Chaotic sword god เทพกระบี่มรณะ – ตอนที่ 1025: การต่อสู้กับผู้พิทักษ์จักรพรรดิทั้งสี่ของจักรวรรดิเฟยลี่

ตอนที่ 1025: การต่อสู้กับผู้พิทักษ์จักรพรรดิทั้งสี่ของจักรวรรดิเฟยลี่ หลัวโตวเผยยิ้มออกมาอย่างผ่อนคลายหลังจากที่ชิ้นหยกแตกกระจายออก แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บหนัก เขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับชีวิตของเขา ก่อนที่หลัวโตวจะมาที่อาณาจักรหลงฉี เขาได้คิดถึงทุกอย่างที่อาจจะเกิดขึ้น ดังนั้นเขาจึงเตรียมการไว้มากมาย เขาไปพบกับผู้พิทักษ์จักรพรรดิของจักรวรรดิเฟยลี่คนอื่นและบอกให้พวกเขามาช่วยในช่วงเวลาสำคัญ การขยี้หยกก่อนหน้านี้เป็นวิธีในการติดต่อกับพวกเขา แม้ว่าอาณาจักรหลงฉีจะห่างไกลจากจักรวรรดิเฟยลี่มาก แต่ระยะทางไม่เป็นปัญหากับเซียนราชา พวกเขาสามารถฉีกมิติและเปิดประตูมิติได้ หลัวโตวตั้งตัวได้หลังจากลอยไปหลายพันเมตร เขากระอักเลือดออกมาเพราะเขาไม่สามารถกลั้นเอาไว้ได้ หมัดของเจี้ยนเฉินเท่ากับการโจมตีเต็มพลังของเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 3 แม้ว่าเขาจะจะสกัดกั้นมันได้เล็กน้อย แต่มันก็ยังทำให้เขาได้รับบาดเจ็บหนักอยู่ดี ผู้พิทักษ์จักรพรรดิของอาณาจักรหลงฉีอดไม่ได้ที่จะแสดงท่าทางที่แตกต่างออกมาเมื่อพวกเขาได้เห็นว่าหลัวโตวถูกเจี้ยนเฉินทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการปะทะกันเพียงแค่ไม่กี่ครั้ง พวกเขาทั้งหมดแสดงท่าทางหวาดกลัวออกมา หลัวโตวเป็นคนที่อาณาจักรของพวกเขาพึ่งพาได้มากที่สุด เขาเป็นความภาคภูมิในของอาณาจักร ดังนั้นถ้าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจี้ยนเฉิน อาณาจักรก็ไม่มีพลังใดที่จะต่อต้านคนของนิกายดาบโลหิตได้อีก เจี้ยนเฉินลอยอยู่สูงในอากาศในขณะที่เขาจ้องอย่างเย็นชาไปที่หลัวโตว เขาพูดออกมาอย่างเยือกเย็น “ถ้าเจ้ามีความแข็งแกร่งแค่นั้น เจ้าอาจจะหยุดคนของนิกายดาบโลหิตที่นี่ตลอดไปไม่ได้” หลัวโตวตกใจในความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉิน แต่เขาก็ยังคงเหยียดต่อไป “หัวหน้านิกายดาบโลหิต เจ้าทรงพลังจริง ๆ ข้าไม่ได้ใกล้เคียงที่จะเป็นคู่มือของเจ้าเลย แต่เรื่องที่น่าสนใจกำลังจะเกิดในไม่ช้านี้แล้ว” มิติตรงหน้าหลัวโตวบิดเบี้ยวอย่างรุนแรงทันทีที่เขาพูดจบ มันกลายเป็นประตูมิติอย่างรวดเร็ว พลังแห่งการมีอยู่ที่ทรงพลังมากกว่าหลัวโตวเปล่งรัศมีออกมาจากประตูมิติ มันพุ่งออกมาเหมือนมังกรสองตัวที่โกรธเกรี้ยวและบิดตัวและเลี้ยวไปรอบ ๆ มันลอยอยู่ไปทั่วทั้งบริเวณ ข้างหน้าพลังแห่งการมีอยู่ที่ทรงพลังทั้งสองนี้ อากาศและพลังงานของโลกก็หยุดเคลื่อนไหว แม้แต่พลังธรรมชาติก็ยังสงบลง ชายชราผิวเลือดฝาดสองคนออกมาจากประตูมิติ สายตาของพวกเขาลุกโชนเหมือนคบเพลิงในขณะที่พวกเขาจ้องมองอย่างแหลมคมไปที่เจี้ยนเฉินก่อนที่จะไปหยุดที่หลัวโตว ท่าทางของพวกเขาเปลี่ยนไปพร้อมกันเมื่อเขาเห็นสภาพที่ย่ำแย่ของหลัวโตว พวกเขาก้าววออกไป 1 ก้าวและไปโผล่ตรงหน้าเขาอย่างเงียบ ๆ หนึ่งในนั้นถามออกมาเสียงทุ้ม “หลัวโตว เจ้าสบายดีนะ ? ใครทำให้เจ้าบาดเจ็บเช่นนี้ ? “ “ผู้พิทักษ์จักรพรรดิฟางหยัน ผู้พิทักษ์จักรพรรดิทาจิ คนที่ทำให้ข้าบาดเจ็บเป็นหัวหน้านิกายคนใหม่ของนิกายดาบโลหิต ข้าไม่ใช่คู่มือของเขา ดังนั้นได้โปรดกอบกู้ศักดิ์ศรีให้แก่ข้าด้วย ผู้พิทักษ์จักรพรรดิ” เสียงของหลัวโตวแหบมาก ฟางหยันแตะไหล่ของหลัวโตวแล้วพูด “พวกเราทั้งหมดเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ต้องสุภาพขนาดนั้นหรอก อย่ากังวลไปเลย ข้าจะช่วยเจ้าเอง” เขามองไปที่กลุ่มของเจี้ยนเฉินแล้วพูด “ข้าขอถามได้ไหมว่าหัวหน้านิกายคนใหม่ของนิกายดาบโลหิตคือใคร ? ” แม้ว่านั่นจะเป็นสิ่งที่เขาพูด แต่สายตาของเขาก็เพ่งไปที่เจี้ยนเฉิน เขาคาดไว้ว่าหลัวโตวนั้นได้รับบาดเจ็บจากเจี้ยนเฉินโดยดูจากจุดที่เขากำลังยืนอยู่ ท่าทางของเจี้ยนเฉินยังคงเหมือนเดิม เขาประสานมืออย่างเฉยชาแล้วพูด “ข้าเป็นหัวหน้านิกายคนใหม่ของนิกายดาบโลหิต เจ้ามีปัญหาใดที่ต้องการจะหารือหรือไม่ ? ” เจี้ยนเฉินบอกได้ว่าเซียนราชาที่มาสนับสนุนหลัวโตวนั้นอยู่ในชั้นสวรรค์ที่ 5 และ 6 พวกเขาทำอะไรเจี้ยนเฉินไม่ได้ ท่าทางของฟางหยันหมองลงไปเล็กน้อย เขาพูด “ข้าไม่สิทธิ์จะไม่วิจารณ์อะไรหรอก แต่เพียงแต่หัวหน้านิกายคนใหม่รุกล้ำเข้ามาในอาณาเขตของจักรวรรดิเฟยลี่ เจ้ายังทำให้ผู้พิทักษ์จักรพรรดิของพวกเราบาดเจ็บอีก ถ้าเจ้าไม่อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น พวกเรา จักรวรรดิเฟยลี่ จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ? “ ตาของเจี้ยนเฉินเบิกขึ้นเมื่อเขาได้รู้ว่าเขาอยู่ที่จักรวรรดิเฟยลี่ เขาพูดออกมา “พวกเจ้ามาจากจักรวรรดิเฟยลี่ ดีเลย ไป่เจี้ยนเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิของพวกเจ้าหรือไม่ ? “ “เขาเป็นแน่นอน จักรวรรดิของพวกเรามีอยู่เพราะคนผู้นี้ ข้าขอถามความสัมพันธ์ระหว่างเจ้ากับเขาได้หรือไม่ ? ” ฟางหยันจ้องเขม็งไปที่เจี้ยนเฉิน “มันเป็นศัตรู และเป็นคนที่ต้องถูกสังหาร” เจี้ยนเฉินคำราม ในขณะที่เขาพูด จิตสังหารที่ทรงพลังก็เปล่งรัศมีออกมาจากเขา ผู้พิทักษ์จักรพรรดิสองคนมีท่าทางเปลี่ยนไปเมื่อพวกเขาได้ยินที่เจี้ยนเฉินพูด ทาจิก้าวออกไปและหยุดอยู่ห่างแค่ร้อยเมตรด้วยพลังแห่งการมีอยู่ที่แหลมคม เขาคำรามออกมา “หัวหน้านิกายดาบโลหิต ดูเหมือนว่าเจ้าตั้งใจที่จะพยายามเป็นศัตรูกับจักรวรรดิเฟยลี่ของพวกเรา ถ้าเป็นแบบนั้น ทาจิจะขอชมความแข็งแกร่งของเจ้าว่าเจ้าอยู่ระดับเดียวกันกับฮุสตันหรือไม่ เจ้าถึงได้กล้าพูดจาเย่อหยิ่งแบบนั้น” ทาจิชี้นิ้วออกไปและพลังงานของโลกรอบรอบก็เริ่มตื่นตัวอย่างผิดปกติหลังจากที่มันสงบลงก่อนหน้านี้ในตอนที่พวกเขามาถึง มันรวมกันอยู่ที่ปลายนิ้วของเข้าวยความเร็วที่เหลือเชื่อ และควบแน่นเป็นการโจมตีที่ทรงพลังที่พุ่งไปที่เจี้ยนเฉิน ทาจิเป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 6 เขาแข็งแกร่งกว่าฟางหยัน เจี้ยนเฉินไม่สามารถรับการโจมตีนี้ได้ง่ายดายเหมือนการโจมจากหลัวโตว เขาเอายุทธภัณฑ์จักรพรรดิออกมาจากแหวนมิติทันทีแล้วแทงออกไปด้วยความเร็วดุจสายฟ้า แสงสีเทาพุ่งออกจากปลายยุทธภัณฑ์จักรพรรดิของเจี้ยนเฉิน มันฉีกมิติรอบ ๆ ออกด้วยพลังแห่งการทำลายล้างในขณะที่มันพุ่งไปทางทาจิด้วยความเร็วสูง ปราณกระบี่สีเทาพุ่งผ่านการโจมตีนิ้วพลังธรรมชาติของทาจิไปอย่างไม่มีอุปสรรค์ใดและพุ่งต่อไปอย่างไม่ลดกำลังลงเลย ท่าทีของทาจิเปลี่ยนไป เขาไม่คิดว่าหัวหน้านิกายคนใหม่จะทรงพลังขนาดนี้ เขาระวังตัวมากกว่าเดิม ในเวลาเดียวกัน พลังเซียนที่ทรงพลังมากก็พุ่งพวยออกมาอย่างรุนแรงจากร่างของเขา ก่อนที่มันจะควบแน่นเป็นดาบยาวกว้างสามนิ้วอย่างรวดเร็วในมือขวาของเขา หลังจากนั้น เขาก็ฟันออกไปอย่างเร็ว และมันก็ยิงปราณดาบที่แหลมคมและทรงพลังออกไปปะทะกับการโจมตีของเจี้ยนเฉิน บู้ม ! เสียงดังระเบิดออกตรงที่ที่ดาบฉีปะทะกัน พลังงานที่เหลืออยู่ที่ทรงพลังทำให้มิติรอบ ๆ สั่นไหวไม่หยุด ปราณดาบของทาจิหายไปกลางอากาศและกระจายไปกลายเป็นพลังงานพื้นฐาน ปราณกระบี่ที่ควบแน่นมาจากพลังบรรพกาลยังคงอยู่เหมือนเดิม และพุ่งไปที่ทาจิต่อก่อนที่จะถึงตรงหน้าเขาในพริบตา ท่าทางของทาจิเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว มันสายเกินไปแล้วที่เขาจะหลบได้ ดังนั้นทั้งหมดที่เขาจะทำได้คือยกดาบขึ้นมาตั้งรับตรงหน้าเขา เสียงระเบิดดังขึ้นทันทีที่ปราณกระบี่พลังบรรพกาลปะทะกับอาวุธเซียนของทาจิ ทาจิกระเด็นถอยไปอย่างควบคุมไม่ได้ เขาลอยไปไกลกว่าสิบกิโลเมตรกว่าที่จะทรงตัวได้ เขาตกใจมากจากความแข็งแกร่งของหัวหน้านิกายคนใหม่ของนิกายดาบโลหิต แม้เขาจะแข็งแกร่งขนาดที่เป็นถึงเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 6 แต่เขาก็ยังยากที่จะต้านปราณกระบี่เพียงครั้งเดียวจากเจี้ยนเฉินได้ ซึ่งทำให้เขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ หัวหน้านิกายคนใหม่แข็งแกร่งเกินไป “ผู้พิทักษ์จักรพรรดิทาจิถูกกระแทกกระเด็นไปด้วยปราณกระบี่เดียวจากหัวหน้านิกายคนใหม่ นะ นี่มันเป็นไปไม่ได้ ข้าดูอะไรผิดไปหรือเปล่า ? ผู้พิทักษ์จักรพรรดิทาจิเป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 6 นะ” หลัวโตวจ้องไปที่ทาจิอย่างเหลือเชื่อในขณะที่เขาตาโต หัวใจของเขาปั่นป่วน “ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ นั่นคือยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ ! ” ฟางหยันร้องออกมา เขาจ้องตาไม่กระพริบไปที่อาวุธที่อยู่ในมือเจี้ยนเฉินในขณะที่ความตกใจและความอิจฉาถาโถมอยู่ในดวงตาของเขา ทาจิถือดาบอยู่ในมือขวาและเขาก็หลอมรวมกับมิติรอบ ๆ เขามาถึงที่ข้าง ๆ ฟางหยันที่อยู่ห่างออกไป 10 กิโลเมตรเพียงการก้าวเพียงก้าวเดียว เขาจ้องไปที่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิของเจี้ยนเฉินด้วยความสนใจ สักพักเขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างประหลาดใจ “มันเป็นยุทธภัณฑ์จักรพรรดิจริง ๆ พลังของยุทธภัณฑ์จักรพรรดิทรงพลังเกินไป เหตุผลที่หัวหน้านิกายสามารถทำให้ข้ากระเด็นไปด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวทั้งหมดเป็นเพราะยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ ถ้าเจ้าไม่มีมัน เจ้าต้องไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าแน่” ตาของฟางหยันเย็นชาแล้วเขาก็พูดออกมา “ทาจิ ในเมื่อพวกเราไม่ใช่คู่มือของหัวหน้านิกาย พวกเรามาร่วมมือกัน พวกเราจะยอมให้ศักดิ์ศรีของจักรวรรดิเฟยลี่ถูกย่ำยีไม่ได้ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม” “แน่นอน ! ” ทาจิเห็นด้วยโดยไม่ต้องคิดเลย พลังแห่งการมีอยู่ที่พวยพุ่งได้เปล่งประกายออกมาจากเขาในขณะที่เขาพุ่งไปที่เจี้ยนเฉินพร้อมกับฟางหยันในเวลาพร้อม ๆ กัน สายตาของเจี้ยนเฉินก็เย็นชาเช่นกัน เขาพูด “ข้าออมแรงในการโจมตีครั้งก่อนเอาไว้ แต่ในเมื่อพวกเจ้าไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร อย่าโทษว่าเป็นความผิดข้าล่ะ” พลังแห่งการมีอยู่ของเจี้ยนเฉินเปลี่ยนไปทันทีทันทีที่เขาพูดจบ ในตอนนั้นเอง เขาดูเหมือนจะกลายเป็นกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ที่หาใดเหมือน ปราณกระบี่ที่แหลมคมมากเปล่งประกายออกมาจากเขาและแขนที่เขาถือยุทธภัณฑ์จักรพรรดิอยู่ก็สั่นทันที เขาฟันออกไปอย่างไม่ปราณี ทำให้เกิดปราณกระบี่ที่ฉีกมิติพุ่งไปทางฟางหยัน การโจมตีเทียบเท่ากับการโจมตีเต็มกำลังของเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 7 ที่ที่มันผ่านไป มิติก็ฉีกออก และถ้ามองแต่ไกล มันก็ดูเหมือนแสงสีดำที่พุ่งผ่านไปที่ท้องฟ้า หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็สะสมพลังไปที่กระบี่ เขาพุ่งไปทางทาจิที่ทรงพลังมากกว่า ในขณะที่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิของเขาเปล่งประกายไปด้วยแสงสีดำจ้า เขาแทงออกไป 3 ครั้งด้วยพลังแห่งการทำลายล้าง การโจมตีทั้งสามรวดเร็วมาก แต่ละการโจมตีทิ้งภาพรางรางไว้ และมันดูเหมือนเขาโจมตีออกไปสามครั้งในเวลาเดียวกัน ฟางหยันเป็นแค่เซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5 ดังนั้นเขาจะไปต้านทานปราณกระบี่จากเจี้ยนเฉินที่เทียบเท่ากับเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 7 ได้อย่างไร ? เขาได้รับบาดเจ็บหนักจากการโจมตี ปราณกระบี่แทงทะลุหน้าอกของเขา ทำให้เกิดเป็นรู ทาจิมีใบหน้าที่เคร่งเครียดมากในขณะที่เขาเผชิญหน้ากับการโจมตีทั้งสามของเจี้ยนเฉิน เขาใช้ทุกอย่างที่มีในฐานะที่เป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 6 เพื่อต่อต้านการโจมตีทั้งสามของเจี้ยนเฉิน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความแตกต่างทางกำลัง ทาจิก็ป้องกันได้เพียงสองการโจมตีเท่านั้น การโจมตีที่สามทะลุหัวใจของเขาไป ปัง ! เจี้ยนเฉินเตะหน้าอกของทาจิต่อและทำให้เขากระเด็นไปพร้อมกระอักเลือด ในพริบตาเดียว ผู้พิทักษ์จักรพรรดิจากจักรวรรดิเฟยลี่ที่มาเป็นกองหนุนก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสโดยเจี้ยนเฉิน “ไม่ เป็นไปไม่ได้ ! ” หลัวโตวและผู้พิทักษ์จักรพรรดิทั้งสี่ของอาณาจักรหลงฉีทั้งหมดหน้าซีดเมื่อพวกเขาได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ความกลัวเริ่มพุ่งพวยขึ้นมาในใจของพวกเขา

ตอนที่ 1025: การต่อสู้กับผู้พิทักษ์จักรพรรดิทั้งสี่ของจักรวรรดิเฟยลี่

หลัวโตวเผยยิ้มออกมาอย่างผ่อนคลายหลังจากที่ชิ้นหยกแตกกระจายออก แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บหนัก เขาก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับชีวิตของเขา

ก่อนที่หลัวโตวจะมาที่อาณาจักรหลงฉี เขาได้คิดถึงทุกอย่างที่อาจจะเกิดขึ้น ดังนั้นเขาจึงเตรียมการไว้มากมาย เขาไปพบกับผู้พิทักษ์จักรพรรดิของจักรวรรดิเฟยลี่คนอื่นและบอกให้พวกเขามาช่วยในช่วงเวลาสำคัญ การขยี้หยกก่อนหน้านี้เป็นวิธีในการติดต่อกับพวกเขา

แม้ว่าอาณาจักรหลงฉีจะห่างไกลจากจักรวรรดิเฟยลี่มาก แต่ระยะทางไม่เป็นปัญหากับเซียนราชา พวกเขาสามารถฉีกมิติและเปิดประตูมิติได้

หลัวโตวตั้งตัวได้หลังจากลอยไปหลายพันเมตร เขากระอักเลือดออกมาเพราะเขาไม่สามารถกลั้นเอาไว้ได้ หมัดของเจี้ยนเฉินเท่ากับการโจมตีเต็มพลังของเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 3 แม้ว่าเขาจะจะสกัดกั้นมันได้เล็กน้อย แต่มันก็ยังทำให้เขาได้รับบาดเจ็บหนักอยู่ดี

ผู้พิทักษ์จักรพรรดิของอาณาจักรหลงฉีอดไม่ได้ที่จะแสดงท่าทางที่แตกต่างออกมาเมื่อพวกเขาได้เห็นว่าหลัวโตวถูกเจี้ยนเฉินทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการปะทะกันเพียงแค่ไม่กี่ครั้ง พวกเขาทั้งหมดแสดงท่าทางหวาดกลัวออกมา

หลัวโตวเป็นคนที่อาณาจักรของพวกเขาพึ่งพาได้มากที่สุด เขาเป็นความภาคภูมิในของอาณาจักร ดังนั้นถ้าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจี้ยนเฉิน อาณาจักรก็ไม่มีพลังใดที่จะต่อต้านคนของนิกายดาบโลหิตได้อีก

เจี้ยนเฉินลอยอยู่สูงในอากาศในขณะที่เขาจ้องอย่างเย็นชาไปที่หลัวโตว เขาพูดออกมาอย่างเยือกเย็น “ถ้าเจ้ามีความแข็งแกร่งแค่นั้น เจ้าอาจจะหยุดคนของนิกายดาบโลหิตที่นี่ตลอดไปไม่ได้”

หลัวโตวตกใจในความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉิน แต่เขาก็ยังคงเหยียดต่อไป “หัวหน้านิกายดาบโลหิต เจ้าทรงพลังจริง ๆ ข้าไม่ได้ใกล้เคียงที่จะเป็นคู่มือของเจ้าเลย แต่เรื่องที่น่าสนใจกำลังจะเกิดในไม่ช้านี้แล้ว”

มิติตรงหน้าหลัวโตวบิดเบี้ยวอย่างรุนแรงทันทีที่เขาพูดจบ มันกลายเป็นประตูมิติอย่างรวดเร็ว พลังแห่งการมีอยู่ที่ทรงพลังมากกว่าหลัวโตวเปล่งรัศมีออกมาจากประตูมิติ มันพุ่งออกมาเหมือนมังกรสองตัวที่โกรธเกรี้ยวและบิดตัวและเลี้ยวไปรอบ ๆ มันลอยอยู่ไปทั่วทั้งบริเวณ

ข้างหน้าพลังแห่งการมีอยู่ที่ทรงพลังทั้งสองนี้ อากาศและพลังงานของโลกก็หยุดเคลื่อนไหว แม้แต่พลังธรรมชาติก็ยังสงบลง

ชายชราผิวเลือดฝาดสองคนออกมาจากประตูมิติ สายตาของพวกเขาลุกโชนเหมือนคบเพลิงในขณะที่พวกเขาจ้องมองอย่างแหลมคมไปที่เจี้ยนเฉินก่อนที่จะไปหยุดที่หลัวโตว

ท่าทางของพวกเขาเปลี่ยนไปพร้อมกันเมื่อเขาเห็นสภาพที่ย่ำแย่ของหลัวโตว พวกเขาก้าววออกไป 1 ก้าวและไปโผล่ตรงหน้าเขาอย่างเงียบ ๆ หนึ่งในนั้นถามออกมาเสียงทุ้ม “หลัวโตว เจ้าสบายดีนะ ? ใครทำให้เจ้าบาดเจ็บเช่นนี้ ? “

“ผู้พิทักษ์จักรพรรดิฟางหยัน ผู้พิทักษ์จักรพรรดิทาจิ คนที่ทำให้ข้าบาดเจ็บเป็นหัวหน้านิกายคนใหม่ของนิกายดาบโลหิต ข้าไม่ใช่คู่มือของเขา ดังนั้นได้โปรดกอบกู้ศักดิ์ศรีให้แก่ข้าด้วย ผู้พิทักษ์จักรพรรดิ” เสียงของหลัวโตวแหบมาก

ฟางหยันแตะไหล่ของหลัวโตวแล้วพูด “พวกเราทั้งหมดเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ต้องสุภาพขนาดนั้นหรอก อย่ากังวลไปเลย ข้าจะช่วยเจ้าเอง” เขามองไปที่กลุ่มของเจี้ยนเฉินแล้วพูด “ข้าขอถามได้ไหมว่าหัวหน้านิกายคนใหม่ของนิกายดาบโลหิตคือใคร ? ” แม้ว่านั่นจะเป็นสิ่งที่เขาพูด แต่สายตาของเขาก็เพ่งไปที่เจี้ยนเฉิน เขาคาดไว้ว่าหลัวโตวนั้นได้รับบาดเจ็บจากเจี้ยนเฉินโดยดูจากจุดที่เขากำลังยืนอยู่

ท่าทางของเจี้ยนเฉินยังคงเหมือนเดิม เขาประสานมืออย่างเฉยชาแล้วพูด “ข้าเป็นหัวหน้านิกายคนใหม่ของนิกายดาบโลหิต เจ้ามีปัญหาใดที่ต้องการจะหารือหรือไม่ ? ” เจี้ยนเฉินบอกได้ว่าเซียนราชาที่มาสนับสนุนหลัวโตวนั้นอยู่ในชั้นสวรรค์ที่ 5 และ 6 พวกเขาทำอะไรเจี้ยนเฉินไม่ได้

ท่าทางของฟางหยันหมองลงไปเล็กน้อย เขาพูด “ข้าไม่สิทธิ์จะไม่วิจารณ์อะไรหรอก แต่เพียงแต่หัวหน้านิกายคนใหม่รุกล้ำเข้ามาในอาณาเขตของจักรวรรดิเฟยลี่ เจ้ายังทำให้ผู้พิทักษ์จักรพรรดิของพวกเราบาดเจ็บอีก ถ้าเจ้าไม่อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น พวกเรา จักรวรรดิเฟยลี่ จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ? “

ตาของเจี้ยนเฉินเบิกขึ้นเมื่อเขาได้รู้ว่าเขาอยู่ที่จักรวรรดิเฟยลี่ เขาพูดออกมา “พวกเจ้ามาจากจักรวรรดิเฟยลี่ ดีเลย ไป่เจี้ยนเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิของพวกเจ้าหรือไม่ ? “

“เขาเป็นแน่นอน จักรวรรดิของพวกเรามีอยู่เพราะคนผู้นี้ ข้าขอถามความสัมพันธ์ระหว่างเจ้ากับเขาได้หรือไม่ ? ” ฟางหยันจ้องเขม็งไปที่เจี้ยนเฉิน

“มันเป็นศัตรู และเป็นคนที่ต้องถูกสังหาร” เจี้ยนเฉินคำราม ในขณะที่เขาพูด จิตสังหารที่ทรงพลังก็เปล่งรัศมีออกมาจากเขา

ผู้พิทักษ์จักรพรรดิสองคนมีท่าทางเปลี่ยนไปเมื่อพวกเขาได้ยินที่เจี้ยนเฉินพูด ทาจิก้าวออกไปและหยุดอยู่ห่างแค่ร้อยเมตรด้วยพลังแห่งการมีอยู่ที่แหลมคม เขาคำรามออกมา “หัวหน้านิกายดาบโลหิต ดูเหมือนว่าเจ้าตั้งใจที่จะพยายามเป็นศัตรูกับจักรวรรดิเฟยลี่ของพวกเรา ถ้าเป็นแบบนั้น ทาจิจะขอชมความแข็งแกร่งของเจ้าว่าเจ้าอยู่ระดับเดียวกันกับฮุสตันหรือไม่ เจ้าถึงได้กล้าพูดจาเย่อหยิ่งแบบนั้น” ทาจิชี้นิ้วออกไปและพลังงานของโลกรอบรอบก็เริ่มตื่นตัวอย่างผิดปกติหลังจากที่มันสงบลงก่อนหน้านี้ในตอนที่พวกเขามาถึง มันรวมกันอยู่ที่ปลายนิ้วของเข้าวยความเร็วที่เหลือเชื่อ และควบแน่นเป็นการโจมตีที่ทรงพลังที่พุ่งไปที่เจี้ยนเฉิน

ทาจิเป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 6 เขาแข็งแกร่งกว่าฟางหยัน เจี้ยนเฉินไม่สามารถรับการโจมตีนี้ได้ง่ายดายเหมือนการโจมจากหลัวโตว เขาเอายุทธภัณฑ์จักรพรรดิออกมาจากแหวนมิติทันทีแล้วแทงออกไปด้วยความเร็วดุจสายฟ้า

แสงสีเทาพุ่งออกจากปลายยุทธภัณฑ์จักรพรรดิของเจี้ยนเฉิน มันฉีกมิติรอบ ๆ ออกด้วยพลังแห่งการทำลายล้างในขณะที่มันพุ่งไปทางทาจิด้วยความเร็วสูง

ปราณกระบี่สีเทาพุ่งผ่านการโจมตีนิ้วพลังธรรมชาติของทาจิไปอย่างไม่มีอุปสรรค์ใดและพุ่งต่อไปอย่างไม่ลดกำลังลงเลย

ท่าทีของทาจิเปลี่ยนไป เขาไม่คิดว่าหัวหน้านิกายคนใหม่จะทรงพลังขนาดนี้ เขาระวังตัวมากกว่าเดิม ในเวลาเดียวกัน พลังเซียนที่ทรงพลังมากก็พุ่งพวยออกมาอย่างรุนแรงจากร่างของเขา ก่อนที่มันจะควบแน่นเป็นดาบยาวกว้างสามนิ้วอย่างรวดเร็วในมือขวาของเขา หลังจากนั้น เขาก็ฟันออกไปอย่างเร็ว และมันก็ยิงปราณดาบที่แหลมคมและทรงพลังออกไปปะทะกับการโจมตีของเจี้ยนเฉิน

บู้ม ! เสียงดังระเบิดออกตรงที่ที่ดาบฉีปะทะกัน พลังงานที่เหลืออยู่ที่ทรงพลังทำให้มิติรอบ ๆ สั่นไหวไม่หยุด

ปราณดาบของทาจิหายไปกลางอากาศและกระจายไปกลายเป็นพลังงานพื้นฐาน ปราณกระบี่ที่ควบแน่นมาจากพลังบรรพกาลยังคงอยู่เหมือนเดิม และพุ่งไปที่ทาจิต่อก่อนที่จะถึงตรงหน้าเขาในพริบตา

ท่าทางของทาจิเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว มันสายเกินไปแล้วที่เขาจะหลบได้ ดังนั้นทั้งหมดที่เขาจะทำได้คือยกดาบขึ้นมาตั้งรับตรงหน้าเขา

เสียงระเบิดดังขึ้นทันทีที่ปราณกระบี่พลังบรรพกาลปะทะกับอาวุธเซียนของทาจิ

ทาจิกระเด็นถอยไปอย่างควบคุมไม่ได้ เขาลอยไปไกลกว่าสิบกิโลเมตรกว่าที่จะทรงตัวได้ เขาตกใจมากจากความแข็งแกร่งของหัวหน้านิกายคนใหม่ของนิกายดาบโลหิต แม้เขาจะแข็งแกร่งขนาดที่เป็นถึงเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 6 แต่เขาก็ยังยากที่จะต้านปราณกระบี่เพียงครั้งเดียวจากเจี้ยนเฉินได้ ซึ่งทำให้เขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ หัวหน้านิกายคนใหม่แข็งแกร่งเกินไป

“ผู้พิทักษ์จักรพรรดิทาจิถูกกระแทกกระเด็นไปด้วยปราณกระบี่เดียวจากหัวหน้านิกายคนใหม่ นะ นี่มันเป็นไปไม่ได้ ข้าดูอะไรผิดไปหรือเปล่า ? ผู้พิทักษ์จักรพรรดิทาจิเป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 6 นะ” หลัวโตวจ้องไปที่ทาจิอย่างเหลือเชื่อในขณะที่เขาตาโต หัวใจของเขาปั่นป่วน

“ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ นั่นคือยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ ! ” ฟางหยันร้องออกมา เขาจ้องตาไม่กระพริบไปที่อาวุธที่อยู่ในมือเจี้ยนเฉินในขณะที่ความตกใจและความอิจฉาถาโถมอยู่ในดวงตาของเขา

ทาจิถือดาบอยู่ในมือขวาและเขาก็หลอมรวมกับมิติรอบ ๆ เขามาถึงที่ข้าง ๆ ฟางหยันที่อยู่ห่างออกไป 10 กิโลเมตรเพียงการก้าวเพียงก้าวเดียว เขาจ้องไปที่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิของเจี้ยนเฉินด้วยความสนใจ สักพักเขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างประหลาดใจ “มันเป็นยุทธภัณฑ์จักรพรรดิจริง ๆ พลังของยุทธภัณฑ์จักรพรรดิทรงพลังเกินไป เหตุผลที่หัวหน้านิกายสามารถทำให้ข้ากระเด็นไปด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวทั้งหมดเป็นเพราะยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ ถ้าเจ้าไม่มีมัน เจ้าต้องไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าแน่”

ตาของฟางหยันเย็นชาแล้วเขาก็พูดออกมา “ทาจิ ในเมื่อพวกเราไม่ใช่คู่มือของหัวหน้านิกาย พวกเรามาร่วมมือกัน พวกเราจะยอมให้ศักดิ์ศรีของจักรวรรดิเฟยลี่ถูกย่ำยีไม่ได้ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม”

“แน่นอน ! ” ทาจิเห็นด้วยโดยไม่ต้องคิดเลย พลังแห่งการมีอยู่ที่พวยพุ่งได้เปล่งประกายออกมาจากเขาในขณะที่เขาพุ่งไปที่เจี้ยนเฉินพร้อมกับฟางหยันในเวลาพร้อม ๆ กัน

สายตาของเจี้ยนเฉินก็เย็นชาเช่นกัน เขาพูด “ข้าออมแรงในการโจมตีครั้งก่อนเอาไว้ แต่ในเมื่อพวกเจ้าไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร อย่าโทษว่าเป็นความผิดข้าล่ะ” พลังแห่งการมีอยู่ของเจี้ยนเฉินเปลี่ยนไปทันทีทันทีที่เขาพูดจบ ในตอนนั้นเอง เขาดูเหมือนจะกลายเป็นกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ที่หาใดเหมือน ปราณกระบี่ที่แหลมคมมากเปล่งประกายออกมาจากเขาและแขนที่เขาถือยุทธภัณฑ์จักรพรรดิอยู่ก็สั่นทันที เขาฟันออกไปอย่างไม่ปราณี ทำให้เกิดปราณกระบี่ที่ฉีกมิติพุ่งไปทางฟางหยัน

การโจมตีเทียบเท่ากับการโจมตีเต็มกำลังของเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 7 ที่ที่มันผ่านไป มิติก็ฉีกออก และถ้ามองแต่ไกล มันก็ดูเหมือนแสงสีดำที่พุ่งผ่านไปที่ท้องฟ้า

หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็สะสมพลังไปที่กระบี่ เขาพุ่งไปทางทาจิที่ทรงพลังมากกว่า ในขณะที่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิของเขาเปล่งประกายไปด้วยแสงสีดำจ้า เขาแทงออกไป 3 ครั้งด้วยพลังแห่งการทำลายล้าง

การโจมตีทั้งสามรวดเร็วมาก แต่ละการโจมตีทิ้งภาพรางรางไว้ และมันดูเหมือนเขาโจมตีออกไปสามครั้งในเวลาเดียวกัน

ฟางหยันเป็นแค่เซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5 ดังนั้นเขาจะไปต้านทานปราณกระบี่จากเจี้ยนเฉินที่เทียบเท่ากับเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 7 ได้อย่างไร ? เขาได้รับบาดเจ็บหนักจากการโจมตี ปราณกระบี่แทงทะลุหน้าอกของเขา ทำให้เกิดเป็นรู

ทาจิมีใบหน้าที่เคร่งเครียดมากในขณะที่เขาเผชิญหน้ากับการโจมตีทั้งสามของเจี้ยนเฉิน เขาใช้ทุกอย่างที่มีในฐานะที่เป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 6 เพื่อต่อต้านการโจมตีทั้งสามของเจี้ยนเฉิน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความแตกต่างทางกำลัง ทาจิก็ป้องกันได้เพียงสองการโจมตีเท่านั้น การโจมตีที่สามทะลุหัวใจของเขาไป

ปัง ! เจี้ยนเฉินเตะหน้าอกของทาจิต่อและทำให้เขากระเด็นไปพร้อมกระอักเลือด

ในพริบตาเดียว ผู้พิทักษ์จักรพรรดิจากจักรวรรดิเฟยลี่ที่มาเป็นกองหนุนก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสโดยเจี้ยนเฉิน

“ไม่ เป็นไปไม่ได้ ! ” หลัวโตวและผู้พิทักษ์จักรพรรดิทั้งสี่ของอาณาจักรหลงฉีทั้งหมดหน้าซีดเมื่อพวกเขาได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ความกลัวเริ่มพุ่งพวยขึ้นมาในใจของพวกเขา

Chaotic sword god

Chaotic sword god

Chaotic sword god
Status: Ongoing

Comment

Options

not work with dark mode
Reset