Devil’s love ทิ้งรักของนายปีศาจไป – ตอนที่ 193 ทำร้ายซ้ำๆ

รถมาถึงที่ตระกูลเจี่ยน ขับเข้าไปในประตูเหล็กใหญ่ของตระกูลเจี่ยน “พี่เมิ่ง คุณกลับไปก่อนเถอะ ฉันจะขอเตือนความจำให้กับคุณหญิงเจี่ยน”

ซูเมิ่งดวงตาสวยๆกระตุก จ้องไปที่ใบหน้าที่จืดชืดของเจี่ยนถง…….ยิ้มเบาๆ “ไม่ได้เหรอก จะทิ้งคุณไว้ในตระกูลเจี่ยนคนเดียวไม่ได้ แล้วฉันจะอธิบายกับประธานเสิ่นอย่างไร”

เจี่ยนถงแน่นคอ “คุณ……..”

“แนเข้าไปเป็นเพื่อนคุณนะ” ซูเมิ่งปิดประตูรถ แล้วเดินอยู่ข้างๆเจี่ยนถง เอื้อมมือจับบนไหล่ของเจี่ยนถงลดเสียงลงโดยมีเพียงคนสองคนเท่านั้นที่ได้ยิน พูดข้างหูเจี่ยนถงว่า “คุณไม่ต้องกังวล อย่าน้อยฉันก็ทำงานกับเสิ่นซิวจิ่นมานานพอสมควร สีขาวสีดำ ที่ควรจะจัดการฉันก็รับมือได้หมด นอกจากนี้……..ฉันเป็นคนของเสิ่นซิวจิ่น พวกเขากล้าเตะต้องฉันเหรอ”

ระหว่างที่หัวเราะก็โอบไหล่ของเจี่ยนถงไว้ แล้วเดินไปด้วยกัน

คุณหญิงเจี่ยนออกมาต้อนรับ “เสี่ยวถง คุณมาแล้วเหรอ เอ๊ะ คุณซูก็มาด้วยเหรอ”

“ของอยู่ไหน” เจี่ยนถงไม่พูดไร้สาระ หลังจากที่ตามคุณหญิงเจี่ยนเข้าไปในบ้าน หลังจากมาถึงตระกูลเจี่ยน ก็ถามทันที

“ของอะไร” คุณหญิงเจี่ยนอึ้งเล็กน้อย

“บัตรประชาชน”

เจี่ยนถงพูดเบาๆ วันนี้เธอมาตระกูลเจี่ยนก็เพื่อมาเอาบัตรประชาชนกลับไป และใช้โอกาสนี้ หนีออกจากใต้เปลือกตาของเสิ่นซิวจิ่นด้วย

คุณหญิงเจี่ยนนึกขึ้นทันใด“อ้อๆ บัตรประชาชนเหรอ อยู่ในตู้เสื้อผ้าของฉัน เดี๋ยวฉันไปหยิบให้ ดื่มน้ำชาอุ่นๆก่อนนะ อากาศหนาวขนาดนี้ ดื่มน้ำอุ่นหน่อย อย่าหนาวเกิดไป”

คุณหญิงเจี่ยนไม่ควรอยู่ในภวังค์เพียงแค่นึกถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ เธอก็เลยมีความกังวลในใจ ก็เลยฟุ้งซ่านเล็กน้อย

มองน้ำชาที่สาวใช้ยกมา ดวงตาของเจี่ยนถงจ้องมองไปที่หน้าของคุณหญิงเจี่ยนอีกครั้ง “คุณหญิงเจี่ยนไปหยิบบัตรประชาชนบนตึกมาจะดีกว่า”

คุณหญิงเจี่ยนมองไปทางเจี่ยนเจิ้นตง เหมือนไม่กล้าตัดสินใจคนเดียว หลังจากนั้นพยักหน้า เธอถึงพยักหน้าให้เจี่ยนถง “ได้ ฉันจะไปหยิบให้คุณนะ”

คุณหญิงเจี่ยนไปสักครู่เดียวก็กลับมาแล้ว กำลังหยิบบัตรประชาชนลงมา แสดงความรักและเมตตาที่มีให้เจี่ยนถง “เด็กคนนี้นี่ ทำไมต้องรีบร้อนที่จะเอาบัตรประชาชนกลับด้วย ทำไมยังไม่ยอมเชื่อใจพ่อแม่ของตัวเองอีก

พ่อของคุณต้องใช้ความพยายามและผ่านการพลิกผันมากมายปิดฟ้าข้ามทะเล เพื่อทำตามคำขอของคุณ ไม่ให้ประธานเสิ่นรู้ มันไม่ง่ายเลยที่จะได้บัตรประชาชนตัวใหม่มา”

คุณหญิงเจี่ยนตอนนี้มีเมตตาใจดี ถ้าคนไม่รู้จัก ก็คงจะคิดว่า เป็นแม่ที่ใจดีและมีเมตตา

ซูเมิ่งยืนอยู่ข้างๆ ในใจสับสนมาก

เรื่องอื่นจะไม่พูดถึง ก็แค่เรื่องเมื่อครู่เจี่ยนถงขอบัตรประชาชนกับคุณหญิงเจี่ยน คุณหญิงเจี่ยนยังต้องส่งสายตาให้เจี่ยนเจิ้นตงอย่างลับๆ เพื่อถามความเห็นของเขา

นี่……….จะเป็นครอบครัวเดียวกันได้อย่างไร

ไม่แตกต่างจากคนนอกเลย

เจี่ยนถงรีบเอาบัตรประชาชนจากมือของคุณหญิงเจี่ยนมา………ความรักความห่วงใยที่เสแสร้งนั้นของคุณหญิงเจี่ยน เธอไม่กล้าคาดหวังมาตั้งนานแล้ว ตอนนี้ได้ยินแค่รู้สึกเสียดสี

เหลือบมองบัตรประชาชนในมือ……..ในดวงตาของเธอมีรอยยิ้มที่เยาะเย้ยเล็กน้อย

ที่แท้ นี่ก็คือสิ่งที่เจี่ยนเจิ้นตงสามารถปิดฟ้าข้ามทะเลนี้เอง เหตุผลที่สามารถปิดหูปิดตาของผู้ชายคนนั้นได้…….. ใบบัตรประชาชน ตรงคอลัมน์ชื่อเขียนเสิ่นถงคำใหญ่ๆสองคำ

เธอเปลี่ยนนามสกุลแล้ว

หัวเราะเบาๆ เจ็บใจนิดๆ พยายามระงับไว้ เงยหน้ามองเจี่ยนเจิ้นตงอย่างช้าๆ “ทำไมต้องเป็นแซ่‘เสิ่น’”

เจี่ยนเจิ้นตงอ้ำอึ้ง เขาไม่สามารถบอกความจริงกับเธอว่า เพราะมีท่านเฒ่าผู้ที่นับถือกล่าวไว้ว่า เนื่องจากผู้หญิงคนนั้นได้แต่งเข้าตระกูลเสิ่นก่อนตาย ผู้หญิงของตระกูลเสิ่น ก่อนตายมีความภักดีอย่างไร หลังตายก็จะภักดีไม่เปลี่ยน และต้อง

เป็นผีของตระกูลเสิ่นชื่อในบัตรประชาชน ก็ต้อง………แซ่เสิ่น

นี่ก็คือคำพูดของท่านผู้เฒ่าที่นับถือได้กล่าวไว้

เจี่ยนเจิ้นตงตอนนี้ยังจำได้ เมื่อเขาทำตามคำขอร้องของเจี่ยนถง——หาวิธีทำบัตรประชาชนใบใหม่ และตอนไปพบชายชราที่นับถือท่านนั้น ขณะที่ชายชราพูดประโยคนั้นออกมาจากปาก ดวงตาเย็นชามาก

……..ตอนนั้นรู้ว่าถึงวาระแล้ว เจี่ยนถง อยู่ได้อีกไม่นานแล้ว

คำพูดของชายชรา พูดคำไหนคำนั้น

ปฏิกิริยาของชายชราชัดเจนและตรงไปตรงมา ตระกูลเสิ่นยอมรับเจี่ยนถงเป็นลูกสะใภ้บัลลังก์ตำแหน่งคุณนายเสิ่น สามารถมีเจี่ยนถงคนคนนี้ได้ แต่ จะต้องเป็นเจี่ยนถงที่ไม่มีชีวิตแล้ว ถึงจะมีสิทธิ์นั่งบนบัลลังก์ตำแหน่งคุณนายเสิ่นได้

เจี่ยนเจิ้นตงมีความลังเลอยู่ครู่หนึ่ง อย่างไรก็ตามก็เป็นลูกสาวของตัวเอง ไม่เหมือนเหตุการณ์เมื่อหลายปีก่อน ครั้งนี้ เท่ากับว่าเขาจะส่งให้ลูกสาวของตัวเองไปตายด้วยตัวเอง

แต่……เจี่ยนเจิ้นตงเขาก็ได้ทำในสิ่งที่คิดว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดสำหรับตระกูลเจี่ยนแล้ว

เสียสละลูกสาวของตระกูลเจี่ยนที่ไม่ได้ถือเป็นลูกสาวมานานแล้ว……….

“เสี่ยวถง คุณอยากเจอนักเลงพวกนั้นที่ทำให้คุณต้องติดคุกหรือไม่” เจี่ยนเจิ้นตงไม่ได้ตอบคำถามของเจี่ยนถง กลับพูดถึงนักเลงพวกนั้นขึ้นมาแทน

อยากเจอไหม?

เจี่ยนถงหลับตา ปกปิดการเสียดสีในสายตา…….เจอแล้วยังไง ไม่เจอแล้วจะยังไง

ย้อนเวลากลับไปได้ไหม

เอาไตของเธอกลับมาได้ไหม?

วันที่มืดมนเหล่านั้นไม่เคยปรากฏตัวขึ้นเหรอ?

ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่รู้สึก เพียงแค่มันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน

“ไอ๊หยาสามี เรื่องในตอนนั้นสำหรับเสี่ยวถงแล้ว มันเป็นแผลเป็น ทำไมคุณถึงพูดถึงต่อหน้าเสี่ยวถงล่ะ” จู่ๆคุณหญิงเจี่ยนก็ขัดจังหวะขึ้นมา ก้าวไปข้างหน้าอย่างเห็นใจ หยิบน้ำชาที่อยู่ข้างๆขึ้นมา

“เสี่ยวถง ไม่ต้องตกใจ อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจ ดื่มน้ำก่อน ค่อยๆคิด ไม่รีบ”

เจี่ยนถงรับน้ำชามา เจตนาใช้ตัวเองขวางหน้าซูเมิ่ง “พี่เมิ่ง ได้เวลาทานยาของฉันแล้ว กระเป๋าเหมือนจะตกอยู่ในรถของคุณ คุณช่วยไปหยิบให้ฉันหน่อยสิ”

ไม่ใช่เพราะเธอคิดมาก แต่เป็นเพราะ…..ก่อนที่เธอจะออกจากบ้าน ก็รู้สึกว่ามันแปลกๆ แต่ว่า……เพื่อบัตรประชาชนหนึ่งใบ เพราะแรงจูงใจของเธอ!

แต่ว่ายอมเสี่ยง เต็มใจที่จะพนัน เป็นเรื่องของเธอเอง ไม่ใช่เรื่องของซูเมิ่งที่จะมามีส่วนร่วมกับเธอด้วย

ถ้าไม่ใช่เพราะไม่มีซูเมิ่ง แล้วเธอก็จะออกจากบ้านหลังใหญ่นั้นไม่ได้ เธอก็คงจะไม่เรียกซูเมิ่งมาด้วย ลุยน้ำโคลนนี้

ซูเมิ่งจ้องมองเจี่ยนถง……..

คุณหญิงเจี่ยนทำหน้าตกใจสักครู่ วินาทีถัดไปบนหน้าก็มีรอยยิ้ม หยิบน้ำชาอีกแก้วขึ้นมา รีบส่งให้ซูเมิ่ง “คุณซู คุณก็ดื่มน้ำหน่อยนะ ขับรถมาในอากาศเย็นๆแบบนี้ คงจะเหนื่อย ดื่มน้ำก่อน ด้านนอกอากาศเย็นมาก กระเป๋าในรถ ให้เด็กในบ้านไปหยิบก็ได้ จะไปหยิบเองทำไม”

เจี่ยนถงเม้มปากแน่นในทันที กำลังจะรับน้ำแก้วนั้นแทนซูเมิ่ง แต่ซูเมิ่งได้รับน้ำแก้วนั้นมาด้วยความสุภาพแล้ว จิบน้ำชาต่อหน้าคุณหญิงเจี่ยน “ขอบคุณ”

เจี่ยนถงหยุดชั่วคราว…….เธอตื่นเต้นเล็กน้อย แต่…..ซูเมิ่งไม่ไว้ใจตระกูลเจี่ยนมากกว่าเธออีก และเหมือนที่ซูเมิ่งพูด ติดตามเสิ่นซิวจิ่นมานาน สีดำสีขาวก็เห็นมาหมดแล้ว ซูเมิ่งคอยระวังตระกูลเจี่ยนอยู่เสมอ แล้วจะไม่ระวังน้ำชาแก้วนี้ได้อย่างไร คิดว่าซูเมิ่งน่าจะมีแผนการของตัวเองอยู่ในใจ

อดทน และไม่ได้พูดอะไร

คุณหญิงเจี่ยนกระตุ้น “เสี่ยวถง คุณทำไมไม่ดื่มล่ะ เย็นไปก็ไม่อุ่นแล้ว”

เจี่ยนถงได้ยิน จึงเหลือบมองชาในมือ……ไม่ว่าซูเมิ่งจะมีแผนการอะไร แต่เธอก็ได้มีความรู้สึกที่จะดื่มน้ำชาของคนตระกูลเจี่ยนเตรียมให้เลยแม้แต่นิดเดียว พูดเบาๆว่า “ไม่รีบ ฉันไม่ชอบดื่มน้ำชา” ระหว่างที่พูดก็วางถ้วยชาลง “พี่เมิ่ง พวกเรากลับกันเถอะ”

ระหว่างที่พูดก็ยืนขึ้นมา ชำเลืองมองซูเมิ่งที่อยู่ข้างๆ “พี่เมิ่ง เป็นอะไร?”

ยังไม่ทันตะโกน วินาทีถัดมา จู่ๆด้านหลังก็มีคน ใช้ผ้าปิดจมูกเธอ “ไม่ ไม่” จู่ๆเธอก็เข้าใจอะไรบางอย่างก่อนจะสลบไป จ้องมองคุณหญิงตระกูลเจี่ยนอย่างผิดหวัง

ก่อนจะสลบไป เธอยังคิดว่า…..โชคดี โชคดีเมื่อครู่เธอไม่ได้ขัดขวางพี่เมิ่งดื่มชา ถ้าน้ำชาไม่มีปัญหาอะไร ดื่มแล้วก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าน้ำชามีปัญหา……ดื่มน้ำชาแล้ว ก็จะสามารถรักษาชีวิตของพี่เมิ่งไว้ได้

ตาม “พ่อที่ดี”ของเธอคนนั้นที่กลัวเสิ่นซิวจิ่นมาก ซูเมิ่งสลบไปก่อนเธอ เจี่ยนเจิ้นตงคงจะไม่เสี่ยงที่จะฆ่าซูเมิ่ง ซูเมิ่งมีชีวิตอยู่ เขาก็จะสามารถใช้ข้ออ้างต่างๆได้ ถ้าซูเมิ่งเสียชีวิต ก็จะไม่สามารถปิดบังให้เสิ่นซิวจิ่นคนที่โหดร้ายตรวจสอบหาความจริงถึงที่สุดได้

และเมื่อตอนที่เธอกำลังยืนขึ้น ถึงแม้พี่เมิ่งเหมือนจะโดนวางยาแล้ว แต่ตัวเองเห็นมือที่ซ่อนอยู่ข้างตัวของพี่เมิ่ง ทำท่าทาง “เกี่ยวก้อย” เบาๆ

พี่เมิ่งกำลังส่งข้อความให้เธอ——รับประกันว่าไม่มีปัญหา

หลังจากมาถึงตระกูลเจี่ยน ไม่ว่าจะเป็นของกินของใช้ เธอก็จะระวังเป็นพิเศษ ไม่ไปเตะต้อง ถึงแม้จะระวังตัวทุกๆด้านขนาดนี้ เจี่ยนถงก็ไม่เคยคิดเลยว่า วันนี้ สามีภรรยาคู่นี้ พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของเธอ มาถึงจุดที่ไม่ต้องปกปิดแล้ว

“จะทำอย่างไร” คุณหญิงเจี่ยนมองดูสองคนที่สลบอยู่ตรงหน้า ชี้ไปที่ซูเมิ่ง แล้วถามเจี่ยนเจิ้นตง “จะจัดการกับเธออย่างไร”

“เธอเป็นคนของเสิ่นซิวจิ่น และเธอดื่มน้ำชาจนสลบไปแล้ว ไปเรียกลุงเว่ยมา”

แม้คุณหญิงเจี่ยนจะตื่นตกใจ แต่ก็ทำตามที่เจี่ยนเจิ้นตงสั่งทันที

เจี่ยนเจิ้นตงพูดจบ เมื่อครู่ที่อยู่ด้านหลังของเจี่ยนถง ชายร่างใหญ่ที่ใช้ผ้าย้อมยาสลบปิดปากของเจี่ยนถง ได้แบกเจี่ยนถงที่สลบเหมือนแบกกระสอบทราย ใช้กระสอบผ้าที่สามารถบรรจุคนได้หนึ่งคน ใส่ลงไป แล้วแบกกระสอบผ้าขึ้นอีกครั้งบนไหล่

ชายชราผมหงอกคนหนึ่งเดินตามคุณหญิงเจี่ยนมา เจี่ยนเจิ้นตงชี้ไปที่ซูเมิ่งที่กำลังสลบอยู่ “เอาเธอออกไป สร้างสถานการณ์เสียชีวิตจาก‘อุบัติเหตุทางรถยนต์’ ”

เจี่ยนถงประเมินความโหดร้ายของเจี่ยนเจิ้นตงต่ำไป น่าจะพูดว่า วิธีทำร้ายคนมีที่มากมาย เจี่ยนถงไม่ได้รับการสืบทอด สมองที่เต็มไปด้วยวิธีการทำร้ายคนของเจี่ยนเจิ้นตงเลย

การเสียชีวิตของซูเมิ่งเป็นวิธี“อุบัติเหตุทางรถยนต์” ไม่ต้องสงสัยเลย

คุณหญิงเจี่ยนตัวสั่น เธอจับข้อมือของเจี่ยนเจิ้นตงอย่างแน่น หลังมือที่ขาว เห็นเส้นเลือดชัดเจน ในตายังมีร่องรอยรับไม่ได้

“เจิ้นตง…….พวกเราทำแบบนี้ ทำแบบนี้……พวกเราจะทำแบบนี้จริงๆเหรอ”

“คุณคิดว่าฉันอยากจะทำเหรอ” เจี่ยนเจิ้นเกาหัวอย่างหงุดหงิด “เรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้ว ฉันยังจะมีวิธีไหนอีก คนนอกมองตระกูลเจี่ยนของพวกเรา งดงามและวิจิตรบรรจง คุณไม่รู้เหรอ ตระกูลเจี่ยนของพวกเราถึงเวลาที่ต้องเอาตัวรอดแล้วเหรอ?…..นั่นก็เป็นลูกสาวของฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นสถานการณ์เป็นที่พึ่งสุดท้าย ฉันจะใจร้ายขนาดนี้ได้อย่างไร”

“แต่ว่า…..”

“ไม่มีแต่ คุณต้องจำไว้ ทั้งหมดที่พวกเราทำ ก็เพื่อตระกูลเจี่ยน เพื่อลูกชายของพวกเรา ถ้าตระกูลเจี่ยนล้มละลาย โม่ป๋ายเขาก็จะไม่มีอะไรเลย คุณจะทนเห็นตระกูลเจี่ยนล้มละลาย โม่ป๋ายเป็นคุณชายผู้สูงศักดิ์ทันใดนั้นก็ตกลงมาและกลายเป็นหมาไร้ญาติได้เหรอ?

อีกอย่าง……เธอมีชีวิตอยู่อย่างนั้น จะมีความหมายอะไร คนก็ไม่ใช่ผีก็ไม่เชิง พวกเราถือว่าได้ช่วยปลดปล่อยเธอแล้ว”

ลุงเว่ยที่ผมหงอก กำลังเคลื่อนย้ายซูเมิ่งที่สลบ ไปบนรถที่เธอขับมา และคำพูดของเจี่ยนเจิ้นตง เกือบปลูกให้ซูเมิ่งตื่นขึ้นมาก่อนแล้ว

ไร้ยางอายจริงๆ

Devil’s love

Devil’s love

เซี่ยเวยเหมิงเสียชีวิตแล้ว เสิ่นซิวจิ่นส่งตัวเจี่ยนถงเข้าไปในเรือนจำหญิงสามปีในคุก คำพูดของเสิ่นซิวจิ่นที่ว่า“ดูแลเธอให้ดีๆ”ทำให้เจี่ยนถงทรมานและเปลี่ยนไปมาและเปลี่ยนไปมาก ยิ่งไปกว่านั้นคือตอนที่อยู่ในคุกถูก “ยินยอมที่จะบริจาคไตโดยไม่สมัครใจ”ก่อนเข้าคุก เจี่ยนถงพูด:ฉันไม่ได้ฆ่าเธอ เสิ่นซิวจิ่นไม่แสดงท่าทีอะไรหลังออกจากคุก เจี่ยนถงพูด:ฉันเป็นคนที่ฆ่าเซี่ยเวยเหมิง ฉันอาชญากรรมแล้วเสิ่นซิวจิ่นพูดด้วยสีหน้าซีดขาว:หุบปากไปเลย! อย่าให้ฉันได้ยินประโยคนี้อีก!เจี่ยนถงยิ้ม:จริงๆ ฉันเป็นคนที่ฆ่าเซี่ยเวยเหมิง ฉันติดคุกมาสามปี เจี่ยนถงหลบหนีไป เสิ่นซิวจิ่นตามหาเธอทั่วทุกมุมโลก เสิ่นซิวจิ่นพูด:เจี่ยนถง ฉันยกไตให้คุณ คุณมอบหัวใจให้ฉันเถอะ เจี่ยนถงเงยหน้ามองเสิ่นซิวจิ่น แล้วพูด…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset