Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1027 เขามาเพื่อแก้แค้น

วันนั้นข่าวเกี่ยวกับเด็กหนุ่มลึกลับคนหนึ่งทำลายสถิติห้าหอแผ่กระจายออกไปทั่วทั้งนครหยกขาวราวกับลมพายุ
พลันเกิดความฮือฮาไม่รู้เท่าไหร่
“คนผู้นั้นเป็นใคร”
ผู้ฝึกปราณจำนวนนับไม่ถ้วนต่างตกใจ อยากรู้ฐานะของผู้ทะลวงห้าหอ
……
“ทำลายสถิติห้าอันของอวิ๋นชิ่งไป๋ภายในวันเดียว นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อนเลย!”
“อวิ๋นชิ่งไป๋เป็นถึงบุคคลระดับตำนานไร้พ่าย วันนี้ในที่สุดฐานะของเขาก็จะถูกโค่นล้มแล้วงั้นหรือ”
ผู้คนมากมายตกใจกับข่าวนี้
……
“นั่นเป็นเพียงแค่สถิติของอวิ๋นชิ่งไป๋เมื่อสิบปีที่แล้ว ในเมื่อเป็นสถิติ ย่อมมีความเป็นไปได้ที่จะถูกทำลาย เหตุใดต้องตกใจถึงเพียงนี้”
“ไม่ผิด เพียงแค่สถิติเมื่อสิบปีที่แล้วเท่านั้น แน่นอนว่าไม่สามารถโค่นล้มฐานะของอวิ๋นชิ่งไป๋ได้”
และมีผู้ฝึกปราณที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้
……
แต่ในสำนักกระบี่เทียมฟ้ากลับสามารถใช้คำว่าวุ่นวายอลม่านและกระสับกระส่ายมาเปรียบเทียบได้แล้ว
มีคนโกรธ มีคนร้อนรน และมีคนรับไม่ได้ ร้องโวยจะไปสังหารหลินสวิน
แน่นอนว่าตอนนี้พวกเขายังไม่รู้ว่าหลินสวินเป็นใคร
สิ่งที่น่าอึดอัดที่สุดก็คือตรงนี้ เพียงแค่เด็กหนุ่มที่มีที่มาไม่ชัดเจนเท่านั้น แต่ไม่เพียงทำลายสถิติห้าอันของอวิ๋นชิ่งไป๋ จวบจนกระทั่งตอนท้าย พวกเขาในฐานะเจ้าถิ่นนครหยกขาวยังไม่อาจรับรู้ฐานะของอีกฝ่ายด้วยซ้ำ นี่ถ้าเผยแพร่ออกไปจะต้องกลายเป็นเรื่องตลกมากแน่
……
ข่งหลิงสีหน้าเย็นชา หว่างคิ้วเต็มไปด้วยความอึมครึม
ตอนนี้นางเดินอยู่บนถนนที่เจริญรุ่งเรือง ในใจมีความเคียดแค้นและอับอายที่ไม่สามารถเปรียบเทียบได้
อวิ๋นชิ่งไป๋เพิ่งให้กระบี่แสงราตรีกับนางวันนี้
แต่วันนี้เอง กระบี่นั่นก็ถูกช่วงชิงไป นี่ทำให้ข่งหลิงเกือบจะคลั่ง
ในฐานะบุคคลขอบเขตมกุฎอันดับที่สามของสิบสามกระบี่แห่งสำนักกระบี่เทียมฟ้า ข่งหลิงมีต้นทุนมากพอที่จะเย่อหยิ่ง
นางบุคลิกสง่าไร้เทียมทาน พลังต่อสู้โดดเด่น ถือกำเนิดจากเผ่าโบราณนกยูงห้าสีอันลึกลับ ไม่ว่าในด้านใดล้วนเรียกได้ว่าสูงล้ำ
แต่ในวันนี้นางกลับพบเจอวันที่สะบักสะบอมและมืดมนที่สุดในชีวิต!
‘อย่าให้ข้ารู้เชียวว่าเจ้าเป็นใคร!’
ในดวงตาคู่ใสของข่งหลิงมีเพลิงโกรธพลุ่งพล่าน ชิงชังจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“ยังจะเป็นใครได้อีก แน่นอนว่าต้องเป็นเทพมารหลิน!”
เสียงหนึ่งดังมาจากระยะไกล ทำให้ข่งหลิงที่ตกอยู่ท่ามกลางความขึ้งโกรธและโทษตัวเองรู้สึกตัวกะทันหัน พลันเชยตาขึ้นมองไป
นางกลับมาถึงหอสำแดงมรรคอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว
เพียงแต่ที่แห่งนี้ไม่ได้รกร้างว่างเปล่าเหมือนก่อนหน้านี้ เงาร่างของผู้ฝึกปราณมากมายมารวมตัวกัน
คนที่ส่งเสียงเมื่อครู่นี้ก็คือชายชุดคลุมดำที่อยู่ท่ามกลางผู้คน มีใบหน้าเยียบเย็น เบ้าตาลึก แผ่กลิ่นอายกระหายเลือดไปทั่วทั้งตัวคนหนึ่ง
“เทพมารหลินไหน” มีคนถาม
“แน่นอนว่าต้องเป็นเจ้าคนที่กล้ารับพันดาบหมื่นพิบัติ ช่วงก่อนเขาป่วนจนแคว้นกู่ชางพลิกตลบ ทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์สั่นสะเทือน สายฟ้าโหมกระหน่ำ พวกเจ้าไม่มีทางไม่รู้หรอกมั้ง”
ชายชุดคลุมดำพูดเสียงเย็น
“เจ้าแน่ใจได้อย่างไรว่าคนที่ทำลายสถิติของอวิ๋นชิ่งไป๋คือเขา”
หลายคนยังคงไม่เชื่อ
ชายชุดคลุมดำยิ้มเยาะพูด “แม้เขากลายเป็นเถ้าถ่านข้าก็จำได้ ส่วนพวกเจ้าจะเชื่อหรือไม่ ข้าคร้านจะสนใจ”
ในขณะที่พูดเขาก็ก้าวเท้าออกจากกลางฝูงชน
เพียงแต่เดินไปได้ไม่เท่าไหร่ก็ถูกข่งหลิงขวางเอาไว้
“แม่นางนี่เจ้าจะทำอะไร” ชายชุดคลุมดำหรี่ตา ใบหน้าเผยความหวาดเกรงอย่างชัดเจน
“เจ้าแน่ใจหรือว่านี่เป็นฝีมือของเทพมารหลินนั่น” ข่งหลิงไฟสุมอกมาตั้งนานแล้ว ตอนนี้บังเอิญได้ยินข่าว แน่นอนว่านางต้องไม่ยอมพลาด
“แน่ใจ!”
ชายชุดคลุมดำพยักหน้า ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าแม้จะงดงามปานเทพธิดา แต่กลิ่นอายกลับดุร้ายและน่ากลัวอย่างที่สุด
ถูกดวงตาคู่ใสของนางจ้อง ทำให้แม้แต่วิญญาณของชายชุดคลุมดำยังรู้สึกเจ็บแสบเหมือนโดนดาบกรีด
“จริงหรือ” ข่งหลิงถาม แม้จะดูนิ่งสงบ แต่กลับมีอานุภาพที่กดดันใจคน
ชายชุดคลุมดำสั่นไปทั้งตัว แม้แต่จิตใจยังมีท่าทีจะพังทลาย
“พูดตรงๆ อย่างไม่ปิดบัง ข้ามาจากเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬ ชื่อว่าโก่วซวีสิง มีความแค้นที่ไม่สามารถอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกันกับหลินสวิน!”
ชายชุดคลุมดำขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “พอรู้ว่าเขาปรากฏตัวในแดนชัยบูรพา ข้าก็ไปที่แคว้นกู่ชางทันที เคลื่อนกำลังของเผ่าดำเนินการตรวจสอบอย่างรอบด้าน ในที่สุดก็มั่นใจแล้วว่าเจ้าหมอนั่นคือเทพมารหลินจริงๆ…”
ไม่รอให้พูดจบก็ถูกข่งหลิงตัดบทเสียก่อน “อย่ามัวพูดจาไร้สาระ ข้าถามเจ้าว่า เจ้าแน่ใจหรือว่าคนที่ทำลายสถิติห้าหอวันนี้คือเทพมารหลินนั่นจริงๆ”
โก่วซวีสิงชะงักไปก่อนจะพูดว่า “แม่นาง ทอดสายตามองไปทั่วทั้งดินแดนรกร้างโบราณ หากพูดถึงวิชาตามรอย ถ้าเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬของพวกเราอ้างตัวว่าเป็นที่สอง ก็ไม่มีใครกล้าเป็นที่หนึ่งแล้ว”
“ข้ากล้าเอาหัวเป็นประกัน คนที่ทำลายสถิติห้าหอในครั้งนี้คือเทพมารหลินสวินอย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อครู่นี้ข้าได้ตรวจบริเวณรอบๆ หอสำแดงมรรคจนจับกลิ่นอายที่เขาหลงเหลือไว้ได้ตั้งนานแล้ว ไม่มีผิดแน่”
คำพูดหนักแน่น เห็นได้ชัดว่ามั่นใจเต็มเปี่ยม
“หลินสวิน… เทพมารหลิน… ที่แท้ก็คือเจ้าคนดุดันที่มาจากแดนฐิติประจิมคนนี้…”
ใบหน้างดงามดั่งหยกของข่งหลิงวูบไหว อยากจะส่งข่าวนี้กลับสำนักเสียเดี๋ยวนี้
โก่วซวีสิงเห็นเช่นนี้พลันฉวยโอกาสพูดว่า “แม่นาง ตอนที่เจ้าหมอนี่อยู่แดนฐิติประจิมก็ทำให้ข้าประสบเคราะห์จนเกือบไม่รอด ข้าเห็นว่าเจ้าเหมือนจะเจ็บแค้นคนผู้นี้มาก ถ้าอย่างนั้น… พวกเราร่วมมือกันจัดการเขาดีหรือไม่”
“ข้าว่าเจ้าใจกล้าคับฟ้า คิดเพ้อฝันเกินไปแล้ว!” นัยน์ตาของข่งหลิงเผยความรังเกียจอย่างไม่ปกปิดเลยสักนิด
นางเป็นผู้สืบทอดสำนักกระบี่เทียมฟ้า ยิ่งเป็นลูกหลานสายตรงของเผ่านกยูงห้าสี อุปนิสัยเย่อหยิ่งสูงส่ง จะร่วมมือกับเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬที่ชื่อเสียงย่ำแย่ไปทั้งดินแดนรกร้างโบราณได้อย่างไร
ดังนั้นคำพูดของนางจึงไม่เกรงใจเลยสักนิด
โก่วซวีสิงเดือดดาลยกใหญ่ แต่กลับทำได้เพียงข่มกลั้นไว้ในใจ ด้วยฐานะของเขา ไม่มีสิทธิ์เหิมเกริมในนครหยกขาวจริงๆ
“ข้าจำเจ้าได้แล้ว หากเจ้ากล้าหลอกข้า ข้าจะตัดหัวสุนัขของเจ้าแน่!”
พูดจบข่งหลิงก็จากไป
‘แม่งเอ๊ย สักวันข้าจะกำราบผู้หญิงหน้าเหม็นอย่างเจ้าให้ได้!’ โก่วซวีสิงลอบตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว
พลบค่ำวันเดียวกัน ข่าวที่หลินสวินเป็นคนทำลายสถิติห้าหอก็เริ่มแพร่กระจายไปทั่วทั้งนครหยกขาว
เทพมารหลิน!
คืนนี้ชื่อนี้จะต้องเป็นที่รู้จักของผู้ฝึกปราณจำนวนนับไม่ถ้วนในนครหยกขาวอย่างแน่นอน
……
ยอดเขายุทธ์วิถีแห่งสำนักกระบี่เทียมฟ้า
ภายในตำหนักแสงเมฆา
“เหตุใดเขาจึงแข็งแกร่งเพียงนี้… เหตุใด…” จ้าวจิ่งเจินตื่นตระหนก ท่าทางถูกกระทบกระเทือนจิตใจอย่างมาก ไม่เห็นความเย่อหยิ่งและดูถูกเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป
ตอนนี้เขารู้ข่าวทุกอย่างหลังจากหลินสวินเข้าสู่ดินแดนรกร้างโบราณอย่างสิ้นเชิงแล้ว
รวมถึงวีรกรรมต่างๆ ของหลินสวินในแดนฐิติประจิม และการกระทำทั้งหมดของหลินสวินในแคว้นกู่ชางเมื่อไม่นานมานี้
ทั้งหมดนี้ราวกับค้อนอันหนักหน่วงที่ทุบความเย่อหยิ่งและที่พึ่งในใจของจ้าวจิ่งเจินจนแหลกละเอียด ทำให้เขาแทบทรุดหลายต่อหลายครั้ง
เพิ่งไม่เจอกันไม่กี่ปี เด็กหนุ่มชนบทคนนั้นก้าวหน้าถึงขนาดนี้แล้วหรือ
“เพราะฉะนั้นหากเจ้าจะแก้แค้น ก็ต้องวางแผนในระยะยาว อย่าคิดดูถูกและชะล่าใจเด็ดขาด!”
เหมิงหรงที่อยู่ข้างๆ ให้คำแนะนำด้วยสีหน้านิ่งสงบ “เจ้าต้องจำไว้ว่า ข้อได้เปรียบเดียวของเจ้าตอนนี้ก็คือท่านตาของเจ้าและข้าจะสนับสนุนเจ้าอย่างเต็มกำลัง แต่นี่ยังไม่พอ ประเด็นหลักคือเจ้าต้องรีบเติบโตขึ้นมา!”
จ้าวจิ่งเจินพูดอย่างลังเล “แต่… เขาก้าวสู่ขอบเขตมกุฎแล้ว พลังต่อสู้แข็งแกร่งไร้ที่เปรียบในระดับกระบวนแปรจุติ ข้า…”
“นี่ไม่ใช่ข้ออ้าง!” เหมิงหรงพูดตัดบท
“เหมิงหรง หยุดโทษจิ่งเจินได้แล้ว ตอนนี้เจ้ารีบมาหาข้า” ทันใดนั้นเสียงอันทุ้มต่ำดังขึ้น
ท่านพ่อ!
เหมิงหรงหัวใจสะท้าน
……
ชั้นสามของตำหนักแสงเมฆาเป็นสถานที่ฝึกปราณส่วนตัว
ตอนนี้มีผู้อาวุโสตัวสูง เผ้าผมหนวดเคราเป็นสีเงินคนหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่บนเบาะรองนั่ง รอบตัวพรั่งพรูอานุภาพที่น่าหวั่นหวาดอันเป็นเอกลักษณ์ของผู้แข็งแกร่งระดับราชัน
ผู้อาวุโสคนนี้ก็คือบิดาของเหมิงหรง เหมิงชิวจิ้ง!
ในขณะเดียวกันเขายังมีอีกฐานะ นั่นก็คือผู้อาวุโสสายในแห่งสำนักกระบี่เทียมฟ้าที่มีอำนาจระดับสูงคนหนึ่ง!
“ท่านพ่อ ตามหาข้ามีเรื่องอะไรหรือ” เหมิงหรงมาแล้วโค้งตัวคำนับ
“เรื่องทำลายสถิติห้าหอวันนี้เจ้าได้ยินหรือยัง” เหมิงชิวจิ้งพูดเรียบๆ
“ได้ยินแล้ว”
“แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าเป็นฝีมือใคร”
“ใคร?” เหมิงหรงชะงัก ไม่เข้าใจนัก บิดายุ่งกับการปิดด่านมาโดยตลอดเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับทะลวงอมตะเคราะห์ขั้นสาม เหตุใดจู่ๆ ถึงเป็นใส่ใจเรื่องนี้ขึ้นมา
“หลินสวิน!”
ตอนที่เหมิงชิวจิ้งบอกชื่อนี้ เหมิงหรงอึ้งงันอยู่กับที่ราวกับถูกฟ้าผ่า
ครู่หนึ่งนางจึงพูดเสียงหลง “เป็นเขาได้อย่างไร”
เหมิงชิวจิ้งพูดเรียบๆ “ทำไมถึงเป็นเขาไม่ได้ ข่าวนี้ได้รับการยืนยันแล้ว ไม่ผิดแน่ ข้าเรียกเจ้ามาไม่ใช่เพื่อดูเจ้าเสียอาการนะ”
ในใจเหมิงหรงสะท้าน รีบสูดหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง กดความตะลึงในใจไว้แล้วเอ่ยว่า “ท่านพ่อ เชิญพูดต่อ”
“เด็กคนนี้คือคนที่ถูกชิงชีพจรปราณวิญญาณต้นกำเนิดในตอนนั้น แม้รอดชีวิตแต่ก็ถูกกำหนดให้เป็นได้แค่คนไร้ประโยชน์ แต่ตอนนี้เขากลับมีความสำเร็จที่สะดุดตาปานนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย ตามการคาดเดาของข้า เขาคงให้กำเนิดชีพจรปราณวิญญาณต้นกำเนิดเส้นใหม่แล้ว!”
“หากไม่เป็นเช่นนี้ เขาไม่มีทางเกิดการเปลี่ยนแปลงที่เหลือเชื่อเพียงนี้”
สีหน้าของเหมิงชิวจิ้งแฝงความลึกล้ำ ประกายแสงพลุ่งพล่านในนัยน์ตา “เรื่องที่อวิ๋นชิ่งไป๋ทำตอนที่ไปเยือนโลกชั้นล่าง ในสำนักมีเพียงข้า ผู้อาวุโสกู้ตงถิงและอีกไม่กี่คนที่รู้”
“และก็เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้อวิ๋นชิ่งไป๋ได้รับมหาศุภโชค เสริมมรรคาของเขาจนสมบูรณ์ บรรลุสู่ขอบเขตมกุฎในคราเดียว หยั่งถึงพลังมหามรรคเทียมฟ้าที่สะเทือนอดีตสาดส่องปัจจุบัน!”
“ไม่เช่นนั้นหากอวิ๋นชิ่งไป๋อยากได้สมญานามว่าเป็นอันดับหนึ่งใต้ระดับราชัน ก็คงต้องเลื่อนไปอีกหลายปี”
ในใจเหมิงหรงไม่สงบอย่างมาก
ตอนนั้นก็เป็นเพราะนางแอบแจ้งเบาะแส บอกข่าวเรื่องที่ตระกูลหลินให้กำเนิดเด็กทารกที่มีชีพจรปราณวิญญาณต้นกำเนิดกับบิดาของนางเหมิงชิวจิ้ง
จากนั้นบิดาของนางบอกข่าวนี้กับอวิ๋นชิ่งไป๋ หลังจากนั้นจึงมีเหตุการณ์นองเลือดเกิดขึ้นในตระกูลหลิน
นี่เป็นเรื่องภายในอย่างยิ่ง ในสำนักกระบี่เทียมฟ้าทั้งสำนักมีเพียงไม่กี่คนที่รู้ หากถูกเปิดโปงจะต้องเกิดผลกระทบที่ไม่อาจคาดเดาอย่างแน่นอน
ถึงตอนนั้นคนที่ต้องเดือดร้อนไม่ใช่แค่อวิ๋นชิ่งไป๋ แต่ต้องเกี่ยวโยงมาถึงนางและบิดาของนางอย่างแน่นอน!
ดังนั้นถ้าไม่จำเป็นเหมิงหรงไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้เลย เพียงแต่นางกลับคิดไม่ถึงว่าเหตุใดบิดาจึงพูดถึงเรื่องนี้อีกครั้งในเวลานี้
ตอนนี้เองเหมิงชิวจิ้งที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นลุกขึ้นอย่างกะทันหัน เงาร่างสูงใหญ่ราวกับไม่มีที่สิ้นสุด ทอดเงายาวเหยียดภายในตำหนักอันว่างเปล่านี้
“ที่ข้าพูดเรื่องพวกนี้ เพียงแค่อยากบอกเจ้าว่า ที่เด็กคนนี้ปรากฏตัวในดินแดนรกร้างโบราณ จะต้องมาเพื่อแก้แค้นอย่างแน่นอน!”
เสียงเรียบเฉยทุ้มต่ำดังก้องกระแทกใจคน
เหมิงหรงสีหน้าเปลี่ยนไป หวาดหวั่นอย่างมาก
……………………

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

Type: Author: ,
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset