Crazy Leveling System ตอนที่ 682: กลับกลอก

ตอนที่ 682: กลับกลอก

“สมแล้วที่เป็นเด็กบ้านนอกที่มาจากโลกมนุษย์ เจ้าคิดว่าน้ำหน้าอย่างเจ้าจะมีพลังพอจะทำอะไรได้อย่างงั้นเหรอ? จากท่าทีโอหังที่เจ้าแสดงออกมา ก็หมายความว่าระดับของโลกมนุษย์นั้น ไม่ได้แข็งแกร่งอะไรเลย!”

ผู้อาวุโสเหมยมองเขาอย่างเย็นชา ขณะที่ในสายตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจและดูถูก มองไปยังอี้เทียนหยุนราวกับกำลังมองคนโง่ ก็แค่เด็กหลังเขาที่เพิ่งเข้าเมืองมา จึงไม่รู้ว่าในเมืองนั้นมีพลังอะไรบ้าง

“เจ้าอย่าได้คิดว่าตนแข็งแกร่งนัก ตัวเจ้ายังห่างอีกมากเมื่อเทียบกับบุตรชายข้า! บุตรชายข้ามีกายาต้นกำเนิดน้ำแข็ง เข้ากันได้อย่างสมบูรณ์กับเสวี่ยอวิ๋น! แต่เจ้านับเป็นอะไร? แค่เผ่ามนุษย์กระจ้อยร่อย ที่สายเลือดอะไรก็ไม่มี ทำไมถึงได้กล้าย่างเท้าเข้ามาที่นี่? หรือจะเพราะความรัก? ช่างน่าขันจริงๆ อ่อนแล้วยังไม่เจียม!”

“ตอนนี้ข้าจะให้โอกาสเจ้า ไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ เพื่อประโยชน์ของเสวี่ยอวิ๋นเอง ตราบเท่าที่เธอยอมเป็นคู่บำเพ็ญเต๋าของบุตรชายข้า เรื่องที่เจ้าพูดก่อนหน้านี้ข้าจะไม่ถือสา อีกทั้งยังจะมอบอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์สองชิ้นให้เจ้าด้วย และยังมีหินวิญญาณ 10 ล้านก้อน รวมถึงโอสถชั้น 5 จำนวน 10 เม็ด ถือเป็นรางวัล ให้เจ้าไสหัวกลับไปยังโลกมนุษย์ให้กับข้า”

“สำหรับรางวัลนี้ กลัวว่าแม้แต่ขุมอำนาจส่วนใหญ่ในโลกมนุษย์ของเจ้าก็ไม่มีทางมี มันเพียงพอให้เจ้าเหลือกินเหลือใช้ไปอีกนาน”

ผู้อาวุโสเหมยเดือดดาลเป็นอย่างมาก เหมือนกับคนบ้าอย่างไงอย่างงั้น แต่หากว่าเธอสังหารอี้เทียนหยุนไป ไม่ต้องสงสัยเลยว่าชิเสวี่ยอวิ๋นจะเศร้าใจแค่ไหน เมื่อถึงตอนนั้น หากเธอเกิดฆ่าตัวตายขึ้นมา นั่นคงจะเป็นปัญหา

ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดก็คือการให้รางวัลอี้เทียนหยุนพร้อมกับให้เขาไสหัวกลับไป แบบนี้จะได้ทำให้ชิเสวี่ยอวิ๋นตัดใจจากเขาได้ ซึ่งถือว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด หลังจากตัดใจแล้ว แบบนี้เธอถึงจะยินยอมรับข้อเสนอของพวกเธอ ยอมตกลงปลงใจกับเหมยอี้หมิง

“อุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ 2 ชิ้น, หินวิญญาณ 10 ล้านก้อน, โอสถชั้นห้า สิบชิ้น?” อี้เทียนหยุนหัวเราะเยาะ สำหรับเขาแล้ว นี่ก็เป็นแค่กองขยะเท่านั้น!

อย่าว่าแต่อุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ 2 ชิ้นเลย ต่อให้เป็นอุปกรณ์ระดับเทวะ 10 ชิ้น เมื่อเทียบกับชิเสวี่ยอวิ๋นแล้วก็เป็นได้แค่ขยะ

“เป็นอะไร หรือว่าไม่พอ?” ผู้อาวุโสเหมยพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ “งั้นข้าก็จะมอบวิชายุทธ์ระดับสวรรค์ให้อีกชิ้น รวมถึงโอสถชั้นที่หกอีก เจ้าคิดว่ายังไง?”

เธอคาดหวังให้อี้เทียนหยุนรับของพวกนี้แล้วจากไป ไม่มีใครสามารถปฏิเสธสิ่งล่อลวงนี้ได้ โดยเฉพาะพวกที่มาจากโลกมนุษย์ ในสายตาของเธอ พวกที่มาจากโลกมนุษย์ก็เป็นได้แค่พวกชั้นต่ำเท่านั้น เมื่อมีรางวัลจำนวนมากกองอยู่ตรงหน้า ใครบ้างจะไม่ต้องการ?

เพื่อผู้หญิงคนหนึ่งแล้ว เขาจะยอมแพ้ต่อสิ่งของล่อใจทั้งหลายเหล่านี้เหรอ? นอกจากว่าสมองจะถูกเตะ ไม่อย่างนั้น ใครก็รู้ว่าควรเลือกอะไร

เหมยอี้หมิงที่อยู่ใกล้ๆ ก็มีสีหน้าดูถูกเช่นกัน คิดว่ายังไงอี้เทียนหยุนก็ต้องยอมรับของพวกนี้แล้วจากไป ผู้ฝึกตนในโลกมนุษย์สำหรับเขาแล้วก็เป็นได้แค่พวกยาจกเท่านั้น ไม่มีทางปฏิเสธผลประโยชน์ตรงหน้าได้แน่นอน

“ข้าจะให้อุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์เจ้า 5 ชิ้น, หินวิญญาณ 50 ล้านก้อน, โอสถชั้นห้าจำนวน 50 เม็ด, วิชายุทธ์ระดับสวรรค์ 5 วิชา, จากนั้นให้เจ้าไสหัวไปจากสายตาข้าเป็นยังไง? อย่าได้ตีค่าของเสวี่ยอวิ๋นด้วยขยะพวกนั้น เพราะว่ามันไม่คู่ควร!” อี้เทียนหยุนพูดอย่างไม่ใส่ใจ “เห็นแก่ที่เจ้าไม่ได้ทำไม่ดีต่อเสวี่ยอวิ๋น ข้าจะถือว่าของที่พูดมาเมื่อกี้นี้เป็นของค่าชดเชย!”

ผู้อาวุโสหว่านตาโตด้วยความตกใจ อี้เทียนหยุนมีของพวกนี้จริงๆ? ของพวกนี้อาณาจักรทั่วๆ ไม่สามารถมีได้ มีเพียงแต่แดนศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นถึงจะสามารถเอาของพวกนี้ออกมาได้

ไม่รู้ว่านี่เป็นแค่คำโอ้อวด หรือว่าความจริง

“ยังจะทำปากดีอีก พวกยาจกที่ไม่รู้ความอย่างเจ้า สามารถเอาของจำนวนมากอย่างนี้ออกมาได้จริงๆ?” เหมยอี้หมิงพูดอย่างดูถูก “ไม่ต้องพูดอะไรออกมาอีก ต่อให้เจ้ามีเวลาหลายสิบปี เจ้าจะสามารถสะสมของพวกนี้ได้ครบหรือเปล่าก็ยังไม่รู้? หากว่าเจ้าสามารถเอาของพวกนี้ออกมาตอนนี้ได้ ข้ายอมเดินกลับหลังเลย เจ้าโง่!”

“ฟรึบ!”

อุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ 5 ชิ้น โผล่มาปักอยู่บนพื้นต่อหน้าเขาอย่างง่ายดาย เมื่อทุกคนได้เห็นก็พลันพากันตกใจ นี่คืออุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ 5 ชิ้นจริงๆ!

“หากว่าอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ 5 ชิ้นยังไม่พอ ข้ายังสามารถเพิ่มชุดเกราะหรือของอย่างอื่นเข้าไปเพิ่มได้อีก” อี้เทียนหยุนโบกมือ จากนั้นก็มีชุดเกราะโผล่อออกมา อีกทั้งยังเป็นชุดเกราะระดับศักดิ์สิทธิ์ ของพวกนี้เป็นของที่เขาได้มาหลังจากสังหารผู้ฝึกตนเมื่อก่อนหน้า ตอนนี้กลับถูกวางกองบนพื้นราวกับเป็นแค่ขยะ จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงไม่ใส่ใจว่า “ตอนนี้เจ้าสามารถเดินกลับหลังได้แล้ว”

ผู้คนพากันตกใจ ก่อนหน้านี้คิดว่าอี้เทียนหยุนแค่คุยโตเท่านั้น แต่ใครจะคิดว่าเขาจะโยนอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์กองหนึ่งออกมาจริงๆ อีกทั้งในของกองนี้ ยังเต็มไปด้วยหินวิญญาณและโอสถ ซึ่งถือว่าเกินพอเลยทีเดียว

ในเมื่ออีกฝ่ายต้องการทำให้เขาอับอายด้วยเงินทอง งั้นเขาก็จะทำให้อีกฝ่ายอับอายด้วยเงินทองที่มากกว่า เห็นได้ชัดว่าอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ 5 ชิ้นนี้ เป็นได้เพียงขยะสำหรับเขาอย่างแท้จริง ยังมีอะไรให้ต้องคุยกันอีก!

“นะ นี่เป็นไปไม่ได้ เจ้า เจ้าจะไปมีอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์มากมายขนาดนี้ได้ยังไง….. เจ้าจะต้องขโมยมันมาอย่างแน่นอน!” หลังจากที่เหมยอี้หมิงได้สติ เขาก็ชี้นิ้วใส่อี้เทียนหยุนด้วยความโกรธและความอับอาย ไม่มีทางที่เขาจะทำตามคำพูดที่ลั่นออกมาก่อนหน้านี้อย่างเด็ดขาด

“เพิ่งจะพูดกับปากก็กลับคำซะแล้ว พวกเจ้านี่ช่างเหมือนกันจริงๆ คนกลับกลอกเช่นนี้ เป็นประเภทที่ข้าเกลียดที่สุด!” อี้เทียนหยุนมองไปยังผู้อาวุโสหว่านอย่างเย็นชา คำที่พวกเขาคุยกันก่อนหน้านี้ เขาได้ยินกับหู

ผู้อาวุโสหว่านเงียบไป ไม่พูดปฏิเสธ เพราะที่อี้เทียนหยุนพูดนั้นคือความจริง หลังจากหลอกลวงแล้ว ความน่าเชื่อถือก็ได้ลดน้อยลง

“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าไปเอาอุปกรณ์ระดับศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากนี้มาจากไป แต่ข้าจะขอพูดเป็นครั้งสุดท้าย จะยอมรับของแล้วจากไป หรือว่าจะตายอยู่ที่นี่ ข้าให้เจ้าเป็นคนเลือก!” ผู้อาวุโสเหมยพูดอย่างเย็นชา “เสวี่ยอวิ๋นไม่ว่ายังไงก็ต้องอยู่ที่นี่ ไม่ว่าใครมา ก็ไม่สามารถพาเธอไปได้!”

ผู้อาวุโสเหมยไม่คิดว่าอี้เทียนหยุนจะเอาสมบัติจำนวนมากนี้ออกมาได้ นี่มันเป็นเหมือนกับการตบหน้าพวกเธอชัดๆ

“เจ้านี่มันอวดดีจริงๆ” อี้เทียนหยุนพูดอย่างไม่ใส่ใจ “เพราะความรุ่งเรืองเมื่อก่อน ก็เลยคิดว่าโลกเป็นของเจ้า? ตอนนี้น่ากลัวว่าแม้แต่สิบอันดับแรกพวกเจ้ายังไม่ติดเลยด้วยซ้ำ เพราะเอาแต่หมกตัวอยู่ที่นี่ จึงทำให้ความอวดดีของพวกเจ้าเพิ่มขึ้นไปอีก!”

“เจ้า!”

ผู้อาวุโสเหมยแทบจะระเบิดออกมาเพราะความโกรธ ผู้อาวุโสหว่านก็ตกใจเช่นกัน เธอไม่คิดว่าอี้เทียนหยุนจะกล้าพูดคำนี้ออกมา คนที่พูดคำนี้ออกมา ก็เทียบเท่ากับรนหาที่ตาย เทียบได้กับการรุกรานศักดิ์ศรีของเผ่าเทพเทียนเหมย

เผ่าเทพเทียนเหมยไม่ต้องการได้ยินคำนี้ที่สุด พูดได้ว่าเผ่าของพวกเธอตอนนี้น่าผิดหวังเป็นอย่างมาก ไม่ได้รุ่งเรืองเหมือนแต่ก่อน

“ดูเหมือนว่าเจ้าอยากจะตายอยู่ที่นี่งั้นสินะ บางคำที่ไม่ควรพูด เจ้าถึงได้กล้าพูดออกมา! วันนี้ไม่ว่ายังไง เจ้าก็ต้องตายอยู่ที่นี่!” ผู้อาวุโสเหมยระเบิดพลังระดับราชาวิญญาณออกมาในทันที พลังที่น่าสะพรึงผลักดันผู้คนที่อยู่รอบๆ ออกไป พร้อมกับสร้างแรงกดดันมหาศาลให้กับทุกคน

“เทียนหยุน พลังของพวกเขา….” ชิเสวี่ยอวิ๋นอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ว่าอี้เทียนหยุนกลับส่ายหัวให้กับเธอ

“ไม่ต้องเป็นห่วง แค่อยู่ข้างหลังข้าก็พอ ข้าจะปกป้องท่านเอง” อี้เทียนหยุนเผยรอยยิ้มคลุมเครือออกมา ทำให้ชิเสวี่ยอวิ๋นพลันรู้สึกสงบลงโดยพลัน รู้สึกว่าต่อให้โลกจะพังทลาย ก็ยังมีอี้เทียนหยุนช่วยประคองเอาไว้

จากนั้น เขาก็หันกลับไปมองผู้อาวุโสเหมยที่ระเบิดพลังออกมา พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาอย่างถึงที่สุด “ข้าจะขอพูดอีกครั้ง ใครขวางข้าตาย! ความอดทนของข้าถูกพวกเจ้าทำให้มันลดลงถึงขีดสุด ก่อนหน้านี้ก็ขวางข้าไม่ให้พาคนกลับไป อีกทั้งยังคิดจะใช้สิ่งของสร้างความอับอายให้กับข้า เจ้าบอกว่าจะให้ลูกชายของเจ้าแต่งงานกับท่านน้าของข้า? สำหรับมันนั้น แม้แต่เส้นผมของท่านน้าของข้ามันยังไม่คู่ควร แล้วยังคิดจะแต่งงานกับเธออีก?”

สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความดูถูก ขยะแบบนี้ต้องการแต่งงานกับชิเสวี่ยอวิ๋น ใครขวางเขาก็จะฆ่าคนนั้น!

Crazy Leveling System

Crazy Leveling System

Status: Ongoing
อ่านนิยายCrazy Leveling System ปมเพาะไม่ได้เพราะเส้นลมปราณพิการอย่างงั้นเหรอ? ไม่ใช่ปัญหา! เพราะมีระบบเพิ่มเลเวล แสนบำคลั่งอยู่ เจ้าแค่หภารกิจ สังหารสัตว์อสูร ดูดกลืนพลังวิญญาณของคนอื่น หลอมยา หรือสลักอาคม แค่นี้เจ้าก็ได้ค่าประสบการณ์แล้ว! อะไรนะ! ค่าประสบการณ์ที่ได้มันต่ำไปอย่างงั้นเหรอ? อย่าได้กลัว เพราะข้มีปัตร ประสบการณ์ x2 หรือแม้กระทั่งปัตรประสบการณ์ x10 แค่นี้ค่าประสบการณ์ของเจ้าก็จะฟุง ทะยานราวกับพลุระเบิดแล้ว! น่าชัน อัจฉริยะ นายน้อยตระกูลใหญ่ จักรพรรดิผู้ครองอาณาจักร หรือกระทั่งอัจฉริยะที่ฟันปี จะมีสักครั้งอย่างงั้นเหรอ? เมื่ออยู่ต่อหนีระบบเพิ่มเลเวลแสนบำาคลั่งนี้ พวกมันลัวนถูกทิ้ง ห่างไปไกล! "เฮ้ย นี่ข้เลเวลอัพอีกแล้วเหรอ?" อี้เทียนหยุนที่ตื่นขึ้นมาและพบว่าเลเวลของเขาได้เพิ่มขึ้น อีกครั้ง.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset