Devil’s love ทิ้งรักของนายปีศาจไป – ตอนที่ 115 แรงกดดันที่ไร้ขีดจำกัด

ช่วงนี้คุณชายแห่งตระกูลเซียวขยันมาก นี่เป็นสิ่งที่คนในวงการธุรกิจรู้กันดี

งานเลี้ยงธุรกิจในค่ำคืนนี้ คุณชายตระกูลเซียวก็เข้าร่วมด้วย ด้วยเหตุนี้ หญิงสาวเซเลบคนดังไม่น้อย จึงแต่งตัวมาเป็นพิเศษ

แสงสว่างเริ่มส่องแสงขึ้น ที่สระว่ายน้ำ วิลล่าที่นี่เต็มไปด้วยบุคคลชั้นสูงของเมืองS ทั้งชายหญิงที่แต่งกายด้วยชุดจีน

ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ในวงการบุคคลชั้นสูงนี้ ก็ยังคงมีการแบ่งชนชั้นอยู่

“ช่วงนี้ประธานเซียวกระตือรือร้นเป็นพิเศษ ขยันเช่นนี้ หรือว่าท่านประธานเซียวได้รับแรงบาดาลใจจากสาวสวยคนไหนหรือเปล่า ” ชายหน้าตาดีวัยสามสิบคนหนึ่ง ชนแก้วกับเซียวเหิง แล้วคุยติดตลกไปด้วย

แต่ก็ไม่เคยคิดว่า ประธานเซียวอายุยังน้อยคนนี้ยอมรับแบบเปิดเผย“เป็นเช่นนั้นจริงๆ สายตาท่านผู้อำนวยการหวังยังคงหลักแหลมเหมือนเดิม”

ผู้อำนวยการหวังสีหน้าประหลาดใจ“เป็นคุณหนูบ้านไหน ช่างโชคดีเช่นนี้ สามารถทำให้ประธานเซียวโปรดปรานได้”

เซียวเหิงโบกไม้โบกมือ แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม“ผู้อำนวยการหวังพูดเช่นนี้ไม่ได้ เป็นผมเซียวเหิงที่โชคดีได้พบเธอ ในชีวิตนี้ ได้พบเจอเธอ ถือเป็นบุญวาสนาของผมเซียวเหิง ถ้าหากสามารถแต่งงานกับเธอ ยิ่งเป็นบุญวาสนาที่ยิ่งใหญ่ของผมเซียวเหิงในชาตินี้ ”

ขณะที่พูด ก็มีเสียงโกลาหลดังมาจากข้างหน้า

เซียวเหิงกับผู้อำนวยการหวังก็ถูกเสียงโกลาหลนั้นดึงดูดสายตา ให้มองไปทางประตูใหญ่

“นั่นคือ……ประธานเสิ่นแห่งเสิ่นซื่อกรุ๊ปหรือ” ผู้อำนวยการหวังที่อยู่ข้างๆพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ“ไม่เคยได้ยินว่างานเลี้ยงกลางคืนในวันนี้ นักล่าใหญ่แห่งวงการจะมาร่วมงานด้วยนะ ”

ขณะที่พูด หันทางไปถามเซียวเหิงอีกครั้ง“ประธานเซียว คุณรู้หรือไม่ว่าตระกูลเสิ่น……”

ตอนที่ผู้อำนวยการเสิ่นหันหน้าไปมองเซียวเหิง คนหลังไม่ได้สนใจเขาเลย ห่วงแต่เอาแก้วเหล้าในมือวางลง แล้วเดินตรงดิ่งไปทางประตูใหญ่

ผู้อำนวยการหวังสีหน้าดูประหลาดใจ เขาจ้องมอง ร่างที่เป็นเป้าหมายของประธานเซียวน้อยตรงประตูใหญ่ที่ทำให้เกิดความโกลาหลจนนับไม่ถ้วน

ประธานเซียวน้อยย้ายถิ่นฐานไปอยู่อเมริกา กลับมาประเทศจีนยังไม่ถึงหนึ่งปี ส่วนประธานเสิ่นตั้งถิ่นฐานรกรากอยู่ในประเทศจีนมาโดยตลอด สองคนนี้ ไปพบกันตั้งแต่เมื่อไหร่

เกี่ยวกับเรื่องระหว่างเซียวเหิงกับเสิ่นซิวจิ่นในวัยเด็กนั้น คนในแวดวงธุรกิจทุกวันนี้ รู้กันไม่มาก

ทันทีที่เสิ่นซิวจิ่นปรากฏตัว จึงทำให้เกิดความโกลาหลขึ้น ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ดวงตาเป็นประกาย ตอนที่เห็นเขาปรากฏตัวที่ประตูใหญ่

พวกผู้ชายนั้นอยากเดินเข้าไปทักทาย ให้พอคุ้นหน้าคุ้นตา ส่วนพวกผู้หญิงนั้นตกแต่งใบหน้า ดึงกระโปรงให้เข้าที่เข้าทาง จัดแต่งทรงผมอีกครั้ง สายตาทุกคู่จ้องมองไปที่เสิ่นซิวจิ่น

แล้วหัวของผู้คนก็เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง คนทั้งสองข้างเปิดทางออก แล้วเผยให้เห็นร่างของเซียวเหิง

“โอ้ นี่ไม่ใช่ประธานเสิ่นหรือ” บนใบหน้าหล่อเหลาของเซียวเหิง ทะลึ่งยิ้มชั่วร้าย มือข้างหนึ่งใส่ในกระเป๋ากางเกงชุดสูท เดินไปทางชายที่อยู่ตรงประตูใหญ่ด้วยท่าทางสง่างาม“ไม่คิดว่า ประธานเสิ่นก็มีความสนใจกับงานเลี้ยงเล็กๆเช่นนี้ด้วย”

ดวงตาทรงหงส์ของเสิ่นซิวจิ่นไม่แยแส ยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ สังเกตดูเซียวเหิงที่ก้าวเท้าใหญ่เดินมาทางตัวเอง “แค่ออกมาผ่อนคลาย งานเลี้ยงกลางคืนที่ไหนก็เหมือนกันหมดแหละ”

“ผ่อนคลายหรือ…..อ๋อ ช่วงนี้ประธานเสิ่นพบเจอเรื่องลำบากใจอะไรหรือ”ขณะที่เซียวเหิงพูด“ผมเชิญประธานเสิ่นไปเที่ยวตงหวงกันไหม”

ดวงตาทรงหงส์ลุ่มลึกของเสิ่นซิวจิ่น หรี่ลงทันที จ้องไปที่เซียวเหิง……รู้ทั้งรู้ว่าตงหวงเป็นของเขา……นี่เซียวเหิงเจตนาจะยั่วยุเขา

เขาทำท่าขยับมุมปากเหมือนน่าเบื่อหน่าย แล้วเขาก็กวักมือเรียกพนักงานเสิร์ฟที่อยู่ไม่ไกลออกไป พนักงานบริการรีบยกถาดเดินเข้ามา หยิบไวน์แดงจากถาดหนึ่งแก้ว ยื่นให้เซียวเหิง ตัวเองก็ยกขึ้นหนึ่งแก้ว “ประธานเซียวเป็นห่วงผมเช่นนี้ ก็จะต้องเป็นห่วงตัวเองให้มากด้วย ทำไมผมถึงเห็นรอยคล้ำใต้ดวงตาของประธานเซียวเพิ่มขึ้นอีกแล้ว ช่วงนี้ ไม่ได้นอนดึกใช่ไหม”

มือเซียวเหิงที่ยกแก้วไวน์แดงไว้สั่นเล็กน้อย จากนั้นก็ดื่มไวน์แดงหมดแก้วเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้ววางแก้วลงในถาดของพนักงานบริการที่อยู่ข้างๆ และหันมาจ้องมองเสิ่นซิวจิ่น

“นอนดึกอยู่ไม่น้อย ไม่นอนดึกแล้ว จะรับมือกับการหาเรื่องของประธานเสิ่นรอบแล้วรอบเล่าได้อย่างไร”

“เฮ้ย ในวงการธุรกิจ ไม่มีใครหาเรื่องใคร มีเพียงใครแกร่งใครอ่อนแอเท่านั้น” เสิ่นซิวจิ่นพูดเรียบๆหนึ่งคำ แล้วแกว่งแก้วไวน์แดงในมือไปมา โดยไม่ดื่มสักคำ จากนั้นก็วางกลับไปที่ถาดอีกครั้ง ดวงตาทรงหงส์ที่เย็นชา กวาดมองไปข้างๆ

“ผมเคยพูดแล้ว ของของผม ถึงผมจะไม่เอาแล้ว ก็จะไม่ให้คนอื่น ประธานเซียวสู้ๆ การนอนดึกหลายคืน อาจจะสามารถฟื้นตัวจากเกมพ่ายได้ ก็ไม่แน่นะ ”

รอยยิ้มบนใบหน้าเซียวเหิงค่อนข้างแข็งทื่อ มากกว่านั้นคือการไม่ยอมแพ้ “ประธานเสิ่นเน้นย้ำตลอดเวลาว่าของที่ตัวเองไม่เอาแล้ว…….ฮาๆ ประธานเสิ่นคุณห่วงใยเธอขนาดนี้ แต่บอกว่าตัวเองไม่สนใจ ประธานเสิ่น คุณคงไม่ใช่ว่ารักแล้วไม่ได้ จึงเกิดความอิจฉาในใจใช่ไหม ”

อุณหภูมิในดวงตาของเสิ่นซิวจิ่นลดลงทันที สายตาที่เย็นชาจับจ้องไปที่ใบหน้าเซียวเหิง“ผมจะเป็นอย่างไร ไม่ต้องให้ประธานเซียวมาห่วงใย ประธานเซียวดูแลตัวเองก่อนเถอะ”

พูดจบแล้ว ก็เดินอ้อมเซียวเหิงจากไป

ถึงแม้ว่าบรรยากาศของทั้งสองคนจะไม่ค่อยกลมกลืนนัก แต่ว่าต่างก็กดน้ำเสียงให้เบา จึงทำให้คนข้างๆไม่ได้ยินว่ากำลังพูดอะไร เห็นเพียงผู้ชายดีๆทั้งสองคนกำลังพูดคุยธุรกิจกัน

เสิ่นซิวจิ่นอ้อมไปข้างๆเซียวเหิง แล้วเดินไปข้างใน และเดินเข้าไปทางห้องน้ำอีกครั้ง มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ดีในใจว่าตอนนี้เขาโกรธมาก

เขาจะตกหลุมรักผู้หญิงแบบเจี่ยนถงหรือ เขาจะอิจฉาเจี่ยนถงกับเซียวเหิงหรือ

ไร้สาระ

ผู้หญิงคนนี้ เห็นแก่ตัว โลภมาก เห็นแก่เงิน ต่ำต้อย ต่ำช้า เกรงว่าผู้ชายปกติทั่วไปเห็นเธออยู่ในสายตา แล้วเขาเสิ่นซิวจิ่นจะตกหลุมรักผู้หญิงเช่นนี้ได้อย่างไร

เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน

แต่อีกเสียงหนึ่ง ได้บอกเขาในใจว่าคุณมีใจให้เธอแล้ว มิฉะนั้น ทำไมคุณถึงไปโจมตีบริษัทเซียวซื่อกรุ๊ปกับตระกูลเซียวล่ะ

คุณสามารถขังเธอเอาไว้ เมื่อเป็นเช่นนี้เธอก็จะไม่สามารถไปเข้าใกล้เซียวเหิงได้ ทำไมคุณไม่ทำ……คุณกลัวว่ารอยยิ้มบนหน้าเธอที่ปรากฏออกมา จะมลายหายไปอีกครั้งใช่ไหม

เสิ่นซิวจิ่นเดินเข้าไปในห้องน้ำ สายตาเย็นชาจ้องมองตัวเองในกระจก พูดในใจเงียบๆอย่างหนักแน่นว่า ไม่ ไม่ใช่ ผมเสิ่นซิวจิ่นจะไม่มีวันตกหลุมรักผู้หญิงที่จิตใจสกปรกแบบนั้นอย่างแน่นอน ที่โจมตีตระกูลเซียว บริษัทเซียวซื่อกรุ๊ป ก็เพราะว่าไม่ถูกชะตากับเซียวเหิง เซียวเหิงกล้าแตะต้องสิ่งของของผม จะต้องได้รับการสั่งสอนเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ก็เท่านี้เอง

เซียวเหิงได้กลับถึงบ้านนานแล้ว โดยไม่รอให้งานเลี้ยงเลิกรา

ค่ำคืนเงียบสงบ ที่ห้องหนังสือชั้นสอง ตรงหน้าต่างยังมีแสงไฟสว่างอยู่

ข้างหลังโต๊ะหนังสือ มีชายคนหนึ่งกำลังนั่งทำงานอย่างขะมักเขม้น

นิ้วมือของเซียวเหิงเคาะไปที่แป้นพิมพ์ไม่หยุด ยุ่งอยู่ครู่หนึ่ง แล้วยกกาแฟข้างๆขึ้นมา ดื่มลงท้องแทนน้ำชา แล้วก็ก้มหน้าก้มตาทำงานขึ้นมาอีกครั้ง

เสิ่นซิวจิ่นพูดถูก——ถ้าหากเขากล้าที่จะประมาทเลินเล่อและละเลย จะไม่สามารถรับมือการโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่าจากเสิ่นซิวจิ่นได้

มีเพียงเวลานี้เอง ที่เซียวเหิงรู้สึกได้ถึงความไร้อำนาจ…….ตอนวัยเด็กเขากับเสิ่นซิวจิ่น เป็นทั้งเพื่อนและศัตรู จะต้องแข่งขันกันทุกอย่าง แต่เขาไม่เคยชนะเลย

ตอนนั้นไม่ยอมแพ้ การไม่ยอมแพ้นี้ จนกระทั่งเติบโต จนถึงวันนี้ ก็ยังเหมือนเดิม

เพียงแต่ว่า เสิ่นซิวจิ่นเป็นสัตว์ประหลาดจริงๆ ตอนที่ปะทะมือกับเขาเซียวเหิงถึงค้นพบว่า บุคคลนี้มีพรสวรรค์เฉพาะตัวในวงการธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นด้านวิธีการหรือว่าด้านเงินทุน

“ตอนเด็กไม่เคยชนะ ครั้งนี้จะแพ้ไม่ได้” มีเพียงเจี่ยนถงเท่านั้น ที่ไม่สามารถจะแพ้ให้คนแซ่เสิ่นได้

เวลาตีสี่ ไฟในห้องหนังสือของเซียวเหิงถึงดับลง

Devil’s love

Devil’s love

เซี่ยเวยเหมิงเสียชีวิตแล้ว เสิ่นซิวจิ่นส่งตัวเจี่ยนถงเข้าไปในเรือนจำหญิงสามปีในคุก คำพูดของเสิ่นซิวจิ่นที่ว่า“ดูแลเธอให้ดีๆ”ทำให้เจี่ยนถงทรมานและเปลี่ยนไปมาและเปลี่ยนไปมาก ยิ่งไปกว่านั้นคือตอนที่อยู่ในคุกถูก “ยินยอมที่จะบริจาคไตโดยไม่สมัครใจ”ก่อนเข้าคุก เจี่ยนถงพูด:ฉันไม่ได้ฆ่าเธอ เสิ่นซิวจิ่นไม่แสดงท่าทีอะไรหลังออกจากคุก เจี่ยนถงพูด:ฉันเป็นคนที่ฆ่าเซี่ยเวยเหมิง ฉันอาชญากรรมแล้วเสิ่นซิวจิ่นพูดด้วยสีหน้าซีดขาว:หุบปากไปเลย! อย่าให้ฉันได้ยินประโยคนี้อีก!เจี่ยนถงยิ้ม:จริงๆ ฉันเป็นคนที่ฆ่าเซี่ยเวยเหมิง ฉันติดคุกมาสามปี เจี่ยนถงหลบหนีไป เสิ่นซิวจิ่นตามหาเธอทั่วทุกมุมโลก เสิ่นซิวจิ่นพูด:เจี่ยนถง ฉันยกไตให้คุณ คุณมอบหัวใจให้ฉันเถอะ เจี่ยนถงเงยหน้ามองเสิ่นซิวจิ่น แล้วพูด…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset