Carefree Path of Dreams – ตอนที่ 132

“ฝัน?”

ฟางหยวนยิ้มและมีสีหน้าอ่านไม่ออก

ท่าทางที่คาดเดาไม่ได้ของเขาทำให้หลิงอิ๋นกังวล

“ไม่เป็นไร…”

เขายิ้มอย่างสุภาพ “ตอนแรกข้าต้องการแลกเปลี่ยนกับเจ้า ความรู้ในการแปรธาตุของเจ้าแลกกับอิสระภาพ… แต่ในเมื่อเจ้าไม่ต้องการ เช่นนั้น…”

“เป๊าะ!”

ฟางหยวนดีดนิ้ว

“ซู่! ซู่!”

หมอกสะกดสายหนึ่งปรากฏขึ้นและเข้าครอบคลุมหลิงอิ๋น

“เจ้า…”

หลิงอิ๋นจ้องเขาและพูดออกมาคำหนึ่งก่อนจะหลับลงไป

ต่อให้พลังธาตุก่อกำเนิดของนางจะไม่ถูกผนึกเอาไว้ นางก็ยังคงพ่ายแพ้ต่อคาถาสะกดของฟางหยวนอยู่ดี ไม่ต้องพูดถึงสภาพของนางตอนนี้

“แม่นางน้อย… ค่อยพบกันในความฝันของเจ้า…”

ฟางหยวนวางฝ่ามือของตนเองลงบนหน้าผากหลิงอิ๋นและเริ่มกระบวนแรกของการแฝงฝัน

มันเป็นตอนกลางวันที่มีฝนตกปรอย ๆ หมอกหนาปกคลุมทั่วไป

ในอี้ซานฝู คฤหาสน์หลังใหญ่ หลิงอิ๋นยืนขึ้นและหาวขณะขยี้ตา

นางดูอายุประมาณ 12 ปี ทำผมมวยสองข้างซ้ายขวา นางสวมชุดสีชมพูและสวมรองเท้าผ้าไหมติดดอกไม้สีเหลืองที่ด้านข้าง นางดูราวกับรูปสลักขนาดเล็ก น่ารักยิ่งนัก

“นี่คือ..บ้านของข้า…”

หลิงอิ๋นรู้สึกสับสน “เหตุใดข้าจึงรู้สึกเหมือนลืมบางอย่างที่สำคัญไป…”

“หลิงอิ๋น!”

เสียงดังมาจากด้านหน้าคฤหาสน์ และหลิงอิ๋นก็เหวี่ยงความคิดนั้นทิ้งไปทันที นางแลบลิ้นออกมาก่อนพูด “โอ้ไม่นะ วันนี้ข้าตื่นสาย อาจารย์จะดุข้าหรือไม่?”

นางวิ่งไปตลอดทางไปจนถึงห้องแปรธาตุ

ที่ตรงกลางห้องแปรธาตุมีหม้อยาใบใหญ่ตั้งอยู่ และที่ด้านใต้เป็นถ่านสลักรูปสัตว์อสูรที่ลุกโพลงอยู่ ไม่มีควัน มีเพียงเปลวไฟสีแดง และใครที่ยืนอยู่ใกล้พอก็จะมีเหงื่อซึมไหลออกมาเรื่อย ๆ

“เจ้าพลาดบทเรียนตอนเช้า เหตุใดจึงสายนักวันนี้?”

ลู่เหรินเจียในชุดสีน้ำตาลอยู่ตรงหน้าหม้อยา ดูเยาว์วัยกว่าก่อนหน้านี้

“อาจารย์อย่าได้โมโห… ข้า เมื่อคืนนี้ข้าทำงานจนดึก และเข้านอนช้ากว่าปกติเล็กน้อย!”

หลิงอิ๋นคุกเข่าลงและขออภัย และกังวลว่าตนจะถูกตีด้วยก้านไม้ไผ่

“อืม ข้าจำได้ว่า… วันนี้ข้าจะทดสอบเจ้า เจ้าจะเริ่มด้วยการท่องเคล็ดการแปรธาตุและคาถาการแปรธาตุ จากนั้นข้าจะทดสอบการแยกแยะยาของเจ้า… หากมีข้อผิดพลาดใด เหอเหอ…”

ลู่เหรินเจียเผยสีหน้าของอาจารย์ผู้เข้มงวดและพูดต่อ “เริ่มจากสูตรการแปรธาตุเก้าแปรเปลี่ยน จากนั้นก็ฝ่ามือคุมไฟ! ว่ามา!”

“เจ้าค่ะ อาจารย์!”

หลิงอิ๋นตอบรับอย่างเชื่อฟังและเริ่มท่องออกมาโดยไม่ลังเล “สูตรการแปรธาตุเก้าเปลี่ยนแปลงเริ่มจากธาตุ อย่างแรกคือเพลิงบรรพกาล จากนั้นก็ไม้…”

นางฉลาด ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ นางก็สัมผัสได้ถึงความคิดที่วิ่งพล่านอยู่ในใจของนาง ขณะที่นางรู้สึกสงสัยมากขึ้น ‘เหตุใดข้าจึงเรียนรู้เคล็ดการแปรธาตุจากอาจารย์ได้มากถึงเพียงนี้?’

ขณะที่นางดมส่วนผสม นางก็สามารถระบุชื่อยาที่จะสร้างได้ทันที มันคือเม็ดยาร้อยพืชพรรณ ซึ่งนางสามารถสร้างขึ้นมาได้ด้วยตนเองด้วยซ้ำ

‘เดี๋ยวก่อนนะ… ข้าเรียนสูตรการทำเม็ดยาร้อยพืชพรรณตั้งแต่เมื่อใดกัน?’

หลิงอิ๋นน้อยสงสัย จากนั้นก็ได้ยินเสียงลู่เหรินเจียดังมาอีกครั้ง “อืม เจ้าคุ้นเคยกับเคล็ดวิชาซึ่งเป็นผลจากการตั้งใจของเจ้า แต่ว่า เพียงแค่รู้จักพวกมันนั้นไม่พอ เจ้าจำต้องเข้าใจด้วย!”

ลู่เหรินเจียมีสีหน้าเข้มงวด และหลิงอิ๋นก็ไม่กล้าคิดอะไรอื่นให้มากขณะตัวสั่น

“ให้ข้าถามเจ้า ความแตกต่างระหว่างไฟสามหยางกับไฟสามหยินคืออะไร?”

“ความแตกต่างของพวกมันนั้นอยู่ที่รูปแบบของเปลวไฟ ไฟสามหยางนั้นเป็นไฟสีดำ ในขณะที่ไฟสามหยินนั้น…”

หลิงอิ๋นตอบอย่างไม่ลังเล

“เช่นนั้น อะไรคือน้ำตะกอนหยกและตะวันส่องแสง?”

“น้ำตะกอนหยกหมายถึงแก่นของยา ขณะที่แก่นของยาเริ่มตกตะกอน มันเป็นสัญญาณของการเกิดเม็ดยา ตะวันส่องแสงหมายถึงวิธีการสกัดเม็ดยา พูดโดยทั่วไปแล้ว…”

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วขณะการถามตอบดำเนินไป และหลิงอิ๋นน้อยก็เริ่มสงสัยมากขึ้น

คำถามของอาจารย์นั้นเป็นสิ่งที่นางยังไม่ได้เรียนอย่างแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าเหตุใด นางจึงสามารถตอบคำถามพวกนั้นได้ ราวกับนางมีประสบการณ์ในการเล่นแร่แปรธาตุมาแล้วสักสิบปี

‘ข้าดูเหมือน… จะหลงลืมบางอย่างไป… เป็นไปได้ไหมว่าข้าเคยเรียนการแปรธาตุมาก่อนแล้ว?’

ทันใดนั้น ก็เกิดความเจ็บปวดขึ้นที่ด้านในหัวของนาง นางยกมือขึ้นกุมหัวเอาไว้แล้วทรุดนั่งลงไปด้วยความเจ็บปวด

“อืม เจ้าทำแบบทดสอบวันนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ไปพักซะ!”

ขณะที่ ‘ลู่เหรินเจีย’ เห็นภาพนี้ เขาก็มีสีหน้าประหลาดและโบกมือ หมอกเริ่มไหลมาจากมุมหนึ่งของห้องแปรธาตุ และค่อย ๆ เข้าไปในร่างหลิงอิ๋นช้า ๆ

“ค่ะ อาจารย์! ข้าขอตัวก่อน!”

หลิงอิ๋นหยัดตัวขึ้นเมื่อความเจ็บปวดในหัวของนางลดลง นางไม่ได้คิดเรื่องนั้นต่อและเดินออกไป

“ฟู่…”

เมื่อประตูปิดลง ลู่เหรินเจียก็ถอนหายใจ และทันใดนั้นก็เปลี่ยนร่างกลับมาเป็นฟางหยวน ที่มีสีหน้าเสียดายบนใบหน้า “แม้ว่าข้าจะอยู่ในระดับผู้สร้างฝัน ข้าก็ยังไร้ประสบการณ์เกินไป ขณะพยายามดึงเอาความลับและกระตุ้นนาง ข้ายังบังเอิญทำให้หลิงอิ๋นตัวจริงตื่นตัวขึ้นและเกือบจะพลาดไปแล้ว!”

“ข้าเก็บเกี่ยวได้มากพอแล้วสำหรับวันนี้ ดังนั้นข้าจะกลับมาอีกทีพรุ่งนี้!”

เขายิ้มและทั้งโลกแห่งความฝันก็ทลายลง

“เป็นความฝันที่ดีอะไรเช่นนี้!”

ในห้องขัง ฟางหยวนเหลือบมองหลิงอิ๋นที่หลับอย่างสบายและออกจากห้องขังไป

คงจะไร้เดียงสาเกินไปแล้วถ้ายังคิดว่าสามารถซ่อนความลับใดเอาไว้จากจ้าวแห่งฝันได้!

แม้ว่าเขาจะไม่รู้เรื่องการแปรธาตุ แต่ศิษย์สายตรงของลู่เหรินเจียผู้นี้ย่อมรู้ นอกจากนี้ นางยังได้รับการสอนจากเขาเองโดยตรง ยิ่งทำให้นางมีคุณค่ามากขึ้นไปอีก

“น่าเสียดายที่ทักษะการสร้างฝันของข้านั้นเป็นเพียงระดับเริ่มต้น ไม่อย่างนั้นข้าสามารถที่จะอ่านความทรงจำของนางได้ในตอนที่นางตื่น และสามารถสร้างเหตุการณ์แบบเดียวกับที่ลู่เหรินเจียสอนนางขึ้นมาได้…”

ฟางหยวนเพิ่งเข้าสู่ระดับที่สามารถแก้ไขความทรงจำของสัตว์วิญญาณได้ การทำเช่นเดียวกันนั้นกับศิษย์วิญญาณ เขาต้องมีทักษะมากกว่านี้

“ด้วยความรู้ใหม่ของข้า ข้ายังสามารถรับมือกับหลานรั่วได้!”

“นอกจากนี้ การมีประสบการณ์ด้านการแปรธาตุบ้างก็เป็นเรื่องดี หลังจากระดับสวรรค์แล้ว ข้าอาจจะเดินไปในเส้นทางของจ้าวแห่งการแปรธาตุฝัน…”

ด้วยการเล่นไม่ซื่อเช่นนี้ เขาจะพูดอะไรได้อีก?

ในวันต่อมา ฟางหยวนเรียกหาหลานรั่วและตอบข้อสงสัยของนาง

หวงฝูเหรินเหอยืนฟังอยู่ด้านหนึ่งก็ประหลาดใจ

เขาคิดว่าฟางหยวนนั้นมีเพียงทักษะวิทยายุทธ์และไม่มีทักษะการแปรธาตุ

แต่ว่า ดูเหมือนทักษะการแปรธาตุของนายท่านจะเหนือกว่าเขาเสียอีก ซึ่งทำให้ฟางหยวนยิ่งลึกลับขึ้นไปอีกในสายตาของหวงฝูเหรินเหอ ขณะที่ความนับถือของเขาก็สูงขึ้น

โดยไม่ทันรู้ตัว ครึ่งปีก็ผ่านไป และปีใหม่กำลังเริ่มต้นขึ้น

ในประเทศเซี่ย เทศกาลปีใหม่เป็นเทศกาลที่สำคัญเป็นอย่างมาก ในหุบเขาสันโดษ ทุกหลังคาเรือนล้วนตกแต่งด้วยโคมไฟหลากสีและยังมีความวุ่นวายไปทั่ว

นอกจากนี้ ยังมีหลายคนจับจ่ายเงินหลังจากรอดจากสงครามมาได้ แม้แต่ครอบครัวธรรมดายังซื้อเสื้อผ้าใหม่หลายชุดเนื้ออีกหลายชั่งเพื่อเฉลิมฉลองที่ยังมีชีวิตอยู่หลังสงคราม และทั้งเมืองก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นอีกมาก

ในเมืองชิงเย่

“อาจารย์ ท่านดู… นี่คือยาผงห้ามเลือดที่หลานรั่วทำขึ้นด้วยตนเอง!”

หลานรั่วสวมเสื้อคลุมปักลายเสือดาวและใบหน้าก็เปล่งไปด้วยความสุขขณะที่โอ้อวดความสามารถของนางต่อฟางหยวน

“โอ้?”

หลังจากได้ยินที่นางพูด ฟางหยวนก็หันความสนใจของตนจากเทศกาลที่ภายนอกมาที่ซองยาในมือหลานรั่ว

ฟางหยวนโตขึ้นอีกหนึ่งปีแล้ว แต่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดบนตัวเขา เขายังไม่กลัวความหนาวเย็นและสวมเพียงเสื้อผ้าบาง ๆ แม้ว่าด้านนอกจะมีหิมะตกก็ตาม นี่ทำให้เขาดูพิเศษ

เขารับซองยามาจากมือหลานรั่วและยกขึ้นดม “ถูกต้อง นี่คือผงยาห้ามเลือดคุณภาพดี เก่งมาก หลานรั่ว ตอนนี้เจ้าก็นับเป็นนักปรุงยาที่ดีคนหนึ่งได้แล้ว!”

นักปรุงยาไม่ใช่จ้าวแห่งการเล่นแร่แปรธาตุ ไม่แม้กระทั่งเป็นศิษย์วิญญาณ แต่อย่างน้อยนางก็มีความก้าวหน้า

ตามตำราแล้ว นางต้องการอีกเพียงสองขั้นเท่านั้น ขั้นแรกก็คือรวมพลังธาตุก่อกำเนิดของนางเพื่อขึ้นเป็นศิษย์แปรธาตุ และขั้นต่อไปก็คือทะลวงด่านขึ้นสู่ระดับพลังธาตุเพื่อได้เป็นจ้าวแห่งการเล่นแร่แปรธาตุและสามารถใช้ไฟศักดิ์สิทธิ์ได้!

เพียงแค่สองขั้นที่หลานรั่วจะได้เป็นเหมือนลู่เหรินเจีย เพียงแค่พริบตาเดียว ไก่ตัวหนึ่งก็จะกลายเป็นเป็ด

อันที่จริง ฟางหยวนรู้ว่านี่มันแทบจะเป็นไปไม่ได้

แม้ว่ามันจะดูเหมือนว่าคนธรรมดาสามารถเป็นจ้าวแห่งการเล่นแร่แปรธาตุได้ในสองขั้นตอน และยังดูเรียบง่ายกว่า 12 ประตูทอง แต่ว่าความยากนั้นลึกล้ำยิ่ง

ไม่เหมือนวิทยายุทธ์ที่คนผู้หนึ่งสามารถก้าวไปได้ทีละก้าว เส้นทางของนักรบศักดิ์สิทธิ์นั้นพุ่งตรงสู่สวรรค์ในก้าวเดียว!

นี่แน่นอนว่าผู้ที่ไม่มีพรสวรรค์หรือความสามารถล้วนต้องยอมแพ้ มีเพียงผู้ที่มีพรสวรรค์ มีรากฐานที่แน่หนา และมีโชคจึงจะมีโอกาส

เหตุจึงต้องมีโชค?

นี่เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการค้นหาอาจารย์

ยกหลานรั่วเป็นตัวอย่าง หากนางไม่พบฟางหยวน นางคงจะต้องรออีกนานกว่าที่ ‘ผู้เก่งกาจสักคนจะมองเห็นความสามารถในตัวนาง’ ก่อนที่นักรบศักดิ์สิทธิ์จะรับนางเข้าเป็นศิษย์

ความเป็นไปได้ที่น่ากลัวที่สุดก็คือระหว่างการรอคอยอาจารย์ที่เหมาะสมมาถึง นางอาจจะถูกลักพาตัวโดยพรรคสุนัขป่าอย่างเมื่อครั้งก่อน หรือที่แย่กว่านั้น ถูกพาไปโดยนักรบศักดิ์สิทธ์ที่ชั่วร้ายที่อาจจะใช้นางเป็นเครื่องบัดพลี

ฟางหยวนนั้นพึงพอใจแล้วถ้าหลานรั่วสามารถทะลวงด่านขึ้นเป็นศิษย์แปรธาตุได้ก่อนอายุ 20

“อาจารย์… มีอะไรรบกวนใจท่านอยู่หรือ?”

หลานรั่วเงยหน้าขึ้นและสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง

“โอ้?”

ฟางหยวนประหลาดใจ “การตรวจจับเช่นนี้เจ้าต้องใช้พลังเวทย์ที่แข็งแกร่ง ข้าดีใจที่อาหารวิญญาณที่ข้ามอบให้เจ้านั้นไม่เสียเปล่า… เจ้าถูกแล้ว อาจารย์มีเรื่องรบกวนใจเล็กน้อย”

“หลายรั่วอยากจะโตเร็ว ๆ และเป็นผู้ใหญ่เร็ว ๆ ข้าจะได้ช่วยอาจารย์และท่านพี่ได้!”

หลานรั่วพูด

“ฮ่าฮ่า… แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ข้ายังไม่ต้องให้หลานรั่วช่วยหรอก!”

ฟางหยวนหัวเราะและหยิกแก้มหลานรั่ว

“อาจารย์ ไม่เอา”

ขณะกลั่นแกล้งนางเล่น เขาก็ลืมเรื่องกังวลของตนเอง

“นายท่าน!”

เมื่อหลานรั่วออกไป โจวเหวินอู่ก็มาหาฟางหยวนและทักทายเขา

ในฐานะเจ้าเมือง เขาเริ่มไว้หนวดและไว้ท่าทีมากขึ้น “ตระกูลเฉินนำข่าวมา มีคนจากราชวงศ์มาที่นี่…”

“อืม!”

ฟางหยวนมองหิมะที่ตกหนักอยู่ด้านนอกและโบกมือ “เรื่องเร่งด่วนนัก… พวกเขาน่าจะมาที่นี่เพราะหลิวเอี๋ยน อย่างไรเสีย เจ้าเมืองของเราผู้นี้ก็เก่งกาจยิ่งนัก!”

 

 

 

Carefree Path of Dreams

Carefree Path of Dreams

CPoD, 逍遥梦路
Score 7.4
Status: Ongoing Type: Author: , , Artist: Released: 2017 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Carefree Path of Dreamsนี่เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มที่ใช้ชีวิตสันโดษอยู่บนภูเขา ปลูกพืช เลี้ยงปลา และฝันถึงความฝันของเขา เอ๋? จู่ ๆ ข้าก็ออกไปพิชิตทั่วหล้าและกลายเป็นผู้ครองโลกเหรอ? หรือว่าข้ายังอยู่ในความฝันกันแน่?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset