Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย – ตอนที่ 480

อึก!

 

กลุ่มคนเริ่มสบถกันไม่หยุด จุดจบของภารกิจมันคืออะไรกัน? พวกเขาไม่เคยทำการฝึกแบบนี้มาก่อน เพราะตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาชูฮันเป็นคนนำทีมมาตลอด พวกเขาควรจะได้รับการอธิบายอย่างชัดเจนว่าควรจะต้องทำอะไร หลังจากการวิเคราะห์ของชูเซี่ย กลุ่มคนก็ได้แต่ประหลาดใจกับความชาญฉลาดของภารกิจครั้งนี้

 

จุดประสงค์ที่ชัดเจนของการฝึกนี้ไม่ใช่เพื่อความอยู่รอด

 

“ฉันบอกแล้ว!” หลูเหวินเฉิงพูดขึ้น “การเอาตัวรอดในเมืองสามวันเป็นเรื่องธรรมดามากสำหรับพวกเรา ที่สำคัญและยากจริงๆคือการตามหาซุปเปอร์ซอมบี้”

 

“ประเด็นสำคัญคือไอ้ซุปเปอร์ซอมบี้นี้มีอยู่จริงๆรึเปล่า? แล้วรูปร่างลักษณะมันเป็นยังไง? เราไม่รู้อะไรเลย” เหล่ยเซอเองก็เริ่มให้ความสนใจ “ท่านพลเอกชูฮันไม่ได้บอกอะไรเราเลย แล้วอยู่ดีๆท่านก็ปล่อยเราเข้ามาในเมือง”

 

“ทุกอย่างมันแตกแยกกันไปหมด!” ชูเซี่ยหยิบแผ่นกระดาษสองสามแผ่นออกมา “ดูนี่สิ นี่คือเรื่องราวแปลกๆที่ฉันพบระหว่างทาง พี่ชูฮันบอกว่าที่นี้มีซุปเปอร์ซอมบี้ เราจะคาดหวังความโชคดีกับเรื่องแบบนี้ไม่ได้ เราจำเป็นต้องมั่นใจก่อนการตามหาตัวมัน การหาความแตกต่างจากซอมบี้ปกติจะไม่ใช่เรื่องยากเลย”

 

เมื่อมองไปที่กระดาษไม่กี่แผ่นตรงหน้า ทุกคนก็มีอาการตกใจที่ได้เห็นเด็กสาวอายุเพียงแค่สิบห้าปีมีความสามารถมากถึงขนาดนี้ ความสามารถของเธอนั้นพุ่งทะลุฟ้า!

 

ชูเซี่ยเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อย “ก็ ฉันเองก็เป็นนักรบจากสงครามเมืองแห่งความตายเหมือนกันนะ”

ทุกคนมีสีหน้ากลัวอีกครั้ง ตอนนี้เมื่อพวกเขาได้ยินชื่อคำว่าสงครามเมืองแห่งความตายพวกเขาก็เริ่มเกิดความรู้สึกผิดขึ้นในอก ในตอนนี้เมื่อมองไปที่ชูเซี่ยด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความชื่นชม ในที่สุดเหล่าคนมาใหม่ทั้งสี่คนรับรู้แล้วว่าทหารพวกนี้เคารพเด็กผู้หญิงคนนี้มากขนาดไหน คนที่เอาชีวิตรอดมาจากสงครามเมืองแห่งความตายนั้นแตกต่างไปจากคนทั่วไป!

 

และในขณะที่กลุ่มกำลังมองไปที่ข้อมูลตรงหน้าพวกเขาอยู่ ทันใดนั้นมันก็เกิดเสียงที่ไม่น่าฟังเท่าไหร่ดังมาจากทางด้านนอก “ซุปเปอร์ซอมบี้? พวกคุณเจอเบาะแสอะไรหรือยัง? บอกฉันบ้างสิ!”

 

“ใครน่ะ?!” ทุกคนเริ่มตระหนก หลูเหวินเฉิงและเหล่ยเซอรีบพุ่งตัวเข้ามาบังตัวชูเซี่ยเอาไว้อย่างปกป้องและในขณะเดียวกัน——-

 

“ปัง!”
เกิดเสียงดังขึ้น ประตูของร้านค้าปลิวว่อนพุ่งเข้าใส่กลุ่มคนทันที!

 

ทุกคนรีบกระจายตัวหลบประตูที่พุ่งเข้ามา

 

“ปัง!”

ประตูกระแทกเข้ากับผนังอย่างแรงจนเกิดรูขึ้นที่ตัวผนัง

 

ในขณะเดียวกัน มันก็มีร่างๆหนึ่งปรากฏตัวขึ้นอยู่ด้านนอกพร้อมกับดาบเยือกเย็นในมือ แววตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร สายตากวาดๆรอบมองทุกคนในร้านค้า

 

หัวใจของหลูเหวินเฉิงแทบหยุดเต้น ตอนนี้เขาสามารถรับรู้ได้ถึงพลังในการสู้รบของคนตรงหน้าว่ามันพิเศษมากขนาดไหน นอกเหนือจากกลุ่มทั้งสิบหกกลุ่มของพวกเขาแล้วมันยังมีคนอื่นที่กำลังตามหาซุปเปอร์ซอมบี้ในสุสานแห่งนี้ด้วย

 

อู๋หยูเฉียงเหลือบตามองกลุ่มคนตรงหน้าเขาพร้อมแสยะยิ้ม “พวกขยะพลังต่ำๆ ถ้าไม่อยากต้องสู้กับซอมบี้ ส่งสิ่งที่พวกแกเก็บข้อมูลได้มาให้ฉันซะ!”

 

แน่นอนว่า มันต้องมีซุปเปอร์ซอมบี้อยู่ในเมืองนี้แน่ๆ!

 

ชูเซี่ยกำกระดาษข้อมูลในมือแน่นจนเหงื่อแตก หลูเหวินเฉิงและเหล่ยเซอเองก็สบตากันไปมาอย่างรู้กัน การต่อสู้วันนี้อาจทำให้พวกเขาตกอยู่ในอันตรายได้

 

“เอาออกมาเร็วๆเข้า!” อู๋หยูเฉียงคำราม เขาไม่แม้แต่จะสนใจพวกคนธรรมดาไว้ในสายตาด้วยซ้ำ “ถ้าพวกแกไม่ส่งมาให้ฉัน ฉันจะฆ่าพวกแกแล้วหาด้วยตัวเอง!”

 

และในขณะระหว่างบรรยากาศกดดันของทั้งสองฝ่าย หนึ่งในกลุ่มคนมาใหม่สี่คนก็ยกมือขึ้นชี้ไปที่ชูเซี่ยที่หลูเหวินเฉิงและเหล่ยเซอยืนบังตัวไว้อยู่อ “มันอยู่ในมือของเด็กสาวคนนั้น อย่าฆ่าฉันนะ”

 

หลังจากนั้นอู๋หยูเฉียงก็หันมามองด้วยท่าทางพอใจ

 

เสี่ยวฉีมีท่าทีหวาดกลัว เขาหันไปมองผู้ชายคนที่เดินออกไปจากข้างตัวเขา หัวใจของเสี่ยวฉีเต้นรัวแรงแทบจะถึงสองร้อยครั้งต่อนาทีได้เมื่อได้เห็นภาพของผู้ชายทั้งแปดคนยืนเอาตัวบังชูเซี่ยไว้อย่างปกป้อง และอีกคนที่เป็นฝ่ายทรยศ ตอนนี้คนทรยศได้เดินออกจากพวกเขาแล้วและกลายเป็นปรปักษ์กันไปแล้วอย่างสมบูรณ์แบบ

 

“คนคนนี้คือใคร?” หลูเหวินเฉิงมองไปที่คนทรยศด้วยสายตาที่ใครเห็นเป็นก็ต้องหวาดกลัวอย่างแน่นอน

 

“ชื่อของคนตาย ไม่จำเป็นต้องรู้!” เหล่ยเซอมองไปที่ด้วยสายเคียดแค้น

 

“เราไม่ควรเสี่ยง อีกฝั่งแข็งแกร่งมากเกินไป เรายังมีโอกาสที่จะหนีไปตอนนี้” ชูเซี่ยกระซิบลอดฟันให้เฉพาะคนที่ยืนอยู่ใกล้เธอได้ยินเท่านั้น

 

“แล้วมันล่ะ?” หลูเหวินเฉิงถามถึงคนทรยศ

 

“ตาย ฆ่ามันซะ” เสียงของชูเซี่ยเย็นยะเยือก ความหมายของการฝึกเพื่อเอาชีวิตรอด…ในที่สุดเธอก็เข้าใจ!

 

ในเวลานี้อู๋หยูเฉียงได้หมุนตัวหันมาจ้องที่ชูเซี่ย แววตาของเขาที่มองมาเต็มไปด้วยความหยาบโลน “งั้นก็เด็กสาว? ยังดูอ่อนโยนอยู่เลย รอดมาจากโลกาวินาศได้อย่างไร? เมื่อเห็นเธออยู่ในสภาพดีแบบนี้ ฉันจะพิจารณาไม่ฆ่าเธอทิ้งละกันและจะให้เธอมาเป็นอีตัวของฉันก็ดูไม่เลว”

 

ชูเซี่ยและคนอื่นๆหน้าตึงและอารมณ์ขึ้นทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น ทว่าท่ามกลางสถานการณ์—–

 

“ปัง!”
เกิดเสียงดังขึ้นอีกครั้ง ประตูอีกบานถูกอัดกระแทกกระเด็นเข้าใส่กำแพงทันที มีชายอีกคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับดาบยาวในมือที่ชักออกมาจากด้ามฝักพร้อมกัยฝุ่นที่ลอยคลุ้งในอากาศ ตัวใบมีดชี้ใส่อู๋หยูเฉียง “อู๋หยูเฉียง? ฉันไม่คิดเลยว่าแกจะมีความสนใจเรื่องของซอมบี้ด้วย”

“แกเป็นใคร?” สีหน้าของอู๋หยูเฉียงแสดงอาการตื่นตัวอยู่ครู่หนึ่ง พละกำลังความแข็งแกร่งของคนที่พึ่งปรากฏตัวนั้นเทียบพอๆกับตัวเขา แถมอีกฝ่ายยังพูดถึงซอมบี้ที่เขากำลังตามหาอยู่? คนคนนี้คือใครกัน?

 

ตัวดาบในมือของชายหนุ่มส่องประกายสีเงินแวว สีหน้าเย็นชานั้นตรงไปตรงมาจนสามารถมองเห็นได้ว่าหัวใจของชายหนุ่มคนนี้สูงส่งและภาคภูมิขนาดไหน “ในละแวกนี้ แกน่าจะเคยได้ยินคำว่า นักฆ่าหลิงหลิงซวน?!”

 

นัยน์ตาของอู๋หยูเฉียงหดตัวอย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยเสียงแหบแห้ง “แกคือนักฆ่าหลิงหลิงซวน? ดี ในที่สุดกูได้เจอตัวมึงซะที!”

 

“งั้นก็มาเจอกับกูสิ!” เสียงของหลิงหลิงซวนเย็นชา

 

สงครามระหว่างทั้งสองคนกำลังจะระเบิดขึ้นแล้ว พลังผันผวนรุนแรงและมหาศาลของทั้งคู่ระเบิดทะลักออกมาอย่างฉับพลัน

 

“ไปกันเร็ว!” ภายใต้การสั่งการของชูเซี่ย ทุกคนรีบพุ่งตัวหนีไปทางประตูอย่างรวดเร็ว

 

ชูเซี่ยและคนอื่นรีบใช้โอกาสที่มีหาจังหวะหนีออกไปอย่างไม่ลังเล เหล่ยเซอรีบพุ่งตัวไปที่ประตูพร้อมกับกริชในมือที่แทงเข้าตรงคอของคนทรยศ

 

คิดจะทรยศ…ต้องโดนฆ่า!

 

หลังจากฆ่าคนทรยศ หลายคนก็รีบออกไปที่ด้านนอก

 

โชคร้ายที่เสี่ยวฉีตามมาไม่ทัน หลังจากวิ่งมาได้ครึ่งทาง พวกเขาก็พึ่งนึกออกว่าขาดไปคนหนึ่ง

 

“เพื่อที่จะกลับไปหาชูฮัน กฏเหล็กของทีมคือห้ามทิ้งใครข้างหลังเด็ดขาด เสี่ยวฉีก็เป็นคนของพวกเรา!” หลูเหวินเฉิงรีบพูดขึ้น “แต่ตอนนี้ความสามารถของพวกเรามีขีดจำกัด อีกฝ่ายน่าจะเป็นวิวัฒนาการระยะ 5 อย่างน้อย!”

