ตอนที่ 741: ยั่วยุ
การโจมตีที่อี้เทียนหยุนแสดงออกมาคราวนี้เมื่อเทียบกับครั้งก่อนแล้วแข็งแกร่งกว่าอีกขั้น เพราะครั้งนี้นั้นได้เล็งเป้าไปยังผู้เชี่ยวชาญระดับราชาเซียนเพื่อทำการปราบปรามอีกฝ่าย!
ลำแสงแห่งความตายเข้าปกคลุมเต็มพื้นที่เหมือนกับก่อนหน้า พร้อมกับทำการกลืนกินบริเวณนั้นโดยสมบูรณ์ แม้แต่เสียงกรีดร้องสักนิดยังไม่มีดังออกมา ล้วนแต่ถูกสะกดโดยสมบูรณ์
ผู้คนพากันมองไปยังบริเวณที่ลำแสงแห่งความตายเข้าปกคลุมด้วยท่าทางตกตะลึง พลังในคราวนี้แข็งแกร่งกว่าก่อนหน้ามาก แค่คิดว่าตัวเองอยู่ข้างใน ก็ทำเอารู้สึกขนลุกแล้ว หากว่าถูกโจมตี พวกเขาจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย และจะเป็นการตายที่ไม่เหลือไว้แม้แต่เศษละออง
พลังนี้น่าสะพรึงมากจริงๆ เทียบกับก่อนหน้านี้แล้วน่าสะพรึงกว่ากันมาก โดยเฉพาะก่อนหน้านี้ที่ลงมือจนทำให้ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณตาย หากว่าโดนพลังนี้เข้าไปอีก คงจะตายจนไม่สามารถตายได้อีก
“พะ พลังดารานี่ ไม่น่ากลัวเกินไปหน่อยเหรอ?”
“ใช่ ข้าไม่เคยเห็นพลังดาราไหนที่น่าสะพรึงขนาดนี้มาก่อน ผู้อาวุโสจำนวนมากอย่างมากก็จุดติดไม่เกินห้าดารา แต่พลังที่ใช้ออกมาก็ถือว่าท้าทายสวรรค์มากพอแล้ว มาตอนนี้คือพลังของสิบดารา…..”
“ในปัจจุบันนี้มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่จุดสิบดาราติด นี่มันช่างน่ากลัวมากจริงๆ โชคดีที่เขาเป็นคนของแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนเรา ไม่อย่างนั้นพวกเราคงจบสิ้นอย่างแน่นอน!”
……
ผู้คนพากันมองไปที่อี้เทียนหยุนด้วยความกลัว มีบางคนที่รู้ว่าอี้เทียนหยุนคือคนที่จุดสิบดาราติด แต่ส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าสิบดารานั้นคืออุปกรณ์ระดับเทวะ เมื่ออุปกรณ์ระดับเทวะสิบชิ้นโจมตีลงมา ตราบเท่าที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญระดับราชาศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาก็ไม่มีทางที่จะฝืนความตายของพวกเขาได้
โดยเฉพาะอุปกรณ์ระดับเทวะทั้งสิบชิ้นนี้นั้น พวกมันต่างก็ทำการดูดซับพลังวิญญาณรอบๆ ตลอดเวลา และภายใต้มหาค่ายสุดร้ายกาจ ก็ทำให้พลังของมันไปไกลเกินกว่าที่จะจินตนาการถึง แล้วเมื่อยิ่งมีพลังของราชาศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนเพิ่มเข้าไปอีก ทำให้พลังของมันน่าสะพรึงยิ่งขึ้น ไม่อย่างนั้นมันจะสามารถสะกดปีศาจร้ายตนนั้นได้ยังไงล่ะ จริงไหม?
“ติ๊ง ท่านสังหารเจ้าดินแดนอวี่เทียน(พิรุณสวรรค์) สำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 8.3 พันล้าน, ค่าความคลั่ง 250,000, ค่าความชั่ว 30,000, ได้รับ….”
“ติ๊ง ท่านสังหารราชาครูอวี่เทียนสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 8 พันล้าน, ค่าความคลั่ง 200,000, ค่าความชั่ว 28,000, ได้รับ…..”
“ติ๊ง ท่านสังหารเจ้าดินแดนโม่ยิ่น(หยดน้ำหมึก) สำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์….”
“ติ๊ง….”
“ติ๊ง ยินดีด้วย ผู้เล่นอี้เทียนหยุนได้เข้าสู่ระดับราชาเซียนขั้นที่ 3 สำเร็จ!”
แม้แต่ระดับเจ้าดินแดนและราชครูต่างก็ถูกฆ่าราวกับหมูกับหมา ถูกสังหารไปอย่างง่ายดาย แม้แต่โอกาสที่จะต้านทานก็ยังไม่มี ถูกลำแสงสังหารไปโดยสมบูรณ์ แสดงให้เห็นเลยว่าพลังนี้นั้นน่าสะพรึงกลัวแค่ไหน แม้แต่อี้เทียนหยุนเองยังตกใจจนถึงกับเผลอสูดหายใจเข้าไป
พลังที่ใช้ออกไปครั้งนี้นั้นใช้ออกไปมากกว่าครึ่ง ทำให้พลังรบของมันสูงกว่า 4 หมื่นล้าน ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับราชาเซียนขั้นสูงสุด ก็ต้องถูกจัดการจนกลายเป็นขี้เถ้าในพริบตา! แล้วยิ่งเจ้าดินแดนพวกนี้ก็ไม่ได้มีระดับที่แข็งแกร่งที่สุด ดังนั้นจึงถูกจัดการได้อย่างง่ายดาย
ยังไงก็ตาม เจ้าดินแดนสองสามคนกับมีขุมกำลังที่ไม่ธรรมดา ในมือมีอุปกรณ์เวทย์ระดับเทวะที่แข็งแกร่ง ช่วยสร้างโล่ป้องกันขึ้นมาปกป้องพวกเขา ทำให้พวกเขาแค่กระเด็นออกไปเท่านั้น ดูแล้วเหมือนไม่เป็นอะไร แต่โล่ป้องกันนั้นถูกทำลายแทบทั้งหมด จนกระทั่งสลายไป ทำให้พวกเขาพากันได้รับบาดเจ็บ แม้จะมีโล่ป้องกันที่ทรงพลัง แต่ก็ยังได้รับผลกระทบอยู่ดี
ผู้เชี่ยวชาญที่ยังรอดจากการโจมนี้ไปได้ มีน้อยกว่าครึ่ง สือเหอเทียนก็เป็นหนึ่งในนั้น ในสายตาของพวกเขาต่างก็เต็มไปด้วยความแตกตื่น ต่อให้พวกเขาจะมีสมบัติที่ทรงพลัง แต่กระนั้นก็ยังได้รับบาดเจ็บอยู่ดี พลังนี้ช่างน่ากลัวจริงๆ น่ากลัวจนน่าตกใจ!
“มีอยู่ครึ่งที่ไม่ตาย ไม่แปลกที่ไม่สามารถเลื่อนขั้นได้ทีเดียวสองระดับ” อี้เทียนหยุนส่ายหัว ไม่แปลกที่เขาจะไม่ได้เลื่อนระดับสองขั้น ใครจะรู้ว่าจะมีคนเกือบครึ่งที่ไม่ถูกฆ่าตาย
จากการประเมินของเขา อย่างน้อยก็น่าจะเพิ่มระดับได้สองขั้น แต่แม้จะเลื่อนระดับแค่ขั้นเดียว แต่แต่ละระดับที่เลื่อน ก็ต้องใช้ค่าประสบการณ์มากถึง 1 หมื่นล้าน หมายความว่าระดับปัจจุบันของเขานั้น ต้องการค่าประสบการณ์ถึง 5 หมื่นล้าน ฟังดูแล้วช่างทำให้หนังศีรษะชาด้านจริงๆ
ไม่แปลกที่การเลื่อนระดับของผู้เชี่ยวชาญระดับราชาเซียนจะยากราวกับปีนป่ายขึ้นสวรรค์ ขนาดเขาตอนนี้ยังยากที่จะเลื่อนระดับเลย หากไม่มีบัตรเพิ่มค่าประสบการณ์เข้ามาเสริม เขาก็ยากที่จะเลื่อนระดับจริงๆ! โดยเฉพาะหากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญที่มีระดับตั้งแต่ราชาวิญญาณขึ้นไป ต่อให้ฆ่าไปก็ไม่ได้ค่าประสบการณ์
และแม้จะเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณ ต่อให้เขาฆ่าล้างเมืองก็ไม่สามารถทำให้เขาเลื่อนระดับ อีกทั้งยังต้องใช้เวลาที่นานมาก รวมถึงค่าประสบการณ์แค่ 32 เท่าก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก มีแต่ต้องเป็นระดับหลายร้อยเท่าเท่านั้น ถึงจะพอมีโอกาสได้เลื่อนระดับกับเขาบ้าง
“จะ เจ้ามันจะไปมีน้ำยาอะไร หากเก่งจริงก็เข้ามาสู้กับพวกเราตรงๆ สิ ใช้สมบัติของราชาศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนโจมตีมา อย่างนี้เขาไม่เรียกว่ามีความสามารถหรอก!” หลังจากสือเหอเทียนหอบหายใจ เขาก็เริ่มทำการยั่วยุ ไม่ต้องการให้อี้เทียนหยุนใช้ดวงดาวที่เป็นอุปกรณ์ระดับเทวะพวกนี้
“ใช่ หากมีความสามารถก็ลงมาสู้กับพวกเราตรงๆ หากไม่มีสมบัตินี้ เจ้ามันก็ไม่มีน้ำยาอะไรหรอก! ความสามารถก็ไม่มี แต่กลับยืนอยู่ข้างบนวางท่าโอหัง!”
ยิ่งมา เจ้าดินแดนที่ยังรอดชีวิตอยู่ยิ่งตะโกนเสียงดัง พวกเขารู้ถึงความคิดของสือเหอเทียน ดังนั้นจึงต้องการยั่วยุอี้เทียนหยุนที่ยังเด็กและใจร้อน ต้องการยั่วยุเขา ไม่ให้เขาใช้อุปกรณ์ระดับเทวะพวกนี้อีก เพราะหากใช้ออกมาอีก พวกเขาคงต้องตายอย่างแน่นอน
สมบัติป้องกันที่พวกเขาพกติดตัวมา สามารถป้องกันได้แค่หนึ่งครั้ง และตอนนี้พวกเขาก็ไม่มีสมบัติที่จะใช้ป้องกันครั้งที่สอง
“อย่าไปหลงเชื่อคำยั่วยุของพวกมัน พวกมันไม่ต้องการให้เจ้าใช้พลังดารา!” สัวไค่เฟิงที่อยู่ไม่ไกลรีบตะโกนมา
หากลงไป ก็ต้องเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญระดับราชาวิญญาณ 7-8 คน แล้วโดยเฉพาะพวกเขาที่มีไพ่ตายอย่างการผสานการโจมตีด้วยแล้ว ไม่ว่ายังไงก็ห้ามลงไปเด็ดขาด
อี้หยวนหลงกับพวกก็เผยแววตาเป็นกังวลออกมาเช่นกัน พวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกันกับอี้เทียนหยุนนานนัก ดังนั้นจึงไม่รู้สถานการณ์ที่แท้จริงว่าเป็นยังไง โดยเฉพาะที่อี้เทียนหยุนที่ยังเด็ก บางทีอาจจะถูกคำยั่วยุพวกนี้ ทำให้ใจร้อนจนพุ่งลงไปสู้โดยไม่คิดอะไรก็เป็นได้
ส่วนชิเสวี่ยอวิ๋นที่อยู่ใกล้ๆ กลับไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว เธอไม่ปฏิเสธความคิดของคนอื่น แต่เธอรู้ว่าอี้เทียนหยุนมีความคิดของตนเอง รู้ว่าตนควรจะตัดสินใจยังไง
อี้เทียนหยุนพลันเผยยิ้มออกมา จากนั้นก็บินลงไป ดาวบนฟ้าก็ได้ถูกหมู่เมฆกลับมาปกคลุมอีกครั้ง ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เขาเลือกที่จะทำตามคำพูดของฝั่งตรงข้าม ไม่คิดใช้พลังของสิบดาราอีก
“ดีมาก สมกับเป็นเจ้างั่งคนหนึ่งจริงๆ! ต่อให้พรสวรรค์จะดี แต่ก็ยังเด็กเกินไป เพียงยั่วยุไม่กี่คำก็สำเร็จแล้ว ช่างเป็นคนที่โง่จริงๆ” สายตาของสือเหอเทียนเป็นประกาย พร้อมกับส่งเสียงผ่านลมปราณกับเจ้าดินแดนคนอื่นๆ “เจ้าเด็กนี่กินเบ็ดแล้ว เมื่อถึงตอนนั้นพวกเราก็ใช้พลังผสานโจมตีเข้าใส่มัน ตราบเท่าที่จัดการมันได้ เรื่องอื่นก็ไม่เป็นปัญหาแล้ว”
เจ้าดินแดนคนอื่นพากันพยักหน้ารับ ขณะที่ในสายตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น พร้อมกับความรู้สึกหวาดกลัวในใจที่เริ่มคลายตัวลง หากว่าอี้เทียนหยุนเลือกที่จะใช้พลังดารานั่นอีกครั้ง พวกเขาคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
“ผู้อาวุโสรอง กลับมา!” สัวไค่เฟิงบินไปอย่างรวดเร็ว ต้องการที่จะเข้าไปขวางอี้เทียนหยุน ไม่ให้เขาเข้าไปต่อ “นี่เป็นการยั่วยุ หากเจ้าลงไป จะต้องตกหลุมพรางของพวกเขาอย่างแน่นอน ทำไม่ได้เด็ดขาด!”
“เรื่องนั้นข้าดู แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าความแข็งแกร่งที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็นเล่ห์หรือกับดักอะไรก็ไร้ความหมาย” สีหน้าอี้เทียนหยุนเต็มไปด้วยความมั่นใจ
เขาไม่ใช่คนโง่ คนที่สร้างอาณาจักรขึ้นมาได้ด้วยตนเอง จะเป็นคนโง่ได้ยังไง? เขาก็แค่อยากให้เหล่าคนนอกที่มามุงได้เห็น ว่าเขาสามารถจัดการกับผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากพวกนี้ได้ ต่อให้ไม่ต้องพึ่งพลังที่ราชาศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียนเก็บรักษาไว้ เขาก็ยังสามารถจัดการกับอีกฝ่ายได้อยู่ดี!
มีเพียงแต่การพิสูจน์ตัวเองเช่นนี้ ถึงจะสามารถสร้างความตกตะลึงให้กับทั่วทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์เฟิงเทียน หรือแม้กระทั่งโลกสวรรค์ หากว่าระดับของอีกฝ่ายต่ำกว่ามาก ต่อให้จะยั่วยุยังไงก็ไร้ความหมาย เพราะสุดท้ายแล้วก็ต้องถูกเขาจัดการอยู่ดี
