Crazy Leveling System ตอนที่ 725: ประกาศ

ตอนที่ 725: ประกาศ

ความทะเยอทะยานของอี้เทียนหยุนทำให้พวกเขาพากันตกใจ จากนั้นสัวไค่เฟิงก็หัวเราะออกมา มองมาที่เขาแล้วพูดขึ้นว่า “เด็กหนุ่มก็ควรจะมีความทะเยอทะยานแบบนี้แหละ พูดได้ดี สักวันเจ้าจะต้องกลายเป็นราชาศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างแน่นอน! แต่เส้นทางที่จะกลายเป็นราชาศักดิ์สิทธิ์นั้นยากมาก กระทั่งไม่มีอะไรมาชี้วัดว่าจะสามารถทำสำเร็จ แล้วเจ้าจะกลายเป็นราชาศักดิ์สิทธิ์ได้ยังไง?”

“ใช่ การจะเข้าสู่ระดับราชาศักดิ์สิทธิ์นั้นยากมาก แต่ตราบใดที่ยังก้าวเดินไปยังเส้นทางนี้ สักวันมันจะต้องมีโอกาสอย่างแน่นอน!” อี้ซิงเฉินก็พูดออกมาอย่างห้าวหาญเช่นกัน ไม่ได้คิดจะด่าว่าอะไร

คนอื่นๆ ต่างก็พากันแสดงสีหน้าฮึกเหิม ไม่คิดว่าอี้เทียนหยุนจะไม่สามารถเข้าสู่ระดับราชาศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างเด็ดขาด พูดได้แค่ว่าเขามีโอสถที่จะเข้าสู่ระดับราชาศักดิ์สิทธิ์อยู่มาก เพราะถึงยังไงเขาก็ยังเด็กอยู่ ยังมีเวลาอีกเยอะ พูดไม่ได้ว่าเขาจะไม่มีโอกาสเข้าสู่ระดับราชาศักดิ์สิทธิ์เลย

ส่วนจะให้เชื่อว่าเขาจะสามารถเข้าสู่ระดับราชาศักดิ์สิทธิ์ได้ 100% ไหมนั้น แน่นอนว่าไม่มีใครกล้ารับประกันแม้แต่น้อย ใช่ว่าจะไม่เคยมีอัจฉริยะระดับนี้ปรากฏขึ้นมาก่อน ตอนยังเด็กต่างก็พากันประสบความสำเร็จจนมีระดับที่สะพรึงกลัว แต่ว่าอย่างรวดเร็วก็ได้มาถึงขีดจำกัด และยากที่ก้าวหน้าแม้แต่ครึ่งก้าว

ดังนั้น พวกเขาจึงไม่กล้าพูดอย่างมั่นใจ พูดได้แค่ว่าหากพยายามอย่างหนัก ก็จะมีโอกาสเป็นไปได้ ที่จะเข้าสู่ระดับนี้

อี้เทียนหยุนรู้ว่าในใจของพวกเขาคิดอะไร แต่ว่าเขาก็ไม่ได้พูดอะไร ระดับราชาศักดิ์สิทธิ์ยากที่จะไปถึงจริงๆ นั่นล่ะ หากว่าไปถึงได้ง่ายๆ ต่อให้จะไม่ถึงกับต้องมีราชาศักดิ์สิทธิ์อยู่ทุกที่ แต่อย่างน้อยก็น่าจะเห็นสัก 1-2 คน

แต่ตอนนี้ราชาศักดิ์สิทธิ์กลับไม่ปรากฏเลยสักคน แม้แต่ขุมอำนาจอันดับ 1 ก็ยังไม่เคยได้ยินว่ามีระดับราชาศักดิ์สิทธิ์ มีแต่ระดับราชาเซียนขั้นสูงสุดอยู่ 2-3 คน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่มีใครที่จะเข้าสู่ระดับราชาศักดิ์สิทธิ์เลย

นี่ก็เหมือนกับการวิ่งไล่จับอะไรสักอย่าง แม้จะมีความสามารถที่จะเลื่อนระดับได้ แต่ก็เหมือนกับมีอะไรสักอย่างมาขวางเอาไว้ ทำให้ไม่สามารถที่จะเลื่อนระดับขึ้นไปได้

จากนั้น เขาก็รู้สึกเหมือนมีความอบอุ่นสายหนึ่งส่งมา และเมื่อเขาหันไปดู เขาก็พบว่าชิเสวี่ยอวิ๋นได้กุมมือของเขาไว้อย่างอ่อนโยน จากนั้นก็พูดด้วยนัยน์ตาคู่งามที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นว่า “ข้าเชื่อเจ้า”

โดยที่ไม่ต้องมีคำพูดมากมาย เพียงแค่สามคำสั้นๆ ก็แสดงให้เห็นว่าเธอนั้นเชื่อว่าอี้เทียนหยุนจะต้องสามารถเข้าสู่ระดับราชาศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างแน่นอน! เธอเชื่อว่าผู้ชายของเธอจะต้องกลายเป็นราชาศักดิ์สิทธิ์ กลายเป็นราชาของสามโลกได้อย่างแน่นอน!

อี้เทียนหยุนเผยรอยยิ้มมั่นใจออกมา มีเธอที่เชื่อมั่น และสนับสนุน เท่านี้ก็พอแล้ว

“100 ปี เวลาเท่านี้สำหรับพวกเราแล้วไม่ถือว่ามาก ดังนั้น ข้าวางแผนว่าจะลงไปยังโลกใต้พิภพดู ดูว่ามีขุมอำนาจอะไรที่ราชาศักดิ์สิทธิ์ก่อตั้งขึ้นหรือเปล่า มีแต่ต้องร่วมมือกันเท่านั้น ถึงจะมีโอกาสจัดการกับปีศาจร้ายตนนี้ได้” อี้เทียนหยุนพูดอย่างจริงจัง “บางทีจากนี้ไปข้าอาจจะกำราบปีศาจร้ายตนนี้ได้ แต่ข้ามีลางสังหรณ์บางอย่าง ว่านอกจากปีศาจตนนี้แล้ว ยังจะต้องมีปีศาจอีกมากที่บุกเข้ามา!”

“เมื่อถึงต้องนั้น พวกเราจำต้องพึ่งความรวมมือของทุกคนเพื่อช่วยกันต้าน ไม่ใช่ว่าต่างคนต่างอยู่เหมือนกับตอนนี้”

“ปีศาจหลายตัวบุกเข้ามา…..”

พวกเขาพากันมองหน้ากันด้วยความตกใจ นี่เป็นเรื่องที่น่าสะพรึงมาก แต่เมื่อคิดดูดีๆ แล้ว นี่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อมีปีศาจตนแรกบุกเข้ามาได้ ยังไงก็จะต้องมีปีศาจอีกหลายตนบุกเข้ามาอีกอย่างแน่นอน เรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น

“เด็กเอ๊ย ภาระหน้าที่รับผิดชอบบนบ่าของเจ้า ช่างหนักหนาสาหัสจริงๆ…..” สัวไค่เฟิงถอนหายใจ “เอาล่ะ ในเมื่อเจ้าไม่คิดที่จะอยู่ที่นี่ จำเป็นต้องกลับไปจัดการขุมอำนาจในโลกมนุษย์ของเจ้า แต่ก่อนที่จะไป ข้าสามารถช่วยเจ้าได้ ข้าจะพาเจ้าไปรับมรดกของท่านบรรพบุรุษ”

“ท่านประมุข?”

อี้หยวนหลงกับพวกพากันแสดงสีหน้าตกใจ ต้องรู้นะว่าหากคิดจะสัมผัสกับมรดกของบรรพบุรุษ จำเป็นต้องมีตำแหน่งประมุขหรือไม่ก็ระดับผู้อาวุโสเสียก่อนถึงจะดี แต่ตอนนี้อี้เทียนหยุนไม่คิดจะอยู่ที่นี่ แล้วจะให้เขารับมันได้ยังไง?

“ข้ารู้ว่าพวกเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่ ด้วยเพียงปัญหานี้ กับเทียนหยุนที่เป็นทายาทของท่านบรรพบุรุษ การจะเข้ารับมรดกย่อมไม่ใช่ปัญหาใหญ่ จะห่วงก็แต่สายเลือดที่เบาบาง จะทำให้ประสิทธิภาพที่ได้ค่อนข้างน้อย แต่ยังไงก็ยังดีกว่าไม่มี”

“ส่วนเรื่องผู้อาวุโสคนอื่น หรือคนอื่นๆ จะขัดขวางนั้น แค่ให้เทียนหยุนขึ้นเป็นผู้อาวุโสของพวกเราก็พอ โดยที่เขาไม่ต้องรับผิดชอบหน้าที่อะไร ไม่มีการจำกัดอิสรภาพ แบบนี้คงไม่มีปัญหาอะไรแล้วใช่ไหม?”

สัวไค่เฟิงมองไปยังอี้เทียนหยุน อยากจะฟังว่าเขาจะตอบว่ายังไง

“ไม่มีปัญหา จะให้ข้าเป็นผู้อาวุโสหรืออะไรล้วนไม่มีปัญหา ข้าก็แค่รู้สึกว่าจะมีคนจำนวนมากคัดค้านไม่ให้ข้าขึ้นเป็นผู้อาวุโสซะมากกว่า….” อี้เทียนหยุนยิ้มอย่างดูถูก ตัวเองสังหารผู้อาวุโสไปสองคน พวกที่อยู่ฝั่งผู้อาวุโสใหญ่ย่อมออกมาคัดค้านอย่างแน่นอน

“ไม่ต้องกลัว ต่อให้จะมีคนคัดค้าน ข้าก็จะทำให้เจ้าเป็นผู้อาวุโสอยู่ดี” สีหน้าของสัวไค่เฟิงเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ “ในเมื่อไม่มีอะไรแล้ว งั้นข้าก็จะพาเจ้าไปรับมรดกของท่านบรรพบุรุษตอนนี้เลยเป็นไง?”

“แน่นอนว่าย่อมไม่มีปัญหา” อี้เทียนหยุนยิ้ม เขาไม่ต่อต้านที่ต้องรับมรดกเพิ่มขึ้นมา ยิ่งมีมากเท่าไหร่ยิ่งดี โดยเฉพาะเขารู้สึกสงสัยในพลังดารานี้อย่างมาก แม้สายเลือดของเขาจะเบาบาง แต่หากหากได้การรับปลุกพลังแล้วล่ะก็ จะต้องสามารถระเบิดพลังที่แข็งแกร่งขึ้นมาได้อย่างแน่นอน

ใครกันจะรังเกียจที่ตัวเองจะแข็งแกร่งเกินไป? แน่นอนว่ายิ่งแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ยิ่งดี

จากนั้น ภายใต้การนำของสัวไค่เฟิง พวกเขาก็ได้เข้ามายังยอดสุดของเขาเทพเฟิงเทียน ที่นี่มีศิษย์นับไม่ถ้วนคอยทำการป้องกัน ซึ่งแต่ละคนก็เป็นระดับวิญญาณเที่ยงแท้ด้วยกันทั้งนั้น และเมื่อพวกเขาเห้นสัวไค่เฟิงมา ก็พลันรีบเปิดทางให้พวกเขาเข้าไปในทันที

และในระหว่างทางที่เดินนั้น ด้านหลังก็พลันมีเสียงร่ำร้องดังมา

“ประมุข ท่านประมุข!”

คนกลุ่มหนึ่งพากันวิ่งเข้ามา และส่วนใหญ่ก็เป็นศิษย์หัวกะทิ ซึ่งแต่ละคนก็เป็นถึงกระดูกสันหลังของแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียน

“มีเรื่องอะไร?” สัวไค่เฟิงหันไปมองพวกเขา พร้อมกับพูดด้วยสีหน้าเฉยชา ทั้งหมดนี้ไม่ได้ผิดไปจากที่เขาคาดเอาไว้เลย

“ท่านประมุข ท่านกำลังนำพวกเขาไปยังสถานที่เก็บศิลาเทเพเฟิงเทียนอย่างงั้นเหรอครับ?” ผู้อาวุโสห้าแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มคนนี้มาได้ถามขึ้น

“ใช่ แล้วมีปัญหาอะไรอย่างงั้นเหรอ?” สัวไค่เฟิงพูดอย่างไม่ใส่ใจ

“ไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ เพียงแต่ว่าท่านคิดจะให้ใครเข้ารับมรดกของศิลาเทพเฟิงเทียนอย่างงั้นเหรอ?” ผู้อาวุโสห้ามีสีหน้าหดหู่ ขณะที่ศิษย์นับไม่ถ้วนที่ตามมาต่างก็มีสีหน้าจริงจัง มีสายตาไม่เป็นมิตร เห็นได้ชัดว่ารู้สึกแย่ต่อผู้มาใหม่

“ข้าจะให้เขาเข้ารับมรดก” สัวไค่เฟิงชี้ไปยังอี้เทียนหยุนแล้วพูด

“ท่านประมุข เรื่องนี้ทำไม่ได้! เขาไม่ใช่คนของแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียน ยิ่งกว่านั้นยังไม่ใช่ผู้อาวุโส ไม่สามารถเข้ารับมรดกได้อย่างเด็ดขาด!” ผู้อาวุโสห้าสีหน้าจมลง เป็นอย่างที่เขาคิดไว้จริงๆ ด้วย

กลุ่มคนขนาดใหญ่ที่มานี้ ต่างก็มาดูว่าใครจะเป็นผู้เข้ารับมรดก ซึ่งพวกเขาก็คาดกันไว้ก่อนแล้วว่าต้องเป็นอี้เทียนหยุน ซึ่งอี้หยวนหลงและอี้ซิงเฉินต่างก็เคยเข้ารับมรดกกันเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีทางที่จะเป็นพวกเขาไปได้

“ข้าตั้งใจว่าจะแต่งตั้งให้เขาเป็นผู้อาวุโสรอง ขึ้นรับตำแหน่งผู้อาวุโสรองอย่างเป็นทางการ” สัวไค่เฟิงประกาศออกมา “ข้าได้ตัดสินใจเรื่องนี้แล้ว จากนี้จะขอประกาศอีกครั้ง ในเมื่อผู้อาวุโสห้าพูดอย่างนี้ ข้าก็จะขอประกาศว่า จากนี้ไป ผู้อาวุโสรองจะเตรียมขึ้นรับตำแหน่งประมุขต่อจากข้า กลายเป็นประมุขของแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียน! ยิ่งกว่านั้น อี้ซิงเฉินก็จะขึ้นรับตำแหน่งผู้อาวุโสใหญ่ด้วย!”

ทันทีที่มีการประกาศออกมา ก็ทำให้คนทั้งหลายพากันตกใจ ไม่เพียงแต่จะให้อี้เทียนหยุนเป็นผู้อาวุโสรองเท่านั้น แต่อี้หยวนหลงยังจะกลายเป็นประมุขคนถัดไปด้วย! และแม้แต่ตำแหน่งผู้อาวุโสใหญ่ก็จะตกเป็นของอี้ซิงเฉิน จากนี้ไป อำนาจทุกอย่างก็จะตกไปอยู่ในกำมือของตระกูลอี้ หากพวกเขาบอกว่าหนึ่ง แล้วยังจะมีใครกล้าบอกว่าสองกัน?

อี้หยวนหลงเป็นประมุข อี้ซิงเฉินเป็นผู้อาวุโสใหญ่ ขณะที่อี้เทียนหยุนเป็นผู้อาวุโสรอง พูดไปแล้วช่างน่ากลัวจริงๆ

Crazy Leveling System

Crazy Leveling System

Status: Ongoing
อ่านนิยายCrazy Leveling System ปมเพาะไม่ได้เพราะเส้นลมปราณพิการอย่างงั้นเหรอ? ไม่ใช่ปัญหา! เพราะมีระบบเพิ่มเลเวล แสนบำคลั่งอยู่ เจ้าแค่หภารกิจ สังหารสัตว์อสูร ดูดกลืนพลังวิญญาณของคนอื่น หลอมยา หรือสลักอาคม แค่นี้เจ้าก็ได้ค่าประสบการณ์แล้ว! อะไรนะ! ค่าประสบการณ์ที่ได้มันต่ำไปอย่างงั้นเหรอ? อย่าได้กลัว เพราะข้มีปัตร ประสบการณ์ x2 หรือแม้กระทั่งปัตรประสบการณ์ x10 แค่นี้ค่าประสบการณ์ของเจ้าก็จะฟุง ทะยานราวกับพลุระเบิดแล้ว! น่าชัน อัจฉริยะ นายน้อยตระกูลใหญ่ จักรพรรดิผู้ครองอาณาจักร หรือกระทั่งอัจฉริยะที่ฟันปี จะมีสักครั้งอย่างงั้นเหรอ? เมื่ออยู่ต่อหนีระบบเพิ่มเลเวลแสนบำาคลั่งนี้ พวกมันลัวนถูกทิ้ง ห่างไปไกล! "เฮ้ย นี่ข้เลเวลอัพอีกแล้วเหรอ?" อี้เทียนหยุนที่ตื่นขึ้นมาและพบว่าเลเวลของเขาได้เพิ่มขึ้น อีกครั้ง.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset