีรับน้องใหม่ของพวกศิษย์เก่า

ศิษย์ที่ขวางทางพวกเขาอยู่เป็นจอมยุทธระดับวารีนิรันดร์!

Alchemy Emperor of the Divine Dao

Alchemy Emperor of the Divine Dao

อ่านนิยายจีนAlchemy Emperor of the Divine Dao เรื่องย่อ หลิงฮันสุดยอดจอมยุทธ์และจักรพรรดิปรุงยาเพียงหนึ่งเดียว เสียชีวิตลงในการบรรลุสู่การเป็นเทพเจ้า ในหนึ่งหมื่นปีต่อมาด้วยคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ เขาได้เกิดใหม่ในร่างของเด็กหนุ่มที่ชื่อเหมือนกัน จากนั้นทั้งสายลมและเมฆจะต้องแหวกออกเมื่อเขาได้ต่อกรกับเหล่าอัจฉริยะในยุคใหม่นับไม่ถ้วน เส้นทางในการเป็นตำนานของเขาได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง ในทุกยุคสมัย ภายใต้สวรรค์ ข้าแกร่งที่สุด!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset