Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย – ตอนที่ 521

ชูฮันตระหนักถึงคำพูดกำกวมของอีกฝ่ายได้ทันที “ประลอง?”

 

“ใช่ครับ!” หลูอี๋พูดอย่างหมดความอดทน

 

โดยไม่คาดคิด ชูฮันคัดค้านกลับมาภายในทันที “ไม่”

 

“อะไรน่ะ?” หลูอี๋ไม่คิดว่าชูฮันจะปฏิเสธตรงๆแบบนี้ ไม่แม้แต่จะให้เหตุผลแก้ตัวเลยด้วยซ้ำ “ท่านพลเอกชูฮัน นี่มันน่าเบื่อเกินไป แล้วความนิยมและโด่งดังที่ท่านได้รับอยู่ตอนนี้? พลังการต่อสู้ของท่าน? เห็นมั้ยครับว่าทุกคนตั้งตารอที่จะได้ชมพลังของท่านมากขนาดไหน ท่านไม่คิดจะแสดงให้ทุกคนได้เห็นหน่อยหรือยังไงครับ?”

 

ครั้งนี้คนอื่นๆเองก็อึ้งไปเช่นกัน หลายคนที่ได้สติกลับมาจากความตกใจต่อคำปฏิเสธอย่างกระทันหันและตรงไปตรงมาของชูฮัน ทุกคนก็รีบพยายามสุดความสามารถที่จะโน้มน้าวชูฮันให้ได้

 

“ใช่ครับ ท่านพลเอก ในยุคของโลกาวินาศ พลังการต่อสู้เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด และกิจกรรมความบันเทิงก็มีค่ามากพอที่จะสู้”

 

“ใช่ครับ ท่านพลเอกชูฮันปฏิเสธอย่างตรงๆแบบนี้ ท่านไม่เกรงบ้างเหรอครับ?”

 

ทั้งอ่อนน้อมและหยาบคาย หลายคนเริ่มพูดความคิดของตัวเองออกมาพลัดกันไม่หยุด วันนี้มันจำเป็นมากที่จะต้องมีการต่อสู้เกิดขึ้นให้ได้ เพราะพวกเขาเตรียมการกันมาอย่างยากลำบาก ถ้าไม่งั้นมันจะกลายเป็นสูญเปล่า?

 

ชูฮันมองไปที่กลุ่มคนที่พยายามอย่างไม่ยอมหยุด ทำให้เขาทนไม่ไหวจนต้องพูดขัดคนพวกนั้นขึ้นมา “การต่อสู้เปล่าๆมันน่าเบื่อเกินไป นอกเหนือจากว่ามันจะมีอะไรที่น่าสนใจและใหญ่กว่านี้”

 

“แบบไหนถึงเรียกว่าใหญ่ครับ?” หลูอี๋รีบถามทันที

 

“แล้วถ้าเพิ่มเดิมพันล่ะ?” ชูฮันมองหลูอี๋พร้อมรอยยิ้ม

 

หลูอี๋หรี่ตาลง เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น “ยังไงล่ะครับ? ท่านอยากจะเดิมพันอะไร?”

 

ชูฮันมองไปทางกองทัพเขี้ยวหมาป่าของเขา ซึ่งภาพลักษณ์ภายนอกนั้นดูน่าตื่นตาตื่นใจแก่ใครก็ตามที่ได้เห็น จากนั้นก็ยิ้มมุมปาก “ฉันจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับกฏของการต่อสู้ คุณสามารถเลือกทหารออกมาประลองได้ แต่กฏของการเดิมพันจะขึ้นอยู่กับฉัน ว่าไงล่ะ?”

 

“ตกลงครับ” หลูอี๋ตอบรับอย่างรวดเร็ว

 

ในขณะเดียวกัน หลูอี๋ก็ตราหน้าชูฮันในใจตัวเองว่าเป็นคนจองหอง มีแค่ทหาร 300 คนแต่ยังกล้ามาอวดเก่งในถิ่นเขาอีก ที่สำคัญกว่านั้นคือมันยังกล้ามอบการตัดสินใจที่สำคัญที่สุดคือกฏการแข่งให้อีกฝ่ายซึ่งก็คือเขาตัดสินใจอีก หรือว่าจริงๆแล้วชูฮันเป็นไอ้ขี้ขลาดที่ไม่มีสมอง!

 

“นั่นดูไม่น่ายาก” แววตาของชูฮันเป็นประกายอยู่แวบหนึ่ง จากนั้นชูฮันก็ยิ้ม  “การเดิมพันจะตัดสินโดยผลรวมทั้งหมดตอนท้าย ฝ่ายที่มีคะแนนรวมน้อยกว่าจะแพ้ และจะต้องจ่าย 50,000 เหรียญล่มสลาย ปืนไรเฟิล 50 กระบอก และกระสุน 500,000 นัดให้อีกฝ่าย”

 

เมื่อชูฮันพูดถึงเดิมพันออกมา ทั้งสถานที่ก็ปกคลุมไปด้วยความเงียบดริบ หลูอี๋อ้าปากค้างกว้างและจ้องไปที่ชูฮันอย่างตกใจจัด แววตาของหลูอี๋นั้นมองออกชัดเจน ตอนนี้หลูอี๋กำลังรู้สึกสงสารชูฮันอยู่…ชูฮันคงจะมีปัญหาที่สมองจริงๆ

 

เห็นได้ชัดว่ารางวัลมันยั่วยวนให้แต่ละคนอยากเข้าไปเล่นเกมส์ ชูฮันกล้าจะสร้างเดิมพันใหญ่ขนาดนี้เลย?

 

หลังจากความเงียบและอาการตกใจอยู่ครู่หนึ่ง ชูฮันแสร้งทำเป็นใจร้อน “คุณต้องวางเดิมพันบนการพนัน คุณไม่กลัวเหรอไง?”

 

หลายคนตอบคำถามดังลั่นด้วยความกระตือรือร้นที่จะได้เห็นการต่อสู้ของชูฮัน “แน่นอนพวกเราไม่กลัว เดิมพันการพนันได้เลยครับ”

 

ล้อเล่นรึเปล่า ใครจะไม่รับของกำนัลที่เอามาวางไว้หน้าประตูแบบนี้?

 

“ปืนไรเฟิลและกระสุน?” หลูอี๋เริ่มเกิดความสงสัย เขาค่อนข้างไม่เข้าใจ “ดูเหมือนว่าทรัพยากรของท่านพลเอกชูฮันจะมีน้อยกว่าผมที่เป็นพลโทซะอีก จนถึงกับจุดที่ต้องขอปืนไรเฟิล?”

 

จำนวน 50,000 เหรียญล่มสลายนั้นไม่ใช่น้อยๆ มันคือเงินทั้งหมดของทั้งค่ายเลยด้วยซ้ำ เนื่องจากเหรียญล่มสลายนั้นเป็นสกุลเงินใหม่ที่พึ่งปล่อยออกมา ซึ่งการพนัน 50,000 เหรียญล่มสลายนั้นคือการเอาทั้งค่ายเจียนอี๋ไปเดิมพัน อีกทั้งจำนวนลูกกระสุนที่ชูฮันพูดน้ันก็น่ากลัวไม่ต่างกัน แต่จำนวนของปืนไรเฟิลที่ชูฮันร้องขอกลับทำให้หลูอี๋รู้สึกถึงความแปลกประหลาดบางอย่าง

 

“ขอถามหน่อยสิครับ?” ชูฮันหรี่ตามองหลูอี๋ที่พูดขึ้น “หรือว่าคุณกลัวที่จะแพ้เพราะรู้ว่ายังไงก็ไม่ชนะฉัน ถ้าอย่างนั้นเราก็มากินอาหารกันต่อ ยังไงฉันก็ไม่ได้ชอบการพนันสักเท่าไหร่ มันค่อนข้างไร้สาระเกินไป!”

 

แน่นอนว่าทรัพยากรของพลเอกจะต้องมีอย่างมากแน่นอน ปืน กระสุนต่างๆ แต่เป็นเพราะหิมะถล่มที่ทำให้ข้าวของและอาวุธส่วนใหญ่หายไปเป็นจำนวนมาก เมื่อนึกถึงเรื่องนี้อารมณ์ของชูฮันก็เริ่มไม่ดีขึ้นมา สายตาจ้องฝ่ากลุ่มคน จับจ้องเขม็งไปที่ซูเฟิงคนเดียว…ถ้าซูเฟิงและหลิงโหลวไม่ต่อสู้กันบนยอดเขาจนเกิดหิมะถล่ม เขาก็ไม่ต้องสูญเสีญอาวุธและทรัพยากรมากขนาดนี้

 

ซูเฟิงที่ถูกชูฮันจ้องมาก็เริ่มรู้สึกสับสน สีหน้าพลันยุ่งเหยิง เขาสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจของชูฮัน

 

หลูอี๋ที่ถูกจู่โจมด้วยคำพูดของชูฮัน ก็พลันโกรธขึ้นมาอีกครั้ง เขาไม่ได้คิดถี่ถ้วนก่อนและรีบหุนหันผลันแล่นตัดสินใจทันทีเมื่อถูกยั่วยุ “ดี! งั้นเรามาพนันกันครับ!”

 

ชูฮันนั่งสบายๆอยู่บนเก้าอี้ ดูดบุหรี่ไปพลางดื่มไปพลาง “เมื่อพูดอย่างนั้น งั้นเรามาเริ่มการประลองกันเลยมั้ย?”

 

“สบายมากครับ!” หลูอี๋ยิ้มและพูด “การต่อสู้จะมีทั้งหมด 10 รอบ ในแต่ละรอบแต่ละฝ่ายจะส่งตัวแทนออกมาสู้ฝ่ายละหนึ่งคน ฝ่ายไหนที่มีจำนวนผู้ชนะมากกว่าจะเป็นฝ่ายชนะ แต่มีข้อกำหนดก็คือแต่ละฝ่ายที่ส่งตัวแทนมาต่อสู้จะต้องมียศเท่ากัน อีกทั้งยศและพละกำลังก็จะต้องเทียบเท่ากันด้วย อย่างเช่นห้ามส่งพลตรีมาสู้กับร้อยโท”

 

หลูอี๋เผยรอยยิ้มยิ้มเขี้ยวลากดิน แม้ว่ามันจะไม่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องการกระจายตำแหน่งของสมาชิกในกองทัพเขี้ยวหมาป่าทั้ง 300 คนของชูฮัน แต่อย่างน้อยหลูอี๋ก็คิดว่ามันต้องมีระดับสิบเอกอย่างน้อยสามคนในทีมของชูฮัน เพราะชูฮันนั้นเย่อหยิ่งและอวดดี

 

ตามสัดส่วนแล้ว มันน่าจะมีแค่ประมาณ 20 คนในทีมของชูฮันที่มีฝีมือ ส่วนที่เหลือน่าจะเป็นแค่พวกลิ่วล้อ เพราะถึงอย่างไรแล้วชูฮันก็เป็นถึงหนึ่งในสิบห้าพลเอกของจีน ยังไงมันก็ต้องมีพวกยศสูงอยู่ในทีมบ้าง

 

ชูฮันมองไปที่หลูอี๋และอดไม่ได้ที่จะไว้อาลัยในใจให้กับทหารของค่ายที่อีกไม่นานจะต้องตาย หัวหน้าของพวกนายขุดหลุมใหญ่มาก แต่ดันเลือกขุดหลุมผิดที่ ช่างน่าสมเพชจริงๆ!

 

“ไม่มีปัญหา” ชูฮันไม่พูดอะไรมาก เขาตอบรับตรงๆ

 

หลูอี๋ตื่นเต้นอย่างมากจนนึกถึงภาพที่เขาจะได้ทรัพยากรมหาศาลจากชูฮัน และความรู้สึกของการได้แก้แค้นและความเกลียดชังที่สั่งสมมานาน

 

“ดังนั้น ท่านพลเอกชูฮัน” หลูอี๋ที่รอต่อไปไม่ไหว อย่างน้อยเขาก็อยากจะรู้สถานการณ์ก่อน จะได้พอคาดเดาได้ถูก “ใครที่ท่านอยากจะให้ประลองฝีมือในยกแรก พละกำลังและตำแหน่งของทหารของท่านคือ?”

 

ชูฮันค่อยๆคายเมล็ดแตงโมในปากออก และพูดน้ำเสียงนิ่งๆ “ทั้งหมด ทุกตำแหน่ง”

 

“อ่าาา…” หลูอี๋ที่คิดว่าคำตอบจะเป็นร้อยตรีหรือร้อยโท แต่ทันทีที่ได้ยินคำตอบของชูฮันว่า ‘ทั้วหมด’ หลูอี๋จึงอดไม่ได้ที่จะถามต่อ “ท่านหมายความว่ายังไงครับ? ทั้งสิบรอบให้ครบทุกตำแหน่งงั้นเหรอครับ?”

 

“ใช่ ไม่ได้เหรอไง?” ชูฮันแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจท่าทีของหลูอี๋ “นอกเหนือจากคนที่ยศสูงทั้งสามคน รวมถึงฉัน เฉินช่าวเย่และหลิวยู่ติง คุณพูดเองว่าฉันไม่ควรรังแกผู้คน เพราะฉะนั้นฝ่ายของคุณก็ต้องแบ่งเป็นสองกลุ่มเหมือนกัน” “พรึบ!” ทันใดนั้นหลูอี๋ก็เงยหน้า สบตากับชูฮัน หลังจากมึนหัวไปครู่หนึ่ง หลูอี๋ก็ตัวสั่นเทิ้มอย่างแรงและพูดขึ้นเหมือนจะหมดความอดทน  “ท่านพลเอกชูฮัน! ท่าน? ท่าน!”

 

ชูฮันเพียงแค่ยิ้มใส่ “เรามาดูสัดส่วนกัน ให้ทหารของคุณออกมาก่อน ส่วนทหารของทีมฉัน คุณสามารถเลือกใครก็ได้ที่คุณต้องการ”

 

แค่เลือกคนของฉันออกมาคนหนึ่งมาเจอกับทหารของค่ายแก แล้วแกจะได้กระอักเลือดแน่ๆ!…ชูฮันคิด

Apocalypse Meltdown

Apocalypse Meltdown

มันเป็นโลกที่ซอมบี้และมนุษย์อาศัยอยู่ด้วยความสิ้นหวัง สนามแม่เหล็กของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงและทุกอย่างได้ย้อนกลับมายังจุดเริ่มต้น วันหนึ่ง วีรบุรุษของพวกเรา…ชูฮัน ได้เดินทางย้อนเวลากลับมาสิบปีก่อนโดยไม่รู้ตัว เขาได้ย้อนกลับมาก่อนจุดจบของโลกจะเริ่มต้นขึ้น (โลกาวินาศ) เขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงดังในหอพักในมหาวิทยาลัยหมิงชิว ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาได้กลับชาติมาเกิดใหม่ ชูฮันต่อสู้กับเหล่าซอมบี้นับสิบๆตัวก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถเพื่อขโมยรถยนต์เมอร์ซิเดซ-เบนซ์G55ออกมา เขาตัดสินใจที่จะตามหาพ่อแม่และพี่น้องของเขาด้วยG55คันนี้ ซึ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาเสียใจที่ไม่ได้ทำในชาติที่แล้ว ระหว่างทางชูฮันได้พบปะกับคนกลุ่มหนึ่งที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีคนที่ติดอันดับ 20 ของโลกาวินาศรวมอยู่ด้วย…เฉินช่าวเย่ พวกเขาพบกับซอมบี้จำนวนมากระหว่างทางบนทางหลวง ซึ่งชูฮันได้ใช้รถ G55 พุ่งชนเหล่าซอมบี้จนเละ และในตอนนั้นเอง ชูฮันถึงตระหนักได้ว่าทั้งหมดนี้คือระบบล่มสลาย และเขาสามารถได้คะแนนจากการฆ่าซอมบี้ทั้งหลาย ซึ่งเขาสามารถเอาคะแนนพวกนี้ไปแลกเปลี่ยนเป็นความสามารถพิเศษอะไรก็ได้ และในตอนนั้นเอง การเดินทางของชูฮันก็ได้เริ่มต้นขึ้นไปพร้อมๆกับระบบล่มสลาย นี่เป็นเรื่องราวของระบบล่มสลาย โดยมีเขา…ชูฮัน เป็นคนดำเนินเรื่องราว

Comment

Options

not work with dark mode
Reset