Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1257 ศึกแห่งยุค

ภายใต้สายตานับไม่ถ้วนที่จับจ้อง หน้าประตูเขาจำศีลหัวโล้นหลินสวินเดินออกมาตัวคนเดียว
ผู้แข็งแกร่งบางส่วนที่เพิ่งมาถึงในช่วงสามวันนี้ต่างลุกฮือทันที เป็นเทพมารหลินดังคาด นี่เขาคิดจะรับศึกคนเดียวรึ
‘เทพมารหลิน…’
เย่หมัวเฮอพึมพำในใจ ดวงตาดุจสายฟ้าแลบจับจ้องร่างหลินสวิน
ก่อนหน้านี้เขาเคยได้ยินข่าวลือมากมายเกี่ยวกับหลินสวินเช่นกัน แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นหลินสวินกับตาตนเอง
เขาพินิจพิเคราะห์เล็กน้อยก่อนลอบพยักหน้า บนตัวอีกฝ่ายมีลักษณะพลังอย่างหนึ่งที่ต้องผ่านการฆ่าฟันมานานจึงจะเคี่ยวกรำออกมาได้ ทำให้เขาราวกับเห็น ‘ผู้ร่วมวิถี’
‘ไม่เจอกันหลายปีทีเดียว…’
ลั่วเจียเหม่อลอย
นางเคยข้องเกี่ยวกับหลินสวินหลายครั้ง ความสัมพันธ์ก็ไม่เลว
ตอนมาที่นี่ครานี้ในใจยังแอบตัดสินใจว่าหากหลินสวินเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น นางจะล่วงเกินบุตรนรกโดยไม่สนใจอะไรเลย
ราชันเผิงปีกทองน้อยกลับยิ้มเยาะออกมาคล้ายผิดหวังอยู่บ้าง ส่ายศีรษะกล่าว “ข้าก็คิดว่าเป็นคนร้ายกาจเหนือมนุษย์คนหนึ่ง แต่ไม่คิดเลยว่าจะไม่มีแม้แต่คมประกาย”
ในการรับรู้ของเขาอันที่จริงกลิ่นอายหลินสวินไม่ธรรมดายิ่ง แต่เทียบกับจินตนาการของเขาแล้วกลับด้อยกว่าอยู่บ้าง จึงเกิดข้อเปรียบเทียบอย่างอดไม่ได้
นอกจากนี้ในที่นั้นยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย
ล้วนกำลังคาดเดาว่า หลินสวินปรากฏตัวคราวนี้ด้วยแน่ใจว่าจะชนะหรือจำยอมกันแน่
“เจ้ามารนหาที่ตายคนเดียวรึ”
กลางอากาศ นัยน์ตาของบุตรนรกราวอสนี น้ำเสียงเจือความเยียบเย็น
ร่างเขาสูงโปร่ง อบอวลด้วยแสงมรรคเร้นลับเยียบเย็นหลากสายไปทั้งตัว ยืนอยู่ตรงนั้นราวเทพนรกอุบัติบนโลก ลักษณะพลังน่าพรั่นพรึงหาใดเปรียบ
“ถูกต้อง ข้าคนเดียว จะมาส่งพวกเจ้าไปตาย”
หลินสวินพยักหน้าสีหน้าราบเรียบ เขายืนอยู่ตรงนั้นอย่างสง่างามไร้มลทิน ไม่มีท่าทางแห่งความหยิ่งผยอง
นี่เกี่ยวข้องกับมรรคาของเขา ยามเก็บงำกายใจจะมั่นคงดั่งหินผา เงียบสงบดุจทะเลสาบราบเรียบ มีความสันโดษละโลกีย์
แต่ทันทีที่ระเบิดออกจะทลายอากาศราวกระบี่เซียน สะท้านฟ้าสะเทือนดิน
“เหอะๆ ปีนั้นเจ้าร่วมมือกับนกขี้ขโมยนั่นชิงยอดสมบัติของข้าโดยไม่ทันตั้งตัว นี่ทำให้ข้าเคียดแค้นมาถึงทุกวันนี้ วันนี้ควรสะสางให้จบสิ้นได้แล้ว!”
บุตรนรกหัวเราะเบาๆ ในดวงตาเผยความคั่งแค้นและไอสังหารเสียดกระดูก “รอสังหารเจ้าแล้ว เขาจำศีลหัวโล้นนี่ก็จะกลายเป็นแดนไร้ประโยชน์ ถูกปกคลุมไปด้วยเลือด!”
หลินสวินร้องอ้อคราหนึ่ง “เช่นนั้นก็ต้องดูว่าเจ้ามีความสามารถหรือไม่”
“ใต้เท้า ขอท่านแสดงฝีมือแห่งอสนีบาตหมื่นสาย สังหารเจ้าเดรัจฉานนี่โดยเร็ว!”
“เทพมารหลินที่เป็นอดีตไปแล้วจะมีสิทธิ์มาสู้กับท่านได้อย่างไร ใต้เท้า สู้ให้ข้าลงมือสังหารเจ้าหมอนี่ดีกว่า!”
“ใต้เท้า ฆ่ามันเลยขอรับ!”
ผู้แข็งแกร่งแดนนรกตะโกนลั่น กระเหี้ยนกระหือรือ มีความเชื่อมั่นในตัวบุตรนรกอย่างหาใดเปรียบ จากมุมมองพวกเขา บุตรนรกคือคนที่ราวกับบุตรแห่งสวรรค์ การสังหารหลินสวินเป็นแค่เรื่องของเวลา
บนเขาจำศีลหัวโล้น พวกจี้ซิงเหยาจับจ้องอย่างตึงเครียด สีหน้าจริงจัง หน้าตาเปี่ยมความกังวล
หลินสวินจะไหวหรือไม่
ฟุ่บ!
ยามบุตรนรกลืมตาแสงสีเขียวเข้มสองสายแผ่ออกมา กลายเป็นกระบี่เทพสีเขียวคู่หนึ่งทันที ไขว้พาดกลางอากาศส่งเสียงกังวาน พุ่งสังหารไปทางหลินสวิน
ทุกคนต่างตกใจ ขณะนี้ศึกใหญ่กำลังจะปะทุขึ้นแล้ว!
แค่เหลือบตามองก็เผยลักษณ์ประหลาดชวนประหวั่นเช่นนี้ออกมา กระบี่เทพไขว้ตัดสลับกัน แฝงพลังสังหารน่าหวาดกลัว น่าตกตะลึงอย่างยิ่ง
“เนตรมรรคแสงทมิฬ!” มีคนตกตะลึง
นี่คือยอดพรสวรรค์ติดตัวแต่กำเนิดอย่างหนึ่ง ใครที่ได้ครอบครองล้วนเป็นอัจฉริยะที่เกิดมาสืบทอดโชควาสนาทั้งสิ้น
คนมากมายต่างรู้ดีว่า ครั้งนี้เทพมารหลินเจอคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวยิ่งคนหนึ่งแล้ว!
โฮก!
กลางอากาศราวกับมีเสียงสะท้อนของเจินหลง สั่นสะเทือนจนในใจทุกคนระส่ำ เลือดลมตีกลับ
ก็เห็นใต้ฝ่าเท้าหลินสวินชือน้ำแข็งตัวหนึ่งแปลงเป็นเจินหลง ทะยานสู่ฟากฟ้าอย่างน่าเกรงขาม แผ่แสงมรรคทรงอานุภาพโหมกระหน่ำ กำจัดกระบี่เทพคู่นั้น
แล้วพุ่งตรงไปยังบุตรนรก!
ปึง!
ด้านหน้าบุตรนรกปรากฏแสงมรรคเยียบเย็นเร้นลับหลากสายรวมตัวเป็นหินสมบัติหนึ่ง ด้านบนสลักอักษรโบราณเรียบง่ายขนาดใหญ่ว่า ‘ไตรภพ’ ชั่วพริบตาก็พิฆาตเจินหลงที่โจมตีเข้ามาจนระเบิดเป็นละอองแสง
“ใต้เท้าไม่จำเป็นต้องออมมือ ฆ่ามันเลยขอรับ!”
ผู้แข็งแกร่งแดนนรกตะโกนขึ้นมาราวกับตนเป็นคนสู้ ด้วยกายใจพวกเขาจดจ่ออยู่กับการต่อสู้ สีหน้าจึงฮึกเหิมอย่างยิ่ง
ความรู้สึกของทุกคนที่อยู่ใกล้ถูกกระตุ้นตามไปด้วย กลั้นหายใจจดจ่อ จับจ้องอย่างตื่นเต้น
“หายไปสี่ปี เจ้าสามารถก้าวสู่ระดับอมตะเคราะห์ด่านสามได้ ดูท่าแล้วคงได้วาสนามาไม่น้อย เพียงแต่ในสายตาข้าก็ไม่เห็นจะเท่าไหร่!”
บุตรนรกโคจรพลังปราณ เงาร่างโฉบขึ้นไปบนอากาศ อานุภาพดั่งเทพนรกออกโจมตี เจือกลิ่นอายเยียบเย็นล้นฟ้า อานุภาพอัศจรรย์ครองพิภพพุ่งดิ่งไปทางหลินสวิน!
เวลานี้ฟ้าดินคืนสู่ความสงบ ทุกคนต่างปิดปาก เสียงอึกทึกในที่นั้นพลันหายไป ล้วนจดจ่ออยู่กับการต่อสู้
บุตรนรกออกโจมตี เผยอานุภาพอัศจรรย์หาใดเปรียบ ท่าทางเช่นนั้นทำให้สรรพสิ่งทั่วหล้าหม่นแสง เพียงพอจะสั่นสะเทือนใต้หล้า!
อีกด้านหนึ่งหลินสวินก็บุกโจมตีเช่นกัน
เดิมกลิ่นอายของเขาว่างเปล่าไร้มลทิน แต่ทันทีที่เคลื่อนไหวก็เหมือนเจินหลงจำศีลที่ออกจากหุบเหวลึกโดยพลัน ทั่วร่างส่งเสียงกัมปนาท ก่อให้เกิดอานุภาพแห่งฟ้าดิน แสงมรรคไร้จำกัด
ตู้ม!
ทั้งสองปะทะกันราวสุริยันจันทราประจัญบาน คล้ายการต่อสู้ของเทพมาร ห้วงอากาศในรัศมีพันจั้งแตกระเบิดทรุดตัวลงสนั่นในชั่วพริบตา
ทั้งที่นั้นเต็มไปด้วยแสงมรรคเจิดจ้า ทุกหนแห่งคือไอสังหารโหมกระหน่ำ พลังทำลายรุนแรงกวาดล้างฟ้าดิน
ผู้แข็งแกร่งมากมายร้องเสียงหลงรีบถอยหลบ ดวงตาพลันแสบแปลบ การปะทะครั้งนี้ช่างสะเทือนใต้หล้า อยู่เหนือความคาดหมาย
แสงมรรคเยียบเย็นนั่นของบุตรนรกราวแดนชำระบาป ฆ่าฟันกลางฟ้าดิน
ส่วนพลังของหลินสวินก็เหมือนเจินหลงออกจากเหวลึก
ทั้งคู่คนหนึ่งราวเทพนรก อีกคนดั่งเทพมาร ต่างฝ่ายต่างห้ำหั่นกลางอากาศเผยลักษณ์ประหลาดชวนประหวั่นต่างๆ นานา เสียงธรรมสั่นสะเทือนไม่หยุด
ปึง!
หลังเสียงกึกก้องสะท้านฟ้าสะเทือนดินดังขึ้น ทั้งสองก็แยกออกจากกัน ต่างฝ่ายต่างยืนอยู่คนละฟาก กลิ่นอายเจิดจ้าและแข็งแกร่งดุดันยิ่งกว่าเดิม
ไม่อาจตัดสินแพ้ชนะรึ
การประลองครั้งแรกทำให้ทุกคนตาลายไปพักหนึ่ง ในใจไหวสะท้าน
เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!
พร้อมๆ กับเสียงเสียดหู ด้านหลังบุตรนรกปรากฏทวนสำริดเก้าเล่ม ล้วนเก่าแก่เรียบง่าย อาบสีโลหิตแดงสด กลิ่นอายที่แผ่ออกมาเปี่ยมไอมรณะสลัวราง
มองจากไกลๆ ยังทำให้ผู้คนขนพองสยองเกล้า
ทวนศึกชุดนี้ต้องมีที่มาสะเทือนใต้หล้าอย่างไม่ต้องสงสัย!
ขณะเดียวกันทั่วร่างหลินสวินก็ปรากฏอักษรเคราะห์ที่ราวหล่อจากทองเทพเก้าตัวเรียงกัน พุ่งขึ้นไปรับเสียงดังสนั่นหวั่นไหว
ตูม!
เพียงพริบตา ในห้วงอากาศทวนศึกท่องทั่ว พลังมังกรปั่นป่วนโถมกระหน่ำ แสงมรรคระเบิดออก สามารถมองเห็นว่ามีอสูรนรกถือทวนฟาดฟัน มีสัตว์ปีศาจดึกดำบรรพ์ที่น่ากลัวอย่างชือน้ำแข็ง ปี้อั้น ป้าเซี่ยปรากฏอยู่รางๆ
มีเสียงเร้นลับราวอสนีบาต เสียงมังกรคำรามสะท้อนก้อง ยังมีลักษณ์ประหลาดอย่างภูเขาศพทะเลเลือด ฝนโลหิตเทกระหน่ำปรากฏอยู่ด้วย
ระหว่างทั้งคู่มีพลังนานัปการกระแทกกระทบ พลังแห่งกฎเกณฑ์ส่งเสียงกัมปนาทราวกระแสน้ำซัดโถม
“แข็งแกร่งยิ่ง!”
“นี่ต่างหากจึงจะเป็นการประชันที่แท้จริงของยอดมกุฎ”
คนมากมายหน้าเปลี่ยนสี จิตวิญญาณต่างกำลังสะท้านไหว แค่มองจากไกลๆ ก็ทำให้พวกเขาขนพองสยองเกล้าราวตกสู่ถ้ำน้ำแข็ง
หากเข้าไปในนั้นเกรงว่าคงถูกฆ่าในพริบตา!
ส่วนยอดบุคคลอย่างราชันเผิงปีกทองน้อย เย่หมัวเฮอ สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมจริงจัง ตั้งใจดูอย่างจดจ่อเช่นกัน
การต่อสู้เช่นนี้ต่อให้อยู่ในแดนเก้าบนก็เรียกได้ว่าเป็นประวัติการณ์และหายาก ยากพบเห็นยิ่งนัก!
บนอากาศ คนหนึ่งอาบไล้ด้วยแสงแห่งขุมทมิฬดุจเทพนรกที่มาจากแดนชำระบาป อีกคนก็หยิ่งผยองดั่งเทพมาร ป่าเถื่อนไม่เกรงกลัวสิ่งใด กลิ่นอายสังหารร้ายกาจ
ทั้งสองห้ำหั่นกันอย่างดุเดือด แค่ชั่วพริบตาก็ประมือกันไปมากกว่าร้อยครั้ง ความยิ่งใหญ่ของสถานการณ์รบดึงดูดสายตาทั่วลาน!
ไม่อาจไม่ยอมรับ บุตรนรกแข็งแกร่งจนทำให้ผู้คนใจสั่น ไม่อาจเทียบกับเมื่อสี่ปีก่อนได้
แต่พลังต่อสู้ที่หลินสวินเผยออกมาก็ทำให้คนนับไม่ถ้วนหันมามองและไหวหวั่นเช่นกัน
หายไปสี่ปี แต่กลับสามารถใช้ปราณระดับอมตะเคราะห์ด่านสามมาประชันกับบุตรนรก นี่เห็นได้ว่าน่าเหลือเชื่อนัก
ผิวหลินสวินทุกกระเบียดนิ้วมีแสงมรรคพวยพุ่ง งดงามแปลกตาอย่างยิ่ง จนถึงตอนท้ายทั้งตัวราวเตาหลอมผลาญพิภพ เปลวเพลิงโหมกระหน่ำ พลังทำลายล้างน่าตกตะลึง
ทั้งสองสู้กันตั้งแต่บนฟ้าถึงพื้นดิน เข่นฆ่าโรมรันอย่างดุเดือด เลือดสดๆ ร่วงรินเป็นระยะ
นี่คือคู่ต่อสู้ซึ่งแข็งแกร่งที่สุดที่หลินสวินเจอมาตั้งแต่ก้าวสู่ระดับอมตะเคราะห์ด่านสาม เขาเองก็ไม่กล้าชะล่าใจเช่นกัน
แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้นก็ยังบาดเจ็บจากการต่อสู้!
โดยเฉพาะทวนศึกเก้าเล่มในมือบุตรนรกนั้นเรียกได้ว่าเป็นยอดอาวุธศาสตราจิต เฉียบคมหาใดเปรียบ ทุกครั้งที่ฟาดฟันที่แห่งนั้นจะระเบิดกลายเป็นจุณ
เปลี่ยนเป็นผู้แข็งแกร่งอื่นไปรับมือคงได้ถูกสังหารตรงนั้นแน่!
ผู้คนตกตะลึงตาค้างใจเคว้งขึ้นมา ด้วยมองออกว่าหลินสวินบาดเจ็บจากการต่อสู้จนหลั่งเลือด นี่ทำให้คนตื่นตระหนก
เทพมารหลินในอดีตไร้พ่ายทุกสมรภูมิ โจมตีไม่เคยพลาด
ด้วยเหตุนี้แค่คิดก็รู้แล้วว่าศักยภาพของบุตรนรกน่าพรั่นพรึงเพียงใด สมเป็นสัตว์ประหลาดยุคโบราณที่ออกมาจากเขตต้องห้ามแม่น้ำนรก แข็งแกร่งเกินไปแล้ว
แน่นอนว่ามีคนสังเกตเห็น บุตรนรกก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไร ร่างกายเขาสะท้านไหวเล็กน้อย สีหน้าดูซีดเผือด!
วู้ม…
หลินสวินยื่นนิ้วออกมาทันใด เสมือนรวมอานุภาพยิ่งใหญ่ของฤดูกาลหมื่นสมัยไว้ด้วยกัน ใครตามข้าอยู่ ใครขวางข้าตาย!
วสันต์สารทชั่วพริบตา!
คนไม่น้อยใจกระตุกวูบ
แต่ยอดบุคคลอย่างราชันเผิงปีกทองน้อยกลับดวงตาเป็นประกายฉายแววอัศจรรย์
พรวด!
ภายใต้ดรรชนีนี้ เปลี่ยนเป็นคู่ต่อสู้คนอื่นคงถูกกำราบไปแล้ว
แต่สุดท้ายบุตรนรกแค่เพียงได้รับบาดเจ็บ ถูกพลังดรรชนีจู่โจมจนร่างซวนเซถอยร่น อดกระอักเลือดออกมาไม่ได้
แต่พร้อมกันนี้กลางหน้าอกหลินสวินก็ปรากฏรอยเลือดสายหนึ่ง ผิวปริเนื้อแตกลึกจนเห็นกระดูก นี่คือบาดแผลที่ถูกทวนศึกวาดผ่าน
ทั้งสองต่างได้รับบาดเจ็บ ทั้งมองไม่ออกว่าใครได้เปรียบเสียเปรียบ
แต่ทุกคนต่างมองเห็นได้ชัดเจน พูดเปรียบเทียบกันแล้วหลินสวินสำแดงพลังได้น่าทึ่งนัก
ด้วยพลังปราณเขาเดิมทีก็ด้อยกว่าบุตรนรกขั้นหนึ่ง แต่กลับทัดเทียมกันในการต่อสู้ นี่น่าอัศจรรย์เกินไปแล้ว
ฮูม…
บนตัวบุตรนรกแสงมรรคเจิดจ้าพวยพุ่ง ทำให้อาการบาดเจ็บทั่วร่างเขาฟื้นคืนสู่สภาพเดิมในพริบตา
เหตุการณ์นี้ทำให้ผู้คนตกตะลึงอ้าปากค้าง วิธีฟื้นฟูอาการบาดเจ็บเช่นนี้เรียกได้ว่าพลิกฟ้าจริงๆ แล้วนี่จะสังหารได้อย่างไร ใครจะเป็นคู่ต่อสู้เขาได้อีก
แต่ทันใดนั้นทุกคนก็ค้นพบอย่างประหลาดใจว่า บนตัวหลินสวินมีแสงมรรคเร้นลับหมุนวนอยู่ชั้นหนึ่ง อาการบาดเจ็บของเขาผสานกันด้วยความเร็วที่มองเห็นด้วยตาเปล่า!
“นี่…”
ทุกคนต่างสั่นสะท้านพูดไม่ออก ทั้งสองสู้กันจนเลือดตกยางออกกว่าร้อยกระบวน ได้รับบาดเจ็บเต็มไปหมด แต่ตอนนี้กลับฟื้นคืนสภาพใหม่อีกครั้ง
น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
“ฮึ! การหยั่งเชิงสิ้นสุดแล้ว ต่อจากนี้ข้าจะบอกเจ้าเองว่าอะไรที่เรียกว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า!”
บุตรนรกสีหน้าเยียบเย็น ริมฝีปากเอ่ยคำเร้นลับซับซ้อนราวเสียงลมที่มาจากส่วนลึกของขุมนรก
และลักษณะพลังของเขาก็เริ่มแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ…
…………….
Related

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

Type: Author: ,
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset