Crazy Leveling System ตอนที่ 690: แต่งงานกันไหม

ตอนที่ 690: แต่งงานกันไหม

ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่ชิเสวี่ยอวิ๋นนอนพิงอกของอี้เทียนหยุน ใบหน้าของเธอเป็นสีแดงสดใส เธอไม่คิดว่าอี้เทียนหยุนอยู่ๆ จะใจกล้าขึ้นมา ทำให้สีหน้าของเธอตอนนี้เป็นเหมือนกับน้าสาวของเขาที่ไหน แต่กลับเหมือนสาวน้อยที่กำลังอยู่ในห้วงรักต่างหาก ดูแล้วท่าทางเต็มไปด้วยความสมยอมอย่างสมบูรณ์

“ท่านน้า ท่านรู้หรือเปล่าว่าตอนที่ท่านถูกพาตัวไปนั้น ข้ารู้สึกเป็นกังวลมากแค่ไหน?” อี้เทียนหยุนกุมมือเล็กๆ ของเธอแน่น พร้อมกับได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวเธอ รวมกันแล้วช่างรู้สึกสบายนัก

ที่จริงแล้วเวลาที่จากกันก็ไม่ได้นานเท่าไหร่นัก ก่อนหน้านี้หลังจากที่เขากลับมาจากสงคราม เขาก็จะอยู่เป็นเพื่อนเธอสักระยะ แต่ตั้งแต่ที่เธอถูกพามายังโลกสวรรค์ ความรู้สึกของเขาก็บอกว่ามันช่างยาวนานนัก

ชิเสวี่ยอวิ๋นเปรียบดั่งท่าเรือให้เขาเข้าเทียบท่า แต่ใครจะรู้ว่าอยู่ๆ ท่าเรือจะมาหายไป

“ในตอนนั้นที่ข้าตัดสินใจจะมายังเผ่าเทพเทียนเหมยนั้น ข้าก็รู้สักลังเลมากเช่นกัน แต่เมื่อคิดว่าข้าจะสามารถแข็งแกร่งขึ้น พร้อมกับมีโอกาสได้ตามหาพ่อแม่ของเจ้า ดังนั้นก็เลยตัดสินใจมา ในตอนนั้นเขาไม่ได้ต้องการอยากจะมาที่โลกสวรรค์นี้จริงๆ เหรอ…..” นัยน์ตาคู่งามของชิเสวี่ยอวิ๋นเหม่อมองไปยังท้องฟ้าสีครามที่อยู่ห่างออกไป แต่ว่าบนใบหน้ากลับเผยรอยยิ้มบางออกมา

ไม่ใช่เพราะสภาพแวดล้อมรอบๆ นั้นงดงามเกินไป แต่เป็นเพราะว่าข้างกายของเธอมีคนบางคนอยู่

“จากนี้ อย่าได้จากข้าไปไหนอีก ตกลงนะ?” อี้เทียนหยุนเข้าไปกระซิบข้างหูเธอ

“อืม….” ชิเสวี่ยอวิ๋นพยักหน้าเบาๆ พร้อมกับยื่นมือออกไปลูบใบหน้าอี้เทียนหยุน พร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ ว่า “ตั้งแต่เริ่ม ข้าก็ไม่อยากจะไปจากข้างกายผู้ชายตัวเล็กๆ อย่างเจ้าคนนี้อยู่แล้ว”

เธอเผยยิ้มออกมา ราวกับดอกไห่ถังที่ผลิบาน(ดอกบีโกเนีย) ดูงดงามจับตานัก

หลังจากอี้เทียนหยุนจ้องเธออยู่เป็นนาน เขาก็พูดด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนว่า “ท่านน้า หลังจากกลับไป พวกเราแต่งงานกันไหม?”

ชิเสวี่ยอวิ๋นตกใจ จากนั้นใบหน้าที่งดงามก็แดงสดใส พร้อมกับเบ้าตาที่ร้อนผ่าวขึ้นมา เธอไม่ได้ตอบกลับไปในทันที แต่พิงเข้าไปที่ไหล่ของเขาอย่างช้าๆ แล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า “เทียนหยุน เจ้าไม่รังเกียจข้าเหรอ? ข้าอายุมากกว่าเจ้านะ”

“อายุมากกว่าข้า? แค่ 7-8 ปีเอง นี่ถือว่ามากเหรอ? มีผู้ฝึกตนจำนวนมากที่ต่างก็มีคู่บำเพ็ญเต๋าที่อายุห่างกันหลายร้อยปี แล้วพวกเราจะไปมีปัญหาได้ยังไง?” อี้เทียนหยุนพูดอย่างไม่ใส่ใจ

“แต่ทำไมผู้หญิงที่เจ้าพามาถึงมีแต่อายุน้อยๆ กันล่ะ…..”

“……”

อี้เทียนหยุนพูดไปออกไปทันที จากนั้นก็อธิบายว่า “ท่านน้า ข้าแค่คิดว่าพวกเธอต่างก็มีศักยภาพเล็กน้อย ดังนั้นจึงได้ชวนพวกเธอมา จะเกี่ยวกับอายุของพวกเธอที่ไหนกัน? ก็แค่บังเอิญว่าพวกเธออายุน้อยกันทั้งนั้น เป็นเพราะข้าตั้งใจพามาแต่คนอายุน้อยซะเมื่อไหร่?”

“จริงเหรอ งั้นดูเหมือนว่าข้าจะคิดมากไป…..” ชิเสวี่ยอวิ๋นที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา จากนั้นก็พูดขึ้นมาอย่างอ่อนโยนว่า “ตกลง ข้าจะแต่งงานกับเจ้า…..”

อี้เทียนหยุนเชยคางเธอขึ้นอย่างอ่อนโยน พร้อมกับสบตาที่คู่งามที่เป็นเหมือนกับระลอกคลื่น เขาไม่พูดอะไรอีก แต่จูบลงไปที่ริมฝีปากของเธอหนักๆ แทน

……

ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ ก่อนที่พวกเขาจะแยกออกจากกัน อี้เทียนหยุนกอดเธอแน่นขึ้น ในใจของเขาตอนนี้รู้สึกมีความสุขอย่างมาก จะไม่ให้เขามีความสุขอย่างมากได้ยังไง? เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ มันทำให้เขามีความสุขอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ก่อนหน้านี้นานมาแล้ว เขาได้ตัดสินใจว่าต้องแต่งงานกับชิเสวี่ยอวิ๋นให้ได้ และตอนนี้เธอก็ได้รับปากเขา ทำให้ในใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่เอ่อล้นขึ้นมา ยากที่เอ่ยเป็นคำพูดออกมาได้

ในตอนนี้เขารู้สึกดีใจจนพูดไม่ออก ทำได้เพียงกระชับชิเสวี่ยอวิ๋นเข้ามาในอ้อมกอดให้แน่นขึ้น ราวกับกลัวว่าเธอจะหนีหายไป

นึกถึงก่อนหน้านี้ตอนที่ยังไม่ได้ระบบนี้มา ทุกอย่างล้วนเป็นไปอย่างยากลำบาก แต่ไม่ว่าจะเผชิญกับการเยาะเย้ยแบบไหน ชิเสวี่ยอวิ๋นก็จะเข้ามาช่วยเขาอยู่เสมอ พร้อมกับเสาะหาโอสถที่ช่วยเพิ่มเลือดฉีให้กับเขาไม่หยุด

ด้วยความพยายามอย่างหนักของเธอ ทำให้เขาเปิดใช้งานระบบที่ยากลำบากนี้ได้จริงๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโอสถโลหิตมังกรที่มีระดับสูงทำให้ระบบเปิดขึ้นมาได้ หรือจำเป็นต้องเป็นโอสถที่มีระดับสูงเทียบเท่าโอสถโลหิตมังกรก็ตามที แต่ตราบเท่าที่มันสามารถเปิดระบบได้ก็พอ

ก่อนหน้านี้เขานั้นอ่อนแอมาก ทำให้ชิเสวี่ยอวิ๋นไม่กล้าให้โอสถที่ล้ำค่ากับเขา ไม่ใช่เพราะกลัวว่ามันจะสูญเปล่า แต่กลัวว่าร่างกายของอี้เทียนหยุนจะรับไม่ได้

