Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย – ตอนที่ 621 ขวางทางเดิน

นี่คือเขตชานเมืองรอบตัวเมืองอันลู ถนนรอบๆพังทลายหมด สองปีหลังจากการปะทุของโลกาวินาศพืชพันธุ์มากมายเติบโตขึ้นอย่างบ้าคลั่งยิ่งกว่าปีที่แล้วขึ้นเยอะ ตึกอาคารต่างรายล้อมไปด้วยเถาวัลย์ที่เลื้อยขึ้นพันรอบ แม้แต่ลำต้นไม้บางต้นยังขึ้นทะลุกำแพงขึ้นมา ต้นไม้กลายพันธุ์สูงใหญ่ราวกับตึก บ้านหลายหลังก็ติดขึ้นไปกับต้นไม้ที่โตขึ้นจนลอยอยู่บนฟ้า

 

“เหอะๆ ช่างเป็นที่ที่น่าอยู่จริงๆ มีแต่ธรรมชาติเต็มไปหมด” ชูฮันมองไปรอบและอดไม่ได้ที่จะเหยียดถึงพวกคนในค่ายเขี้ยวหมาป่าที่ไม่เข้าใจเขา “พวกคนพวกนั้นที่เอาแต่กังวลไม่ถูกเรื่อง มันควรจะกังวลว่าต่อไปจะอยู่ยังไงดีกว่ามั้ย?”

 

“คงเป็นความปรารถนาของนายสินะ” หวังไคกรอกตา “ในตัวเมืองอันลูมีซอมบี้อยู่ 1.5 ล้านตัว มันคงใช้เวลากวาดล้างซักสองสามปีได้? อาคารก่อสร้างของค่ายเขี้ยวหมาป่าน่าจะเสร็จสิ้นในอีกหนึ่งปีหรืออาจจะล่าช้ากว่านั้น? มันช้าเกินไปสำหรับการกวาดล้างซอมบี้ทั้งหมดในเมืองอันลู!”

 

“แกมันไม่รู้อะไรสักอย่าง!” ชูฮันต่อต้านความคิดของหวังไคทันที “ซอมบี้มีฉนวนตรวจนำความร้อน ค่ายเขี้ยวหมาป่าอยู่แค่ด้านหลังของตัวเมืองอันลูเท่านั้น ถ้าเราไม่กวาดล้างซอมบี้ที่นี้ก่อน มันจะเป็นอันตรายซ่อนเร้นขนาดใหญ่ ก่อนหน้านี้ถ้าไม่ใช่เพราะหยางเทียนนำคนเข้าไปไล่ฆ่าซอมบี้ในตัวเมืองมาตลอดจนตอนนี้กลายเป็นหน้าที่ของกองทัพเขี้ยวหมาป่า ป่านนี้ค่ายเขี้ยวหมาป่าคงโดนถล่มราบเป็นหน้ากลองไปนานแล้ว!”

 

“แล้วถ้าเป็นยังงั้นนายมาเลือกตั้งค่ายที่ตรงนี้ทำไมล่ะ?” หวังไคก็ยังคงไม่เข้าใจอยู่ดี “ดูพวกค่ายหลักๆค่ายใหญ่พวกนั้นสิ มีค่ายไหนบ้างที่อยู่ติดกับใจเมือง? ตอนนี้ค่ายเขี้ยวหมาป่าอยู่ติดกับตัวเมืองอันลู เราเลยจำเป็นต้องกวาดล้างซอมบี้ในเมือง ถึงแม้กองทัพเขี้ยวหมาป่ารุ่นใหม่จะได้รับการฝึกและเตรียมความพร้อม แต่มันก็ยังต้องใช้เวลาพอสมควร กว่าจะถึงตอนนั้นการก่อสร้างของค่ายเขี้ยวหมาป่าก็คงใกล้จะเสร็จแล้ว แล้วเมืองอันลูก็เป็นแค่เมืองร้างเปล่า ใครจะอยากย้ายจากค่ายที่สำเร็จสมบูรณ์แล้วมาอยู่เมืองร้าง?”

 

ชูฮันแสยะยิ้ม “เมื่อไหร่ที่ฉันบอกว่าต้องรอฆ่าซอมบี้ให้หมดค่อยย้ายคนเข้ามาอยู่ในเมือง?”

 

ทันทีที่ชูฮันพูดจบประโยค หัวใจของหวังไคก็เหมือนกับหยุดเต้นไปชั่วขณะ มันจ้องไปที่ชูฮันด้วยแววตาสยอง ความรู้สึกว่ามันเป็นแค่เรื่องล้อเล่นผุดขึ้นมา “จะบ้าเหรอไง? จะให้คนไปอาศัยอยู่ในเมืองที่มีซอมบี้เป็นล้านตัว?”

 

หวังไคที่กำลังตื่นตูม ทว่าชูฮันกลับขี้เกียจอธิบายอะไรให้ฟัง เพียงแค่ล้อเลียนใส่หวังไค “อย่าใช้สมองหมูของแกมาเดาตรรกะระดับพระเจ้าของฉันสิ”

 

เนื่องจากเพราะกองทัพเขี้ยวหมาป่าและโปรแกรมการฝึก ทำให้เส้นถนนระหว่างค่ายเขี้ยวหมาป่าไปจนถึงทางเข้าตัวเมืองอันลูนั้นค่อนข้างปลอดภัยและสงบ แต่ชูฮันก็ไม่ได้เจอกับกองทัพเขี้ยวหมาป่าตรงๆ หากเขาก็ได้ฆ่าซอมบี้เป็นบางตัวระหว่างทาง

 

ในช่วงต้นครึ่งปีที่แล้ว หยางเทียนต้องรับมือกับปัญหาการกวาดล้างซอมบี้มานาน แต่หลังจากมีกองทัพเขี้ยวหมาป่าเข้ามา ปัญหาเรื่องพื้นที่อันตรายหลายจุดที่หยางเทียนไม่สามารถแก้ไขได้ก่อนหน้านี้ก็ได้รับการแก้ไขทันที กองทัพเขี้ยวหมาป่าจัดการกวาดล้างฝูงซอมบี้ที่ปรากฏตัวจนหมดไม่ให้เหลือรอดสักตัวเดียว

 

เป็นเพราะความสามารถของชูฮัน การอ่านแผนที่และคาดการณ์สถานการณ์ล่วงหน้า การเชื่อมโยงตำแหน่งต่างๆเข้าด้วยกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก การใช้เล่ห์เหลี่ยมของที่ตั้งโดยใช้เมืองอันลูเป็นที่กั้นก่อนที่ภัยร้ายจะมาถึงค่ายเขี้ยวหมาป่า และให้ทุกคนตั้งมั่นเป็นตามจุดที่เชื่อมกันจนเป็นเส้นเหลี่ยมมุมฉาก และถ้ามันเกิดการระเบิดของฝูงซอมบี้ที่แห่มาจากที่อื่น จุดแรกที่ฝูงซอมบี้จะต้องปะทะก่อนก็คือตัวเมืองอันลู หลังจากนั้นถึงจะมาถึงแนวป้องกัน ซึ่งมันก็ยังเป็นการเพิ่มเวลาในการเตรียมความพร้อมของค่ายเขี้ยวหมาป่าด้วย

 

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าทีมที่กำลังทำการฝึกอยู่จะพัฒนาขึ้นหรือสามารถก่อตั้งเส้นแนวป้องกันได้มั้ย นั่นก็ไม่ใช่จุดประสงค์ที่แท้จริงของชูฮัน พื้นที่บริเวณสี่เหลี่ยมมุมฉากที่เขาวาดไว้ก่อนนั่นคือพื้นที่สำหรับชาวบ้านของค่ายเขี้ยวหมาป่า

 

ในความคิดของชูฮัน ทั้งขอบเขตของอันลูได้ถูกแบ่งออกเป็นเขตย่อยๆหลายเขต ตามการแบ่งส่วนของที่ดินและถนนแล้ว ทั้งบริเวณตามเส้นสี่เหลี่ยมมุมฉากที่ชูฮันวางไว้คือ พื้นที่ 1 ซึ่งเป็นจุดที่กองทัพเขี้ยวหมาป่ากวาดล้างให้หมดแล้วและท้ายที่สุดถ้ามีซอมบี้โผล่มา กลุ่มผู้รอดชีวิตที่อยู่ตรงนั้นก็จะจัดการกันเอง

 

ขั้นตอนต่อไปของกองทัพเขี้ยวหมาป่าที่ พื้นที่ 2 ส่วนทีมต่างๆที่ประจำตามจุดที่ชูฮันวางไว้ก็ยังตั้งมั่นอยู่ที่เดิมจนกว่ากองทัพเขี้ยวหมาป่าจะสามารถจัดการซอมบี้ให้ พื้นที่ 2 ได้จนหมดพวกเขาถึงจะถูกส่งไปที่จุดต่อไป

 

ในตอนนั้น พื้นที่พวกนี้ก็จะกลายเป็นพื้นที่ที่มีความปลอดภัยสูงยิ่งกว่าค่ายเขี้ยวหมาป่าอีก เพราะทุกการเชื่อมต่อของทุกพื้นที่นั้นล้วนแต่ได้รับการไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนจากชูฮันมาแล้ว ซึ่งการจัดการฝูงซอมบี้ที่เจอแต่ละครั้งในแต่ละพื้นที่ กองซากศพของพวกซอมบี้ก็จะทำหน้าที่เป็นที่กำแพงกั้นของพื้นที่ก่อนหน้านี้ นอกเหนือจากกว่าซอมบี้หลายแสนตัวระเบิดออกมาทีเดียวพร้อมกัน นั้นแหละถึงจะสามารถทยายกำแพงและจุดตั้งมั่นทั้งหลายได้

 

ค่อยๆทำไปเรื่อยๆทีละขั้นๆ นี่เป็นแผนการที่ชูฮันไตร่ตรองมาอย่างถี่ถ้วนแล้วในหัวเป็นขั้นๆ เมืองอันลูเป็นเมืองเดียวที่สามารถใช้วิธีการนี้ได้ ส่วนอื่นๆนั้นไม่สามารถ เป็นเพราะว่าเมืองอันลูเป็นเมืองเดียวที่แม่น้ำสายเล็กๆทั้งหลายมาบรรจบกันจากทั้งจีนและล้อมรอบตัวเมืองไว้ ซึ่งมันก็ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันจากธรรมชาติที่ช่วยป้องกันฝูงซอมบี้จากเมืองอื่นที่จะมุ่งหน้ามาได้

 

เพราะงั้นที่หวังไคถามว่าทำไมถึงมาสร้างค่ายที่นี้

 

มันไม่ใช่เรื่องไร้สาระ!

 

การฝึกการสังหารหมู่ซอมบี้ของกองทัพเขี้ยวหมาป่าได้ดำเนินมาถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว และกำลังจะเสร็จสิ้นการกวาดล้างเพื่อสร้างฐานที่มั่นสุดท้ายแล้ว เหลือเพียงแค่จุดสุดท้ายซึ่งเป็นจุดที่จะเชื่อมต่อเข้ากับจุดแรกของสี่เหลี่ยมมุมฉากมันก็จะสำเร็จตามแผน แต่มันก็ยังไม่พอ พื้นที่ตรงกลางยังคงมีซอมบี้เหลืออยู่ประปราย พวกเขาจำเป็นต้องกวาดล้างใ้ห้สิ้นก่อน ซึ่งมันต้องใช้เวลาพักหนึ่งเพราะถึงอย่างไรแล้วนี้เป็นภารกิจขนาดใหญ่

 

เวลานี้ชูฮันได้มาถึงจุดเชื่อมแล้ว ตอนนี้กองทัพเขี้ยวหมาป่ายังขาดแคลนคนอยู่ และดูจากพื้นที่การกระจายของฝูงซอมบี้แล้วมันจะต้องเป็นเขาเท่านั้นถึงจะรับมือไหว กระสุนล่อซอมบี้ล็อตแรกนั้นสมบูรณ์แล้วพร้อมเริ่มใช้ได้ทุกเมื่อ เขาจำเป็นแค่ต้องหาตำแหน่งที่เหมาะสมที่จะใช้กระสุนนี้ ไม่ใช่ว่าจะยิงมั่วๆล่อให้ฝูงซอมบี้แห่มาตรงไหนก็ได้เพราะมันอาจจะทำลายแนวตั้งมั่นเส้นสี่เหลี่ยมมุมฉากที่วางไว้ มันสำคัญมากที่ต้องดูพื้นที่และภูมิศาสตร์โดยรอบด้วยว่ามันเหมาะสมที่จะโจมตีตรงนี้มั้ย หรือหลังจากจัดการพวกมันเสร็จ กองศพขนาดใหญ่ของฝูงซอมบี้อาจดึงดูดความสนใจมากเกินไป

 

ขณะเดินและดูลาดเลาไปด้วย จู่ๆชูฮันก็เห็นควันลอยขึ้นฟ้าจากตำแหน่งที่ห่างออกไป มันคือตำแหน่งที่กองทัพเขี้ยวหมาป่ากำลังกวาดล้างฝูงซอมบี้อยู่นั่นเอง

 

ในขณะเดียวกัน กองทัพเขี้ยวหมาป่าก็ยังคงจัดการกวาดล้างซอมบี้ต่อไปเรื่อยๆ เกือบทุกวันที่แผนกโลจิสติกส์ทำหน้าที่ส่งเสบียงมาให้พวกเขา เช่นเดียวกับที่พวกเขาส่งคริสตัสสีดำของซอมบี้จำนวนมากกลับไปแทนอย่างเป็นวงจร ค่ายเขี้ยวหมาป่ามีปริมาณคริสตัลของซอมบี้เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ  ซึ่งเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญมากอย่างหนึ่งของค่ายเขี้ยวหมาป่าที่จะนำไปทำการก่อสร้างพัฒนาตัวค่ายต่อ แน่นอนว่าข้อมูลตรงจุดมีแค่เจ้าหน้าที่ระดับสูงเท่านั้นที่เข้าถึงได้

 

คริสตัลไม่ใช่แค่สมบัติที่ใช่ในการแลกเปลี่ยนเป็นเหรียญล่มสลายเท่านั้น แต่มันยังเป็นวัสดุสำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาการของแผนกวิจัยด้วย ในอนาคตอันใกล้ คริสตัสของซอมบี้จะกลายเป็นวัสดุหลักสำหรับทุกคนในการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน

 

ในขณะที่ชูฮันกำลังเดินไปตามทางพร้อมกับวิเคราะห์และค้นหาตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่เหมาะสมอยู่ ทันใดนั้นมันก็มีผู้ชายสองคนปรากฏตัวขึ้นกลางถนน ขวางทางเดินของชูฮันเอาไว้

Apocalypse Meltdown

Apocalypse Meltdown

มันเป็นโลกที่ซอมบี้และมนุษย์อาศัยอยู่ด้วยความสิ้นหวัง สนามแม่เหล็กของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงและทุกอย่างได้ย้อนกลับมายังจุดเริ่มต้น วันหนึ่ง วีรบุรุษของพวกเรา…ชูฮัน ได้เดินทางย้อนเวลากลับมาสิบปีก่อนโดยไม่รู้ตัว เขาได้ย้อนกลับมาก่อนจุดจบของโลกจะเริ่มต้นขึ้น (โลกาวินาศ) เขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงดังในหอพักในมหาวิทยาลัยหมิงชิว ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาได้กลับชาติมาเกิดใหม่ ชูฮันต่อสู้กับเหล่าซอมบี้นับสิบๆตัวก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถเพื่อขโมยรถยนต์เมอร์ซิเดซ-เบนซ์G55ออกมา เขาตัดสินใจที่จะตามหาพ่อแม่และพี่น้องของเขาด้วยG55คันนี้ ซึ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาเสียใจที่ไม่ได้ทำในชาติที่แล้ว ระหว่างทางชูฮันได้พบปะกับคนกลุ่มหนึ่งที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีคนที่ติดอันดับ 20 ของโลกาวินาศรวมอยู่ด้วย…เฉินช่าวเย่ พวกเขาพบกับซอมบี้จำนวนมากระหว่างทางบนทางหลวง ซึ่งชูฮันได้ใช้รถ G55 พุ่งชนเหล่าซอมบี้จนเละ และในตอนนั้นเอง ชูฮันถึงตระหนักได้ว่าทั้งหมดนี้คือระบบล่มสลาย และเขาสามารถได้คะแนนจากการฆ่าซอมบี้ทั้งหลาย ซึ่งเขาสามารถเอาคะแนนพวกนี้ไปแลกเปลี่ยนเป็นความสามารถพิเศษอะไรก็ได้ และในตอนนั้นเอง การเดินทางของชูฮันก็ได้เริ่มต้นขึ้นไปพร้อมๆกับระบบล่มสลาย นี่เป็นเรื่องราวของระบบล่มสลาย โดยมีเขา…ชูฮัน เป็นคนดำเนินเรื่องราว

Comment

Options

not work with dark mode
Reset