 

“ไปที่ถนนร้านค้าอาหาร!” ชูเซี่ยสูดลมหายใจและรีบกระซิบบอกคนที่อยู่ข้างๆเธอ

 

“อ่า…” หลูเหวินเฉิงไม่เข้าใจ “ฉันคิดว่า เราควรขอความช่วยเหลือจากทีมอื่นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ไม่ใช่เหรอไง?”

 

“ไปที่ถนนร้านค้าอาหาร ทีมที่สองจะต้องอยู่ที่นั่นแน่ๆ” เสียงของชูเซี่ยเต็มไปด้วยความมั่นใจ “เฉินช่าวเย่มีกระสุนแค่สามนัด!”

 

“ใช่! ด้วยลักษณะนิสัยของพลโทเฉินช่าวเย่เขาจะต้องอยู่ที่นั่นอย่างแน่นอน” แววตาของหลูเหวินเฉิงพลันเป็นประกาย “ไม่ใช่เรื่องที่ดีที่จะรับมือกับซอมบี้ระดับสูงด้วยกระสุน แต่กับมนุษย์ด้วยกันมันคนละเรื่อง!”

 

คนมาใหม่อีกสองคนที่ตามชูเซี่ยมารวมกับคนอื่นต่างเกิดความรู้สึกสับสนและมันก็มีท่าทางของความโล่งใจ จุดจบของเรื่องนี้เหมือนกัน พวกเขาเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงการกระทำของชูฮันแล้ว

 

คนทรยศต้องไม่ปล่อยให้รอด สหายกันต้องไม่ทิ้ง!

Apocalypse Meltdown

Apocalypse Meltdown

มันเป็นโลกที่ซอมบี้และมนุษย์อาศัยอยู่ด้วยความสิ้นหวัง สนามแม่เหล็กของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงและทุกอย่างได้ย้อนกลับมายังจุดเริ่มต้น วันหนึ่ง วีรบุรุษของพวกเรา…ชูฮัน ได้เดินทางย้อนเวลากลับมาสิบปีก่อนโดยไม่รู้ตัว เขาได้ย้อนกลับมาก่อนจุดจบของโลกจะเริ่มต้นขึ้น (โลกาวินาศ) เขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงดังในหอพักในมหาวิทยาลัยหมิงชิว ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาได้กลับชาติมาเกิดใหม่ ชูฮันต่อสู้กับเหล่าซอมบี้นับสิบๆตัวก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถเพื่อขโมยรถยนต์เมอร์ซิเดซ-เบนซ์G55ออกมา เขาตัดสินใจที่จะตามหาพ่อแม่และพี่น้องของเขาด้วยG55คันนี้ ซึ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาเสียใจที่ไม่ได้ทำในชาติที่แล้ว ระหว่างทางชูฮันได้พบปะกับคนกลุ่มหนึ่งที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีคนที่ติดอันดับ 20 ของโลกาวินาศรวมอยู่ด้วย…เฉินช่าวเย่ พวกเขาพบกับซอมบี้จำนวนมากระหว่างทางบนทางหลวง ซึ่งชูฮันได้ใช้รถ G55 พุ่งชนเหล่าซอมบี้จนเละ และในตอนนั้นเอง ชูฮันถึงตระหนักได้ว่าทั้งหมดนี้คือระบบล่มสลาย และเขาสามารถได้คะแนนจากการฆ่าซอมบี้ทั้งหลาย ซึ่งเขาสามารถเอาคะแนนพวกนี้ไปแลกเปลี่ยนเป็นความสามารถพิเศษอะไรก็ได้ และในตอนนั้นเอง การเดินทางของชูฮันก็ได้เริ่มต้นขึ้นไปพร้อมๆกับระบบล่มสลาย นี่เป็นเรื่องราวของระบบล่มสลาย โดยมีเขา…ชูฮัน เป็นคนดำเนินเรื่องราว

Comment

Options

not work with dark mode
Reset