โอสถโลหิตมังกรก็เช่นกัน หลังจากที่รอให้สถานการณ์ของอี้เทียนหยุนอยู่ตัว เธอก็นำมันมามอบให้กับเขา

ก่อนหน้านี้ทุกอย่างนั้นมืดไปหมด แต่ว่าเขาก็ไม่ได้สิ้นหวัง ไม่ยอมตัดใจ เขาเชื่อว่าสักวัน เขาก็จะสามารถปกป้องชิเสวี่ยอวิ๋นได้เช่นกัน ไม่ใช่เป็นฝ่ายให้ชิเสวี่ยอวิ๋นเอาแต่ปกป้องตนเองฝ่ายเดียว!

ในตอนนี้เขามีพลังพอที่จะปกป้องชิเสวี่ยอวิ๋นแล้ว ยิ่งกว่านั้น ยังสามารถโจมตีสวนกลับพวกที่ไม่ชอบหน้าตนได้อีกด้วย

หลังจากนั้นสักพัก ชิเสวี่ยอวิ๋นก็มองไปด้านหน้าแล้วพูดอย่างเกียจคร้านว่า “ไม่รู้ว่าพี่สาวตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง…..”

ในใจอี้เทียนหยุนหนักอึ้ง ตอนนี้เขาต้องเผชิญหน้ากับปัญหาหนึ่ง นั่งก็คือเรื่องพ่อแม่ของเขา

“ท่านน้า สถานการณ์ของพ่อแม่ข้าเป็นยังไง ท่านได้ข่าวของพวกเขามาแล้วอย่างงั้นเหรอ?” อี้เทียนหยุนถาม

“ข้ายังไม่ได้ข่าวของพวกเขามาเลย ก่อนหน้านี้ข้าวางแผนว่าจะเพิ่มพลังให้มากกว่านี้ จากนั้นจึงค่อยออกไปหาข่าวดูอีกที” ชิเสวี่ยอวิ๋นพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ “แต่ใครจะคิดว่าเรื่องจะกลายมาเป็นแบบนี้ สุดท้ายแล้วข้าก็ได้มาหาข่าวด้วยกันกับเจ้า”

“ท่านน้า บอกกับท่านตรงๆ เลยนะ จริงๆ แล้วข้าไม่ได้สนใจเรื่องนี้สักเท่าไหร่หรอก” สีหน้าอี้เทียนหยุนยังคงเฉยชา ไม่ได้มีความสนใจต่อเรื่องของพ่อแม่ของตนแม้แต่น้อย

อย่างแรกเลยคือเขาไม่ได้มีความประทับใจใดๆ เลยสักนิด ยิ่งกว่านั้นยังไม่มีความทรงจำอะไรต่อพวกเขาอีก แล้วเขาจะไปมีความรู้สึกอะไรได้? หากจะให้บอกว่าคิดถึงพวกเขา นั้นก็ออกจะเป็นเรื่องโม้เหม็นเกินไป เห็นยังไม่เคยเห็น แล้วจะไปรู้สึกคิดถึงได้ยังไง?

หากว่าได้เจอกันขึ้นมา อย่าว่าแต่ความรู้สึกเคารพอะไรเลย กลัวว่าจะมีแต่ความไม่ชอบขี้หน้าซะมากกว่า ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่เคารพบิดามารดา แต่การมาทิ้งเขาไปอย่างนี้ มันออกจะเป็นการไม่รับผิดชอบเกินไปจริงๆ

ต่อให้จะบอกว่ามีความยากลำบากอะไรก็ไม่มีความหมาย เพราะหากว่าเขาตายไป พ่อแม่จะมีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาอีก?

“ข้ารู้ว่าในใจเจ้าเกลียดชังพวกเขา แต่ถึงยังไงพวกเขาก็ยังเป็นพ่อแม่ของเจ้า” สายตาของชิเสวี่ยอวิ๋นเป็นประกายบางอย่าง “ที่สำคัญคือข้าอยากจะเห็น อยากจะรู้ว่าตอนนี้พี่สาวเป็นยังไงบ้าง ตั้งแต่ที่เธอตัดสินใจจากไปในตอนนั้น ข้าอยากจะรู้ว่าการตัดสินใจของเธอเป็นสิ่งถูกหรือเปล่า! หากว่าถูก ข้าก็จะไม่พูดอะไรมาก แต่ถ้าหากไม่ถูกแล้วล่ะก็ ข้าก็จะตีให้เธอตื่น พร้อมกับลากเธอกลับไปยังโลกมนุษย์ด้วยกัน!”

“และข้าก็อยากจะรู้ว่าพ่อของเจ้า สุดท้ายแล้วเขาจะมีความรับผิดชอบหรือเปล่า ที่ข้ามายังโลกสวรรค์นี้ เหตุผลหลักก็เพื่อมาหาคำตอบพวกนี้”

สายตาเธอเป็นประกายวาว ที่เธอขึ้นมาที่นี่ ก็เพื่อที่จะมาหาคำตอบพวกนี้ ในตอนแรกเธอถูกงานหลายๆ อย่างฉุดรั้งไว้ ทำให้ไม่สามารถออกมาตามหาพ่อของอี้เทียนหยุนได้ และก็เพราะว่าไม่มีทางให้กลับ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ออกตามหา

ตอนนี้เวลาก็ได้ผ่านมาเกือบ 20 ปีแล้ว ไม่รู้ว่าสถานการณ์ที่นั่นจะเป็นอะไรบ้าง สำหรับผู้ฝึกตนแล้ว เวลาเพียงแค่นี้อาจจะเป็นแค่ชั่วพริบตา แต่ถ้าเกิดมีเรื่องอะไรขึ้น มันก็สามารถเกิดการเปลี่ยนแปลงที่มากมายได้

“ตกลง ข้าจะเป็นเพื่อนท่านน้าไปตามหาด้วยกัน ไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่ในขุมอำนาจไหน ท่านพอจะจำได้หรือเปล่า?” อี้เทียนหยุนถาม

ตราบเท่าที่รู้ชื่อ ก็สามารถตรงไปหาได้เลย กลัวก็แต่จะไม่รู้อะไรเนี่ยสิ นี่ก็เหมือนกับเผ่าเทพเทียนเหมย ดีที่เขาบังเอิญได้เบาะแสมา ไม่อย่างนั้นคงยากที่จะหาจริงๆ

ที่นี่มีขุมอำนาจอยู่มากมายนัก คิดจะหาเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่แน่นอนว่าเพียงแค่เขาสะสมค่าความคลั่งครบ 3 ล้าน ทุกอย่างก็จะไม่มีปัญหา

Crazy Leveling System

Crazy Leveling System

Status: Ongoing
อ่านนิยายCrazy Leveling System ปมเพาะไม่ได้เพราะเส้นลมปราณพิการอย่างงั้นเหรอ? ไม่ใช่ปัญหา! เพราะมีระบบเพิ่มเลเวล แสนบำคลั่งอยู่ เจ้าแค่หภารกิจ สังหารสัตว์อสูร ดูดกลืนพลังวิญญาณของคนอื่น หลอมยา หรือสลักอาคม แค่นี้เจ้าก็ได้ค่าประสบการณ์แล้ว! อะไรนะ! ค่าประสบการณ์ที่ได้มันต่ำไปอย่างงั้นเหรอ? อย่าได้กลัว เพราะข้มีปัตร ประสบการณ์ x2 หรือแม้กระทั่งปัตรประสบการณ์ x10 แค่นี้ค่าประสบการณ์ของเจ้าก็จะฟุง ทะยานราวกับพลุระเบิดแล้ว! น่าชัน อัจฉริยะ นายน้อยตระกูลใหญ่ จักรพรรดิผู้ครองอาณาจักร หรือกระทั่งอัจฉริยะที่ฟันปี จะมีสักครั้งอย่างงั้นเหรอ? เมื่ออยู่ต่อหนีระบบเพิ่มเลเวลแสนบำาคลั่งนี้ พวกมันลัวนถูกทิ้ง ห่างไปไกล! "เฮ้ย นี่ข้เลเวลอัพอีกแล้วเหรอ?" อี้เทียนหยุนที่ตื่นขึ้นมาและพบว่าเลเวลของเขาได้เพิ่มขึ้น อีกครั้ง.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset