Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย – ตอนที่ 635 จำวันนี้เอาไว้ มันจะเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์

ค่ำคืนของคืนนี้ค่อนข้างเงียบสงบเป็นพิเศษ และเหล่าทหารใหม่ของกองทัพเขี้ยวหมาป่าที่กำลังจะเจอกับบททดสอบของจริง ทุกคนนอนหลับก็อย่างไร้การระวังภัย มีเพียงแค่เหล่าทหารผ่านศึก 50 คนที่นอนหากยังตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ตามความเข้าใจของเหล่าทหารใหม่ที่มีต่อท่านหัวหน้าชูฮันคือพวกเขาจะได้พักผ่อนอย่างสบายๆในคืนนี้ แต่สำหรับเหล่าทหารผ่านศึกที่ได้ยินคำสั่งนี้พวกเขารู้ได้เลยว่ามันผิดปกติ!

 

แน่นอนว่าเช้าวันถัดวัน ทันทีที่แสงอาทิตย์เริ่มสาดส่อง ชูฮันก็เปิดประตูเข้ามาภายใต้ห้องพักที่ตั้งมั่นอย่างแรง

 

“ลุกขึ้น!” เสียงของชูฮันดังสนั่น มันเต็มไปด้วยความรุนแรงและความเหี้ยมโหด “รวมตัวกันในอีกนาทีหนึ่งนาที เตรียมตัวโจมตีศัตรู!”

 

ศัตรู?!

 

เฮือก!

 

ทันใดนั้นทุกคนก็พลันสะดุ้งกระโดดขึ้นยืน บางคนไม่มีแม้แต่เวลาจะได้ขยี้ตาด้วยซ้ำ พวกเขารีบคว้าอาวุธและวิ่งพุ่งออกไปด้านหน้าทันที แต่นั่นคือปฏิกิริยาตอบสนองของเหล่าทหารผ่านศึก สำหรับทหารมาใหม่นั้นพวกเขาเชื้องช้ากว่า หลังจากในตอนแรกที่มัวแต่ตะลึง หวาดกลัว ตกใจ พวกเขาก็รีบเร่งฝีเท้าตามกลุ่มทหารผ่านศึกไป

 

ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งนาที ทหารทั้ง 400 คนยืนนิ่งเป็นระเบียบแถวอยู่ด้านนอก

 

มองไปที่กลุ่มคนที่มีอาวุธพร้อมอยู่ในมือ ชูฮันก็ยิ้มเยาะออกมา “ดีนี่! แล้วภาพลักษณ์ล่ะ? ใครที่ไม่รู้คงคิดว่าพวกเขาเป็นกลุ่มผู้ลี้ภัย!”

 

“ท่านครับ?” ทหารผ่านศึกคนหนึ่งที่คิดไม่ตก หมุนหัวไปมา มองไปรอบๆและเมื่อไม่เห็นอันตรายใดๆ “ไม่ใช่มีศัตรูโจมตีเหรอครับ?”

 

“ฉันบอกไม่ได้บอกว่าศัตรูภายนอกโจมตีเรา มันคือพวกเราที่โจมตีกันเอง” ชูฮันที่หมดความอดทนจ้องเขม็งไปที่กลุ่มทหารตรงหน้า “กลับไปล้างหน้าล้างตาพวกคุณซะ!”

 

“พรึบ ~”

 

ทั้งสี่ร้อยคนถอนหายใจออกมาพร้อมกันอย่างโล่งอก อารมณ์ของทุกคนตกอยู่ในมือของชูฮัน นี่มันคือการฝึกพิเศษงั้นสินะ?

 

เหล่าทหารผ่านศึกหลายครั้งจดบันทึกเตือนไว้กับตัวเอง : อารมณ์ของท่านหัวหน้าไม่คงที่ แต่วันนี้ดูเหมือนจะอารมณ์ดี แถมยังเล่นตลกกับพวกเขาอีก…

 

ห้านาทีต่อมา ทั้งสี่ร้อยคนที่ไปจัดการตัวเองเรียบร้อยก็กลับคืนสู่สภาวะเดิม แม้ว่าในโลกาวินาศหลายคนจะไม่มาสนใจกับสภาพภายนอกแต่อย่างน้อยมันก็ต้องไม่ดูน่าเกลียดเกินไป พวกเขาเป็นหนึ่งในกองทัพเขี้ยวหมาป่า แม้ว่ากองทัพเขี้ยวหมาป่าจะยังไม่ได้รับการแต่งตั้งและยอมรับอย่างเป็นทางการจากซางจิง แต่หลังจากสงครามกลางภูเขา ท่ามกลางหัวใจของชาวจีนส่วนใหญ่ กองทัพเขี้ยวหมาป่าได้กลายเป็นกองทัพที่เก่งกาจและน่าเกรงขามที่สุดแล้วในตอนนี้

 

มองไปที่กลุ่มทหารสี่ร้อยคน ที่ยืนถัดไปคือทีมยิงปืนที่สมาชิก 50 คน สีหน้าของชูฮันแสดงความคาดหวังออกมา “วันนี้ ปีที่สองของยุคโลกาวินาศ วันที่ 20 เมษายน พวกคุณจำวันนี้เอาไว้ มันจะเป็นวันสำคัญวันแรกของกองทัพเขี้ยวหมาป่า มันคือวันแรกแห่งการเปลี่ยนแปลง ทั้งค่ายเขี้ยวหมาป่าจะย้ายมาอยู่ที่เมืองอันลูทั้งหมด!”

 

เมื่อได้ฟังคำพูดของชูฮันที่เต็มไปด้วยอารมณ์อย่างกระทันหัน ทหารทั้ง 400 นายก็สะดุ้งตกใจกันหมด พวกเขาเงยหน้าขึ้นสบตาชูฮันด้วยตาที่เบิกกว้าง น้ำเสียงอันทรงพลังและอำนาจของชูฮันทำให้พวกเขารู้สึกฮึกเฮิมขึ้นมา มันเต็มไปด้วยความตื่นตัว แม้พวกเขาจะไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปก็ตาม

 

“ในทำนองเดียวกัน วันนี้จะเป็นวันที่เราจะสร้างความกระจ่างให้แก่มนุษยชาติทั่วทั้งจีน มันคือวันแห่งการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์!” ชูฮันยิ้มและยกเท้าขึ้นออกเดินอย่างช้าไปที่ด้านหน้าของทุกคน แววตาของชูฮันเต็มไปด้วยโกรธ เขากวาดสายตาสบตากับทหารทั้ง 400 คนของเขาที่มีแต่ความแน่วแน่และมุ่งมั่นให้เห็น “กองทัพเขี้ยวหมาป่าจะทำให้มนุษยชาติทั้งหมดตะลึง เมืองอันลูจะเป็นสถานที่ที่มีความสุขสำหรับผู้รอดชีวิตชาวจีนทุกคน มันจะเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด เป็นที่พักพิงของทุกคน เราจะเป็นฮีโร่ของโลกนี้!”

 

พรึบ!

 

แววตาเป็นประกายจ้าของทุกคนสาดส่องมาที่ชูฮัน ทุกคนเริ่มคาดการณ์ภาพในอนาคตตามที่หัวหน้าบอก พวกเขามีลางสังหรณ์ว่าหัวหน้าจะต้องแผนการอันน่าตื่นตาตื่นใจอยู่แน่ๆ และวันนี้คือวันแรกของการดำเนินการ หากพวกเขาสงสัยเพียงข้อเดียวเท่านั้น แผนการนั้นคืออะไร?

 

“แน่นอน ฉันก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไง” ชูฮันพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ “แต่ที่ฉันรู้ก็คืออย่างน้อยเราจะไม่มีทางล้มเหลว”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า!” หลายคนอดไม่ได้ที่จะหลุดหัวเราะออกมา ไม่ล้มเหลว? นั่นมันไม่ใช่อีกความหมายของคำว่าต้องสำเร็จเหรอไง?

 

เมื่อเห็นแววตาเป็นประกายและรอยยิ้มของหลายคนซึ่งมันคือความหมายของคำว่าเชื่อใจอย่างเต็มเปี่ยม ชูฮันก็อารมณ์ดีสุดๆ “กองทัพเขี้ยวหมาป่า เตรียมตัว!”

 

กลับไปที่แผนเดิม ฟื้นฟูเมืองให้กลับมามีชีวิต เริ่มได้!

 

หน่วยทหารย่อย 40 หน่วย หรือ ทหาร 400 นาย มันไม่จำเป็นต้องมีคำสั่งเพิ่มเติมจากชูฮัน ไม่ว่าจะเป็นหทารผ่านศึกหรือทหารมาใหมา พวกเขามีความเข้าใจพิเศษกับหัวหน้าชูฮันของพวกเขส ทุกคนคงระดับความเร็วในการปฏิบัติการได้อย่างต่อเนื่อง ภายในเวลาสั้นๆพวกเขาก็มาถึงสนามเทนนิสที่ซึ่งชูฮันตั้งไว้เป็นสนามรบอย่างรวดเร็ว

 

ส่วนทีมยิงปืน พวกเขาอยู่ประจำที่ของตัวเองก่อนหน้านี้แล้ว ทุกคนประจำตำแหน่งของตัวเองในมือมีปืนไรเฟิลที่ถือไว้อย่างมั่นคง พร้อมจะยิงได้ทุกเมื่อรอเพียงแค่ถึงเวลาตามตารางเวลาที่ชูฮันจัดไว้เท่านั้น พวกเขาจะเหนี่ยวกระสุนไปที่อาวุธ B ที่ตั้งไว้ห่างไกลออกสำหรับหลอกล่อซอมบี้

 

เฉินช่าวเย่ที่ใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะปีนขึ้นไปเสาตั้งสูงที่สูงที่สุดตรงใจกลางของคอร์ดสนามเทนนิสเขาพยายามสุดความสามารถ ใช้ทั้งมือและเท้าทั้งสองข้างถีบตัวเองขึ้นไปจนในที่สุดร่างกลมๆก็สามารถปีนขึ้นไปถึงได้

 

ภาพเหตุการณ์นั้นตกอยู่ในสายตาของทหารทั้ง 400 คนที่ชูฮันจัดการให้เดินเข้าไปประจำตามคอร์ดสนามทั้งหลาย หลายคนที่ได้เห็นก็อดไม่ได้ที่จะหลุดหัวเราะออกมา หากพวกเขาก็รีบหมุนตัวเดินไปประจำตามจุดของตัวเอง เสาสูงที่เฉินช่าวเย่ขึ้นไปประจำนั่นมันสำหรับคนหุ่นธรรมดา แต่เมื่อเฉินช่าวเย่ขึ้นไปอยู่มันจึงดูเหมือนหมีปีนขึ้นไปอยู่บนยอดต้นไผ่ที่พร้อมจะหักล้มลงมาได้ทุกเมื่อ

 

หลังจากหัวเราะกันอยู่ได้ไม่กี่นาที ทุกคนก็ต้องหยุดชะงักเพราะจู่ๆมันก็มีเสียงระเบิดของกระสุนบางอย่างที่ผ่านหน้าพวกเขาไปอย่างรุนแรง ซึ่งมันดังก้องห่างออกไปจากพวกเขาหนึ่งกิโลเมตร

 

ในตอนนั้นเอง หัวใจของทั้ง 400 คนหยุดเต้นทันที และรีบก้มลงมองตัวองอย่างหวาดๆ มันพวกสนามเทนนิสมากมายหลายสนามในคอร์ดนี้ แต่หัวหน้าชูฮันให้พวกเขากระจายตัวไปประจำตามสนามทั้งหลายโดยเฉลี่ย ในมือของทุกคนมีอาวุธกันหมด บางคนก็เป็นอาวุธทั่วไป บางคนก็มีอาวุธหนัก

 

เสียงยิงปืนที่ดังมาจากระยะไกลนั้นสามารถสร้างความสนใจจากฝูงซอมบี้ได้อย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ไกลจากที่ตรงนี้ มันมีฝูงซอมบี้ขนาดใหญ่ที่ไม่ควรจะก่อตัวขึ้นอยู่

 

ทว่า…

 

ชูฮันที่ยืนห่างออกไปกลับยืนยิ้มอยู่ กลับเป็นทหารทั้ง 400 นายที่มองภาพที่เกิดขึ้นด้วยสีหน้าหวาดกลัว นี้หัวหน้ากำลังเล่นบ้าอะไรอยู่?!

 

ในขณะที่ทุกคนกำลังกลัวและบางคนก็ไม่พอใจ ทหารทั้ง 400 คนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยและถูกชูฮันสั่งให้อยู่กับที่จู่ๆก็ต้องตกใจกับเสียงยิงปืนนัดที่สองที่ดังขึ้นมาอีกครั้งอย่างไร้สัญญาณเตือน

 

ครั้งนี้ เสียงดังก้องมันดังขึ้นกว่าเดิม ก่อให้เกิดเสียงสะท้อนก้องไปทั่วทุกคน จากใกล้ถึงไกล ทุกคนที่ประจำตามจุดๆต่างที่ชูฮันวางไว้ได้ยินเสียงกันหมด มันคือเสียงสัญญาณของการเริ่มภารกิจ

 

นั่นคือ…

 

เริ่มขั้นต่อไปได้

 

มีเสียงฝีเท้าของทหารคนหนึ่งที่วิ่งมาอย่างเร่งรีบและรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่ามันจะต้องเป็นเรื่องด่วนและเต็มไปด้วยความกังวล

 

“ซอมบี้!” เสียงตะโกนดังท่ามกลางความเงียบของทุกคน ทำให้ทุกคนสามารถได้ยินกันหมด

หลังที่ทหารคนนั้นตะโกนขึ้นมา รอยยิ้มของชูฮันก็ยิ่งขยายขึ้นกว่าเดิม ตามมาด้วยเสียงหัวเราะ “ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม มันมีซอมบี้ไม่มาก แค่หมื่นตัว”

 

ครั้งนี้ ซอมบี้ฝูงแรกที่อยู่ในระยะใกล้ที่สุดเริ่มได้กลิ่นเลือด มันรู้เป้าหมายที่มันต้องไปแล้ว ตามมาด้วยฝูงที่สองและสามที่อยู่ห่างออกไป พวกมันเริ่มออกตัวมุ่งมาที่เป้าหมาย ฝูงซอมบี้ขนาดใหญ่ที่รวมได้ทั้งหมดไม่น้อยกว่าหมื่นตัวกำลังค่อยๆทยอยมุ่งหน้ามาที่คอร์ดสนามเทนนิส พวกมันส่งเสียงคำราม โหยหวน ดังก้องไปทั่ว

 

และในเวลาเดียวกัน

 

ปัง!

 

กระสุนนัดแรกของเฉินช่าวเย่ถูกยิงออกไปแล้ว!

Apocalypse Meltdown

Apocalypse Meltdown

มันเป็นโลกที่ซอมบี้และมนุษย์อาศัยอยู่ด้วยความสิ้นหวัง สนามแม่เหล็กของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงและทุกอย่างได้ย้อนกลับมายังจุดเริ่มต้น วันหนึ่ง วีรบุรุษของพวกเรา…ชูฮัน ได้เดินทางย้อนเวลากลับมาสิบปีก่อนโดยไม่รู้ตัว เขาได้ย้อนกลับมาก่อนจุดจบของโลกจะเริ่มต้นขึ้น (โลกาวินาศ) เขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงดังในหอพักในมหาวิทยาลัยหมิงชิว ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาได้กลับชาติมาเกิดใหม่ ชูฮันต่อสู้กับเหล่าซอมบี้นับสิบๆตัวก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถเพื่อขโมยรถยนต์เมอร์ซิเดซ-เบนซ์G55ออกมา เขาตัดสินใจที่จะตามหาพ่อแม่และพี่น้องของเขาด้วยG55คันนี้ ซึ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาเสียใจที่ไม่ได้ทำในชาติที่แล้ว ระหว่างทางชูฮันได้พบปะกับคนกลุ่มหนึ่งที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีคนที่ติดอันดับ 20 ของโลกาวินาศรวมอยู่ด้วย…เฉินช่าวเย่ พวกเขาพบกับซอมบี้จำนวนมากระหว่างทางบนทางหลวง ซึ่งชูฮันได้ใช้รถ G55 พุ่งชนเหล่าซอมบี้จนเละ และในตอนนั้นเอง ชูฮันถึงตระหนักได้ว่าทั้งหมดนี้คือระบบล่มสลาย และเขาสามารถได้คะแนนจากการฆ่าซอมบี้ทั้งหลาย ซึ่งเขาสามารถเอาคะแนนพวกนี้ไปแลกเปลี่ยนเป็นความสามารถพิเศษอะไรก็ได้ และในตอนนั้นเอง การเดินทางของชูฮันก็ได้เริ่มต้นขึ้นไปพร้อมๆกับระบบล่มสลาย นี่เป็นเรื่องราวของระบบล่มสลาย โดยมีเขา…ชูฮัน เป็นคนดำเนินเรื่องราว

Comment

Options

not work with dark mode
Reset