Crazy Leveling System ตอนที่ 686: สี่กระบี่ทำลายตำหนัก

ตอนที่ 686: สี่กระบี่ทำลายตำหนัก

“กระบี่นี้ทำลายมหาค่ายกลของเจ้า ยังคิดว่ามหาค่ายกลผุๆ ของเจ้านี้ จะสามารถกักขังข้าได้อีกหรือเปล่า?”

อี้เทียนหยุนยิ้มเยาะ จากนั้นก็ตวัดกระบี่ออกไปอีกครั้ง เล็งไปยังตำแหน่งใกล้ๆ กัน คราวนี้เปลวเพลิงลุกโชนสูงถึงหลายร้อยจ้าง ก่อนจะสูงขึ้นเรื่อยๆ จนแตะระดับพันจ้างในพริบตา พลังเพิ่มขึ้นมาอีกครั้ง

นี่ทำให้สีหน้าของพวกเหมยชิงเหยียนแตกตื่นขึ้นไปอีก ผู้อาวุโสเหมยทรุดตัวลงนั่งกับพื้นพร้อมกับลมหายใจฮืดฮาด ในเวลานี้เธอยังจะไปมีความโกรธและเกลียดชังที่ไหนกัน ตอนนี้ทั้งหมดที่ว่ามานั้น ต่างก็ถูกแทนที่ด้วยความแตกตื่นโดยสมบูรณ์แล้ว

เธอคิดว่าพลังของอี้เทียนหยุนอย่างมากก็อยู่ที่ระดับราชาวิญญาณขั้นสูงสุด แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าระดับของอีกฝ่ายจะอยู่ไกลเกินกว่าที่พวกเธอจะคาดคิด แม้แต่มหาค่ายกลเทพเทียนเหมยก็ยังไม่สามารถยับยั้งอีกฝ่ายได้

“หยุด หยุดเดี๋ยวนี้!” เหมยชิงเหยียนรีบตะโกนออกมา ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความหมายแห่งความวิงวอน เทียบกับท่าทีที่สูงส่งเมื่อก่อนหน้านี้แล้ว พูดได้ว่าต่างกันราวสวรรค์และปฐพี

อี้เทียนหยุนที่แสดงพลังอันน่าสะพรึงออกมา แค่กระบี่เดียวก็ทำลายแกนกลางของมหาค่ายกลเทียนเหมยได้ ทำให้ในใจพวกเขาเกิดความรู้สึกขลาดกลัวขึ้นมา สัมผัสได้ถึงความไร้พลังของตน รู้สึกว่าตนไม่สามารถปะทะกับศัตรูตรงหน้านี้ได้

รอยแยกที่ลึกจนแทบจะลงไปถึงก้นนรกที่อยู่ใกล้ๆ เป็นหลักฐานที่ดีที่สุด ตำหนักขนาดใหญ่กลับถูกกระบี่เดียวผ่าแยกออกจากกันจนมีสภาพดูไม่ได้ พังทลายลงนับไม่ถ้วน! ตำหนักที่พวกหนักสร้างขึ้นมาอย่างเหนื่อยยาก กลับถูกทำลายลงเพียงพริบตา

มาตอนนี้พลังของอีกฝ่ายยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากว่ากระบี่นี้ถูกฟันลงมาอีกครั้ง ตำหนักเทียนเหมยของพวกเขายังจะเหลือที่สมบูรณ์อยู่สักกี่หลังกัน?

“กระบี่นี้ สำหรับพวกเจ้าที่มีเรื่องกับข้า!”

กระบี่ของเขาฟันลงมา “เปรี้ยง” กระบี่ยาวปักลึกลงไปยังยอดเขา หิมะรอบๆ พากันหลอมละลายในพริบตา และที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือพื้นดินที่เริ่มลุกไหม้ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นทะเลทรายที่แห้งแล้งผืนหนึ่ง

ต้นเทียนเหมยที่สวยงามในตอนนี้ ได้กลายเป็นเพียงเถ้ากองหนึ่ง สิ่งปลูกสร้างที่หรูหราพังทลายลงไปเป็นจำนวนมาก ทันใดนั้น ยอดเขากว่าครึ่งก็ได้กลายเป็นเหมือนกับโศกนาฏกรรม ไม่รู้ว่าภายใต้กระบี่นี้ มีผู้ฝึกตนที่ได้รับบาดเจ็บไปมากเท่าไหร่

เขายังมีเมตตาอยู่บ้าง ไม่ได้เลือกที่จะลงมือกับตำหนักที่คนจำนวนมากอาศัยอยู่ แต่เลือกที่จะจัดการกับตำหนักที่มีผู้คนอยู่น้อย หรือตำหนักที่คนส่วนใหญ่รีบหนีออกมาจนไม่มีคนอยู่แทน

ภายใต้แรงระเบิด พวกเขาหวาดกลัวจนขวัญหนีไปเรียบร้อยแล้ว จะกล้าอยู่ข้างในต่อได้ยังไง

ยังไงก็ตาม ก็มีบางคนที่อี้เทียนหยุนไม่คิดจะมีเมตตาเช่นกัน ภายใต้กระบี่ที่ปักลงไปนี้ ได้มีผู้อาวุโสบางคน หรือว่าผู้ฝึกตนที่มีระดับไม่อ่อนแอถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน โดยเฉพาะพวกที่ล้อมเขาไว้เมื่อกี้ แม้พวกเขาจะลงมือตามคำสั่งของเหมยชิงเหยียน แต่ลงมือก็คือลงมือ เขาไม่สนว่าจะมีเหตุผลอะไร หากลงมือกับเขา จุดจบที่ได้คือตาย!

นี่รวมถึงตัวเหมยชิงเหยียนเช่นกัน แต่ว่าเขายังไม่คิดที่จะกำจัดเขาในตอนนี้ เหตุผลนั้นก็ง่ายมาก เพราะว่าเขาต้องการให้อีกฝ่ายเป็นประจักษ์พยานในการพังทลายของตำหนักเทียนเหมย ให้เขาได้รู้ว่าอะไรคือความเสียใจ!

“กระบี่นี้ เพื่อเจ้าที่คิดว่าตนแข็งแกร่งกว่า และคิดจะให้ผู้หญิงของข้าแต่งงานกับลูกชายของเจ้า!”

กระบี่ของอี้เทียนหยุนร้ายกาจขึ้นอีกครั้ง เปลวเพลิงสูงขึ้นกว่าเดิมหลายสิบจ้าง ราวกับไม่มีที่สิ้นสุด ยิ่งมายิ่งยาวขึ้นเรื่อยๆ ภายใต้กระบี่นี้ ไม่ว่าจะเป็นที่พัก หรือค่ายกล ต่างก็ถูกทำลายลงอย่างง่ายดาย

ด้วยกระบี่นี้ ทำให้หุบเขาเทียนเหมยพังทลายลงไปกว่าครึ่งเป็นที่เรียบร้อย หากว่ายังมีกระบี่ต่อๆ ไปตามมา เกรงว่าที่นี่คือจะไม่มีอยู่ต่อไปแล้ว

ผู้ฝึกตนที่หนีออกมา มองมาที่นี่ด้วยสายตาแตกตื่น โดยเฉพาะทะเลเพลิงที่ลุกโชนอยู่ทุกที่ยิ่งน่ากลัวขึ้นไปใหญ่ เปลวเพลิงนี้ปกคลุมไปทั่วทั้งยอดเขา พร้อมกับเผาไหม้ทุกสิ่งรอบๆ อย่างรวดเร็ว ความเย็นของที่นี่ไม่สามารถยับยั้งเปลวเพลิงนี้ได้โดยสมบูรณ์ ยังคงมีการลุกไหม้กระจายออกไปรอบๆ อยู่ดี

นี่คือเปลวเพลิงนิรันดร์ เปลวเพลิงที่ไม่มีวันดับอย่างแท้จริง!

“หยะ หยุดเถอะ…..”

ความกล้าหาญของเหมยชิงเหยียนพังทลายลงโดยสมบูรณ์ ตำหนักทั้งหลายของพวกเขาถูกทำลายลงอย่างนี้ ทำให้ในใจของพวกเขารู้สึกเหมือนกับเลือดหยดลงมา รู้สึกเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด แต่พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้ ทำได้เพียงมองดูอยู่ใกล้ๆ อย่างหมดหนทางเท่านั้น

พวกเขาจะกล้าเข้าไปที่ไหนกัน หากเข้าไป จากคำพูดของอี้เทียนหยุน เกรงว่าคงถูกเปลวเพลิงพวกนั้นเผาจนเป็นเถ้า พวกเขาไม่คิดว่าตอนนี้จะสามารถจัดการกับอี้เทียนหยุนได้ สิ่งที่รู้สึกอย่างเดียวในตอนนี้ มีแต่ความหวาดกลัวเท่านั้น!

ปากของผู้อาวุโสเหมยเปิดกว้าง พร้อมกับน้ำตาแห่งความเสียใจที่หลั่งมาเป็นสาย แต่ทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้มีความหมายอะไร เธอได้ไปตอแยกับบุคคลที่ไม่ควรเข้าซะแล้ว ไปตอแยปีศาจที่น่าสะพรึงกลัวเข้า

“กระบี่นี้ เพื่อพวกเจ้าที่พูดจาดูถูกข้า!”

อี้เทียนหยุนสีหน้าเย็นชา กระบี่เทพเทียนหมิงในมือระเบิดพลังที่แข็งแกร่งกว่าเดิมออกมา ปลดปล่อยพลังของอุปกรณ์ระดับเทวะออกมาจนหมด หลังจากกระบี่นี้ฟันลงไป ยอดเขาก็ไม่มีเหลืออยู่ เปลวเพลิงลุกโหมออกไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง ทันใดนั้น ที่นี่ก็เต็มไปด้วยเสียงกรีดร้อง เขาไม่มีการใจอ่อนแม้แต่น้อย ไม่ยอมใจอ่อน

สำหรับศัตรูแล้ว เขาไม่มีทางใจอ่อนเด็ดขาด

“สหายท่านนี้ พอได้แล้วล่ะ…..”

ในตอนนี้เอง ได้มีลำแสงสีแดงยิงมาจากบนฟ้า ก่อนที่จะกลายเป็นดอกเหมยที่บานออก จากนั้นก็สาดกระจายลงมาราวกับหยาดฝน เริ่มดับเปลวเพลิงนิรันดร์ที่ลุกโชนอยู่

ภายใต้หยดน้ำพวกนี้ สามารถดับเปลวเพลิงนิรันดร์ลงได้จริงๆ แต่ว่าความเร็วก็ช้ามาก ช้ากว่าความเร็วในการทำลายของอี้เทียนหยุน

“ท่านประมุข!”

เมื่อเหล่าศิษย์ของเผ่าเทพเทียนเหมยเห็นประมุขออกมา ก็เปรียบเสมือนกับมองเห็นความหวัง เห็นเพียงชายผู้หล่อเหลาเดินเหยียบอากาศลงมา แต่ละก้าวที่เดิน บนอากาศก็จะปรากฏดอกเหมยขึ้น เบ่งบานเป็นสีแดงสดใสบนท้องฟ้า

ราวกับดอกเหมยมีชีวิตในทุกๆ ก้าวที่เดิน ราวกับเป็นเซียนอมตะก็ไม่ปาน

เหมยเหวินชู : ระดับราชาเซียนขั้นที่ 3, มีสายเลือดของเผ่าเทพเทียนเหมย สามารถแสดงพลังเทียนเหมย ซึ่งสามารถปลดปล่อยบรรยากาศที่แช่แข็งทุกอย่างได้ ฝึกวิชายุทธ์…..”

เหมยเหวินชู ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาเซียนขั้นที่ 3 แต่ดูเหมือนว่าในสายตาของอี้เทียนหยุนแล้ว เขาไม่ได้ต่างอะไรไปจากขยะ

“ท่านประมุข…..” เมื่อเหมยชิงเหยียนเห็นเหมยเหวินชูออกมา ก็พลันร้องตะโกนเสียงดัง “ท่านประมุข มันผู้นี้คือผู้บุกรุก ทำลายตำหนักเทียนเหมยของเรา รวมถึงมหาค่ายกลของเราด้วย…..”

“ท่านประมุข ขอท่านช่วยล้างแค้นให้พวกเราด้วย ลูกชายของข้าก็ถูกมันฆ่าเช่นกัน…..” ผู้อาวุโสเหมยคิดว่าประมุขของตนนั้นไร้เทียมทาน สามารถจัดการได้ทุกอย่าง

“หุบปาก!” เหมยเหวินชูตวาดออกมา พลังที่น่าสะพรึงกดทับลงมาอย่างหนัก ทำให้พวกเขาพากันทรุดเข่าลงกับพื้น แม้แต่ผู้อาวุโสคนอื่นก็เช่นกัน

“ท่านประมุข…..”

พวกเขาพากันตกใจ ทำไมประมุขของพวกเขาเหมือนจะไม่มีความคิดที่จะลงมือล่ะ?

หลังจากเหมยเหวินชูก้าวลงมา ก็มองมาที่อี้เทียนหยุนอย่างขอโทษ “สหายท่านนี้ ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของพวกเราเอง เป็นคนของพวกเราที่อวดดีเกินไป ได้โปรดขอเจ้ายกโทษให้กับความผิดของพวกเขาด้วย!”

นี่ทำให้พวกเขาพากันตาโต อี้เทียนหยุนสังหารคนของพวกเขาไปเป็นจำนวนมาก แต่ว่าสุดท้ายแล้ว เหมยเหวินชูกลับเป็นฝ่ายต้องขอโทษอีกฝ่ายแทน?

นี่เปรียบเสมือนกับตบหน้าพวกเขา แล้วยังให้พวกเขาคุกเข่าขอโทษอีก นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?

“ในที่สุดก็มีคนคุยกันรู้เรื่องออกมาสักที หากเจ้าออกมาตั้งแต่แรก เรื่องพวกนี้ก็คงไม่เกิด กลุ่มคนที่ทั้งโง่เง่าและอวดดี คิดว่าตัวเองเป็นหนึ่งในใต้หล้าหรือยังไง?

“ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ข้าก็จะให้โอกาสเจ้า คนอื่นข้าสามารถยกโทษให้ได้ แต่กับพวกมัน ข้าไม่มีทางปล่อยไปเด็ดขาด” อี้เทียนหยุนพูดอย่างไม่แยแส “ข้าเป็นคนมีหลักการอยู่เรื่องหนึ่งเสมอ นั่นคือทำอะไรต้องรับผลอย่างนั้น!”

เผชิญหน้ากับประมุขที่มาถึง เขาก็ยังต้องการชีวิตของสองคนนี้อยู่ดี เหมยชิงเหยียนและผู้อาวุโสเหมย สองคนนี้ไม่ว่ายังไงก็ต้องตาย ไม่มีผลลัพธ์อื่นให้เลือก!

ต่อให้ตำหนักเทียนเหมยถูกทำลายไปแล้ว พวกมันก็ยังต้องตายอยู่ดี และต่อให้ตำหนักเทียนเหมยจะไม่ถูกทำลาย พวกมันสองคนก็ต้องตาย นี่คือความอหังการของเขา

Crazy Leveling System

Crazy Leveling System

Status: Ongoing
อ่านนิยายCrazy Leveling System ปมเพาะไม่ได้เพราะเส้นลมปราณพิการอย่างงั้นเหรอ? ไม่ใช่ปัญหา! เพราะมีระบบเพิ่มเลเวล แสนบำคลั่งอยู่ เจ้าแค่หภารกิจ สังหารสัตว์อสูร ดูดกลืนพลังวิญญาณของคนอื่น หลอมยา หรือสลักอาคม แค่นี้เจ้าก็ได้ค่าประสบการณ์แล้ว! อะไรนะ! ค่าประสบการณ์ที่ได้มันต่ำไปอย่างงั้นเหรอ? อย่าได้กลัว เพราะข้มีปัตร ประสบการณ์ x2 หรือแม้กระทั่งปัตรประสบการณ์ x10 แค่นี้ค่าประสบการณ์ของเจ้าก็จะฟุง ทะยานราวกับพลุระเบิดแล้ว! น่าชัน อัจฉริยะ นายน้อยตระกูลใหญ่ จักรพรรดิผู้ครองอาณาจักร หรือกระทั่งอัจฉริยะที่ฟันปี จะมีสักครั้งอย่างงั้นเหรอ? เมื่ออยู่ต่อหนีระบบเพิ่มเลเวลแสนบำาคลั่งนี้ พวกมันลัวนถูกทิ้ง ห่างไปไกล! "เฮ้ย นี่ข้เลเวลอัพอีกแล้วเหรอ?" อี้เทียนหยุนที่ตื่นขึ้นมาและพบว่าเลเวลของเขาได้เพิ่มขึ้น อีกครั้ง.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset