Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ – ตอนที่ 1017: ลึงลงไปใต้ดิน

ตอนที่ 1017: ลึงลงไปใต้ดิน คนที่ลอยอยู่เหนือเมืองทหารรับจ้างเป็นสมาชิกระดับสูงของเมืองทหารรับจ้าง พวกเขาทั้งหมดเป็นผู้อาวุโสทั้งหมด และแม้แต่คนที่อ่อนแอที่สุดในนั้นยังเป็นเซียนผู้คุมกฎ “ผู้อาวุโสสูงสุด เกิดอะไรขึ้น….” “เมืองของพวกเรามีม่านพลังพลังป้องกันอยู่ และมันก็แข็งแรงมาก ทำไมมันถึงได้เป็นแบบนี้ในตอนนี้…” “ม่านพลังเมืองของพวกเราหายไปอย่างนั้นหรือ…” .. ผู้อาวุโสทุกคนหารือกัน ในขณะที่พวกเขาจ้องไปที่เมืองด้วยความสงสัยเกี่ยวกับรอยแยก พวกเขาอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นที่เมืองทหารรับจ้างกำลังเผชิญอยู่พร้อมทั้งรู้สึกตระหนกและสับสนไปในเวลาเดียวกัน ผู้อาวุโสสูงสุดจ้องอย่างเคร่งเครียดไปที่รอยแยกกว้างที่ปกคลุมไปทั่วถนนและตรอกซอย เขารู้สึกสับสนด้วยเช่นกัน เขาไม่มั่นใจว่าเกิดอไรขึ้นกับเมืองทหารรับจ้างและทำไมมันถึงได้เป็นแบบนี้ในตอนนี้ ทันใดนั้นเอง เทียนเจี้ยนดูเหมือนจะคิดบางอย่างออก สายตาของเขาเป็นประกาย และเขาก็คิดขึ้นมา “มีบางอย่างเกิดขึ้นกับจิตวิญญาณม่านพลังหรือเปล่านะ ? ” ใบหน้าของเขาหมองลงเล็กน้อยเมื่เขาคิดถึงความเป็นไปได้นั้น โมเทียนหยุนทิ้งจิตวิญญาณม่านพลังไว้เมื่อหลายปีที่ผ่านมา การมีอยู่ของมันนั้นสำคัญกับเมืองทหารรับจ้างมาก เหมือนกับว่ามันเป็นเทพเจ้าที่ไม่มีชื่อที่คอยปกป้องเมืองทหารรับจ้างเอาไว้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับจิตวิญญาณม่านพลังจริง ๆ มันคงเป็นผลกระทบอย่างมากต่อเมืองทหารรับจ้าง “น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถสื่อสารกับจิตวิญญาณม่านพลังได้อย่างใจคิด ข้าอยากรู้จริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับเมืองทหารรับจ้าง ถ้าเจี้ยนเฉินอยู่ที่นี่นะ เกิดการต่อสู้ใหญ่ขึ้นที่ทิศทางของเทือกเขาครอส มีจักรพรรดิที่เป็นสัตว์อสูรรวมอยู่ในนั้นด้วย ดังนั้นถ้าเป็นแบบนี้แล้ว จอมยุทธสัตว์อสูร 2 คนที่อยู่ข้างเจี้ยนเฉินก็คงกำลังสู้กับจักรพรรดิของทวีปสัตว์เทวะอยู่อีกครั้ง เจี้ยนเฉินน่าจะอยู่ใกล้ ๆ ที่นี่ถ้าเป็นแบบนั้น” เทียนเจี้ยนคิด เขาสัมผัสได้ถึงการต่อสู้ในเทือกเขาครอสก่อนหน้านี้และต้องการที่จะไปดู อย่างไรก็ตามเมืองทหารรับจ้างก็เกิดสั่นไหวอย่างรุนแรง ดังนั้นเขาจึงต้องอยู่ที่นี่ ในตอนนี้เอง พลังแห่งการมีอยู่ที่มหาศาลหลายดวงก็ปรากฏอยู่ที่ด้านนอกและใกล้เข้ามาที่เมืองอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วแสง สายตาของเทียนเจี้ยนแข็งทื่อและมองไปที่ทิศทางของพลังแห่งการมีอยู่นั้นอย่างรวดเร็ว เขาอดไม่ที่จะยิ้มออกมา “เจี้ยนเฉินมาได้เวลาพอดี ข้าจำเป็นต้องให้เขาสื่อสารกับจิตวิญญาณม่านพลังเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับเมืองทหารรับจ้างกัน” เจี้ยนเฉิน ฮุสตัน รุยจิน และหงเหลียนบินมาข้าง ๆ แต่ไกล สายตาทั้งหมดมีอารมณ์ต่าง ๆ เมื่พวกเขามองเห็นม่านพลังที่อยู่เหนือเมืองทหารรับจ้าง แววแห่งความเคารพปรากฏขึ้นที่สายตาของ ฮุสตัน รุยจิน หงเหลียนและเฮยยู่ มันเป็นความเคารพต่อความแข็งแกร่ง พวกเขาทั้งหมดรู้ว่าจิตวิญญาณม่านพลังเป็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่เหนือกว่าเซียนจักรพรรดิ เจี้ยนเฉินไม่ได้พูดรายละเอียดตัวตนที่แท้จริงของเสี่ยวหลิง สำหรับเขา มันไม่สำคัญว่าเสี่ยวหลิงจะเป็นวิญญาณของโลกหรือจิตวิญญาณม่านพลัง มันไม่สำคัญอะไรเลย “เหมือนจะมีบางอย่างใหญ่โตเกิดขึ้นที่นี่ตอนนี้ ถึงทำให้ผู้คนทั้งหมดของเมืองทหารรับจ้างตกตะลึงกัน” เจี้ยนเฉินสังเกตเห็นความแตกต่างของเมืองทหารรับจ้างแต่ไกลและคิ้วของเขาก็ขมวดไปด้วยความกังวลทันที ในไม่ช้า กลุ่มของเจี้ยนเฉินก็มาพบกับผู้อาวุโสของเมืองทหารรับจ้าง หลังจากที่ทักทายกันแล้ว พวกเขาก็เข้าประเด็นหลัก “ผู้อาวุโสเทียนเจี้ยน ข้าถามได้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นที่เมืองทหารรับจ้าง ? ทำไมมันถึงได้เป็นแบบนี้ ? ” เจี้ยนเฉินถาม ในขณะที่เขามองไปที่เมืองทหารรับจ้างที่กำลังวุ่นวาย “พวกเราก็ไม่รู้เหมือนกัน เจ้าต้องไปถามจิตวิญญาณม่านพลังถ้าเจ้าต้องการรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นวันนี้ เจี้ยนเฉิน เจ้ามีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับจิตวิญญาณม่านพลัง ข้าหวังว่าเจ้าจะไปคุยกับจิตวิญญาณม่านพลังและถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับเมืองทหารรับจ้าง” เทียนเจี้ยนขอร้องอย่างเคร่งเครียด “ข้าจะลองดู” เจี้ยนเฉินตอบกลับ ความไม่สบายใจปรากฏขึ้นในใจของเขาด้วยเหตุผลบางอย่าง เพราะว่าเขาคิดถึงเรื่องลับบางเรื่องที่โมเทียนหยุนบอกเขามาก่อนหน้านี้ หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็เรียกชื่อของเสี่ยวหลิงเบา ๆ สองสามครั้ง อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้รับการตอบกลับใดใดในครั้งนี้ เจี้ยนเฉินรู้สึกเครียดกว่าเดิม ในตอนนี้ เขารู้สึกแน่ใจมากขึ้นเกี่ยวกัยความคิดของเขา เขาเชื่อมโยงเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเมืองทหารรับจ้างนี้กับการที่เสี่ยวหลิงกระวนกระวายก่อนหน้านี้เกี่ยวกับผนึกที่ใต้เมืองทหารรับจ้าง ปัญหาบางอย่างต้องกำลังเกิดขึ้นแน่ “ผู้อาวุโสเทียนเจี้ยน ข้าไม่สามารถช่วยท่านได้ในครั้งนี้” เจี้ยนเฉินปฏิเสธออกไป เขาขมวคิ้วด้วยความกังวล เขารู้สึกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเสี่ยวหลิง “เฮ้อ” เทียนเจี้ยนถอนหายใจยาว เขาเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ม่านพลังใหญ่ที่มีอยู่ในตอนนี้ และเขาก็ขมวดคิ้วแน่น ในตอนที่โมเทียนหยุนก่อตั้งเมืองทหารรับจ้างขึ้นมา มันก็ได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมา แต่บางอย่างแบบนี้ก็ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สายตาของเจี้ยนเฉินเป็นประกายสักพัก เขาลังเลว่าเขาควรจะบอกเรื่องผนึกกับเทียนเจี้ยนและคนอื่น ๆ ดีหรือไม่ เพื่อที่พวกเขาจะได้เตรียมใจเอาไว้ได้ ในตอนนี้เอง พลังที่มองไม่เห็นก็ล้อมรอบเจี้ยนเฉินทันที ก่อนที่เจี้ยนเฉินจะทันได้ตอบสนอง มันก็ตรึงเขาไว้แน่น จากนั้นมันก็ดึงเขาลงไปด้วยความเร็วุจสายฟ้า “เจี้ยนเฉิน!” รุยจินตะโกนออกมา เขากลายเป็นภาพติดตาและพยายามที่จะจับเจี้ยนเฉินเอาไว้ อย่างไรก็ตามเจี้ยนเฉินตกลงเร็วเกินไป แม้แต่ความแข็งแกร่งของรุยจินก็ไม่สามารถตามทันได้ พลังที่มองไม่เห็นดึงเจี้ยนเฉินลงไปที่พื้นทันที จากนั้นเขาก็หายเข้าไปในพื้นในขณะที่ทุกคนมองด้วยความตกใจ มันไม่มีร่องรอยบนพื้นเลย ท่าทางของรุยจิน เฮยยู่ หงเหลียน และฮุสตันเปลี่ยนไปเมื่พวกเขาเห็นแบบนั้น พวกเขามองกันและกันก่อนที่พวกเขาจะลดระดับลงมาเหมือนว่าพวกเขาเข้าใจกันและกัน พวกเขาต้องการที่จะระเบิดพื้นเพื่อช่วยเจี้ยนเฉิน “โปรดหยุดก่อน ! ” เทียนเจี้ยนห้ามพวกเขาเอาไว้แล้วพูด “ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรทุกคน เมืองทหารรับจ้างถูกปกป้องโดยจิตวิญญาณม่านพลัง ดังนั้น คนนอกไม่สามารถทำร้ายเจี้ยนเฉินได้เลย และเจี้ยนเฉินก็สนิทกับจิตวิญญาณม่านพลัง ข้าคิดว่ามันเป็นไปได้อย่างมากที่จิตวิญญาณม่านพลังจะดึงเจี้ยนเฉินลงไปในพื้นเอง” รุยจิน เฮยยู่ หงเหลียนและฮุสตันสงบลงทันทีกลังจากที่พวกเขาได้ยินแบบนี้ พวกเขากลับไปบนท้องฟ้าในขณะที่รอเจี้ยนเฉินอยู่เงียบ ๆ พลังลึกลับทำให้เจี้ยนเฉินจมลงไปอย่างเร็วและดินก็แยกออกในตอนที่เขาเคลื่อนที่ลงไป เช่นนั้น เขาจึงไม่ได้เปื้อนฝุ่นโคลนอะไรเลย เจี้ยนเฉินเคยเจอแบบนี้มาก่อนแล้ว เขารู้ว่าเสี่ยวหลิงอยู่เบื้องหลังทั้งหมดนี้ ดังนั้นเขาจึงสงบมาก เขาปล่อยให้พลังล้อมตัวเขาและไม่ต่อต้านอะไร ในไม่ช้า เจี้ยนเฉินก็มาถึงที่ใต้ดินลึก มันมืดสนิทจนถึงขึ้นที่ว่าเขาไม่สามารถเห็นตรงหน้าได้ แม้แต่ด้วยสายตาของเจี้ยนเฉิน เขาไม่สามารถเห็นอะไรได้ เจี้ยนเฉินขยายพลังแห่งการรับรู้ออกไปอย่างไม่รู้ตัว แต่เขาก็ขยายออกไปได้น้อยกว่าพันเมตรแม้ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ พลังลึกลับข่มพลังแห่งการมีอยู่ของเขาเอาไว้ อย่างไรก็ตาม จากสัมผัสของพลังแห่งการรับรู้ของเขา เจี้ยนเฉินก็บอกได้ว่าเขากำลังอยู่ในพื้นที่กว้างใหญ่ใต้ดิน “พลังงานที่นี่เบาบางกว่าครั้งล่าสุดที่ข้ามาที่นี่” เจี้ยนเฉินคิดด้วยความประหลาดใจ เขาจำได้ชัดว่าในตอนที่เสี่ยวหลิงพาเขามาที่นี่ครั้งแรก พลังงานนั้นหนาแน่นจนเกือบจะเป็นของเหลว แค่ไม่กี่ผ่านไปหลังจากตอนนั้น พลังงานก็เหลือเท่านี้ มันถูกใช้ไปด้วยอัตราที่น่าตกใจ ในตอนนี้เอง บอลแสงสีขาวก็ปรากฏขึ้นในโลกสีดำสนิท มันส่องสว่างให้ทุกอย่าง “เสี่ยวหลิง ! ” เจี้ยนเฉินตะโกนออกไปทันทีเมื่อเขาเห็นบอลแสง บอลแสงนั้นมาจากเสี่ยวหลิง ร่างของนางูเหมือนเกือบเป็นภาพลวงตา เหมือนว่านางเป็นร่างที่เกิดมาจากแสง เสี่ยวหลิงไม่ดูกระปรี้กระเปร่าเหมือนก่อนหน้านี้ น้ำตาสองสายไหลลงมาจากใบหน้าที่น่ารักและไร้เดียงสาของนาง ในขณะที่สีหน้าของนางเต็มไปด้วยความกลัว บางอย่างทำให้นางกลัว เจี้ยนเฉินรู้สึกปวดใจเมื่อเขาเห็นเสี่ยวหลิงเป็นแบบนี้ เขาถามอย่างห่วงใย “เสี่ยวหลิง เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า ? เกิดอะไรขึ้น ? “ “ฮือ…” ทันนั้นเอง เสี่ยวหลิงก็เริ่มร้องให้ นางพุ่งไปที่หน้าอกของเจี้ยนเฉิน ในขณะที่นางร้องให้ออกมาเสียงดังและกอดเจี้ยนเฉินเอาไว้แน่น “อย่าร้องไปเลยเสี่ยวหลิง มามา บอกพี่ใหญ่ว่าเกิดอะไรขึ้น” เจี้ยนเฉินกอดหลังของเสี่ยวหลิงเอาไว้ในขณะที่ปลอบนาง แม้ว่าร่างของเสี่ยวหลิงจะเกิดมาจากพลังงาน แต่พลังงานนี้ก็มีตัวตน เช่นนั้น มันจึงแทบไม่แตกต่างกับการกอดคนที่มีเลือดเนื้อจริงจริง เว้นเสียแต่ว่าเสี่ยวหลิงไม่มีความร้อนออกมา “พี่ใหญ่…พี่ใหญ่…เสี่ยวหลิงกลัวมาก เสี่ยวหลิงกลัวมาก นายท่าน นายท่าน ท่านอยู่ที่ไหน ? กลับมาเร็ว ๆ เสี่ยวหลิงกลัวมาก” เสี่ยวหลิงสะอึกสะอื้นอยู่กับหน้าอกของเจี้ยนเฉิน นางค่อนข้างกลัว เจี้ยนเฉินรู้สึกสงสาร ในขณะที่กำลังมองไปที่เสี่ยวหลิงซึ่งน้ำตาไหลพราก ๆ เขาปลอบเบา ๆ “อย่ากลัวไปเลย เสี่ยวหลิง พี่ใหญ่อยู่ที่นี่ไม่ใช่หรือ ? อย่าห่วงไปเลย พี่ใหญ่จะปกป้องเจ้า” เจี้ยนเฉินปลอบเสี่ยวหลิงอยู่นานก่อนที่นางจะสงบลง หลังจากนั้นเขาก็ถาม “เสี่ยวหลิง บอกข้ามาตรง ๆ มีอะไรเกิดขึ้นกับผนึกหรือไม่ ? “ เสี่ยวหลิงเช็ดน้ำตาแล้วพยักหน้าแรง นางพูด “ใช่ พี่ใหญ่ บางอย่างออกมาจาก ละ..” เซียวหลิงหยุดทันทีและนางก็เอามือปิดปากตัวเอง นางพูดด้วยเสียงอู้อี้ “ไม่ เสี่ยวหลิงบอกไม่ได้ นายท่านไม่ให้เสี่ยวหลิงบอกใคร” เจี้ยนเฉินยิ้มแล้วพูด “เสี่ยวหลิง พี่ใหญ่ได้พบกับนายท่านของเจ้าเมื่อหลายปีที่แล้ว นายท่านของเจ้าบอกพี่ใหญ่เกี่ยวกับทุกอย่างที่อยู่ที่นี่ มีผนึกที่อยู่ลึกใต้เมืองทหารรับจ้าง ซึ่งผนึกทางเข้าของโลกเซียนที่ถูกทอดทิ้งเอาไว้ พี่ใหญ่พูดถูกหรือไม่ ? “ เสี่ยวหลิงจ้องมองเจี้ยนเฉินตาไม่กระพริบด้วยดวงตาที่สดใสและไร้เดียงสาของนาง ก่อนที่นางจะพยักหน้าสองครั้ง นางยืนยันคำพูดของเจี้ยนเฉิน “เสี่ยวหลิง แม้แต่นายท่านของเจ้ายังบอกทุกอย่างกับพี่ใหญ่ เจ้าก็ไม่ควรปิดบังอะไรจากพี่ใหญ่ไปนานกว่านี้ มันจะดีกว่าถ้าจะบอกพี่ใหญ่ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ ตกลงหรือไม่ ? ” เจี้ยนเฉินพูด “ตกลง แต่พี่ใหญ่ห้ามไปบอกใครนะ นายท่านไม่บอกข้าไม่ให้บอกใครมาหลายปีแล้ว” เสี่ยวหลิงพูดอย่างจริงจัง เจี้ยนเฉินพยักหน้าเงียบ ๆ หลังจากนั้น เสี่ยวหลิงก็อธิบายทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้เจี้ยนเฉินฟัง นางไม่ได้ปิดบังอะไร เจี้ยนเฉินแสดงท่าทางน่ากลัวออกมาทันทีเมื่อเขาได้ยินเกี่ยวกับจอมยุทธที่หาใดเปรียบได้จากโลกเซียนที่ถูกทอดทิ้งที่ได้เข้ามาโจมตีผนึก “เสี่ยวหลิง จอมยุทธจากโลกเซียนที่ถูกทอดทิ้งที่โจมตีผนึกนี้แข็งแกร่งขนาดไหนกัน ? เจ้าเอาชนะเขาได้หรือไม่ ? ” เจี้ยนเฉินถามอย่างกังวล ในตอนนี้ เขาไม่สบายใจและหัวใจของเขากำลังเต้นแรง เสี่ยวหลิงส่ายหัวอย่างไม่ลังเลแล้วพูด “พี่ใหญ่ คนคนนี้แข็งแกร่งมาก นายท่านได้ลงผนึกไว้ 2 อันมาเนิ่นนานหลายปีมาแล้ว หนึ่งอันอยู่ตรงนั้นและอีกอันอยู่ตรงนี้ คนนั้นโจมตีเพียงครั้งเดียวก็ทำลายผนึกของนายท่านที่อยู่ตรงนั้นได้ และผนึกที่อยู่ตรงนี้ก็อาจถูกทำลายไปด้วยเช่นกันถ้าเสี่ยวหลิงไม่ทำทุกอย่างเพื่อช่วยมัน ไม่เพียงแต่เสี่ยวหลิงจะใช้พลังงานทั้งหมดที่เก็บสะสมมาหลายปีไปแล้วเท่านั้น แต่เสี่ยวหลิงก็ยังใช้พลังงานไปเยอะอีกด้วย เสี่ยวหลิงคงไม่สามารถทนได้อีกถ้าคนคนนั้นโจมตีมามากกว่านี้”

ตอนที่ 1017: ลึงลงไปใต้ดิน

คนที่ลอยอยู่เหนือเมืองทหารรับจ้างเป็นสมาชิกระดับสูงของเมืองทหารรับจ้าง พวกเขาทั้งหมดเป็นผู้อาวุโสทั้งหมด และแม้แต่คนที่อ่อนแอที่สุดในนั้นยังเป็นเซียนผู้คุมกฎ

“ผู้อาวุโสสูงสุด เกิดอะไรขึ้น….”

“เมืองของพวกเรามีม่านพลังพลังป้องกันอยู่ และมันก็แข็งแรงมาก ทำไมมันถึงได้เป็นแบบนี้ในตอนนี้…”

“ม่านพลังเมืองของพวกเราหายไปอย่างนั้นหรือ…”

..

ผู้อาวุโสทุกคนหารือกัน ในขณะที่พวกเขาจ้องไปที่เมืองด้วยความสงสัยเกี่ยวกับรอยแยก พวกเขาอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นที่เมืองทหารรับจ้างกำลังเผชิญอยู่พร้อมทั้งรู้สึกตระหนกและสับสนไปในเวลาเดียวกัน

ผู้อาวุโสสูงสุดจ้องอย่างเคร่งเครียดไปที่รอยแยกกว้างที่ปกคลุมไปทั่วถนนและตรอกซอย เขารู้สึกสับสนด้วยเช่นกัน เขาไม่มั่นใจว่าเกิดอไรขึ้นกับเมืองทหารรับจ้างและทำไมมันถึงได้เป็นแบบนี้ในตอนนี้

ทันใดนั้นเอง เทียนเจี้ยนดูเหมือนจะคิดบางอย่างออก สายตาของเขาเป็นประกาย และเขาก็คิดขึ้นมา “มีบางอย่างเกิดขึ้นกับจิตวิญญาณม่านพลังหรือเปล่านะ ? ” ใบหน้าของเขาหมองลงเล็กน้อยเมื่เขาคิดถึงความเป็นไปได้นั้น โมเทียนหยุนทิ้งจิตวิญญาณม่านพลังไว้เมื่อหลายปีที่ผ่านมา การมีอยู่ของมันนั้นสำคัญกับเมืองทหารรับจ้างมาก เหมือนกับว่ามันเป็นเทพเจ้าที่ไม่มีชื่อที่คอยปกป้องเมืองทหารรับจ้างเอาไว้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับจิตวิญญาณม่านพลังจริง ๆ มันคงเป็นผลกระทบอย่างมากต่อเมืองทหารรับจ้าง

“น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถสื่อสารกับจิตวิญญาณม่านพลังได้อย่างใจคิด ข้าอยากรู้จริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับเมืองทหารรับจ้าง ถ้าเจี้ยนเฉินอยู่ที่นี่นะ เกิดการต่อสู้ใหญ่ขึ้นที่ทิศทางของเทือกเขาครอส มีจักรพรรดิที่เป็นสัตว์อสูรรวมอยู่ในนั้นด้วย ดังนั้นถ้าเป็นแบบนี้แล้ว จอมยุทธสัตว์อสูร 2 คนที่อยู่ข้างเจี้ยนเฉินก็คงกำลังสู้กับจักรพรรดิของทวีปสัตว์เทวะอยู่อีกครั้ง เจี้ยนเฉินน่าจะอยู่ใกล้ ๆ ที่นี่ถ้าเป็นแบบนั้น” เทียนเจี้ยนคิด เขาสัมผัสได้ถึงการต่อสู้ในเทือกเขาครอสก่อนหน้านี้และต้องการที่จะไปดู อย่างไรก็ตามเมืองทหารรับจ้างก็เกิดสั่นไหวอย่างรุนแรง ดังนั้นเขาจึงต้องอยู่ที่นี่

ในตอนนี้เอง พลังแห่งการมีอยู่ที่มหาศาลหลายดวงก็ปรากฏอยู่ที่ด้านนอกและใกล้เข้ามาที่เมืองอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วแสง

สายตาของเทียนเจี้ยนแข็งทื่อและมองไปที่ทิศทางของพลังแห่งการมีอยู่นั้นอย่างรวดเร็ว เขาอดไม่ที่จะยิ้มออกมา “เจี้ยนเฉินมาได้เวลาพอดี ข้าจำเป็นต้องให้เขาสื่อสารกับจิตวิญญาณม่านพลังเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับเมืองทหารรับจ้างกัน”

เจี้ยนเฉิน ฮุสตัน รุยจิน และหงเหลียนบินมาข้าง ๆ แต่ไกล สายตาทั้งหมดมีอารมณ์ต่าง ๆ เมื่พวกเขามองเห็นม่านพลังที่อยู่เหนือเมืองทหารรับจ้าง แววแห่งความเคารพปรากฏขึ้นที่สายตาของ ฮุสตัน รุยจิน หงเหลียนและเฮยยู่ มันเป็นความเคารพต่อความแข็งแกร่ง

พวกเขาทั้งหมดรู้ว่าจิตวิญญาณม่านพลังเป็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่เหนือกว่าเซียนจักรพรรดิ

เจี้ยนเฉินไม่ได้พูดรายละเอียดตัวตนที่แท้จริงของเสี่ยวหลิง สำหรับเขา มันไม่สำคัญว่าเสี่ยวหลิงจะเป็นวิญญาณของโลกหรือจิตวิญญาณม่านพลัง มันไม่สำคัญอะไรเลย

“เหมือนจะมีบางอย่างใหญ่โตเกิดขึ้นที่นี่ตอนนี้ ถึงทำให้ผู้คนทั้งหมดของเมืองทหารรับจ้างตกตะลึงกัน” เจี้ยนเฉินสังเกตเห็นความแตกต่างของเมืองทหารรับจ้างแต่ไกลและคิ้วของเขาก็ขมวดไปด้วยความกังวลทันที

ในไม่ช้า กลุ่มของเจี้ยนเฉินก็มาพบกับผู้อาวุโสของเมืองทหารรับจ้าง หลังจากที่ทักทายกันแล้ว พวกเขาก็เข้าประเด็นหลัก

“ผู้อาวุโสเทียนเจี้ยน ข้าถามได้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นที่เมืองทหารรับจ้าง ? ทำไมมันถึงได้เป็นแบบนี้ ? ” เจี้ยนเฉินถาม ในขณะที่เขามองไปที่เมืองทหารรับจ้างที่กำลังวุ่นวาย

“พวกเราก็ไม่รู้เหมือนกัน เจ้าต้องไปถามจิตวิญญาณม่านพลังถ้าเจ้าต้องการรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นวันนี้ เจี้ยนเฉิน เจ้ามีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับจิตวิญญาณม่านพลัง ข้าหวังว่าเจ้าจะไปคุยกับจิตวิญญาณม่านพลังและถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับเมืองทหารรับจ้าง” เทียนเจี้ยนขอร้องอย่างเคร่งเครียด

“ข้าจะลองดู” เจี้ยนเฉินตอบกลับ ความไม่สบายใจปรากฏขึ้นในใจของเขาด้วยเหตุผลบางอย่าง เพราะว่าเขาคิดถึงเรื่องลับบางเรื่องที่โมเทียนหยุนบอกเขามาก่อนหน้านี้

หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็เรียกชื่อของเสี่ยวหลิงเบา ๆ สองสามครั้ง อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้รับการตอบกลับใดใดในครั้งนี้

เจี้ยนเฉินรู้สึกเครียดกว่าเดิม ในตอนนี้ เขารู้สึกแน่ใจมากขึ้นเกี่ยวกัยความคิดของเขา เขาเชื่อมโยงเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเมืองทหารรับจ้างนี้กับการที่เสี่ยวหลิงกระวนกระวายก่อนหน้านี้เกี่ยวกับผนึกที่ใต้เมืองทหารรับจ้าง ปัญหาบางอย่างต้องกำลังเกิดขึ้นแน่

“ผู้อาวุโสเทียนเจี้ยน ข้าไม่สามารถช่วยท่านได้ในครั้งนี้” เจี้ยนเฉินปฏิเสธออกไป เขาขมวคิ้วด้วยความกังวล เขารู้สึกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเสี่ยวหลิง

“เฮ้อ” เทียนเจี้ยนถอนหายใจยาว เขาเงยหน้าขึ้นและมองไปที่ม่านพลังใหญ่ที่มีอยู่ในตอนนี้ และเขาก็ขมวดคิ้วแน่น ในตอนที่โมเทียนหยุนก่อตั้งเมืองทหารรับจ้างขึ้นมา มันก็ได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมา แต่บางอย่างแบบนี้ก็ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

สายตาของเจี้ยนเฉินเป็นประกายสักพัก เขาลังเลว่าเขาควรจะบอกเรื่องผนึกกับเทียนเจี้ยนและคนอื่น ๆ ดีหรือไม่ เพื่อที่พวกเขาจะได้เตรียมใจเอาไว้ได้

ในตอนนี้เอง พลังที่มองไม่เห็นก็ล้อมรอบเจี้ยนเฉินทันที ก่อนที่เจี้ยนเฉินจะทันได้ตอบสนอง มันก็ตรึงเขาไว้แน่น จากนั้นมันก็ดึงเขาลงไปด้วยความเร็วุจสายฟ้า

“เจี้ยนเฉิน!” รุยจินตะโกนออกมา เขากลายเป็นภาพติดตาและพยายามที่จะจับเจี้ยนเฉินเอาไว้

อย่างไรก็ตามเจี้ยนเฉินตกลงเร็วเกินไป แม้แต่ความแข็งแกร่งของรุยจินก็ไม่สามารถตามทันได้ พลังที่มองไม่เห็นดึงเจี้ยนเฉินลงไปที่พื้นทันที จากนั้นเขาก็หายเข้าไปในพื้นในขณะที่ทุกคนมองด้วยความตกใจ มันไม่มีร่องรอยบนพื้นเลย

ท่าทางของรุยจิน เฮยยู่ หงเหลียน และฮุสตันเปลี่ยนไปเมื่พวกเขาเห็นแบบนั้น พวกเขามองกันและกันก่อนที่พวกเขาจะลดระดับลงมาเหมือนว่าพวกเขาเข้าใจกันและกัน พวกเขาต้องการที่จะระเบิดพื้นเพื่อช่วยเจี้ยนเฉิน

“โปรดหยุดก่อน ! ” เทียนเจี้ยนห้ามพวกเขาเอาไว้แล้วพูด “ไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรทุกคน เมืองทหารรับจ้างถูกปกป้องโดยจิตวิญญาณม่านพลัง ดังนั้น คนนอกไม่สามารถทำร้ายเจี้ยนเฉินได้เลย และเจี้ยนเฉินก็สนิทกับจิตวิญญาณม่านพลัง ข้าคิดว่ามันเป็นไปได้อย่างมากที่จิตวิญญาณม่านพลังจะดึงเจี้ยนเฉินลงไปในพื้นเอง”

รุยจิน เฮยยู่ หงเหลียนและฮุสตันสงบลงทันทีกลังจากที่พวกเขาได้ยินแบบนี้ พวกเขากลับไปบนท้องฟ้าในขณะที่รอเจี้ยนเฉินอยู่เงียบ ๆ

พลังลึกลับทำให้เจี้ยนเฉินจมลงไปอย่างเร็วและดินก็แยกออกในตอนที่เขาเคลื่อนที่ลงไป เช่นนั้น เขาจึงไม่ได้เปื้อนฝุ่นโคลนอะไรเลย

เจี้ยนเฉินเคยเจอแบบนี้มาก่อนแล้ว เขารู้ว่าเสี่ยวหลิงอยู่เบื้องหลังทั้งหมดนี้ ดังนั้นเขาจึงสงบมาก เขาปล่อยให้พลังล้อมตัวเขาและไม่ต่อต้านอะไร

ในไม่ช้า เจี้ยนเฉินก็มาถึงที่ใต้ดินลึก มันมืดสนิทจนถึงขึ้นที่ว่าเขาไม่สามารถเห็นตรงหน้าได้ แม้แต่ด้วยสายตาของเจี้ยนเฉิน เขาไม่สามารถเห็นอะไรได้

เจี้ยนเฉินขยายพลังแห่งการรับรู้ออกไปอย่างไม่รู้ตัว แต่เขาก็ขยายออกไปได้น้อยกว่าพันเมตรแม้ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ พลังลึกลับข่มพลังแห่งการมีอยู่ของเขาเอาไว้

อย่างไรก็ตาม จากสัมผัสของพลังแห่งการรับรู้ของเขา เจี้ยนเฉินก็บอกได้ว่าเขากำลังอยู่ในพื้นที่กว้างใหญ่ใต้ดิน

“พลังงานที่นี่เบาบางกว่าครั้งล่าสุดที่ข้ามาที่นี่” เจี้ยนเฉินคิดด้วยความประหลาดใจ เขาจำได้ชัดว่าในตอนที่เสี่ยวหลิงพาเขามาที่นี่ครั้งแรก พลังงานนั้นหนาแน่นจนเกือบจะเป็นของเหลว แค่ไม่กี่ผ่านไปหลังจากตอนนั้น พลังงานก็เหลือเท่านี้ มันถูกใช้ไปด้วยอัตราที่น่าตกใจ

ในตอนนี้เอง บอลแสงสีขาวก็ปรากฏขึ้นในโลกสีดำสนิท มันส่องสว่างให้ทุกอย่าง

“เสี่ยวหลิง ! ” เจี้ยนเฉินตะโกนออกไปทันทีเมื่อเขาเห็นบอลแสง

บอลแสงนั้นมาจากเสี่ยวหลิง ร่างของนางูเหมือนเกือบเป็นภาพลวงตา เหมือนว่านางเป็นร่างที่เกิดมาจากแสง

เสี่ยวหลิงไม่ดูกระปรี้กระเปร่าเหมือนก่อนหน้านี้ น้ำตาสองสายไหลลงมาจากใบหน้าที่น่ารักและไร้เดียงสาของนาง ในขณะที่สีหน้าของนางเต็มไปด้วยความกลัว บางอย่างทำให้นางกลัว

เจี้ยนเฉินรู้สึกปวดใจเมื่อเขาเห็นเสี่ยวหลิงเป็นแบบนี้ เขาถามอย่างห่วงใย “เสี่ยวหลิง เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า ? เกิดอะไรขึ้น ? “

“ฮือ…” ทันนั้นเอง เสี่ยวหลิงก็เริ่มร้องให้ นางพุ่งไปที่หน้าอกของเจี้ยนเฉิน ในขณะที่นางร้องให้ออกมาเสียงดังและกอดเจี้ยนเฉินเอาไว้แน่น

“อย่าร้องไปเลยเสี่ยวหลิง มามา บอกพี่ใหญ่ว่าเกิดอะไรขึ้น” เจี้ยนเฉินกอดหลังของเสี่ยวหลิงเอาไว้ในขณะที่ปลอบนาง แม้ว่าร่างของเสี่ยวหลิงจะเกิดมาจากพลังงาน แต่พลังงานนี้ก็มีตัวตน เช่นนั้น มันจึงแทบไม่แตกต่างกับการกอดคนที่มีเลือดเนื้อจริงจริง เว้นเสียแต่ว่าเสี่ยวหลิงไม่มีความร้อนออกมา

“พี่ใหญ่…พี่ใหญ่…เสี่ยวหลิงกลัวมาก เสี่ยวหลิงกลัวมาก นายท่าน นายท่าน ท่านอยู่ที่ไหน ? กลับมาเร็ว ๆ เสี่ยวหลิงกลัวมาก” เสี่ยวหลิงสะอึกสะอื้นอยู่กับหน้าอกของเจี้ยนเฉิน นางค่อนข้างกลัว

เจี้ยนเฉินรู้สึกสงสาร ในขณะที่กำลังมองไปที่เสี่ยวหลิงซึ่งน้ำตาไหลพราก ๆ เขาปลอบเบา ๆ “อย่ากลัวไปเลย เสี่ยวหลิง พี่ใหญ่อยู่ที่นี่ไม่ใช่หรือ ? อย่าห่วงไปเลย พี่ใหญ่จะปกป้องเจ้า”

เจี้ยนเฉินปลอบเสี่ยวหลิงอยู่นานก่อนที่นางจะสงบลง หลังจากนั้นเขาก็ถาม “เสี่ยวหลิง บอกข้ามาตรง ๆ มีอะไรเกิดขึ้นกับผนึกหรือไม่ ? “

เสี่ยวหลิงเช็ดน้ำตาแล้วพยักหน้าแรง นางพูด “ใช่ พี่ใหญ่ บางอย่างออกมาจาก ละ..” เซียวหลิงหยุดทันทีและนางก็เอามือปิดปากตัวเอง นางพูดด้วยเสียงอู้อี้ “ไม่ เสี่ยวหลิงบอกไม่ได้ นายท่านไม่ให้เสี่ยวหลิงบอกใคร”

เจี้ยนเฉินยิ้มแล้วพูด “เสี่ยวหลิง พี่ใหญ่ได้พบกับนายท่านของเจ้าเมื่อหลายปีที่แล้ว นายท่านของเจ้าบอกพี่ใหญ่เกี่ยวกับทุกอย่างที่อยู่ที่นี่ มีผนึกที่อยู่ลึกใต้เมืองทหารรับจ้าง ซึ่งผนึกทางเข้าของโลกเซียนที่ถูกทอดทิ้งเอาไว้ พี่ใหญ่พูดถูกหรือไม่ ? “

เสี่ยวหลิงจ้องมองเจี้ยนเฉินตาไม่กระพริบด้วยดวงตาที่สดใสและไร้เดียงสาของนาง ก่อนที่นางจะพยักหน้าสองครั้ง นางยืนยันคำพูดของเจี้ยนเฉิน

“เสี่ยวหลิง แม้แต่นายท่านของเจ้ายังบอกทุกอย่างกับพี่ใหญ่ เจ้าก็ไม่ควรปิดบังอะไรจากพี่ใหญ่ไปนานกว่านี้ มันจะดีกว่าถ้าจะบอกพี่ใหญ่ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ ตกลงหรือไม่ ? ” เจี้ยนเฉินพูด

“ตกลง แต่พี่ใหญ่ห้ามไปบอกใครนะ นายท่านไม่บอกข้าไม่ให้บอกใครมาหลายปีแล้ว” เสี่ยวหลิงพูดอย่างจริงจัง

เจี้ยนเฉินพยักหน้าเงียบ ๆ

หลังจากนั้น เสี่ยวหลิงก็อธิบายทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้เจี้ยนเฉินฟัง นางไม่ได้ปิดบังอะไร เจี้ยนเฉินแสดงท่าทางน่ากลัวออกมาทันทีเมื่อเขาได้ยินเกี่ยวกับจอมยุทธที่หาใดเปรียบได้จากโลกเซียนที่ถูกทอดทิ้งที่ได้เข้ามาโจมตีผนึก

“เสี่ยวหลิง จอมยุทธจากโลกเซียนที่ถูกทอดทิ้งที่โจมตีผนึกนี้แข็งแกร่งขนาดไหนกัน ? เจ้าเอาชนะเขาได้หรือไม่ ? ” เจี้ยนเฉินถามอย่างกังวล ในตอนนี้ เขาไม่สบายใจและหัวใจของเขากำลังเต้นแรง

เสี่ยวหลิงส่ายหัวอย่างไม่ลังเลแล้วพูด “พี่ใหญ่ คนคนนี้แข็งแกร่งมาก นายท่านได้ลงผนึกไว้ 2 อันมาเนิ่นนานหลายปีมาแล้ว หนึ่งอันอยู่ตรงนั้นและอีกอันอยู่ตรงนี้ คนนั้นโจมตีเพียงครั้งเดียวก็ทำลายผนึกของนายท่านที่อยู่ตรงนั้นได้ และผนึกที่อยู่ตรงนี้ก็อาจถูกทำลายไปด้วยเช่นกันถ้าเสี่ยวหลิงไม่ทำทุกอย่างเพื่อช่วยมัน ไม่เพียงแต่เสี่ยวหลิงจะใช้พลังงานทั้งหมดที่เก็บสะสมมาหลายปีไปแล้วเท่านั้น แต่เสี่ยวหลิงก็ยังใช้พลังงานไปเยอะอีกด้วย เสี่ยวหลิงคงไม่สามารถทนได้อีกถ้าคนคนนั้นโจมตีมามากกว่านี้”

Chaotic sword god

Chaotic sword god

Comment

Options

not work with dark mode
Reset