Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย – ตอนที่ 570

หลังจากพูดจบ ชูฮันก็เดินจากไป เขามุ่งหน้าไปที่ห้องแล็บของเจียงโจวทันที การศึกษาที่ใช้เวลานานถึงสามเดือน และถ้าหากมันสำเร็จ แผนควบคุมทั้งเมืองอันลูก็จะพร้อมที่เข้าสู่ขั้นตอนแรก

 

“ใส่หน้ากากก่อนค่อยเข้าไปครับ” เจียงโจวเปิดประตูห้องแล็บออกมาอย่างระมัดระวัง

 

ซางจิ่วตี้และหยางเทียนที่เดินมากับชูฮัน ในขณะนี้ทั้งคู่เต็มไปด้วยความสงสัย งานวิจัยทุกอย่างในห้องนี้ นอกเหนือจากเจียงโจวแล้ว ไม่มีใครได้มีโอกาสเข้ามาในนี้เลยทั้งนั้น

 

ทั้งสี่คนสวมหน้ากากหลังจากผ่านการตรวจสอบอย่างรอบคอบโดยเจียงโจวแล้ว เขาก็เปิดประตูชั้นในของห้องแล็บออก

 

ขณะที่ประตูค่อยๆเปิดอ้าออก สิ่งที่แรกที่ปรากฏต่อสายตาของทุกคนก็คือสิ่งอำนวยความสะดวกที่สมบูรณ์ที่สุดในค่าย เช่นเดียวกับไฟที่สว่างจ้าที่สุดในค่าย สำหรับห้องแล็บแห่งนี้ ค่ายเขี้ยวหมาป่าทำอย่างสุดความสามารถในการหาเครื่องปั่นไฟขนาดใหญ่เพื่อให้พลังงานไฟฟ้าแก่ห้องนี้ห้องเดียว

 

และในเวลาเดียวกัน แสงไฟที่สว่างจ้าก็ทำให้ทุกคนเห็นภาพภายในได้อย่างชัดเจน มันเละเทะไปหมด ไม่เหลือพื้นที่แทบให้ยืน ทุกอย่างวางไว้อย่างไร้ระเบียบ ไม่มีร่องรอยของการจบ

 

“ไม่มีกลิ่นเหม็นเลย?” หยางเทียนที่พึ่งเดินเข้ามาไม่เข้าใจ เนื่องจากว่าวัตถุดิบหลักของการวิจัยนี้คือเถาวัลย์เหม็น ดังนั้นในความคิดของเขาภายในห้องนี้จึงควรจะเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นแปลกๆ

 

แต่น่าเสียดายที่ไม่มีกลิ่นอะไรทั้งนั้น แม้แต่อากาศก็สะอาดสดชื่นอย่างหาที่เปรียบมิได้

 

“เป็นไปได้ยังไง มีเครื่องระบายอากาศงั้นเหรอ?” เจียงโจวมองหยางเทียนและตะโกนขึ้น “ผมเกรงว่าอากาศภายนอกจะส่งผลกระทบต่อผลผลิตจากงานวิจัย”

 

หยางเทียนกระพริบตาปริบๆ เขารู้สึกถึงความไร้อำนาจ แน่นอนว่านักวิทยาศาสตร์มักมีความคิดที่เข้าใจยากกว่าคนทั่วไป

 

ชูฮันไม่ตอบสนองอะไรมาก เขาเดินผ่านกองขยะที่พื้นไปที่โต๊ะยาวกลางห้อง มันมีจุดเดียวในห้องที่เรียบร้อยและสะอาดที่สุด บนโต๊ะมีแค่อุปกรณ์และเอกสารที่จำเป็นและฝาครอบแก้ว

 

“นั่นใช่มั้ย?” ชูฮันจ้องเขม็งไปที่ลูกกลมๆสีน้ำตาลเล็กในฝาครอบแก้ว ตาของเขาเป็นประกายจ้า

 

“ครับ!” เจียงโจวตอบอย่างมั่นใจตามมาด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย มือของเขาสั่นเล็กน้อยขณะหยิบหลอดทดลองจากชั้นวางอีกด้านมา “ของพวกนี้ระเหยง่ายมาก ผมไม่มีวิธีในการเก็บรักษามัน เพราะงั้นผมก็พยายามแยกส่วนผสมพวกมันออก ส่วนหนึ่งเป็นสภาวะของแข็งสามารถเก็บรักษาได้เป็นเวลานาน ส่วนอีกส่วนหนึ่งถูกแยกออกมาในสภาวะของเหลวเนื่องจากมันสามารถระเหยได้ง่ายมาก และเมื่อทั้งสองสารสัมผัสกัน มันก็จะกลายเป็นผลผลิตที่สมบูรณ์”

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้นนัยน์ของชูฮันก็มีประกายวาว

 

“ถ้างั้น” เจียงโจวพยายามถาม “ผมจะหยดสารนี้เลยนะครับ? ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนว่ามันถูกต้องตามที่ท่านต้องการมั้ย?”

 

ชูฮันสูดลมหายใจลึก ค่อยๆเปิดหน้ากากออกอย่างช้าๆ จากนั้นก็พยักหน้าให้เจียงโจวด้วยสีหน้าคาดหวัง

 

“อึก” เจียงโจวที่ตัวสั่นอยู่ทางซ้ายมือของชูฮันกลืนน้ำลายลงคอดังอึก เขาค่อยๆเปิดหน้ากากออก ควบคุมมือตัวเองให้มั่นคงและหยดของเหลวในหลอดทดลองลงไปที่ก้อนกลมสีน้ำตาล

 

ฟรึบ!

 

เกิดควันหนาพวยพุ่งขึ้นมาจากก้อนกลมสีน้ำตาลเล็กทันที ตามมาด้วยกลิ่นที่กระจายไปบริเวณรอบอย่างรวดเร็ว กลิ่นข้นหนาของมันกระจายอัดแน่นไปทั่วทั้งห้อง แม้แต่หยางเทียนและซางจิ่วที่ใส่หน้ากากโดยมีชั้นป้องกันถึงสองชั้นก็ยังสามารถได้กลิ่นที่น่าขนลุกนี่

 

“นี่มัน…” ซางจิ่วตี้ตกใจอย่างมาก เธอจ้องไปที่ก้อนกลมสีน้ำตาลดล็กๆที่ยังคงวางอยู่ที่เดิม สายตาของเธอเต็มไปด้วยการคาดเดาที่ไม่น่าเชื่อ “กลิ่นเลือด?”

 

“ไม่ใช่แค่กลิ่นเลือด” ในฐานะวิวัฒนาการระดับสูง หยางเทียนมีสัมผัสที่แม่นยำกว่ามาก “มันยังเป็นรสชาติที่บรรยายไม่ถูกด้วย น่าขยะแขยงมาก”

 

เจียงโจวพยักหน้า จากนั้นก็มองหน้าชูฮัน

 

ชูฮันสวมหน้ากากกลับเข้าไปอีกครั้ง เขาเอาฝาครอบแก้วคลุมก้อนกลมสีน้ำตาลเอาไว้ จากนั้นก็ตบไหล่ของเจียงโจวเบาๆ

 

“ล้มเหลวสินะ” เจียงโจวหยิบสมุดบันทึกบนโต๊ะขึ้นมา สีหน้าเคร่งเครียดและจมอยู่ในความคิดที่ขมขื่น

 

ตอนนั้นเองชูฮันก็ยิ้มมุมปากขึ้นมา “เริ่มการผลิตปริมาณมากได้เลย ส่วนที่เป็นของแข็งผลิตมันให้อยู่ในรูปแบบกระสุน กระสุนทุกนัดจะต้องมีตัวอักษร A สลักไว้ แต่ละนัดจะต้องตัวเลขบ่งบอกลำดับ 123 ไล่ไป ส่วนที่เป็นของเหลวให้จัดเก็บไว้ในขวดและระบุตัวอีกษร B”

 

เมื่อชูฮันพูดออกมาเช่นนี้ ทั้งสามคนก็เงยหน้ามองชูฮันทันที หยางเทียนและซางจิ่วตี้มีสีหน้างุนงง ส่วนเจียงโจวนั้นตื่นเต้นจนแทบจะกระโดด

 

“ยินดีด้วย ดอกเตอร์เจียง” ชูฮันยิ้มให้เจียงโจว มันมีแววตาของความชื่นชมในนัยน์ตาของชูฮัน “การวิจัยสมบูรณ์แล้ว!”

 

มันคือรสชาตินี้แหละ เขาได้กลิ่นมันมานับครั้งไม่ถ้วนในชาติที่แล้ว วัตถุที่สามารถล่อซอมบี้ได้ในสามปีสุดท้ายของชาติที่แล้ว มันดึงดูดซอมบี้ได้ดียิ่งกว่าเลือดสดๆของมนุษย์ซะอีก

 

จำนวนซอมบี้มหาศาลในเมืองอันลูนั้นทำให้มีอันตรายที่ซุกซ่อนอยู่นับไม่ถ้วน ชูฮันต้องการจะสร้างค่ายระยะยาวและมั่นคงที่เมืองอันลู เพราะฉะนั้นมันจะต้องค่อยๆกำจัดซอมบี้ออกไปทีละขั้นๆ

 

วิธีการพึ่งพาเลือดเพื่อล่อซอมบี้นั้นสร้างผลลัพธ์ที่น่าพอใจได้ก็จริงแต่มันก็เป็นแค่ในทางทฤษฏีเท่านั้น มันยากที่จะฆ่ามนุษย์และโยนเข้าไปกลางฝูงซอมบี้เพื่อหลอกล่อพวกมัน? แม้แต่คนที่โดนโทษประหารจะสามารถนำมาใช้ได้ แต่คำถามก็คือเขาจะไปหานักโทษที่ถูกโทษประหารได้มากมายจากไหน?

 

แต่ด้วยการล่อซอมบี้ด้วยวีธีนี้ มันแตกต่างออกไป ด้วยของชิ้นนี้ ซอมบี้ทั้งหมดในเมืองอันลู ชูฮันมีความมั่นใจว่าเขาจะสามารถกำจัดพวกมันทั้งหมดได้!

 

และเขาไม่ได้คาดหวังให้เจียงโจวสร้างผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปออกเป็นสองส่วนอย่างนี้ ถ้ามันเป็นผลผลิตที่สำเร็จชิ้นเดียว แน่นอนว่ามันสามารถใช้ล่อซอมบี้ได้ แต่มันก็มีข้อบกพร่องมากมายและมีหลายจุดที่ต้องระวัง

 

แต่ด้วยการแยกผลิตภัณฑ์ออกเป็นสองส่วนแบบนี้ เขาสามารถวางวัตถุ B ไว้ที่ตำแหน่งที่ต้องการ จากนั้นก็ใช้การควบคุมระยะไกลโดยการให้มือปืนยิงกระสุน ซึ่งมันไม่เพียงแต่จะล่อซอมบี้ได้เหมือนกันแต่ยังกำจัดความเสี่ยงต่อการสูญเสียทหารด้วย

 

บังเอิญอย่างมาก!

 

ในขณะนี้ เจียงโจวตื่นเต้นจนแทบจะร้องไห้ออกมา เขาพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ตัวสั่นเทิ้มไม่หยุด เขาคิดว่าเมื่อโลกาวินาศปะทุออกมา เขาจะกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ แต่ชูฮันนำพาความหวังมาให้เขาและทำให้เขาได้กลายเป็นคนสำคัญ และยังมอบหมายงานที่เขาหลงใหลมากที่สุดให้ทำ

 

ไม่เพียงแค่นั้น แต่เขายังมีบทบาทสำคัญ ไม่มีใครรู้ดีกว่าเจียงโจวว่ากระบวนการในการวิจัยนี้ยากลำบากมากขนาดไหน ประกอบกับสภาพและเงื่อนไขของโลกาวินาศที่อุปกรณ์ไม่ครบครัน ทว่าเขาคนเดียวกลับค่อยๆทำทีละขั้นตอนไปเรื่อยๆจนในที่สุดมันก็สำเร็จ

 

“ชูฮัน?” เสียงของซางจิ่วตี้สั่นเทิ้ม มันไม่ยากที่เธอจะเดาการเคลื่อนไหวต่อไปของชูฮันไม่ออก

 

หยางเทียนมองไปที่ชูฮันด้วยสายตาหวาดกลัว น้ำเสียงตื่นเต้นจนห้ามตัวเองไม่อยู่ “ของนี้ ไอ้สิ่งนี้เราสามารถจดสิทธิบัตร และของรางวัลจากซางจิงได้มั้ย?”

 

ชูฮันยิ้มอย่างเย้ยหยัน “เจียงโจวเก็บเอกสารและอุปกรณ์ที่ยุ่งเหยิงนี้ให้เรียบร้อยและเป็นความลับที่สุด ซางจิ่วตี้ควบคุมการผลิตแยกส่วนให้ชัดเจน โดยเฉพาะชิ้นการผลิต A และ B ห้ามเป็นคนกลุ่มเดิมเด็ดขาด ให้มั่นใจว่าสูตรสมบูรณ์นี้มีแค่เราสี่คนเท่านั้นที่รู้”

 

ล้อเล่นเหรอไง เขาจะไปป่าวประกาศบอกคนอื่นทำไม?

เขาจะเผยมันให้คนอื่นรู้ก็ต่อเมื่อเมืองอันลูไร้ซอมบี้แล้ว ค่ายเขี้ยวหมาป่าจะยอมมอบกระสุนนี้ให้คนอื่นก็ต่อเมื่อค่ายเขี้ยวหมาป่าขึ้นสู่หนึ่งในสิบอันดับของจีน และเขาก็จะมอบให้ฝ่ายที่ให้ราคาสูงที่สุดเท่านั้น!

 

Apocalypse Meltdown

Apocalypse Meltdown

มันเป็นโลกที่ซอมบี้และมนุษย์อาศัยอยู่ด้วยความสิ้นหวัง สนามแม่เหล็กของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงและทุกอย่างได้ย้อนกลับมายังจุดเริ่มต้น วันหนึ่ง วีรบุรุษของพวกเรา…ชูฮัน ได้เดินทางย้อนเวลากลับมาสิบปีก่อนโดยไม่รู้ตัว เขาได้ย้อนกลับมาก่อนจุดจบของโลกจะเริ่มต้นขึ้น (โลกาวินาศ) เขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงดังในหอพักในมหาวิทยาลัยหมิงชิว ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาได้กลับชาติมาเกิดใหม่ ชูฮันต่อสู้กับเหล่าซอมบี้นับสิบๆตัวก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถเพื่อขโมยรถยนต์เมอร์ซิเดซ-เบนซ์G55ออกมา เขาตัดสินใจที่จะตามหาพ่อแม่และพี่น้องของเขาด้วยG55คันนี้ ซึ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาเสียใจที่ไม่ได้ทำในชาติที่แล้ว ระหว่างทางชูฮันได้พบปะกับคนกลุ่มหนึ่งที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีคนที่ติดอันดับ 20 ของโลกาวินาศรวมอยู่ด้วย…เฉินช่าวเย่ พวกเขาพบกับซอมบี้จำนวนมากระหว่างทางบนทางหลวง ซึ่งชูฮันได้ใช้รถ G55 พุ่งชนเหล่าซอมบี้จนเละ และในตอนนั้นเอง ชูฮันถึงตระหนักได้ว่าทั้งหมดนี้คือระบบล่มสลาย และเขาสามารถได้คะแนนจากการฆ่าซอมบี้ทั้งหลาย ซึ่งเขาสามารถเอาคะแนนพวกนี้ไปแลกเปลี่ยนเป็นความสามารถพิเศษอะไรก็ได้ และในตอนนั้นเอง การเดินทางของชูฮันก็ได้เริ่มต้นขึ้นไปพร้อมๆกับระบบล่มสลาย นี่เป็นเรื่องราวของระบบล่มสลาย โดยมีเขา…ชูฮัน เป็นคนดำเนินเรื่องราว

Comment

Options

not work with dark mode
Reset