Carefree Path of Dreams – ตอนที่ 214

Chapter 214: นักรบไร้ชีพ

 

“พวกเราคือฉินชิงและฉินอวิ๋น ขอเข้าพบนายท่านได้หรือไม่?”

 

ในสาขาหลักสมาพันธ์การค้าอูฐขาว ฟางหยวนมองข้อความในมือ “คนพวกนี้เป็นใคร?”

 

“พวกเขาหนีออกมาจากต้าเฉียนเมื่อเร็ว ๆ นี้และมาจากตระกูลฉิน…”

 

อาซิวต้ากําดาบโค้งไว้และเสริม “ พวกเขาได้รับการดูแลจากบ่าวผู้จงรักภักดี หัวหน้าของพวกเขาคือ “ผู้อาวุโสโจว” อยู่ระดับสูงสุดของประตูทองที่ 12 และมีทักษะลับชนิดหนึ่ง ครั้งหนึ่งเขาเคยรับมืออู่จงผู้หนึ่งได้ถึงสิบกระบวนท่าก่อนที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ง”

 

ก็ยังมีความแตกต่างระหว่างผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่ต่ำกว่าขอบเขตรวมธาตุ ผู้อาวุโสโจวผู้นี้คงจะเป็นระดับสูงของพวกเขาแล้ว

 

แน่นอนว่า สําหรับฟางหยวนแล้ว พลังของเท่านั้นก็น้อยนิดราวกับมด!

 

“แต่ว่า ในเมื่อข้าก็ไม่มีอะไรทํานี่นะ? ให้พวกเขาเข้ามา!”

 

ฟางหยวนโบกมือ ไม่นาน อาซิวต้าก็นําคนสามคนเข้ามา

 

คนแรกเป็นแม่นางอายุราวยี่สิบปี ผิวขาวกระจ่าง ขายาวเรียว รูปลักษณ์น่ามอง

 

โดยเฉพาะริมฝีปากเล็กบางนั่น นางให้ความรู้สึกมุ่งมั่น และเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นผู้นําในสามคนนี้

 

เป็นแม่นางจากตระกูลฉิน ฉินชิง

 

ส่วนฉินอวิ๋น ที่ยืนอยู่อีกด้านหนึ่ง ก็มีท่าทางดีและยังฝึกวิทยายุทธ์ถึงระดับใช้กําลังภายในได้ เขาไม่ถึงกับใช้การไม่ได้ แต่ว่าก็ดูอ่อนแอกว่าและไม่ได้โดดเด่นนัก

 

มีพี่สาวโผงผางเช่นนี้ ต่อให้เป็นอัจฉริยะก็ดูอ่อนแอและดูเป็นคนธรรมดาได้

 

เห็นพวกเขาสามคน ฟางหยวนก็คิดกับตัวเอง ลูกนกอินทรีไม่อาจหลบอยู่ด้านหลังแม่ของมันไปได้ตลอดไป พวกมันต้องผ่านความยากลําบากก่อนที่จะเติบโตได้!”

 

แน่นอนว่า นี่ไม่ใช่ธุระปะปังของเขา และดังนั้นเขาจึงไม่ให้ความเห็นอะไร เขาหันไปสนใจผู้อาวุโสโจวและรู้สึกสนใจขึ้นมานิด ๆ

 

หากไม่นับวิทยายุทธ์ของเขา ฟางหยวนรู้สึกถึงความคุ้นเคยของพลังจากวิชาลับของเขา ขณะที่เขาพยายามนึก เขาก็พบว่าเขารู้จักมันจากโลกแห่งความฝันของหยางฟานในชุดตําราวิชาลับ

 

“หมอกภูผา?”

 

เขาพูดสองคําออกมาเบา ๆ

 

“อะไรนะ?”

 

ตอนที่ผู้อาวุโสโจวได้ยินชื่อนี้ เขาก็งันไป!

 

ชื่อของวิชาลับที่เขาฝึกก็คือหมอกภูผา มันสามารถเพิ่มความสามารถในการป้องกันและหนาหนักราวภูผา นี่ทําให้เขาสามารถรับสิบกระบวนท่าจากอู่จงได้

 

อู่จงตรงหน้าเขาไม่เพียงทําให้เขารู้สึกถึงอันตรายแต่ยังสามารถมองทะลุถึงรากฐานเคล็ดวิชาลับของเขาได้ นี่น่าตกใจนัก!

 

“นายท่าน ท่านพูดถูกแล้ว!”

 

ผู้อาวุโสโจวเค้นหัวเราะออกมา

 

ต่อหน้าอู่จงที่รู้ถึงเคล็ดวิชาลับของตน เขาย่อมไม่มั่นใจว่าเขาจะสามารถรับมือได้หากต้องสู้กัน

 

“เอาละ ไม่ต้องสนใจไป เจ้าคือฉินชิงใช่หรือไม่? พวกเจ้าทั้งสองมาหาข้า?”

 

ฟางหยวนโบกแขนเสื้อและถามตรง ๆ

 

“ข้าได้ยินว่าท่านกําลังรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเทือกเขาสามโลก พวกเรามาที่นี่เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่ท่าน!”

 

ฉินชิงหัวเราะ และฉินอขึ้นคุกเข่าลง ประคองส่งตําราลับให้ด้วยสองมือ

 

“เอ๋?”

 

ฟางหยวนมองตํารานั่นและถูกมันดึงดูดไว้

 

เขามีข้อมูลเกี่ยวกับเทือกเขาสามโลกอยู่แล้ว

 

แต่ว่ารายละเอียดในนี้นั้นมากกว่าที่สมาพันธ์การค้าอูฐขาวหามาได้

 

“พวกเขากระทั่งสามารถคํานวณเวลาและโอกาสที่โลกมายาจะเกิดขึ้นได้ คนมากมายเท่าใดกันที่ต้องเสียสละไปเพื่อการค้นคว้าระดับลึกเช่นนี้?”

 

มองสองพี่น้องเยาว์วัย เขาก็ส่ายหน้า ไม่ใช่พวกเขา! น่าจะเป็นโชคชะตาของพวกเขาให้ได้รับสิ่งนี้มาจากบรรพบุรุษ หรือมันอาจจะถูกค้นพบโดยตระกูลฉิน?”

 

“นี่ดีมากทีเดียว!”

 

ทั้งห้องเงียบกริบ มีเพียงเสียงพลิกกระดาษจากฟางหยวนที่กําลังอ่านตํารานั่นดังมาให้ได้ยิน

 

ฉินชิงกระวนกระวายเป็นที่สุด แม้ว่านางจะดูสงบและรักษากริยาไว้ได้ แต่หัวใจของนางนั้นกําลังเต้นรัว ในที่สุดนางก็รู้สึกโล่งอกเมื่อได้ยินความเห็นของฟางหยวน

 

“ข้าจะเก็บมันไว้ พวกเจ้าต้องการสิ่งใดตอบแทน? เงิน? เม็ดยาวิญญาณ? หรือว่าตํารายุทธ์?”

 

ฟางหยวนถามง่าย ๆ

 

“ไม่ใช่ของพวกนั้น!”

 

ฉินชิงกัดฟัน “ข้าได้ยินว่าท่านสนใจข้ามเทือกเขาสามโลกย้อนกลับ พวกเราอยากขอให้ท่านพาเราสองคนไปด้วย? พวกเราได้รับการฝึกวิทยายุทธ์มาและจะไม่เป็นภาระให้ท่าน!”

 

“เป็นไปไม่ได้”

 

แม้ว่าเขาจะยืนยันสิ่งที่คาดเอาไว้แล้ว ฟางหยวนก็ปฏิเสธพวกเขาไปตรง ๆ

 

ตลกแล้ว!

 

อันตรายของเทือกเขาสามโลกนั้นก็ทําให้เขาหวาดกลัวอยู่ในใจอยู่แล้ว แล้วเหตุใดเขาจึงจะนําเอาภาระสองชิ้นนี้ไปกับเขาด้วยกัน? เขาไม่ได้อยากตายเร็วเสียหน่อยนะ?

 

ฉินอวิ๋นตัวสั่นและหน้าซีด เขาไม่พอใจอย่างที่สุด

 

“ข้าไม่รู้ว่าท่านจะใช้วิธีใดในการข้ามเทือกเขาสามโลก แต่ท่านย่อมต้องระมัดระวัง

 

ฉินชิงไม่ยอมแพ้และพูดต่อ “ท่านอาจจะมีทรัพยากรมากกว่าพวกเรา และยังมีความสามารถสูงกว่ามากเช่นกัน ท่านอาจจะเตรียมตัวมากกว่าพวกเรา แต่ท่านยังขาดสิ่งหนึ่ง!”

 

“โอ้? อะไรรึ?”

 

“นักรบผู้เสียสละ!”

 

ฉินชิงตอบโดยไม่ลังเล “ท่านก็รู้ว่าเทือกเขาสามโลกนั้นอันตรายเพียงไหน? ท่านยังคงขาดผู้ที่จะนําทางทดสอบอันตรายให้ล่วงหน้า คนพวกนี้ต้องเต็มใจและยังมีความสามารถในการป้องกันตัวสูงระดับหนึ่งด้วย!”

 

ขระที่นางพูด สีหน้าของอาซิวต้าก็เปลี่ยนไป

 

นางพูดถูก!

 

ในเทือกเขาสามโลก อันตรายมีอยู่ทุกหนแห่ง หากเขาเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงกับทุกอย่าง เขายอมไม่สามารถมีชีวิตรอดออกไปได้ต่อให้มีเก้าชีวิตก็ตาม

 

ทั้งหมดที่เขาต้องมีก็คนที่สามารถทดสอบอันตรายให้เขาได้

 

แต่ว่า หากคนเหล่านี้ไม่เต็มใจก็ไร้ประโยชน์ พวกเขาอาจจะหนีไปหรือกระทั่งคิดหลอกลวงได้?

 

หากเขาใช้เงินซื้อผู้นําทางให้เขาเองเพื่อทดสอบอันตราย คนพวกนั้นก็ไม่ได้มีความสามารถเพียงพอ และก็ยังยากที่จะหาผู้ที่เต็มใจและสามารถทําเช่นนั้นได้

 

เขาทําได้เพียงใช้นักรบบูชายัญ! นักรบบูชายัญผู้ภักดี!

 

แต่ว่า นักรบพวกนี้ไร้ประสบการณ์ จะช่วยได้เท่าใดกัน?

 

ฉินชิงนั้นมั่นใจเป็นที่สุดขณะที่นางมองฟางหยวน “นายท่าน ท่านเพียงแค่ให้เราติดตามไปด้วย เพื่อเป็นการตอบแทน ข้าสามารถจัดเตรียมกลุ่มของ 18 นักรบบูชายัญได้ คนที่อ่อนแอที่สุดในหมู่พวกเขาก็เป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับใช้กําลังภายในได้ ข้าคิดว่านี่น่าจะเพียงพอสําหรับพวกเราในการเดินทางในเทือกเขาสามโลก!”

 

“เจ้ามีเหตุผล…”

 

ฟางหยวนยิ้ม ผู้หญิงคนนี้คิดไว้อย่างลึกซึ้ง แต่ว่านางพลาดบางอย่างไป

 

นางจะสามารถเข้าใจความสามารถอันสูงส่งราวเทพเจ้าของเขาได้อย่างไร?

 

ด้วยเคล็ดแฝงฝันของเขาและความสามารถในการเล่นแร่แปรธาตุ หากเขายินยอมพักอยู่ในเมืองทะเลทรายสักระยะ เขาย่อมสามารถฝึกนักรบบูชายัญออกมาได้เป็นกลุ่มใหญ่

 

แน่นอนว่า วิธีการนี้อาจจะใช้เวลาและความพยายามและอาจจะเป็นเรื่องผิดมนุษยธรรมในการบีบบังคับให้ผู้อื่นมาเป็นทาสของเขา

 

หากเขายินยอมให้ตระกูลฉินช่วยเขาเรื่องนี้ เขาก็ไม่จําเป็นต้องทํางานสกปรกและยังช่วยเขาลดเรื่องวุ่นวายไปมาก

 

เขามองฉินชิง “เจ้าจะรับประกันคุณภาพและความภักดีของนักรบบูชายัญของเจ้าได้อย่างไร?”

 

“แม้ว่าพวกเราจะพ่ายแพ้ต่อการคัดเลือกทายาทของตระกูลฉินก่อนหน้านี้ พวกเราก็ไม่ใช่จะไม่ได้อะไรเลย ตรงกันข้าม คนเหล่านี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นสิ่งคุกคามต่อบุตรชายของบ้านใหญ่ ไม่อย่างนั้น ทําไมพวกเขาจึงถูกขับไล่ออกมาจากอาณาจักรต้าเฉียนเล่า?”

 

เมื่อนางพูดถึงความบาดหมางในตระกูล ก็มีความรู้สึกเกลียดปรากฏในดวงตา “ทหารม้าขนนกดําทั้งสิบแปดนี้มาจากตระกูลของเรา พวกเขาครั้งหนึ่งเคยทําปฏิภาณเลือดยืนยันความภักดีกับพวกเราสองคน พวกเขาย่อมไม่ลังเลแม้ต้องฆ่าตัวตายก็ตาม!”

 

“เช่นเดียวกับผู้ฝึกยุทธ์ที่ข้างกายเจ้าใช่หรือไม่?”

 

ฟางหยวนถามอย่างง่าย ๆ

 

“อันที่จริง”

 

ใบหน้าของฉันชิงซีดลงเล็กน้อย “ไม่ใช่แค่นั้น ผู้อาวุโสโจวนั้นยังเป็นผู้นําของสิบแปดทหารม้าขนนกดํา! พวกเขาทั้งหมดมีเคล็ดวิชาลับเฉพาะของตนเองซึ่งเหมาะสมกับวิถีทางของแต่ละคนและถ้าร่วมมือกัน พวกเขาสามารถจัดการกับอู่จงสามคนได้ด้วยซ้ำ!”

 

“ความสามารถพวกเขาทําไมกัน หรือนางกลัวว่าข้าจะทดสอบพวกเขา?”

 

ฟางหยวนมองฉันชิงและเผยรอยยิ้มลึกลับ แม่นางผู้นี้อ่อนต่อโลกเกินไปแล้ว แต่ก็เพราะอายุของนางนั่นแหละ แต่ว่า หากนางสามารถสละผู้ใต้บัญชาได้โดยไม่แม้แต่จะกะพริบตา เช่นนั้น ข้าคงต้องระวังนางเอาไว้หน่อยแล้ว

 

แม้เขาจะยังสงสัยในความน่าไว้ใจของนาง เขาก็รีบสั่ง “เอาละ งั้นก็บอกให้พวกเขาเอาชีวิตตัวเองดูสิ!”

 

“อะไรนะ?”

 

นี่เป็นผลลัพธ์เลวร้ายที่สุดที่นางคิดเอาไว้ใบหน้าของฉินชิงเปลี่ยนเป็นซีดเผือดกว่าเดิม และ ฉินอวิ๋น ที่อยู่ข้าง ๆ นางก็แทบผงะด้วยความกลัว

 

“หากเจ้าไม่สามารถโน้มน้าวนักรบบูชายัญพวกนี้ได้ มันย่อมหมายความว่าเจ้าไม่สามารถยืนยันคุณค่าของพวกเขาได้ ดังนั้น ทําไมข้ายังจะต้องพาภาระทั้งสองอย่างพวกเจ้าไปด้วยเล่า?”

 

ฟางหยวนให้ความเห็นโดยไม่แม้แต่จะกะพริบตา

 

“คุณหนู!?”

 

ผู้อาวุโสโจวมีสีหน้าเด็ดเดี่ยวขณะมองฉินชิง

 

“ท่าน… ท่าน…”

 

ฉินชิงกัดฟันแน่น นางมองไปทางอื่นพยายามกล้ำกลืนน้ำตาเอาไว้ “เอาชีวิตตนเองเสีย!”

 

“ขอรับ คุณหนู!”

 

ผู้อาวุโสโจวรับคําขณะดึงดาบโค้งของตนออกมา

 

“ซี่!”

 

ทั้งห้องสว่างวาบด้วยแสงสะท้อนจากใบดาบ

 

“พรวด!”

 

เลือดสาดกระจายบนพื้น ย้อมจนเป็นสีแดง

 

“ท่านลุงโจว”

 

ฉินอวิ๋นอึ้งงันไปน้ำตาเอ่อคลอ

 

“เจ้าจะร้องให้เพื่ออันใดกัน?”

 

ฟางหยวนโบกมืออย่างรําคาญ “เขายังไม่ตายเสียหน่อย!”

 

“หืม?”

 

ฉินชิงอึ้งไป นางเห็นรอยมีอยู่บนสําคอของเขา และดาบโค้งนั่นก็ดูเหมือนจะคร่าชีวิตเขาไปแล้ว แต่ว่า พริบตานั้น มือที่กําอยู่บนดาบโค้งก็ถูกหยุดเอาไว้ไม่ให้ขยับไปได้อีกชีวิตของเขาอยู่บนเส้นด้ายแล้ว!

 

“ข้ามีความสามารถในการควบคุมพลังอย่างละเอียดถึงระดับนี้แล้ว นี่ดี! ดีทีเดียว!?

 

ฟางหยวนมองเขาและพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

 

ผู้อื่นคงคิดว่าเขามีพลังราวกับเทพเจ้าตอนที่เขาลงมือ

 

แต่ว่า อันที่จริงแล้ว มีเพียงตัวเขาเองที่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้นั้นเป็นเพียงการทดลองส่วนตัวของเขาเท่านั้น

 

อย่างไรเสีย หากความสามารถของเขาไม่เพียงพอ เขาก็ไม่ใช่ผู้ที่จะตายตกลงไปเสียหน่อย!

 

หากฉินชิงได้ยินความคิดในใจของฟางหยวน นางย่อมเหงื่อกาศไหลรินตัวสั่นด้วยความหวา ดกลัว

 

“ฝุบ!”

 

เพียงแค่พลิกนิ้ว ใบดาบก็ถูกดีดออกไป เขารีบดึงเข็มทองคําหลายเล่มออกมาแล้วฝังลงไปตามจุดชีพจรของผู้อาวุโสโจวเพื่อห้ามเลือด การกระทําของเขานั้นเรียบรื่นราวกับเขาคุ้นเคยดีกับสิ่งที่กําลังทํา

 

“เอาละ เขาเพียงแค่ได้รับบาดเจ็บภายนอกเท่านั้น ข้าให้ยาวิญญาณแก่เขาแล้ว พักผ่อนสักคืนเขาก็จะฟื้นฟูกลับมาได้ และจะไม่ทําให้การเดินทางไปเทือกเขาสามโลกของพวกเราช้าลงไป..”

 

หลังจากจัดการกับบาดแผลของเขา ฟางหยวนก็ยืนขึ้นปัดฝุ่นที่มือ “น่าเสียดายหากผู้มีความสามารถอย่างเขาจะมาตายลงที่นี่”

 

“ท่านหมายความว่าอย่างไร?”

 

ฉินชิงตื่นเต้นเป็นที่สุดและยืนยันความตั้งใจของฟางหยวน

 

“ถูกต้อง พวกเจ้ามีประโยชน์กับการเดินทางไปเทือกเขาสามโลกที่กําลังจะมาถึง!”

 

ฟางหยวนพยักหน้า “แต่ว่า เจ้าต้องรับปากเชื่อฟังคําสั่งของข้าและห้ามขัดคําสั่งข้าก่อน ข้าจึงจะนําพวกเจ้าสองคนไปด้วย!”

 

“ ขอบพระคุณท่าน!”

 

เฉินชิงดีใจอย่างเหลือล้น นางรีบดึงฉินอขึ้นมาคารวะให้ฟางหยวนอย่างรวดเร็ว

 

“พี่น้องคู่นี้ยินดีเสี่ยงถึงขนาดนี้เพื่อไปต้าเฉียน พวกเขาน่าจะมีเรื่องสําคัญ และข้าน่าจะใช้ประโยชน์จากพวกเขาได้!”

 

มองพวกเขาแล้ว ฟางหยวนก็คิดกับตัวเองเงียบ ๆ

 

Carefree Path of Dreams

Carefree Path of Dreams

CPoD, 逍遥梦路
Score 7.4
Status: Ongoing Type: Author: , , Artist: Released: 2017 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Carefree Path of Dreamsนี่เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มที่ใช้ชีวิตสันโดษอยู่บนภูเขา ปลูกพืช เลี้ยงปลา และฝันถึงความฝันของเขา เอ๋? จู่ ๆ ข้าก็ออกไปพิชิตทั่วหล้าและกลายเป็นผู้ครองโลกเหรอ? หรือว่าข้ายังอยู่ในความฝันกันแน่?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset