Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย – ตอนที่ 742 ช่วยฉันตามหาสองคนนี้

  ”หัวหน้าหัวหน้าคือพระเจ้าชัดๆ!” เหมิงชีเหว่ยเต็มไปด้วยความประหลาดใจและอดไม่ได้ที่หัวเราะเบาๆในลำคอตัวเอง “ก่อนหน้านี้ที่ประตูค่ายหนานตู้ ขณะที่มีเรื่องราวใหญ่โตเกิดขึ้น ทุกคนต่างก็เห็นว่าฉางกวนหลงเมินเสี่ยวเย่อย่างสิ้นเชิง ผมคิดว่าในตอนแรกหัวหน้าคงไม่สนใจอะไร ไม่คิดเลยว่าแท้จริงแล้วการเคลื่อนไหวของเขาอยู่ในสายตาของหัวหน้าตลอดนี่เอง?”
ชูฮันเพียงแค่ยิ้มไม่ได้พูดอะไรตอบ
เมื่อได้เห็นสายตาของชูฮันเหมิงชีเหว่ยก็ยิ่งรู้สึกอัศจรรย์ใจ ความชื่นชมที่มีต่อชูฮันพุ่งทะลุสูง “หรือว่าทั้งหมดเป็นการคาดการณ์ของหัวหน้าอยู่แล้ว?”
ชูฮันเหลือบตามองเหมิงชีเหว่ยและพูดตอบ”ฉันก็แค่วางเบ็ดยาวเพื่อรอตกปลาใหญ่เท่านั้น”
”อึก!”เหมิงชีเหว่ยกลืนน้ำลายอึก เป็นเวลาพักหนึ่งกว่าเขาจะคิดหาคำพูดได้ “เสี่ยวเย่หลบหนีไปท่ามกลางความวุ่นวายต่อหน้าสาธารณะ เขาหายตัวไปจากฝูงชนอย่างรวดเร็ว มีคนของเราสองคนเจอพนักงานเสิร์ฟที่ร้านชามีท่าทีแปลกๆ จู่ๆก็ขอลาออกอย่างกระทันหัน จากนั้นก็กลับไปที่บ้านพักและเก็บของทันที ดูเหมือนว่าเขาน่าจะออกเดินทางในวันพรุ่งนี้ครับ”
น้ำเสียงของชูฮันไม่มีความกังวลเลย”แล้วพนักงานเสิร์ฟคนนี้ได้ติดต่อกับใครในค่ายหนานตู้บ้างมั้ย?”
”มันดูมีอะไรแปลกๆครับสังคมรอบๆตัวของพนักงานเสิร์ฟคนนี้ดูธรรมดา แต่ผมคิดว่ามันไม่ธรรมดาอย่างที่เห็น” เหมิงชีเหว่ยนิ่วหน้า ทันใดนั้นก็เงยหน้าขึ้นสบตากับชูฮัน “หัวหน้า ตอนนี้พนักงานคนนี้ยังไม่ได้ออกไปจากค่าย ท่านอยากจะให้ผมไปจับตัวเขามามั้ยครับ?”
ชูฮันส่ายหัว”ไม่ ปล่อยเขาไปและคอยจับตาดูการเคลื่อนไหวของเสี่ยวเย่ต่อไป”
เหมิงชีเหว่ยงงงวยหากก็พยักหน้ารับคำสั่ง “ครับ”
”นายว่าสถานที่ที่เจาะเข้าไปได้ยากที่สุดของค่ายหนานตู้คือสถาบันวิจัยงั้นเหรอ?”ทันใดนั้นชูฮันก็โพล่งถามออกอย่างไร้ที่มาที่ไป
เหมิงชีเหว่ยเกาหัวด้วยความมึนงงหากก็ตอบคำถามของชูฮัน “ครับ การป้องกันที่นั้นเข้มงวดที่สุดในค่าย แม้แต่ยุงยังไม่สามารถบินผ่านเข้าไปได้เลยครับ”
”คนของนายสามารถสืบข้อมูลจากข้างในมาได้มากแค่ไหน?”แววตาของชูฮันล้ำลึก
”ผมไม่สามารถคาดเดาปริมาณข้อมูลได้ครับแต่ถ้าหัวหน้าบอกสิ่งที่อยากรู้มา ผมจะพยายามหาคำตอบมาให้ได้ครับ” เหมิงชีเหว่ยตอบด้วยความเคารพ
”ตรวจสอบสองคนให้ฉัน”น้ำเสียงของชูฮันเย็นชา จนคนฟังไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ได้เลย “ฟานฮงเหวียน ชูยุนเทียน”
จิตใต้สำนึกของเหมิงชีเหว่ยกระตุกทันทีอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นสบตากับชูฮัน มันเป็นครั้งแรกที่เหมิงชีเหว่ยได้ยินชื่อผู้ชายทั้งสองคนนี้ แต่น้ำเสียงและอารมณ์ของชูฮันขณะพูดสองชื่อนี้ออกมา มันให้ความรู้สึกแปลกๆแฝงอยู่แก่คนฟัง
เหมิงชีเหว่ยกลืนน้ำอึกทวนชื่อที่ได้ยินอย่างประหม่า “ชูยุนเทียน?”
”พ่อฉัน”ชูฮันไม่คิดปิดบัง เขาบอกความจริงกับเหมิงชีเหว่ยตรงๆ.ไอรีนโนเวล.
เหมิงชีเหว่ยตาโตด้วยความตกใจหัวใจเต้นรัวแทบจะกระเด็นออกมาจากอก ทันใดนั้นความรู้สึกกดดันมากมายก็ไหลทะลักเข้ามาที่บ่าจนหนักอึ้ง คนที่หัวหน้ากำลังตามหาอยู่คือพ่อของตัวเอง?
”ไม่ต้องกังวลทำทุกอย่างไปตามลำดับขั้นตอน แต่ห้ามพลาด” เมื่อเห็นท่าทางประหม่าและเป็นกังวลของเหมิงชีเหว่ย ชูฮันก็ตบไหล่อีกฝ่ายเบาๆ
เขามีข้อมูลเกี่ยวกับพ่อของตัวเองแค่น้อยนิดสิ่งเดียวที่เป็นเครื่องยืนยันก็คือรายงานของทีมหลงยาที่เขาเจอเกี่ยวกับภารกิจช่วยชีวิตพ่อของเขา มันเป็นรายงานที่ชูฮันให้หวังไคไปขโมยมาจากในห้องเก็บเอกสารลับในซางจิง ซึ่งสถานที่ที่ในรายงานระบุไว้ว่าตำแหน่งสุดท้ายที่พ่อของเขาปรากฏตัวคือที่หนานตู้ สำหรับอะไรก็ตามที่อยู่ในสถาบันวิจัยนั่นชูฮันทำได้เพียงแค่เดาเท่านั้น ท้ายที่สุดแล้วมันก็คือการวิจัยการใช้ประโยชน์ของสมาชิก Mensa
แต่เวลามันผ่านไปเป็นเวลากว่าครึ่งปีแล้วและมันก็มีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้นระหว่างนั้น ตอนนี้พ่อของเขาไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ไม่มีใครพบเห็นหรือรู้ข่าวคราวอะไรเลย เขามีเพียงแค่ควมหวังว่าจะตามหาคนที่รู้จักพ่อของเขาได้ ตอนนี้เขารู้ว่าพ่อของเขาเป็นสมาชิกหลักของMensa ทางที่ดีคนพวกนี้ไม่ควรจะทำอะไรเลวร้ายเพื่อให้เขาคลั่ง
ส่วนฟานฮงเหวียนนั้นชูฮันวิเคราะห์จากการรวบรวมข้อมูลที่มีมาก่อนหน้านี้เข้าด้วยกัน มันมีความเป็นไปได้ว่าฟานฮงเหวียนจะอยู่ในสถาบันวิจัยที่ใหญ่โตของค่ายหนานตู้!
”ครับ”เหมิงชีเหว่ยยังคงตกใจไม่หาย เสียงสั่นเล็กน้อย เขากระพริบตามองมือชูฮันที่เล่นกับบุหรี่พร้อมกับควันที่ลอยในอากาศอย่างมึนงง “มันช็อคมาก ผมขอเวลาทำใจก่อนครับ”
ชูฮันโยนบุหรี่ในมือทิ้งน้ำเสียงกลับมาสบายๆและแฝงไปด้วยการล้อเลียนตามปกติ “ฉันจะรอฟังรายงานความคืบหน้าเมื่อฉันกลับมา ยังไงนายก็เป็นหัวหน้าของหน่วยข่าวกรองใต้ดิน”
”เหอเหอ!” เหมิงชีเหว่ยยิ้มและหัวเราะแห้งๆ หากไม่สามารถคัดค้านอะไรชูฮันได้ “แต่หัวหน้าครับ เทียบกับหัวหน้าแล้ว ผมสู้ไม่ได้เลยครับและเหตุการณ์ในวันนี้ มันได้สร้างความประหลาดใจแก่ทั้งค่ายหนานตู้ แล้วไหนจะการเผชิญหน้าระหว่างหัวหน้ากับพลเอกฉางกวนหลงต่อหน้าคนทั้งค่ายและไหนจะการจัดการกับทหารทีมกฏหมาย ต้องขอบคุณฉางกวนยวีซินที่เข้ามาขัดได้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นมันคงเกิดการต่อสู้ระหว่างหัวหน้ากับฉางกวนหลงขึ้นมาจริงๆ แต่มันเหนือความคาดหมายมากเลยครับที่หัวหน้ารู้จักกับลูกสาวของฉางกวนหลง นี้มันสุดยอด!”
ชูฮันยกยิ้มมุมปาก”ฉันกำลังคิดเกี่ยวกับเหตุผลที่ฉางกวนหลงดูไม่ชอบฉัน มันน่าจะต้องเกี่ยวข้องกับฉางกวนยวีซินแน่ๆ แต่แทนที่จะไปนั่งหาสาเหตุที่อธิบายไม่ได้ ฉันหาทางทำให้เขานั่งเงียบน่าจะดีกว่า”
”ฮ่าฮ่าฮ่าระบบการคิดของหัวหน้านี่ไม่เหมือนใครจริงๆ ผมยินดีรับใช้หัวหน้าครับ” ตาของเหมิงชีเหว่ยเป็นประกายจ้า ในใจตื่นเต้นตื่นเต้นจนอยากจะกระโดดเต้น “หัวหน้าครับ หัวหน้าเป็นคนสร้างทั้งสามทีมขึ้นมาเหรอครับ แล้วทีมหลงยาและฮูหยาถูกฆ่าตายกันไปหมดแล้วจริงๆเหรอครับ? ใช่กลุ่มคนที่ผมเจอตอนแรกมั้ยครับ แล้วผมเจอคนมากมายในทีมกุ้งเสือดำที่ผมเคยเจอก่อนหน้านี้ แต่จำนวนไม่ได้มากขนาดนี้”
เหมิงชีเหว่ยมึนงงเพราะการเปลี่ยนแปลงมากมายหลังจากการเจอชูฮันครั้งล่าสุดในตอนนั้นชูฮันให้แผนการอย่างละเอียดพร้อมกับเงินทุนสนับสนุนเพื่อให้เขาลงใต้มาที่เมืองหนานตู้ที่เจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เหมิงชีเหว่ยแทรกซึมเครือข่ายใต้ดินไปได้อย่างแนบเนียนโดยที่ไม่มีใครเอะใจหรือรับรู้เลย เหมิงชีเหว่ยในตอนนี้ถือเป็นคนที่บทบาทสำคัญไม่น้อย เขามีข้อมูลในหัวมากมายและรู้อะไรหลายๆอย่าง รู้แม้กระทั่งเรื่องของทีมหลงยาและฮูหยาที่มีน้อยคนที่จะรู้
ชูฮันเพียงแค่เหลือบมองเหมิงชีเหว่ยรอยกับยิ้มในนัยน์ตาเขาขี้เกียจที่จะทมานั่งอธิบายให้เหมิงชีเหว่ยฟังว่าทั้งทีมหลงยาและฮูหยาที่ทุกคนคิดว่าตายกันไปหมดแล้ว แท้จริงก็กระจายตัวกันอยู่ในกองทัพเขี้ยวหมาป่าของเขาเองเนี่ยแหละ!
หลังจากชูฮันจากไปทันใดนั้นเหมิงชีเหว่ยก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ เขาหยิบถุงเงินเหรียญล่มสลายออกมาจากกระเป๋า “กองกำลังใต้ดินมีขนาดใหญ่มากครับ และพวกเราทำเงินได้มาก ผมคิดว่าหัวหน้าและทีมกุ้งเสือดำไม่จำเป็นต้องให้เงินทุนพวกเราอีก เราสามารถจัดหาทรัพยากร เตรียมพร้อมไว้สำหรับการใช้งานได้เองครับ”
ชูฮันรับถุงเงินมาจากเหมิงชีเหว่ยแววตาค่อนประหลาดใจ ถุงเงินในมือเขามีเหรียญล่มสลายอัดแน่นกันอยู่ไม่น้อยเลยสัมผัสได้จากน้ำหนักที่เขาถืออยู่ มันมากยิ่งกว่าเงินในตอนแรกที่เขาให้เหมิงชีเหว่ยไปซะอีก เหมิงชีเหว่ยสามารถพัฒนามาถึงระดับนี้ได้รวดเร็วขนาดนี้ภายในเวลาแค่สองเดือนงั้นเหรอ?
หาเหรียญล่มสลายได้เป็นหมื่นๆดูเหมือนว่าเครือข่ายของเหมิงชีเหว่ยที่หนานตู้จะไม่ธรรมดาจริงๆ!
ขณะที่ชูฮันกำลังรู้สึกทึ่งกับความสามารถของเหมิงชีเหว่ยนั้นส่วนเหมิงชีเหว่ยก็ยืนยิ้มกว้างรอฟังคำชมจากชูฮันอยู่ จู่ๆเสียงของเสี่ยวเคินก็ดังแทรกขึ้นมา “หัวหน้าครับ มีคนกำลังมา ฉางกวนยวีซินมาครับ!”

  ”หัวหน้าหัวหน้าคือพระเจ้าชัดๆ!” เหมิงชีเหว่ยเต็มไปด้วยความประหลาดใจและอดไม่ได้ที่หัวเราะเบาๆในลำคอตัวเอง “ก่อนหน้านี้ที่ประตูค่ายหนานตู้ ขณะที่มีเรื่องราวใหญ่โตเกิดขึ้น ทุกคนต่างก็เห็นว่าฉางกวนหลงเมินเสี่ยวเย่อย่างสิ้นเชิง ผมคิดว่าในตอนแรกหัวหน้าคงไม่สนใจอะไร ไม่คิดเลยว่าแท้จริงแล้วการเคลื่อนไหวของเขาอยู่ในสายตาของหัวหน้าตลอดนี่เอง?”
ชูฮันเพียงแค่ยิ้มไม่ได้พูดอะไรตอบ
เมื่อได้เห็นสายตาของชูฮันเหมิงชีเหว่ยก็ยิ่งรู้สึกอัศจรรย์ใจ ความชื่นชมที่มีต่อชูฮันพุ่งทะลุสูง “หรือว่าทั้งหมดเป็นการคาดการณ์ของหัวหน้าอยู่แล้ว?”
ชูฮันเหลือบตามองเหมิงชีเหว่ยและพูดตอบ”ฉันก็แค่วางเบ็ดยาวเพื่อรอตกปลาใหญ่เท่านั้น”
”อึก!”เหมิงชีเหว่ยกลืนน้ำลายอึก เป็นเวลาพักหนึ่งกว่าเขาจะคิดหาคำพูดได้ “เสี่ยวเย่หลบหนีไปท่ามกลางความวุ่นวายต่อหน้าสาธารณะ เขาหายตัวไปจากฝูงชนอย่างรวดเร็ว มีคนของเราสองคนเจอพนักงานเสิร์ฟที่ร้านชามีท่าทีแปลกๆ จู่ๆก็ขอลาออกอย่างกระทันหัน จากนั้นก็กลับไปที่บ้านพักและเก็บของทันที ดูเหมือนว่าเขาน่าจะออกเดินทางในวันพรุ่งนี้ครับ”
น้ำเสียงของชูฮันไม่มีความกังวลเลย”แล้วพนักงานเสิร์ฟคนนี้ได้ติดต่อกับใครในค่ายหนานตู้บ้างมั้ย?”
”มันดูมีอะไรแปลกๆครับสังคมรอบๆตัวของพนักงานเสิร์ฟคนนี้ดูธรรมดา แต่ผมคิดว่ามันไม่ธรรมดาอย่างที่เห็น” เหมิงชีเหว่ยนิ่วหน้า ทันใดนั้นก็เงยหน้าขึ้นสบตากับชูฮัน “หัวหน้า ตอนนี้พนักงานคนนี้ยังไม่ได้ออกไปจากค่าย ท่านอยากจะให้ผมไปจับตัวเขามามั้ยครับ?”
ชูฮันส่ายหัว”ไม่ ปล่อยเขาไปและคอยจับตาดูการเคลื่อนไหวของเสี่ยวเย่ต่อไป”
เหมิงชีเหว่ยงงงวยหากก็พยักหน้ารับคำสั่ง “ครับ”
”นายว่าสถานที่ที่เจาะเข้าไปได้ยากที่สุดของค่ายหนานตู้คือสถาบันวิจัยงั้นเหรอ?”ทันใดนั้นชูฮันก็โพล่งถามออกอย่างไร้ที่มาที่ไป
เหมิงชีเหว่ยเกาหัวด้วยความมึนงงหากก็ตอบคำถามของชูฮัน “ครับ การป้องกันที่นั้นเข้มงวดที่สุดในค่าย แม้แต่ยุงยังไม่สามารถบินผ่านเข้าไปได้เลยครับ”
”คนของนายสามารถสืบข้อมูลจากข้างในมาได้มากแค่ไหน?”แววตาของชูฮันล้ำลึก
”ผมไม่สามารถคาดเดาปริมาณข้อมูลได้ครับแต่ถ้าหัวหน้าบอกสิ่งที่อยากรู้มา ผมจะพยายามหาคำตอบมาให้ได้ครับ” เหมิงชีเหว่ยตอบด้วยความเคารพ
”ตรวจสอบสองคนให้ฉัน”น้ำเสียงของชูฮันเย็นชา จนคนฟังไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ได้เลย “ฟานฮงเหวียน ชูยุนเทียน”
จิตใต้สำนึกของเหมิงชีเหว่ยกระตุกทันทีอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นสบตากับชูฮัน มันเป็นครั้งแรกที่เหมิงชีเหว่ยได้ยินชื่อผู้ชายทั้งสองคนนี้ แต่น้ำเสียงและอารมณ์ของชูฮันขณะพูดสองชื่อนี้ออกมา มันให้ความรู้สึกแปลกๆแฝงอยู่แก่คนฟัง
เหมิงชีเหว่ยกลืนน้ำอึกทวนชื่อที่ได้ยินอย่างประหม่า “ชูยุนเทียน?”
”พ่อฉัน”ชูฮันไม่คิดปิดบัง เขาบอกความจริงกับเหมิงชีเหว่ยตรงๆ.ไอรีนโนเวล.
เหมิงชีเหว่ยตาโตด้วยความตกใจหัวใจเต้นรัวแทบจะกระเด็นออกมาจากอก ทันใดนั้นความรู้สึกกดดันมากมายก็ไหลทะลักเข้ามาที่บ่าจนหนักอึ้ง คนที่หัวหน้ากำลังตามหาอยู่คือพ่อของตัวเอง?
”ไม่ต้องกังวลทำทุกอย่างไปตามลำดับขั้นตอน แต่ห้ามพลาด” เมื่อเห็นท่าทางประหม่าและเป็นกังวลของเหมิงชีเหว่ย ชูฮันก็ตบไหล่อีกฝ่ายเบาๆ
เขามีข้อมูลเกี่ยวกับพ่อของตัวเองแค่น้อยนิดสิ่งเดียวที่เป็นเครื่องยืนยันก็คือรายงานของทีมหลงยาที่เขาเจอเกี่ยวกับภารกิจช่วยชีวิตพ่อของเขา มันเป็นรายงานที่ชูฮันให้หวังไคไปขโมยมาจากในห้องเก็บเอกสารลับในซางจิง ซึ่งสถานที่ที่ในรายงานระบุไว้ว่าตำแหน่งสุดท้ายที่พ่อของเขาปรากฏตัวคือที่หนานตู้ สำหรับอะไรก็ตามที่อยู่ในสถาบันวิจัยนั่นชูฮันทำได้เพียงแค่เดาเท่านั้น ท้ายที่สุดแล้วมันก็คือการวิจัยการใช้ประโยชน์ของสมาชิก Mensa
แต่เวลามันผ่านไปเป็นเวลากว่าครึ่งปีแล้วและมันก็มีเหตุการณ์มากมายเกิดขึ้นระหว่างนั้น ตอนนี้พ่อของเขาไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ไม่มีใครพบเห็นหรือรู้ข่าวคราวอะไรเลย เขามีเพียงแค่ควมหวังว่าจะตามหาคนที่รู้จักพ่อของเขาได้ ตอนนี้เขารู้ว่าพ่อของเขาเป็นสมาชิกหลักของMensa ทางที่ดีคนพวกนี้ไม่ควรจะทำอะไรเลวร้ายเพื่อให้เขาคลั่ง
ส่วนฟานฮงเหวียนนั้นชูฮันวิเคราะห์จากการรวบรวมข้อมูลที่มีมาก่อนหน้านี้เข้าด้วยกัน มันมีความเป็นไปได้ว่าฟานฮงเหวียนจะอยู่ในสถาบันวิจัยที่ใหญ่โตของค่ายหนานตู้!
”ครับ”เหมิงชีเหว่ยยังคงตกใจไม่หาย เสียงสั่นเล็กน้อย เขากระพริบตามองมือชูฮันที่เล่นกับบุหรี่พร้อมกับควันที่ลอยในอากาศอย่างมึนงง “มันช็อคมาก ผมขอเวลาทำใจก่อนครับ”
ชูฮันโยนบุหรี่ในมือทิ้งน้ำเสียงกลับมาสบายๆและแฝงไปด้วยการล้อเลียนตามปกติ “ฉันจะรอฟังรายงานความคืบหน้าเมื่อฉันกลับมา ยังไงนายก็เป็นหัวหน้าของหน่วยข่าวกรองใต้ดิน”
”เหอเหอ!” เหมิงชีเหว่ยยิ้มและหัวเราะแห้งๆ หากไม่สามารถคัดค้านอะไรชูฮันได้ “แต่หัวหน้าครับ เทียบกับหัวหน้าแล้ว ผมสู้ไม่ได้เลยครับและเหตุการณ์ในวันนี้ มันได้สร้างความประหลาดใจแก่ทั้งค่ายหนานตู้ แล้วไหนจะการเผชิญหน้าระหว่างหัวหน้ากับพลเอกฉางกวนหลงต่อหน้าคนทั้งค่ายและไหนจะการจัดการกับทหารทีมกฏหมาย ต้องขอบคุณฉางกวนยวีซินที่เข้ามาขัดได้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นมันคงเกิดการต่อสู้ระหว่างหัวหน้ากับฉางกวนหลงขึ้นมาจริงๆ แต่มันเหนือความคาดหมายมากเลยครับที่หัวหน้ารู้จักกับลูกสาวของฉางกวนหลง นี้มันสุดยอด!”
ชูฮันยกยิ้มมุมปาก”ฉันกำลังคิดเกี่ยวกับเหตุผลที่ฉางกวนหลงดูไม่ชอบฉัน มันน่าจะต้องเกี่ยวข้องกับฉางกวนยวีซินแน่ๆ แต่แทนที่จะไปนั่งหาสาเหตุที่อธิบายไม่ได้ ฉันหาทางทำให้เขานั่งเงียบน่าจะดีกว่า”
”ฮ่าฮ่าฮ่าระบบการคิดของหัวหน้านี่ไม่เหมือนใครจริงๆ ผมยินดีรับใช้หัวหน้าครับ” ตาของเหมิงชีเหว่ยเป็นประกายจ้า ในใจตื่นเต้นตื่นเต้นจนอยากจะกระโดดเต้น “หัวหน้าครับ หัวหน้าเป็นคนสร้างทั้งสามทีมขึ้นมาเหรอครับ แล้วทีมหลงยาและฮูหยาถูกฆ่าตายกันไปหมดแล้วจริงๆเหรอครับ? ใช่กลุ่มคนที่ผมเจอตอนแรกมั้ยครับ แล้วผมเจอคนมากมายในทีมกุ้งเสือดำที่ผมเคยเจอก่อนหน้านี้ แต่จำนวนไม่ได้มากขนาดนี้”
เหมิงชีเหว่ยมึนงงเพราะการเปลี่ยนแปลงมากมายหลังจากการเจอชูฮันครั้งล่าสุดในตอนนั้นชูฮันให้แผนการอย่างละเอียดพร้อมกับเงินทุนสนับสนุนเพื่อให้เขาลงใต้มาที่เมืองหนานตู้ที่เจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว เหมิงชีเหว่ยแทรกซึมเครือข่ายใต้ดินไปได้อย่างแนบเนียนโดยที่ไม่มีใครเอะใจหรือรับรู้เลย เหมิงชีเหว่ยในตอนนี้ถือเป็นคนที่บทบาทสำคัญไม่น้อย เขามีข้อมูลในหัวมากมายและรู้อะไรหลายๆอย่าง รู้แม้กระทั่งเรื่องของทีมหลงยาและฮูหยาที่มีน้อยคนที่จะรู้
ชูฮันเพียงแค่เหลือบมองเหมิงชีเหว่ยรอยกับยิ้มในนัยน์ตาเขาขี้เกียจที่จะทมานั่งอธิบายให้เหมิงชีเหว่ยฟังว่าทั้งทีมหลงยาและฮูหยาที่ทุกคนคิดว่าตายกันไปหมดแล้ว แท้จริงก็กระจายตัวกันอยู่ในกองทัพเขี้ยวหมาป่าของเขาเองเนี่ยแหละ!
หลังจากชูฮันจากไปทันใดนั้นเหมิงชีเหว่ยก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ เขาหยิบถุงเงินเหรียญล่มสลายออกมาจากกระเป๋า “กองกำลังใต้ดินมีขนาดใหญ่มากครับ และพวกเราทำเงินได้มาก ผมคิดว่าหัวหน้าและทีมกุ้งเสือดำไม่จำเป็นต้องให้เงินทุนพวกเราอีก เราสามารถจัดหาทรัพยากร เตรียมพร้อมไว้สำหรับการใช้งานได้เองครับ”
ชูฮันรับถุงเงินมาจากเหมิงชีเหว่ยแววตาค่อนประหลาดใจ ถุงเงินในมือเขามีเหรียญล่มสลายอัดแน่นกันอยู่ไม่น้อยเลยสัมผัสได้จากน้ำหนักที่เขาถืออยู่ มันมากยิ่งกว่าเงินในตอนแรกที่เขาให้เหมิงชีเหว่ยไปซะอีก เหมิงชีเหว่ยสามารถพัฒนามาถึงระดับนี้ได้รวดเร็วขนาดนี้ภายในเวลาแค่สองเดือนงั้นเหรอ?
หาเหรียญล่มสลายได้เป็นหมื่นๆดูเหมือนว่าเครือข่ายของเหมิงชีเหว่ยที่หนานตู้จะไม่ธรรมดาจริงๆ!
ขณะที่ชูฮันกำลังรู้สึกทึ่งกับความสามารถของเหมิงชีเหว่ยนั้นส่วนเหมิงชีเหว่ยก็ยืนยิ้มกว้างรอฟังคำชมจากชูฮันอยู่ จู่ๆเสียงของเสี่ยวเคินก็ดังแทรกขึ้นมา “หัวหน้าครับ มีคนกำลังมา ฉางกวนยวีซินมาครับ!”

Apocalypse Meltdown

Apocalypse Meltdown

APOCALYPSE MELTDOWN โลกาวินาศล่มสลาย
Status: Ongoing
มันเป็นโลกที่ซอมบี้และมนุษย์อาศัยอยู่ด้วยความสิ้นหวัง สนามแม่เหล็กของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงและทุกอย่างได้ย้อนกลับมายังจุดเริ่มต้น วันหนึ่ง วีรบุรุษของพวกเรา…ชูฮัน ได้เดินทางย้อนเวลากลับมาสิบปีก่อนโดยไม่รู้ตัว เขาได้ย้อนกลับมาก่อนจุดจบของโลกจะเริ่มต้นขึ้น (โลกาวินาศ) เขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงดังในหอพักในมหาวิทยาลัยหมิงชิว ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาได้กลับชาติมาเกิดใหม่ ชูฮันต่อสู้กับเหล่าซอมบี้นับสิบๆตัวก่อนจะมุ่งหน้าไปที่ลานจอดรถเพื่อขโมยรถยนต์เมอร์ซิเดซ-เบนซ์G55ออกมา เขาตัดสินใจที่จะตามหาพ่อแม่และพี่น้องของเขาด้วยG55คันนี้ ซึ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาเสียใจที่ไม่ได้ทำในชาติที่แล้ว ระหว่างทางชูฮันได้พบปะกับคนกลุ่มหนึ่งที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีคนที่ติดอันดับ 20 ของโลกาวินาศรวมอยู่ด้วย…เฉินช่าวเย่ พวกเขาพบกับซอมบี้จำนวนมากระหว่างทางบนทางหลวง ซึ่งชูฮันได้ใช้รถ G55 พุ่งชนเหล่าซอมบี้จนเละ และในตอนนั้นเอง ชูฮันถึงตระหนักได้ว่าทั้งหมดนี้คือระบบล่มสลาย และเขาสามารถได้คะแนนจากการฆ่าซอมบี้ทั้งหลาย ซึ่งเขาสามารถเอาคะแนนพวกนี้ไปแลกเปลี่ยนเป็นความสามารถพิเศษอะไรก็ได้ และในตอนนั้นเอง การเดินทางของชูฮันก็ได้เริ่มต้นขึ้นไปพร้อมๆกับระบบล่มสลาย นี่เป็นเรื่องราวของระบบล่มสลาย โดยมีเขา…ชูฮัน เป็นคนดำเนินเรื่องราว

Comment

Options

not work with dark mode
Reset