Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1215 เพลิงมรรคเตาหลอม

ระหว่างที่ทุกคนกำลังสั่นสะท้าน รายละเอียดทุกอย่างของกระบวนเฉือนเมื่อครู่นั้นก็ปรากฏขึ้นในใจหลินสวิน
การลงมือครั้งนี้ เพราะเขาอยากลองอานุภาพของมรดกอักษร ‘ยอด’ ดู ดังนั้นจึงไม่ได้ออมมือไว้ สำแดงวิชาทั้งหมดของตนออกมา
เช่นโทสะหยาจื้อ วิชาอริยะยุทธ์ รวมถึงนัยเร้นลับที่แข็งแกร่งเกินต้านทานของกฎเกณฑ์ธาตุน้ำ
ตอนนี้นึกย้อนไป การโจมตีนี้หากไม่มีมรดกอักษรยอดส่งเสริม อย่างมากก็สังหารขุนพลวิญญาณเพลิงได้ประมาณสี่สิบคน
นี่ก็หมายความว่า หากโคจรมรดกอักษรยอด อย่างน้อยก็ทำให้ตนเพิ่มพูนอานุภาพขึ้นได้ประมาณสองส่วนตอนใช้ดาบหัก!
แม้แตกต่างเพียงนิดแต่สุดท้ายกลับสร้างผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างยิ่งใหญ่ อานุภาพสองส่วนนี้ สำหรับผู้แข็งแกร่งอย่างหลินสวินแล้ว สามารถทำให้เกิดพลังพิฆาตเกินจินตนาการตอนต่อสู้ได้โดยสมบูรณ์
ทว่า…
ผลาญพลังมากเกินไปแล้ว!
เพียงการโจมตีเดียวก็ใช้พลังหนึ่งในสามของหลินสวินไปแล้ว
“เจ้าผ่านด่านแล้ว”
ไม่ทันไรขุนพลวิญญาณเพลิงเหล่านั้นก็ฟื้นคืนมาอีกครั้ง พวกเขาจำแลงมากจากกฎระเบียบ ขอเพียงกฎระเบียบในที่แห่งนี้ไม่ดับสูญไป พวกเขาก็ย่อมไม่อาจถูกฆ่าตายโดยสมบูรณ์
ทุกคนที่อึ้งค้างเหม่อลอยอยู่ต่างใจเต้นระส่ำ ได้สติกลับมา สายตาล้วนมองไปยังภูเขาไฟลุกโชนที่อยู่ไกลออกไปลูกนั้นโดยไม่ได้นัดหมาย
ที่นั่นมีเพลิงมรรคต้นกำเนิดลึกลับมากมายทะลักออกมา สำแดงรูปร่างแตกต่างกันไป
“สามารถสยบเพลิงมรรคต้นกำเนิดดวงไหนได้ ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของตัวเจ้าเอง” ขุนพลวิญญาณเพลิงที่เป็นหัวหน้าเอ่ยปาก
หลินสวินพยักหน้าแล้วพลันถามว่า “เก็บได้มากที่สุดกี่ชนิด”
ขุนพลวิญญาณเพลิงอึ้งไปก่อนเป็นอย่างแรก จากนั้นก็กล่าวอย่างเฉยชาว่า “ไม่จำกัด แต่เจ้าต้องรู้ว่ายามดูดซับเพลิงมรรคต้นกำเนิด ทันทีที่ไม่ระวังเพียงนิด ก็จะจบลงด้วยการที่ร่างและจิตถูกเผาไปด้วยกัน”
ความหมายโดยนัยก็คือ แม้เพลิงมรรคมีมาก แต่คิดจะดูดซับไม่ใช่เรื่องง่ายดายขนาดนั้น อีกทั้งยังอันตรายมาก เจ้าเคลื่อนไหวโดยประมาณพลังจะดีที่สุด
หลินสวินยิ้มไม่ยี่หระ
สวบ!
เขาไม่ลังเล ทะยานฟ้าขึ้นไป
ตูมโครม!
ภูเขาไฟปะทุ หมื่นเพลิงทะยานขึ้นไปในอากาศ จักรวาลลุกโหม สรรพสิ่งดับสูญ
พอเข้าใกล้เบื้องหน้าภูเขาไฟที่ตั้งตระหง่านในฟ้าดินนี้จริงๆ ถึงยิ่งรู้ถึงความน่ากลัวของที่นี่ ในไออากาศมีแต่กลิ่นอายทำลายล้าง
ฉึก!
เพลิงมรรครูปร่างเหมือนทวนศึกสีเขียวทั้งเล่มสายหนึ่งแทงลงใส่หลินสวินที่เข้ามาใกล้อย่างแรง ดุดันอหังการ
สิ่งนี้คือเพลิงมรรคต้นกำเนิด เปื้อนโดนมันเพียงนิดเดียวก็จะลุกไหม้ทำลายร่างกาย แผดเผาจิตวิญญาณ น่ากลัวเป็นที่สุด
หลินสวินเรือนกายพริบไหว หลบพ้นแล้วเดินหน้าต่อไป
สายตาเขากวาดผ่านไปในห้วงอากาศ ก็เห็นว่าที่ปากภูเขาไฟ เพลิงมรรคต้นกำเนิดดวงแล้วดวงเล่าหวีดร้อง มีจำนวนนับร้อยนับพัน ประหนึ่งดาวตกที่ส่ายหางเปล่งประกาย งดงามมีสีสัน
ไม่ว่าใครเห็นเข้า เกรงว่าคงต้องการดูดซับพวกมันไปทีละดวง
หลินสวินก็ต้องการ แต่กลับรู้ดีว่าเพลิงมรรคต้นกำเนิดแต่ละดวงนี้ล้วนเก็บซ่อนกลิ่นอายทำลายล้างที่น่าหวาดหวั่น ต้องเคลื่อนไหวอย่างรอบคอบ
หาไม่แล้วเป็นไปได้สูงยิ่งที่จะไม่ได้วาสนาไป แต่กลับประสบเคราะห์แทน!
เขาโคจรพลังทั้งร่าง ใช้ก้าวย่างชือน้ำแข็งเดินหน้าไป สัมผัสและเสาะหาอยู่ตลอด ราวกับนายพรานมากประสบการณ์และปราดเปรื่องกำลังเสาะหาเหยื่อที่ต้องใจตนที่สุด
ในระหว่างนี้เพลิงมรรคหนาแน่นกระจัดกระจายออกมาราวรุ้งเทพ เข้าจู่โจมหลินสวินอยู่ตลอด ประหนึ่งกำลังต่อต้านผลักไสไม่ให้เขาเข้าใกล้
สิ่งนี้ทำให้พวกจี้ซิงเหยาที่จับตามองตลอดห่างออกไปล้วนตึงเครียดไปทั้งตัว ตั้งสติจดจ่อ อันตรายเกินไปแล้ว!
เพลิงมรรคต้นกำเนิด มีเพียงต้องสยบมันลงมาให้ได้เท่านั้นจึงจะถูกผู้ฝึกปราณครอบครอง แต่ตอนที่ยังสยบมันไม่ได้ สิ่งนี้ก็คือพลังน่าหวาดหวั่นไม่มีที่สิ้นสุดชนิดหนึ่ง
จากพลังต่อสู้ของหลินสวิน น่าจะสยบเพลิงมรรคต้นกำเนิดได้มากกว่าดวงเดียว แต่จวบจนตอนนี้เขากลับยังไม่ลงมือ พุ่งเข้าประชิดปากภูเขาไฟอยู่ตลอด
ปากภูเขาไฟนั้นมีเพลิงมรรคต้นกำเนิดนับร้อยนับพันเริงระบำ ไม่ด้อยไปกว่าด่านเคราะห์น่าครั่นคร้ามเป็นด่านๆ ทันทีที่ต้องโดน จุดจบย่อมน่าหดหู่หาใดเทียบ!
“เขา… คิดจะทำอะไรกันแน่”
หลายคนไม่เข้าใจ
หากเปลี่ยนเป็นพวกเขาคงลงมือไปนานแล้ว สยบเพลิงมรรคต้นกำเนิดได้ดวงหนึ่งค่อยว่ากัน ถึงอย่างไรก็อันตรายเกินไป คว้าผลประโยชน์ได้เร็วเท่าไรก็สามารถถอนตัวได้เร็วเท่านั้น
แต่เห็นได้ชัดว่าหลินสวินมีความคิดอย่างอื่น
เงาร่างหลินสวินมาถึงปากภูเขาไฟทีละน้อย เขาในตอนนี้ได้โคจรก้าวย่างชือน้ำแข็งถึงขีดสุดแล้ว เงาร่างราวมายาดุจแสงไหวเคลื่อนแสงหนึ่ง หลบหนีไม่ว่างเว้น
เพราะที่นี่มีเพลิงมรรคมากเกินไป ทันทีที่เคลื่อนไหวช้าลงนิดเดียวก็จะถูกปกคลุม!
“ทำไมถึงไม่มีเพลิงมรรคฟ้าประทานนะ”
หลินสวินนิ่วหน้า เขาเสาะหามาพักใหญ่แล้ว แต่กลับหาเพลิงมรรคที่ตนต้องการไม่พบ
เพลิงมรรคฟ้าประทานเป็นเพลิงมรรคต้นกำเนิดที่คุณลักษณะดีที่สุด แม้บังเอิญพบเจอได้แต่ก็ไม่อาจร้องขอ
เทียบกับเพลิงมรรคต้นกำเนิดทั่วไป เพลิงมรรคฟ้าประทานมีจิตวิญญาณที่เป็นเอกลักษณ์ ประหนึ่งมีชีวิต
ในข่าวลือ เพลิงมรรคต้นกำเนิดบางดวงถึงกับยังสามารถให้กำเนิด ‘ลายมรรค’ ที่แท้จริงออกมาได้!
ในที่สุดหลินสวินก็ทอดสายตามองลงไปเบื้องล่างของปากภูเขาไฟ
ที่นั่นเปล่งประกายหาใดเทียบ แสงไฟประหนึ่งกระแสน้ำปั่นป่วน น่าหวาดหวั่นถึงที่สุด มีเพลิงมรรคไม่รู้เท่าไรพลิ้วระบำอยู่ภายใน
หือ?
ไม่นานนักหลินสวินก็ดวงตานิ่งขึง
ในครรลองสายตาของเขา เมื่อครู่มีเพลิงมรรคอัศจรรย์ดวงหนึ่งไหววูบแล้วหายไป มันมีรูปร่างเหมือนม้วนหนังสือหยกขาวเล่มหนึ่ง แสงไฟที่พร่างพรมออกมาแปรสภาพเป็นคัมภีร์หน้าแล้วหน้าเล่า ปรากฏการณ์ประหลาดน่าตื่นตะลึง!
เพลิงมรรคดวงหนึ่งกลับแปรสภาพเป็นรูปเล่มคัมภีร์ แม้แต่หลินสวินยังสั่นสะท้านอย่างห้ามไม่ได้ แทบไม่กล้าเชื่อ
แม้ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่สัญชาตญาณบอกหลินสวินว่านั่นต้องไปเพลิงมรรคฟ้าประทานดวงหนึ่งอย่างไร้ข้อกังขา!
สวบ!
ไม่นานนักเพลิงมรรคอีกดวงหนึ่งปรากฏขึ้น ดึงดูดความสนใจของหลินสวิน
มันแปรสภาพเป็นกวางห้าสีตัวหนึ่ง บึกบึนงดงาม เหมือนมีชีวิตจริง ส่งเสียงร้องของกวางออกมา ก้าวย่างกลางทะเพลิง สง่างามและผุดผ่อง
น่าเสียดายที่ไหววูบแล้วก็หายไปดังเดิม
แต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ก็ยังทำให้หลินสวินไม่อาจสงบใจได้อยู่ดี เพราะนี่ก็เป็นเพลิงมรรคฟ้าประทานอีกดวง!
หลินสวินสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ดวงตาดำวูบไหว แววตาที่มองไปยังใต้ภูเขานั้นแปรเปลี่ยนไปไม่แน่วนิ่ง คล้ายลังเลอยู่
“แย่แล้ว! นี่พี่หลินคิดจะเข้าไปข้างในภูเขาไฟนั่นหรือ”
ไกลออกไป เจิ้นอวิ๋นเฟิงตื่นตระหนก
คนอื่นๆ ก็กังวลใจขึ้นมา สับสนไปชั่วขณะหนึ่ง ความกล้าของเทพมารหลินผู้นี้จะมากเกินไปแล้วจริงๆ มีเพลิงมรรคต้นกำเนิดมากมายขนาดนั้นยังไม่สนใจ คิดจะเข้าไปสำรวจเบื้องล่างของภูเขาไฟนั่นเสียได้!
“นี่มีอะไรเสียหายกัน โอกาสเช่นนี้มีเพียงครั้งเดียว หากเปลี่ยนข้าเป็นเขาก็ต้องเสาะหาศุภโชคที่พึงพอใจที่สุดชิ้นหนึ่ง!”
เจ้าคางคกร้องขึ้น ไม่พอใจต่อปฏิกิริยาของทุกคนนัก ทำเหมือนหลินสวินจะประสบเคราะห์ไปได้
“พวกข้าไม่ได้หมายความเช่นนี้ แต่เป็นห่วงสวัสดิภาพของสหายยุทธ์หลินสวินมาก ถึงอย่างไรหากเกิดเหตุไม่คาดฝันอะไรขึ้น เช่นนั้นก็คง…”
สุดท้ายอิ๋นเสวี่ยก็ไม่พูดออกมา
แต่ทุกคนรู้ความหมายของนางดี ก็จริง นี่มันเสี่ยงเกินไปแล้ว!
แต่เรื่องราวไม่เป็นไปดั่งใจของพวกเขาอย่างเห็นได้ชัด ท่ามกลางสายตาของพวกเขาที่จับจ้อง เงาร่างของหลินสวินพุ่งเข้าไปเบื้องล่างภูเขาไฟแล้ว
ครู่เดียวเจ้าคางคกก็เงียบไป ในใจรัดเกร็ง ไม่อาจไม่เป็นห่วงหลินสวิน
……
ตูมครืน!
คลื่นเพลิงม้วนตลบ ร้อนผ่าวไม่มีที่สิ้นสุด ส่งเสียงอึกทึกราวอสนีบาต
ร้อน!
ร้อนหาใดเทียบ!
ในขณะที่พุ่งเข้าไปในภูเขาไฟ หลินสวินรู้สึกเหมือนตัวเขาจะหลอมละลายไป แม้รวมพลังปราณทั้งหมด ผิวหนังทั้งตัวก็เจ็บปวดเหมือนโดนลวกอย่างเลี่ยงไม่ได้
แต่เขากัดฟันยังทนไว้ได้
ยิ่งเป็นศุภโชคเย้ยฟ้า อันตรายที่มาพร้อมกันก็ยิ่งใหญ่หลวง
เรื่องนี้หลินสวินรู้ดีกว่าใครๆ
เขาไม่ได้เคลื่อนไหวอย่างบุ่มบ่าม หากประสบกับภยันตรายที่ไม่อาจต้านทานได้จริงๆ ย่อมถอยกลับทันที
สวบ!
เพลิงมรรคสีม่วงรูปร่างเหมือนม้วนภาพดวงหนึ่งโฉบพุ่งออกมา ยามขยายออกประหนึ่งซัดแดนเพลิงออกมาผืนหนึ่ง ภายในมีภูผาธาราสุริยันจันทรา อักษรรอยประทับเต็มไปหมด!
ภาพเดียวก็เหมือนโลกแห่งหนึ่ง!
และนี่เป็นเพียงสิ่งที่เพลิงมรรคดวงหนึ่งแปรสภาพออกมาเท่านั้น
นี่ต้องเป็นเพลิงมรรคฟ้าประทานดวงหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย!
แม้หลินสวินใจเต้น แต่กลับไม่กล้าเคลื่อนไหวบุ่มบ่าม เขากระตุ้นพลังในตัวถึงขีดสุด ถึงพอจะฝืนสลายกระแสเพลิงทำลายล้างที่มีไปทั่วอากาศได้
ลงไปอีก
สิบจั้ง
สามสิบจั้ง
ห้าสิบ

หลินสวินเพียงรู้สึกว่ามีควันพ่นออกมาจากปากและจมูก จิตวิญญาณเหมือนจมเข้าไปในทะเลเพลิง พลังแผดเผาที่มีอยู่ทั่วทำให้เขากำลังจะรับไม่ไหวแล้ว
แล้วก็ในตอนนี้เอง หลินสวินถึงเห็นภาพน่าเหลือเชื่อภาพหนึ่ง
ในทะเลเพลิงถาโถมนั้น พอมองเห็นได้รางๆ ว่ามีเตาหลอมเตาหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ ไม่ว่าคลื่นเพลิงจู่โจมเช่นไรก็ไม่ไหวติง
และโดยรอบเตาเพลิง คัมภีร์หยกขาวเล่มหนึ่ง กวางห้าสีตัวหนึ่ง ม้วนภาพสีม่วงม้วนหนึ่ง โคมทองดวงหนึ่ง บรรทัดดำเล่มหนึ่ง… ต่างล่องลอยเริงระบำอยู่ด้วยกัน
พวกนี้ต่างเป็นสิ่งที่แปรสภาพมาจากเพลิงมรรคฟ้าประทาน!
แม้แต่หลินสวินยังนัยน์ตาหดรัดทันใด คลื่นความตื่นตะลึงผุดขึ้นในจิตใจ
เพียงแค่เพลิงมรรคต้นกำเนิดก็สูญสิ้นไปจากดินแดนรกร้างโบราณไปนานแล้ว ถือเป็นสมบัติล้ำค่าที่ไม่ว่าผู้แข็งแกร่งระดับราชันผู้ใดก็ใฝ่ฝันถวิลหา
ส่วนเพลิงมรรคฟ้าประทาน ใช้คำว่าต่อให้บังเอิญพบเจอได้แต่ก็ไม่อาจร้องขอมาบรรยายได้โดยสมบูรณ์ เป็นมหาศุภโชคที่แท้จริง
ตอนนี้ด้านใต้ภูเขาไฟ กลับมีเพลิงมรรคฟ้าประทานห้าดวงปรากฏขึ้นด้วยกัน!
ที่น่าเหลือเชื่อที่สุดก็คือ พวกมันต่างเหมือนมีวิญญาณ ล้อมรอบเตาหลอมหนึ่งเตา!
ภาพนี้หากถูกอริยะในปัจจุบันเห็นเข้า เกรงว่าคงต้องสั่นสะท้านเพราะสิ่งนี้แน่
หลินสวินพยายามข่มอารมณ์ให้สุขุมเยือกเย็น ในที่สุดก็ทอดสายตามองไปยังเตาหลอมเตานั้น
ยามตรวจสอบโดยละเอียด ในสมองเขาพลันเกิดความรู้สึกเหมือนเคยเห็นมาก่อน จากนั้นก็นึกออกทันทีว่า ตั้งแต่ตอนมาถึงหน้าเจดีย์หิน เขาก็ได้เห็นเตาหลอมนี้แล้ว!
ตอนนั้นเขาใช้จิตรับรู้พินิจพิเคราะห์เจดีย์ แต่กลับเห็นภาพที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง
กลางฟ้าดินสรรพสิ่งดับสูญ มีเพียงเตาเพลิงเตาหนึ่งลุกโชนเร่าร้อน หลักการฟ้าดิน สุริยันจันทราธารดาราต่างๆ ล้วนถูกหลอมจนว่างเปล่า
ร่องรอยกาลเวลา วงโคจรของห้วงอากาศล้วนเหมือนไม่มีอยู่
ตาเพลิงเตานั้นเหมือนเป็นสิ่งเดียวที่มั่นคงและไม่ผุพัง!
และตอนนี้หลินสวินถึงรู้ว่าสิ่งที่ตนเห็นไม่ได้เป็นภาพมายา แต่มีอยู่จริง เตาเพลิงนี้ซ่อนอยู่ใต้ภูเขาไฟนี้เอง
อีกทั้งด้วยการสำรวจ หลินสวินก็ได้คำตอบที่ทำให้ตนใจสั่นเพราะมันมาอย่างหนึ่ง เตาหลอมนี้แปรสภาพมาจากเพลิงมรรคดวงหนึ่ง!
เรื่องนี้ดูน่าเหลือเชื่อเกินไป!
เป็นเพลิงมรรคเหมือนกัน แต่เพลิงมรรคฟ้าประทานดวงอื่นกลับล้อมรอบเหมือนข้าบริพาร ยิ่งขับเน้นความไม่ธรรมดาและอัศจรรย์ของเพลิงมรรคเตาหลอมนี้
ทั้งหมดนี้ล้วนสามารถพิสูจน์ได้อย่างไร้ข้อกังขาว่า อย่างน้อยเพลิงมรรคเตาหลอมนี้ก็ต้องเป็นเพลิงมรรคระดับฟ้าประทาน ทั้งยังน่าตื่นตะลึงกว่าเพลิงมรรคฟ้าประทานดวงอื่น!
——

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset