Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1258 คล้ายการเล่นหมาก

ครืน ครืน…
หลังจากกลิ่นอายทั่วร่างบุตรนรกพุ่งทะยาน ฟ้าดินใกล้เคียงก็ราวกับเกิดการพลิกผัน ส่งเสียงกึกก้องน่าพรั่นพรึง สั่นสะเทือนจนผู้คนแทบกระอักเลือด
“วิชาแปดเทพขุมทมิฬ!”
ราชันเผิงปีกทองน้อยไหวหวั่น ใจสั่นสะท้าน
ขณะเดียวกันก็มีคนไม่น้อยร้องเสียงหลง รู้ว่านี่คือยอดวิชาหนึ่งที่สาบสูญเมื่อนานมาแล้ว
ใครก็คิดไม่ถึงว่าตอนนี้จะถูกบุตรนรกครอบครอง ได้พบเจอแสงสว่างอีกครั้ง
คนมากมายจิตใจไหวหวั่นโหมซัด ไม่อาจนิ่งสงบ ถอนหายใจไม่หยุด
บุตรนรกเป็นผู้กล้าที่มีวาสนาใหญ่ติดตัวดังคาด แม้แต่ยอดวิชาสยบหล้าที่สูญหายไปนานเช่นนี้ยังถูกเขานำมาฝึก ช่างน่าตกใจจริงๆ
ที่เรียกว่าแปดเทพขุมทมิฬนั้นหมายถึงรูปจำลองวิญญาณเทพแปดอย่าง หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับร่างกาย ยามต่อสู้จะเหมือนได้รับพลังหนุนของทวยเทพ เรียกได้ว่าน่ากลัวหาใดเปรียบ
เล่าลือกันว่าหากฝึกวิชานี้ถึงขั้นสูงสุดจะสร้างนรกขุมทมิฬที่แท้จริงออกมาได้ สามารถใช้พลังของแปดเทพเป็นสื่อนำ สยบศัตรูที่แข็งแกร่งทั้งมวล!
เวลานี้ก็เห็นห้วงอากาศด้านหลังบุตรนรกปรากฏเงาร่างกำยำไร้รูปมากมาย ราวกับทวยเทพที่มาจากเหนือสวรรค์ เต็มไปด้วยความน่าเกรงขามยิ่งใหญ่
ตูม!
บุตรนรกออกหมัดพุ่งสังหาร โหมปล่อยลักษณ์ประหลาดไม่สิ้นสุด ท่ามกลางความเลือนรางประหนึ่งมีเสียงคำรามของทวยเทพดังก้องขึ้น สะท้านฟ้าสะเทือนดินเทพผีโศกศัลย์
ทันใดนั้นหลินสวินคล้ายอยู่ในมหาสมุทรที่คลื่นซัดสาด พร้อมถูกครอบงำได้ทุกเมื่อ โดนโจมตีอยู่ในพลังหมัดที่น่ากลัวนั่น
เสียงอุทานมากมายดังขึ้น ณ ที่นั้น แม้แต่พวกจี้ซิงเหยาและโม่เทียนเหอที่อยู่บนเขาจำศีลหัวโล้นยังหน้าถอดสี นี่หรือพลังต่อสู้ที่แท้จริงของบุตรนรก
น่ากลัวเกินไปแล้ว!
“ยอดเอกอุ!”
ในพลังหมัดที่โหมกระหน่ำ หลินสวินชูมือทั้งสองออกหมัดกลางอากาศ มือขวาชักนำให้เกิดพลังยอดหยางส่องประกายเจิดจ้า มือซ้ายกลับดึงรั้งพลังยอดหยินดำสนิทดุจหมึกเขียน
การเคลื่อนไหวเรียบง่ายธรรมดา โคจรพลังอย่างเป็นธรรมชาติ
วู้ม…
เพียงพริบตาลวดลายยอดเอกอุหยินหยางก็ปรากฏ ใสขุ่นแบ่งแยก ขาวดำตัดผสาน ราวกับก่อกำเนิดและสิ้นสุดในวัฏจักรเดียว เกิดเป็นภาพสมบูรณ์ไร้จำกัด
พลังหมัดที่โหมกระหน่ำนั้นน่ากลัวระดับใด แต่กลับถูกลวดลายยอดเอกอุนี้ขัดขวาง กำจัดออกทีละน้อย ละอองแสงสาดกระจายราวน้ำตก
ทุกคนเห็นแล้วใจสั่น ยอดเอกอุ! หนึ่งในมหามรรคเทียมฟ้าเก้าสิบเก้าสาย!
เพียงแต่ใครก็คิดไม่ถึง ว่าหลินสวินจะใช้พลังมหามรรคอัศจรรย์เช่นนี้มาสลายวิชาแปดเทพขุมทมิฬ
ตูม!
กลางอากาศ ยามลวดลายยอดเอกอุกำจรทั่ว พลังหมัดสายนั้นก็สลายตามไปด้วย
“มหามรรคยอดเอกอุไม่ธรรมดาจริงๆ น่าเสียดายที่ยังไม่เท่าไหร่!”
บุตรนรกสีหน้าเยียบเย็น อานุภาพอัศจรรรย์สะเทือนใต้หล้า เผยจิตใจห้าวหาญประหนึ่งว่าไร้ซึ่งคู่ต่อกร
ขณะกล่าวเขาก้าวไปบนห้วงอากาศ มายาเทพมากมายรายล้อมรอบตัว ขับเน้นให้เขาเป็นดั่งเทพนรกมาเยือนโลก
ตูม!
เขาเริ่มสำแดงวิชาแปดเทพขุมทมิฬออกมาอย่างกำเริบ แต่ละกระบวนท่าอานุภาพทลายฟ้ามลายดิน ปั่นป่วนใต้หล้า
หลินสวินตกเป็นฝ่ายถูกกระทำทันที คมประกายถูกกำราบ
แม้มหามรรคยอดเอกอุจะถูกเขาหยั่งรู้ถึงขั้นแก่นมรรค แต่ท้ายที่สุดก็สู้พลังของ ‘ระเบียบมรรค’ ไม่ได้
ที่หลินสวินใช้ออกมาตอนนี้ได้แค่สร้างการป้องกันอย่างหนึ่ง แต่ไม่อาจสำแดงอานุภาพที่แท้จริงของมหามรรคเทียมฟ้านี้ออกมาอย่างสมบูรณ์
ในที่นั้นการต่อสู้ดุเดือดไม่หยุดหย่อน
แต่ไม่ว่าใครก็มองออก ไม่ช้าก็เร็วหลินสวินต้องถูกกำราบแน่!
สถานการณ์ของเขาล่อแหลมอันตรายเป็นอย่างมาก!
“ถึงอย่างไรเขาก็อยู่ระดับอมตะเคราะห์ด่านสาม สามารถสู้กับบุตรนรกได้ถึงตอนนี้ก็เรียกได้ว่าน่าทึ่งแล้ว ต่อให้พ่ายแพ้ถูกสังหารก็ไม่เสียชื่อ”
มีคนทอดถอนใจ
“วิชาเทพของใต้เท้าบุตรนรกไร้คู่ต่อกร ใครจะมีชัยเหนือกว่า”
ผู้แข็งแกร่งแดนนรกพวกนั้นต่างตะโกนตื่นเต้น
“เป็นไปได้อย่างไร…”
พวกจี้ซิงเหยาแข็งทื่อไปทั้งตัว หดหู่เศร้าสลด
ตูม!
เมื่อจู่โจมอีกครั้งหลินสวินถูกกระเทือนถอย เงาร่างซวนเซไปมา
“ความสามารถแค่นี้ยังโอ้อวดเป็นเทพมาร ช่างน่าขันจริงๆ!”
บุตรนรกเสียงเย็นชา การเคลื่อนไหวไม่ได้ช้าลงเพียงนิด ทลายอากาศพุ่งสังหารเข้ามา
หลินสวินใช้ปราณระดับอมตะเคราะห์ด่านสามห้ำหั่นกับเขามาได้ถึงตอนนี้ ความจริงแล้วทำให้เขาเดือดดาลยิ่งนัก มองเป็นเรื่องอัปยศ
เวลานี้เขาชิงความได้เปรียบ อยู่ในฝ่ายเหนือกว่า แน่นอนว่าไม่มีทางปล่อยโอกาสให้หลินสวินพักหายใจเพียงเสี้ยว!
“คุยโวไม่กระดาก เช่นนั้นจะให้เจ้ารู้ถึงพลังที่แท้จริงของข้า!”
ทันทีที่หลินสวินกล่าวคำนี้ออกมาทุกคนล้วนตกตะลึง คนมากมายนับไม่ถ้วนส่งเสียงฮือฮาล้วนถูกทำให้แปลกใจ หรือว่าจนถึงตอนนี้หลินสวินยังไม่เคยใช้พลังที่แท้จริงอีก
หากเป็นเช่นนั้นก็น่ากลัวเกินไปแล้ว!
ตูม!
ก็เห็นลักษณะพลังทั่วร่างของหลินสวินพลันเปลี่ยนไปในทันที พลังทั่วร่างราวพลุ่งพล่าน ส่องประกายสว่างไสว ละอองแสงหลากสายห้อมล้อมทั้งตัวดุจวงแหวนเทพ
“ตายซะ!”
นัยน์ตาเขาเยียบเย็นดุจอสนี โผนทะยานขึ้นไปรับ โทสะหยาจื้อ วิชาอริยะยุทธ์ถูกเขาโคจรออกมาทั้งหมดในชั่วพริบตา
ปัง!
ทันทีที่ปะทะกัน บุตรนรกซึ่งเดิมทีแข็งแกร่งไม่อาจต้านถึงกับถูกหมัดเดียวของหลินสวินสั่นคลอน ร่างกายพลันสั่นสะท้านถูกซัดลอยออกไป
ทั่วลานพลันเงียบกริบ ทุกคนต่างเบิกตากว้าง เทพมารหลินนี่เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ!
‘แบบนี้สิถึงจะสนุก’
เย่หมัวเฮอพลันตื่นเต้น หากเมื่อครู่หลินสวินถูกกำราบเช่นนั้นเขาคงรู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง
“เจ้าคิดว่าข้าไม่มีพลังซ่อนอยู่อีกรึ”
กลางอากาศบุตรนรกบันดาลโทสะตะโกนก้อง บุกสังหารอีกครา
ตูม!
ทั้งสองห้ำหั่นดุเดือดอีกครั้ง
ระหว่างพวกเขาพลังศักดิ์สิทธิ์โหมกระหน่ำ กฎเกณฑ์ตัดสลับ เสียงธรรมและแสงมรรคดุจกระแสน้ำกลายเป็นลักษณ์ประหลาดสะเทือนใต้หล้าทบเป็นชั้นๆ การต่อสู้ในที่นั้นดุเดือดยิ่ง
ฟ้าดินแถบนี้มีเค้าลางอลหม่าน ผุกร่อน พังทลาย!
ทั้งสองต่างสำแดงวิชาของตนออกมา เผยให้เห็นพลังต่อสู้ของมกุฎที่เหนือความคาดหมาย ไม่มีใครยอมใคร น่าหวาดกลัวหาใดเปรียบ
นี่คือการต่อสู้ชั้นยอดที่สามารถสะเทือนใต้หล้า ในอดีตที่ผ่านมายากจะได้พบเห็น
ทุกคนที่ชมการประลองต่างถอยร่นไม่ใช่แค่ครั้งเดียว ด้วยพลังทำลายล้างที่การต่อสู้เช่นนี้สร้างขึ้นน่าหวาดกลัวเกินไป ทันทีที่ถูกม้วนกลืนต้องอันตรายถึงชีวิตแน่
“พวกเราดูถูกหลินสวินเกินไป ความสำเร็จของเขาบนมกุฎมรรคาบรรลุถึงขั้นที่ไม่อาจจินตนาการนานแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่มีทางสู้กับบุตรนรกได้อย่างสูสีภายใต้สถานการณ์ที่ห่างกันขึ้นหนึ่งแน่”
ยอดบุคคลบางส่วนพูดเสียงเบา
คนอื่นๆ อย่างราชันเผิงปีกทองน้อย เย่หมัวเฮอ ลั่วเจียก็มองจุดนี้ออกอย่างฉับไวนานแล้ว ทำให้พวกเขาอดไหวหวั่นไม่ได้เช่นกัน สีหน้าแตกต่างกันออกไป
บนเขาจำศีลหัวโล้น ความรู้สึกตึงเครียดของพวกจี้เซิงเหยาค่อยผ่อนคลายลงเล็กน้อย
พลังต่อสู้อันแข็งแกร่งที่หลินสวินเผยออกมาทำให้พวกเขาคาดไม่ถึงเช่นกัน
ในที่นั้นตามหลังเสียงกึกก้องดังสนั่น หลินสวินและบุตรนรกแยกออกจากกัน ต่างเลือดอาบไปทั้งตัว เงาร่างซวนเซได้รับบาดเจ็บ
บุตรนรกดวงตาแดงก่ำ ไอสังหารพวยพุ่ง สีหน้าเยียบเย็นจนน่ากลัว
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าหลินสวินจะยืนหยัดได้ถึงตอนนี้!
ส่วนหลินสวินเสื้อผ้าขาดวิ่น ผมยาวแผ่สยาย นัยน์ตาดำเยียบเย็นดุจหุบเหว คิดไม่ถึงเช่นกันว่าบุตรนรกจะรับมือยากเช่นนี้
ระหว่างทั้งคู่มีไอสังหารเย็นเยียบและอานุภาพที่แข็งแกร่งหาใดเปรียบปะทะกัน ทำให้ผู้ฝึกปราณไม่น้อยต่างมีความรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก
ณ ที่นั้นเงียบสงัดหาใดเปรียบ เงียบเชียบไร้สุ้มเสียง ทุกคนต่างกลั้นหายใจจดจ่อ ไม่เปิดปากพูดอีก จับจ้องอย่างตื่นเต้น
เคร้ง!
ทวนสำริดเปื้อนเลือดเก้าเล่มปรากฏ บุตรนรกส่งเสียงคำรามราวอสนีพิโรธ ผมยาวดุจโลหิตทั้งศีรษะพลิ้วไหว
“ตาย!”
ทั่วร่างเขาถูกพลังของเงามายาวิญญาณเทพหนุนส่ง กำทวนศึกอาบเลือดเก้าเล่มบุกจู่โจมอีกครา
อานุภาพของเขาแข็งแกร่งขึ้นเท่าตัวอีกครั้ง!
“เจ้าหมอนี่ซ่อนพลังลึกล้ำยิ่ง!”
คนไม่น้อยนัยน์ตาหดเกร็ง แม้แต่ยอดบุคคลบางส่วนในที่นั้นยังต้องระวังตัว พลังที่บุตรนรกเผยออกมาทุกครั้งล้วนทำลายการคาดเดาของพวกเขา
ชิ้ง!
ขณะเดียวกันดาบหักโฉบออกมา
ขาวเจิดจ้าดุจภาพมายา บางเบาราวขนนก บริสุทธิ์ผุดผ่องไม่เหมือนความจริงราวกับเงาฟองสมบู่ แต่กลับเผยความเฉียบคมหาใดเปรียบ!
ดาบหัก!
นี่คืออาวุธของหลินสวินที่ผู้คนรู้จักคุ้นเคยนานแล้ว วิเศษมหัศจรรย์และทรงอานุภาพอย่างยิ่ง
ก่อนหน้านี้ยังมีคนไม่เข้าใจว่าทำไมหลินสวินไม่ใช้ดาบหักสักที ตอนนี้ถึงได้เข้าใจ ใช่ว่าหลินสวินไม่อยากใช้ แต่ยังไม่ถึงเวลาต่างหาก!
ก็เหมือนกับบุตรนรก เขาก็เก็บงำมาตลอดเช่นกัน
นี่ก็เหมือนการเล่นหมาก เมื่อเจอคู่ต่อสู้ที่ฝีมือสูสี ใครก็ไม่มีทางเผยไพ่ตายของตนออกมาจนหมดตั้งแต่พริบตาแรกทันที
ถ้าเป็นเช่นนั้นก็เท่ากับถูกศัตรูมองจนปรุโปร่งแล้ว!
แน่นอนว่านี่คือสถานการณ์ยามฝีมือสูสีพอๆ กัน
หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเปลี่ยนเป็นเพลี่ยงพล้ำแล้วยังกล้าเก็บงำพลังอีก นั่นคงไม่ต่างอะไรกับรนหาที่ตาย
เคร้งๆๆ
ทวนกู่ร้องกลางอากาศ ดาบหักและทวนสำริดเปื้อนเลือดเก้าเล่มปะทะกัน ประชันกันอย่างดุเดือด กลิ่นอายสังหารมืดฟ้ามัวดิน
สถานการณ์รบดุเดือดกว่าเมื่อครู่อย่างเห็นได้ชัด พวกที่พลังค่อนข้างอ่อนแอบางส่วนต่างถูกกระเทือนจนหูอื้อ เบื้องหน้าพร่าเลือนเกือบล้มพับลงกับพื้น
มีเพียงยอดบุคคลเหล่านั้นที่สำรวมนิ่งสงบในเวลานี้ได้
ไม่ทันไรทั่วทั้งลานพลันร้องเสียงหลง
ด้วยเห็นอย่างชัดเจนว่าภายใต้การฟาดฟันของดาบหัก ทวนสำริดเก้าเล่มนั้นถูกฟันจนเกิดรอยบิ่นและรอยแตกมากมาย ส่งเสียงคร่ำครวญไม่หยุด
ที่แน่ใจได้คือ หากแบ่งตามความแข็งแกร่งและอ่อนแอของสมบัติ ดาบหักจะต้องแข็งแกร่งกว่าทวนศึกเก้าเล่มนั้นแน่!
บุตรนรกหน้าคล้ำเขียว ไอสังหารภายในใจคลั่งระห่ำยิ่งกว่าเดิม
ต่อสู้มาถึงตอนนี้ยังสังหารหลินสวินไม่ได้ เดิมทีก็ทำให้เขาเสียหน้าพออยู่แล้ว
แต่ตอนนี้ทวนศึกเก้าเล่มของเขายังเสียหายจากการต่อสู้ ทำให้เขายิ่งตระหนกขุ่นเคือง หัวใจหลั่งเลือดเข้าไปอีก
ทวนศึกชุดนี้เป็นถึงสมบัติล้ำค่าที่หาได้ยาก ครองพลังเก่าแก่อย่างยิ่ง ความเป็นมาก็น่าอัศจรรย์เช่นกัน
ทันทีที่ถูกทำลาย หากคิดจะซ่อมแซมก็แทบเป็นไปไม่ได้!
“ดาบหักเล่มนี้ข้าต้องเอามาให้ได้!”
ระหว่างตะโกนผมสีโลหิตของบุตรนรกแผ่สยาย อานุภาพดุจห้วงสมุทรม้วนกลืนฟ้าดิน
แต่เพียงชั่วขณะ ทวนสำริดเปื้อนเลือดเล่มหนึ่งก็ถูกตัดขาด!
ทุกคนตรงนั้นพลันตกตะลึง นี่หลินสวินจะเอาคืนแล้วรึ
“เจ้ามันสมควรตาย!”
บุตรนรกบันดาลโทสะยิ่งกว่าเดิม ดวงตาปูดโปนแทบถลน
แต่ในการต่อสู้หลังจากนั้นก็ทยอยมีทวนศึกเล่มแล้วเล่มเล่าถูกซัดละเอียดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ใจเขาราวถูกมีดเฉือน เดือดดาลมีโทสะ
แต่ดาบหักกลับไม่เสียหายแม้แต่น้อย!
สำหรับเรื่องนี้คนไม่น้อยต่างแอบเอ่ยชม รู้ว่าสมบัตินี้ของหลินสวินต้องเป็นศาสตราจิตที่น่าเหลือเชื่อชิ้นหนึ่งแน่
ในที่สุดบุตรนรกก็เก็บทวนศึกที่เหลือเพียงห้าเล่มไป แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้นทวนศึกห้าเล่มนี้ก็เสียหายอย่างหนัก ได้รับความเสียหายรุนแรง
ขณะที่ทุกคนคิดว่าบุตรนรกจะถูกหลินสวินกำราบ ที่เกินคาดหมายคือเขาเรียกกระบี่เทพสีเลือดเล่มหนึ่งออกมา
ปึง!
ระหว่างปะทะกับดาบหัก กระบี่เทพเล่มนี้ยาวแค่หนึ่งฉื่อ กว้างสองชุ่น สีแดงสดดั่งโลหิตตลอดเล่ม เผยอานุภาพดุดันหาใดเปรียบ ทั้งไม่ได้รับความเสียหายอันใด!
‘สมบัติบนตัวเจ้าหมอนี่ช่างมากจริงๆ…’
คนไม่น้อยลอบถอนใจ ดวงตากลับเผยแววอิจฉาและริษยา
………….
Related

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

Type: Author: ,
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset