ตอนที่ 642: ค่าประสบการณ์ 221 เท่า!
อี้เทียนหยุนที่คว้าหอกเทพที่แทงเข้าไปนั้น ทำให้ในใจแม่ทัพใหญ่หมิงเสิ่นตกใจเป็นอย่างมาก เขาอยากจะดึงมันออก แต่ไม่ว่ายังไงก็ทำไม่ได้ ไม่ว่าเขาจะใช้แรงขนาดไหน ก็ไม่สามารถทำให้มันขยับออกมาได้แม้แต่น้อย
และในขณะที่เขากำลังจะผลาญแกนโลหิตในร่างเพื่อสยบอี้เทียนหยุนนั้น อี้เทียนหยุนก็ได้ยกหอกเทพนี้ขึ้น พลังที่อหังการยกแม้กระทั่งแม่ทัพใหญ่หมิงเสิ่นขึ้นด้วย เพิ่งจะยกขึ้นไม่ทันไร ก็ทำการฟาดอีกฝ่ายลงในทันที
“เปรี้ยง!”
จี้หยางที่โจมตีเข้ามา แต่ก็ถูกอี้เทียนหยุนใช้แม่ทัพใหญ่หมิงเสิ่นต่างโล่เข้าขวาง เพราะว่าเร็วเกินไป จึงทำให้จี้หยางไม่ทันตั้งตัว ทำให้พัดเทวะในมือที่โบกออกไป สุดท้ายแล้วก็ซัดเข้าใส่ตัวแม่ทัพใหญ่หมิงเสิ่นเต็มๆ!
“แค่ก…” แม่ทัพใหญ่หมิงเสิ่นแค่นเสียงออกมา รู้สึกเหมือนร่างถูกตัดออก และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะที่หลังของเขาในตอนนี้ได้มีแผลขนาดใหญ่แผลหนึ่งขึ้น
หลังของแม่ทัพใหญ่หมิงเสิ่นรับการโจมตีนั้นเข้าเต็มๆ ยิ่งกว่านั้นยังไม่ได้มีการป้องกันแม้แต่น้อย จึงทำให้ถูกพัดนี้โจมตีเข้าใส่อย่างแรง จึงเป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บหนัก!
“หมิงเสิ่น!” จี้หยางหน้าเปลี่ยนสี พร้อมกับรีบหยุดการโจมตีไว้ จากนั้นก็เข้าไปลากหมิงเสิ่นออกมาอย่างรวดเร็ว แต่ร่างอีกฝ่ายก็แข็งค้าง ไม่ว่าจะลากยังไงก็ไม่มา
“ข้าให้เจ้าพามันไปได้อย่างงั้นเหรอ?” อี้เทียนหยุนสีหน้าเย็นชา ดึงร่างของแม่ทัพใหญ่หมิงเสิ่นเข้ามา จี้หยางพยายามดึง แต่ก็ไม่สามารถทำได้ สุดท้ายเขาก็ทำได้แค่ปล่อยไป ขณะที่รีบถอยร่างหลบออกมา ไม่กล้าที่จะอยู่ที่นั่นต่อ
“ปัง!”
หลังจากอี้เทียนหยุนดึงมาได้แล้ว ก็ทำการฟาดแม่ทัพใหญ่หมิงเสิ่นลงกับพื้น ร่างของแม่ทัพใหญ่หมิงเสิ่นกระแทกกับพื้นอย่างแรง จนทั้งร่างแทบจะจมลงไปในพื้นดิน โดยเฉพาะแผลที่ด้านหลังที่ลึกจนเห็นกระดูก ดูแล้วช่างน่าตกใจจริงๆ
“ช่างเป็นพลังที่อหังการมาก นี่ฝึกมาแบบไหนกัน แท้จริงแล้วเป็นเผ่าอะไรกันแน่…..” สีหน้าจี้หยางกลายเป็นน่าเกลียด เขาก็อยากจะเข้าไปช่วย แต่สหายของตนก็ถูกฉุดเอาไว้จนทำอะไรไม่ได้
ผู้คนพากันมองมาที่อี้เทียนหยุนด้วยความตกตะลึงเช่นกัน แค่การโจมตีระยะไกลก่อนหน้านี้ ก็สามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณได้อย่างง่ายดายอย่างไม่คาดคิด แม้ว่าพวกเขาจะสามารถโจมตีระยะไกลได้ แต่ยิ่งเป็นการโจมตีที่มีระยะไกลเท่าไหร่ พลังก็ยิ่งตกลงมากเท่านั้น แต่พลังของเขาไม่เพียงแต่จะไม่ตกลงเท่านั้น กลับกัน มันกลับยังคงน่าสะพรึงเช่นเดิม!
และที่สำคัญคือร่างขนาดมหึมานี้ ร่างกายที่ทั้งสูงใหญ่และดำเมี่ยม ส่วนสูงของเขาสูงมากกว่า 2 เมตร พร้อมกับทั้งร่างที่เป็นสีดำสนิท ขณะที่มีเปลวเพลิงสีดำกระจายออกมารอบๆ ที่กำลังทำการเผาร่างแม่ทัพใหญ่หมิงเสิ่นที่ถูกเขาเหยียบไว้ใต้เท้าตอนนี้
“ปล่อยข้า!”
ทั้งร่างของแม่ทัพใหญ่หมิงเสิ่นปลดปล่อยเปลวเพลิงเทียนหยินออกมา โคจรออกมาจากร่างของเขา เข้าปกคลุมอี้เทียนหยุนอย่างรวดเร็ว ฉากนี้ทำเอาพวกผู้อาวุโสลั่วพากันใจสั่น เกือบลืมไปเลยว่าเจ้าหมอนี่สามารถปล่อยเปลวเพลิงเทียนหยินออกมาได้ อย่างนี้การจะทำให้อี้เทียนหยุนปล่อยเขาไปย่อมเป็นเรื่องที่ง่ายอย่างมาก
ขณะที่เปลวเพลิงเทียนหยินพวยพุ่งออกมา ก็ได้ถูกเปลวเพลิงสีดำของอี้เทียนหยุนสยบในทันที ยิ่งกว่านั้น ยังถูกเปลวเพลิงของอี้เทียนหยุนกลืนกินด้วยความเร็วที่น่าสะพรึงยิ่งกว่า แผดเผาจนแม่ทัพใหญ่หมิงเสิ่นร้องโหยหวน
“นี่มันเปลวเพลิงอะไรกัน? ปล่อยข้า……”
แต่ไม่ว่าแม่ทัพใหญ่หมิงเสิ่นจะดิ้นรนยังไง ก็ไม่สามารถหนีไปจากฝ่าเท้าของอี้เทียนหยุนได้ เหมือนกับหลังของเขาถูกทับไว้ด้วยภูเขาลูกหนึ่ง ไม่ว่าจะดิ้นยังไงก็ดิ้นไม่หลุด
“สหายท่านนี้ หากว่าเจ้าสังหารเขา พวกเราจะให้เจ้าตายโดยไร้ซึ่งที่กลบฝัง! แต่หากว่าเจ้าปล่อยเขาตอนนี้ พวกเราจะไม่ถามหาความรับผิดชอบต่อเจ้าแม้แต่น้อย!” จี้หยางเดินเข้ามา ขณะที่เริ่มต่อรอง
ก่อนหน้านี้พวกเขาคิดว่าอี้เทียนหยุนไม่มีฐานะพอที่จะแลกเปลี่ยนกับตนเอง แต่ว่าตอนนี้ในที่สุดเขาก็รู้ถึงพลังอำนาจของอีกฝ่ายแล้ว มันมากพอที่จะบดขยี้พวกเขาได้ แม้ไม่กล้าบอกว่าสามารถจัดการท่านเจ้าศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาได้ไหม แต่อย่างน้อยตอนนี้ก็สามารถจัดการกับพวกเขาได้อย่างแน่นอน
หากปล่อยให้คนของเผ่าฟีนิกซ์พวกนี้หนีไปได้ แผนการที่พวกเขาวางมาอย่างระมัดระวังก็จะปลิวหายไป ยกตัวอย่างเช่นหนีไปยังโลกมนุษย์ หรือกระทั่งหนีไปยังโลกสวรรค์ เมื่อถึงตอนนั้น พวกเขาจะไปหาอีกฝ่ายเจอได้ยังไง? แม้กระทั่งโลกใต้พิภพเอง หากคิดจะซ่อน ก็เป็นเรื่องยากที่จะหาอีกวฝ่ายเจอได้
โลกใต้พิภพนั้นใหญ่มากจริงๆ มีหลายที่ที่แดนศักดิ์สิทธิ์เทียนหมิงยังไม่เคยไปมาก่อน
“เจ้าคิดว่าฐานะของเจ้าตอนนี้มีคุณสมบัติพอที่จะต่อรองกับข้าอย่างงั้นเหรอ?” อี้เทียนหยุนถือหอกเทพของแม่ทัพใหญ่หมิงเสิ่นขึ้น พร้อมกับแทงทะลุร่างอีกฝ่ายจนปักตรึงกับพื้น
“ข้า ข้าจะฆ่าเจ้า!”
แม่ทัพใหญ่หมิงเสิ่นที่ทั้งถูกเผาและถูกหอกตรึงอยู่กับพื้นตะโกนเสียงดัง ตอนนี้เขาไม่รู้สึกเจ็บปวดอะไรแล้ว แต่กลับรู้สึกเสียหน้ามากกว่า ในฐานะราชาเซียนผู้หนึ่ง กลับถูกอีกฝ่ายเหยียบไว้ใต้ฝ่าเท้าจนไม่สามารถขยับไปไหนได้ การรังแกกันแบบนี้ แย่ยิ่งกว่าการฆ่าเขาให้ตายเสียอีก
“คนที่อยากฆ่าข้ามีมากมายนัก ไม่ใช่เฉพาะเจ้า…. แต่ว่าคนที่ต้องการฆ่าข้านั้น ได้ถูกข้าฆ่าตายไปหมดแล้ว” อี้เทียนหยุนยิ้มแสยะ พร้อมกับปล่อยเปลวเพลิงสีดำแรงขึ้น เริ่มเร่งความเร็วในการเผาไหม้ ทำให้แม่ทัพใหญ่หมิงเสิ่นต้องร้องคำรามเสียงแหบออกมา
แม่ทัพใหญ่หมิงเสิ่นสู้ศึกมานักต่อนัก ร่างกายเคยบาดเจ็บมานับไม่ถ้วน แต่ว่าเปลวเพลิงสีดำนี้แผดเผาเข้าไปถึงดวงวิญญาณ ไม่ใช่ความเจ็บปวดที่เขาจะสามารถทนได้
“เจ้ากล้า!” จี้หยางมองดูด้วยหัวใจที่เดือดดาล นี่เป็นสหายที่อยู่กับเขามาหลายปี ไม่ใช่ใครที่เขาจะทนมองอีกฝ่ายตายโดยที่ไม่ทำอะไร “ทหารเทพเทียนหยิน เข้ามา!”
ทหารเทพเทียนหยินที่ทำหน้าที่จับกุมเผ่าฟีนิกซ์ หลังจากได้ยินคำสั่งของจี้หยาง ก็รีบมารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว
“ตั้งค่ายกล!”
จี้หยางคำราม รวบพัดเทวะในมือเข้าหากัน ทันใดนั้น ที่ใต้ฝ่าเท้าก็ปรากฏมหาค่ายกลขึ้น ส่วนกลุ่มทหารเทพเทียนหยินก็รีบมารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว เหยียบลงบนมหาค่ายกลเป็นวงกลม พร้อมกับปล่อยเปลวเพลิงเทียนหยินเข้าสู่ค่ายกลอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะไหลเข้าไปในร่างของจี้หยาง
อึดใจต่อมา ภายใต้อำนาจของมหาค่ายกล ทันใดนั้นก็ได้ปรากฏมังกรมืดขนาดยักษ์ขึ้น มังกรมืดตัวนี้ควบกลั่นมาจากเปลวเพลิงเทียนหยิน ดูแล้วน่าสะพรึงมาก อีกทั้งพลังยังน่าสะพรึงไม่ต่างกัน
ภายใต้ดวงตาประเมิน ทำให้เห็นว่าพลังรบของมันมีมากถึง 8 ล้าน!
สมแล้วที่เป็นถึงมหาค่ายกล รวมพลังของทุกคนเข้าด้วยกัน จากนั้นก็ปลดปล่อยพลังที่น่าสะพรึงยิ่งกว่า โดยเฉพาะจี้หยางที่เป็นคนจัดการมหาค่ายกลนี้ จึงทำให้พลังของมันน่าสะพรึงยิ่งขึ้น
“ความจริงข้าไม่อยากจะใช้มหาค่ายกลนี้ แต่ไม่คิดว่าจะต้องนำมันออกมาใช้เพื่อจัดการกับเจ้าเร็วขนาดนี้!” นัยน์ตาของจี้หยางมีประกายของจิตสังหารวาบผ่าน เตรียมที่จะควบคุมมังกรเทียนหมิงตัวนี้เข้าโจมตี
“พลังก็ดีอยู่หรอก แต่ถ้าหากว่ามีคนทำอะไรผิดไปล่ะ?” นัยน์ตาของอี้เทียนหยุนเป็นประกายไม่ปกติ จากนั้น ทหารเทพเทียนหยินที่มีพลังระดับราชาวิญญาณขั้นที่ 5 สองคนก็พลันตัวแข็งทื่อไป
จากนั้น เปลวเพลิงเทียนหยินอันน่าสะพรึงก็ประทุออกมาจากร่างของพวกเขา ทำให้ความสมดุลในมหาค่ายกลต้องถูกทำลายลงในพริบตา
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น!?” จี้หยางตกใจ เมื่อมองขึ้นไปก็เห็นมังกรมืดมีท่าทางผิดปกติ จึงได้รีบร้องตะโกนเสียงดัง “ออกไปเร็ว!”
เสียงพูดของเขาเพิ่งจะจบ มังกรมืดบนฟ้าก็พลันระเบิดออกในทันที ก่อนที่จะกลายเป็นฝนเพลิงเทียนหยินตกลงมาอย่างบ้าคลั่ง กลืนกินทหารเทพเทียนหยินทั้งหลายไปโดยตรง ทำให้มีเสียงกรีดร้องดังออกมาจากในทะเลเพลิงไม่หยุด
“ติ๊ง ท่านสังหารทหารเทพเทียนหยินสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 2.1 พันล้าน, ค่าความคลั่ง 30,000, ค่าความชั่ว 5,000, ได้รับวิชายุทธ์ เคล็ดวิชาเทพเทียนหยิน, มหาค่ายกลเทียนหยิน, ได้รับไอเทม เปลวเพลิงเทียนหยิน(ระดับปฐพีขั้นต่ำ), ชุดเกราะเทพเทียนหยิน(ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูง), รองเท้าศึกเทียนหยิน(ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูง)!”
“ติ๊ง ท่านสังหารทหารเทพเทียนหยินสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 2.3 พันล้าน…..”
“ติ๊ง….”
ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณขั้นที่ 5 ที่ 6 ให้ค่าประสบการณ์กับเขาถึง 2.1 พันล้าน ช่างเป็นค่าประสบการณ์ที่มากจนน่าตกใจเลยทีเดียว! เหตุผลเป็นเพราะเขาใช้บัตรเพิ่มค่าประสบการณ์ทุกชนิดที่มี แม้กระทั่งบัตรเพิ่มค่าความคลั่งและค่าความชั่ว เขาก็ทุ่มมันออกมาด้วย
ทำให้เขาได้ค่าประสบการณ์เพิ่มมากถึง 221 เท่า! นั่นหมายความว่า เมื่อเขาสังหารผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณคนหนึ่ง ก็จะเท่ากับสังหารผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณถึง 221 คน แล้วอย่างนี้จะไม่ให้มันมหาศาลได้ยังไง!
