Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย – ตอนที่ 693 สาวงามทั้งหลาย

โลกาวินาศล่มสลาย ตอนที่ 693 สาวงามทั้งหลาย

 

หลังจากตวนเจียงเหว่ยจ่ายเหรียญล่มสลายไปเป็นจํานวนมากสําหรับข้อมูลของโลกคู่ขนาน เสาหินระยะ 2 ตวนเจียงเหว่ยก็คัดเลือดวิวัฒนาการระยะ 2 ทั้งหมดในค่ายตวนของเขา และรีบรวมพลทันทีอย่างสายฟ้าแลบ เฮลิคอปเตอร์ทุกลําในค่ายทวนถูกเรียกออกมาใช้เพื่อเป็นพาหนะนําส่งเหล่าวิวัฒนาการระยะ 2 เข้าทําการทดสอบที่เสาหินแห่งเมืองโรแมนติก

 

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เฮลิคอปเตอร์สิบกว่าลําของค่ายตวนกําลังมุ่งหน้าเข้าสู่เขตพื้นที่เมืองอันลู โดยยังไปไม่ทันถึงเมืองโรแมนติกก็ถูกทีมลาดตระเวนนําโดยเจียงเทียนชิงค้นพบเข้าซะก่อน

 

โดยไม่ต้องคิดพิจารณาใดๆ เพียงเทียนชิงรีบจัดพื้นที่รับรองสําหรับจอดเฮลิคอปเตอร์ของผู้มาเยือนกลุ่มแรกทันที ปริมาณจํานวนผู้มาเยือนจากค่ายตวนก็ตรงตามแผนการที่หัวหน้าชูชั้นวางเอาไว้ก่อนจะไป

 

“ลําแรกลงจอดได้ที่ลานจอดด้านนอกเมืองโรแมนติกเลยครับ” มีเสียงส่งขึ้นมาอย่างฉับพลัน จากวิทยุสื่อสารของตวนเจียงเหว่ยง

 

เจียงเทียนชิงที่หาช่องทางสื่อสารของตวนเจียงเหว่ยเจอก็กระจายเสียงข้อความไปเป็นครั้งแรก

 

ตวนเจียงเหว่ยที่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์ลําแรกนิ่วหน้า มันเป็นเรื่องที่แสนจะธรรมดาที่คนของชูฮันจะสามารถหาช่องความถี่วิทยุติดต่อเขามาได้ ถ้ามันไม่ใช่แบบนั้น มันก็ไม่มีหน้าเรียกว่าเป็นค่ายของพลเอกได้

 

แต่ที่ทําให้ตวนเจียงเหว่ยไม่พอใจก็คือคนของเขามองเห็นพื้นที่ที่สามารถลงจอดในเมืองโรแมนติกได้ชัดเจนอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่เจียงเทียนชิงกับติดต่อมาด้วยทัศนคติที่ชัดเจนเพื่อห้ามเขา นี่มันคืออะไร?

 

“เราลงจอดที่ลานจอดในเมืองได้มั้ย?” ตวนเจียงเหว่ยถามด้วยความไม่เข้าใจ จากนั้นก็เสริมเพิ่ม “ฉันคือพลเอกตวนเจียงเหว่ยแห่งค่ายตวน และฉันเป็นพันธมิตรกับพลเอกของคุณ

 

เขาเสียเงินเป็นแสนเหรียญเพื่อแลกกับข้อมูลมือแรกมานะ!

 

ที่มลาดตระเวนที่หยุดขบวนเฮลิคอปเตอร์ไว้ยังคงไม่หยุดการกระทําของตัวเอง พวกเขายังคงยืนโบกมืออยู่ที่ลานจอดในเมืองโมแรนติกเพื่อขวางไม่ให้ตวนเจียงเหว่ยและทหารของเขาได้ลงจอด และไม่มีเจตนาที่จะถอยเลยสักนิด

 

ในเวลาเดียวกัน เพียงเทียนชิงก็ส่งเสียงผ่านวิทยุสื่อสารของตวนเจียงเหว่ยขึ้นมาอีกครั้ง “แน่นอนครับท่านผู้นําค่ายตวน เฮลิคอปเตอร์ของท่านพลเอกตวนสามารถลงจอดในเมืองได้โดยตรงเลยครับ แต่ลําอื่นผมต้องขออภัย ลานจอดนี้มีไว้สําหรับตําแหน่งพลตรีขึ้นไปครับ แม้จะเป็นวิวัฒนาการระยะ 6 แต่ถ้าไม่ได้มียศตามกําหนดก็ไม่สามารถลงจอดที่นี้ได้ครับ!”

 

น้ําเสียงของเจียงเทียนชิงทั้งชัดเจนและเต็มไปด้วยพลังเขาไม่เปิดช่องว่างใดๆให้ตวนเจียงเทียนได้แย้งเลยแม้แต่คําเดียว ตวนเจียงเหว่ยกําลังเดือดดาลอย่างมาก เขารู้แน่ชัดว่านี้ต้องเป็นคําสั่งของชูฮันแน่ๆ มีเพียงมันคนเดียวที่จะยโสโอหังได้ขนาดนี้

 

พ้ะ!

 

เสียงปิดวิทยุสื่อสาร สีหน้าของตวนเจียงเหว่ยดํามืดตามอารมณ์ เขาออกคําสั่งกับทหารตัวเองเสียงเข้มทันที ”เราจอดข้างนอก”

 

ชูฮัน…ไอ้ผู้ชายมันมีข้อแม้มากเกินไป ถ้าเขายอมลงจอดเฮลิคอปเตอร์ลําของตัวเขาเองลําเดียวที่กลางเมือง แล้วให้ทหารที่เหลือของเขาไปจอดข้างนอกเมืองมัน คงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้แหละว่าเขาจะไปเจอกับกับดักอะไร

 

“เฮ้ เฮ้!” เจียงเทียนชิงที่ถูกอีกฝ่ายปิดการติดต่อไปก็พยายามโบกมือส่งสัญญาณให้กับคนของเขาที่ยืนดูสถานการณ์อยู่บนที่สูง ซึ่งมันเป็นสัญญาณท่าทางที่มีเพียงแค่ทหารของกองทัพเขี้ยวหมาป่าเท่านั้นที่เข้าใจ

 

อีกฝ่ายที่เห็นสัญญาณมือจากเจียงเทียนชิงก็เข้าใจได้ทันที ทหารคนนั้นหมุนตัวและหันไปส่งสัญญาณให้คนอื่นๆต่อไป เนื่องด้วยกําแพงที่ถูกแบบมาอย่างเป็นเอกลักษณ์ของเมืองโรแมนติก ทหารทุกคนจึงยืนประจําบนกําแพงแต่ละจุดตามที่ได้รับคําสั่ง

 

ตวนเจียงเหว่ยกับทหารมากกว่าร้อยคนลงจากเฮลิคอปเตอร์และมุ่งหน้าเดินไปที่ประตูเมืองโรแมนติกทันที ไม่รอให้เมืองโรแมนติกส่งคนออกมาต้อนรับหรือใดๆทั้งสิ้น ทุกคนเดินตามการนําขบวนของตวนเจียงเหว่นอย่างเป็นระเบียบ ตวนเจียงเหว่ยในใจนั้นไม่พอใจอย่างมาก เขาไม่เข้าใจว่าชูฮันคิดจะทําบ้าอะไร แต่อย่างน้อยเขาก็รู้ว่าชูฮันไม่เคยยอมพลาดโอกาสแม้แต่เพียงเสี้ยวเดียวที่จะหาผลประโยชน์ แม้ว่าสิ่งที่ทําบางครั้งอาจจะไม่สร้างผลประโยชน์ใดๆนอกจากความขุ่นเคือง แต่ชูฮันเองก็พร้อมที่จะขุดหลุมดักไว้เสมอ

 

ความสามารถเรื่องวางกับดักหลอกคนอื่นของชูฮันมันเป็นที่หนึ่ง

 

“ยินดีต้อนรับสู่เมืองโรแมนติกครับ” ทหารรักษาการณ์ตรงประตูทางเข้าเมือง ที่ดูเหมือนจะเป็นผู้นํา ซึ่งก็คือหนึ่งในมือดีของกองทัพเขี้ยวหมาป่าเอ่ยต้อนรับตวนเจียงเหว่ยพร้อมกับโค้งคํานับอย่างแสดงความเคารพ จากนั้นก็ส่งรอยยิ้มแปลกๆออกมา ” เชิญเข้าไปข้างในได้เลยครับท่าน ไปกันเถอะครับ”

 

– – –

ตวนเจียงเหว่ยยกเท้าขึ้นเดิน แววตาเย็นยะเยือก “ไม่มีการยืนยันตัวตนกันก่อนรึไง? ใครก็สามารถเข้าไปได้? แล้วถ้ามีลูกผสมแฝงตัวเข้ามาล่ะ?”

 

“คนเราเชื่อใจคนที่ท่านพลเอกพามาครับ” ทหารรักษาการณ์คนเดิมตอบด้วยน้ําเสียงเรียบนิ่ง หากยังมีความเคารพและมารยาท ” คนอื่นๆเราต้องยืนยันตัวตนก่อนครับ ท่านสําหรับท่านถือเป็นข้อยกเว้นเพราะท่านบริจาคให้ค่ายเขี้ยวหมาป่าเป็นจํานวนมาก”

 

พรึบ!

 

ทันใดนั้นหน้าของตวนเจียงเหว่ยก็ดําสนิทราวกับก้นหม้อ มันจะรื้อฟื้นความโง่ของเขาที่โดนหลอกเงินไปแสนเหรียญขึ้นมาทําไม?

 

สายตาของตวนเจียงเหว่ยเย็นชา มองไปที่ข้างหน้าซึ่งเป็นทางเดินเข้าเมืองและหันกลับไปมองจํานวนคนของเขาที่พามาเพื่อทําการทดสอบ และรู้ดีที่ความร้ายกาจของชูฮัน ตวนเจียงเหว่ยที่ยืนอยู่กลางถนนทําได้แค่ถอนหายใจ สรุปว่ามันไม่มีปัญหาอะไรในการจะเข้าไปใช่มั้ย?

 

และในขณะที่ทุกคนกําลังจะเตรียมตัวเดินเข้าไปในเมืองด้วยความระมัดระวัง

 

” พรึบ ”

 

ทันใดนั้นก็มีกลุ่มหญิงสาวที่แต่งกายเย้ายวนโผล่ออกมาจากที่พักในบริเวณโดยรอบกันเป็นจํานวนมากปรากฏกายขึ้น ทั้งเสื้อผ้าที่เน้นให้เห็นสัดส่วนของเหล่าหญิงสาว รวมถึงกลิ่นที่หอมละมุนนั้นส่งผลให้เหล่าทหารกว่าหนึ่งร้อยนายของตวนเจียงเหว่ยต่างใจสั่นและเสียสมาธิ

 

ทหารกว่าหนึ่งร้อยนายของตวนเจียงเหว่ยได้สติหลุดกันไปหมดแล้ว ตวนเจียงเหว่ยก็ตกใจเช่นกัน ทําไมจู่ๆถึงมีผู้หญิงจํานวนมากขนาดนี้วิ่งออกไปในสถานที่แบบนี้

 

และผู้หญิงพวกนี้ก็ไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาด้วย!

 

“พวกเธอไม่มีสิทธิแตะต้องตัวฉัน เอามือออกไปเดี๋ยวนี้!” ตวนเจียงเหว่ยที่กําลังตื่นตระหนกรีบปัดมือหญิงสาวที่อยู่ใกล้ตัวและพยายามจะสัมผัสเขาออกไปทันที หากมันดูจะเป็นเรื่องผิดพลาดเพราะมือของตวนเจียงเหว่ยกลับปัดไปโดยภูเขาหิมะขาวนิ่มๆแทน….

 

“คุณ?” หญิงสาวที่โดนตวนเจียงเหว่ยผลักออกนั้นยิ้มเศร้าๆออกมา หากแววตานั้นกลับเจ้าเล่ห์และยั่ยยวนในคราวเดียวกัน ” ทําไมถึงหยาบคายกับฉันแบบนี้ล่ะคะ?”

 

“ฉันขอโทษ” ตวนเจียงเหว่ยที่ไม่เจอเรื่องอะไรแบบนี้ทําตัวไม่ถูก หน้าแดงกําด้วยความกระอักกระอ่วนและเขินอาย เขาทั้งตกใจและเสียสมาธิจนทําอะไรไม่ถูกไปหมดแล้ว

 

แววตาของหญิวสาวทั้งบอบบางและสวยงาม อีกทั้งยังมีเสน่ห์เย้ายวนให้ชวนหลง จู่ๆเธอก็เลิกเสื้อคลุมของเธอออก เผยให้เห็นชุดกระโปรงที่ค่อนข้างเปิดเผยเนื้อหนังของเธอ และเธอก็วิ่งเข้าไปหาตวนเจียงเหว่ยอีกครั้ง “หล่อร้ายแบบนี้ ฉันชอบมากเลย!”

 

พะ!

 

หน้าอกภูเขาหิมะของหญิงสาวกระแทกโดนตวนเจียงเหว่ยอีกครั้ง!

 

ตวนเจียงเหว่ยตัวแข็งที่อ ตะลึงค้างราวกับคนโง่

 

เช่นเดียวกับตวนเจียงเหว่ย ทหารวิวัฒนาการระยะ 2 หนึ่งร้อยคนของตวนเจียงเหว่ยก็มีท่าทีเงอะๆงะๆไม่ต่างกับผู้นําของตัวเอง แม้ว่าในค่ายตวนของพวกเขาจะมีหญิงสาวมากมายอาศัยอยู่เหมือนกัน แต่มันต่างจากที่นี้สิ้นเชิงเนื่องจากเงื่อนไขที่แสนจะจํากัดของโลกาวินาศ แต่ที่นี่ดูเหมือนว่าโลกาวินาศจะไม่มีผลกระทบอะไรเลยสักนิด หญิงสาวทั้งหลายทั้งสะอาดสะอาด แต่งกายสวย ฉีดน้ําหอมฟุ้ง

 

ที่สําคัญกว่านั้นคือพวกเขาไม่เคยได้รับการปรนนิบัติพัดวีอย่างนี้มาก่อน พวกมันไปหาผู้หญิงสวยจํานวนมากขนาดนี้มาจากไหนกัน ในขณะที่ค่ายตวนไม่มีแบบนี้เลยสักคน?

 

Apocalypse Meltdown

Apocalypse Meltdown

มันเป็นโลกที่ซอมบี้และมนุษย์อาศัยอยู่ด้วยความสิ้นหวัง สนามแม่เหล็กของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงและทุกอย่างได้ย้อนกลับมายังจุดเริ่มต้น วันหนึ่ง วีรบุรุษของพวกเรา…ชูฮัน ได้เดินทางย้อนเวลากลับมาสิบปีก่อนโดยไม่รู้ตัว เขาได้ย้อนกลับมาก่อนจุดจบของโลกจะเริ่มต้นขึ้น (โลกาวินาศ) เขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงดังในหอพักในมหาวิทยาลัยหมิงชิว ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาได้กลับชาติมาเกิดใหม่ ชูฮันต่อสู้กับเหล่าซอมบี้นับสิบๆตัวก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถเพื่อขโมยรถยนต์เมอร์ซิเดซ-เบนซ์G55ออกมา เขาตัดสินใจที่จะตามหาพ่อแม่และพี่น้องของเขาด้วยG55คันนี้ ซึ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาเสียใจที่ไม่ได้ทำในชาติที่แล้ว ระหว่างทางชูฮันได้พบปะกับคนกลุ่มหนึ่งที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีคนที่ติดอันดับ 20 ของโลกาวินาศรวมอยู่ด้วย…เฉินช่าวเย่ พวกเขาพบกับซอมบี้จำนวนมากระหว่างทางบนทางหลวง ซึ่งชูฮันได้ใช้รถ G55 พุ่งชนเหล่าซอมบี้จนเละ และในตอนนั้นเอง ชูฮันถึงตระหนักได้ว่าทั้งหมดนี้คือระบบล่มสลาย และเขาสามารถได้คะแนนจากการฆ่าซอมบี้ทั้งหลาย ซึ่งเขาสามารถเอาคะแนนพวกนี้ไปแลกเปลี่ยนเป็นความสามารถพิเศษอะไรก็ได้ และในตอนนั้นเอง การเดินทางของชูฮันก็ได้เริ่มต้นขึ้นไปพร้อมๆกับระบบล่มสลาย นี่เป็นเรื่องราวของระบบล่มสลาย โดยมีเขา…ชูฮัน เป็นคนดำเนินเรื่องราว

Comment

Options

not work with dark mode
Reset