Devil’s love ทิ้งรักของนายปีศาจไป – ตอนที่ 221 ความจริงเช่นนี้

ภายในห้องนอนที่ไร้เสียง

ทันใดนั้น!

“ลูก ลูก…พูดอะไรนะ?”

คุณหญิงเจี่ยนเบิกตาโพลงและมองไปที่เจี่ยนโม่ป๋ายอย่างคาดหวัง หวังว่าเธอจะได้ยินมันผิดไป

เจี่ยนโม่ป๋ายเม้มริมฝีปาก “ผลตรวจออกมาแล้ว ผมเป็นลูคีเมีย”

ริมฝีปากเขาซีดขาว…ถึงหมอจะบอกว่ารักษาได้และรับรองผลการรักษา แต่ในใจเขารู้ดีว่าวิธีที่ดีที่สุดในการกำจัดโรคนี้คือการปลูกถ่ายไต

คุณหญิงเจี่ยนทนไม่ไหว เธอตัวสั่นและยืนไม่อยู่พิงที่ผนังและล้มตัวลง

เจี่ยนเจิ้นตงที่ด้านข้างมองดูรายงานสามฉบับที่เจี่ยนโม่ป๋ายทิ้งไว้และเงยหน้าขึ้นครู่หนึ่งแล้วถามว่า

“เกิดอะไรขึ้นกับรายงานการจับคู่ทั้งสองนี้? แกมีตัวอย่างของฉันกับแม่แกได้ยังไง?”

เจี่ยนโม่ป๋ายเงยหน้าขึ้นทันที และมองไปยังใบหน้าที่เหมือนกับเขาอยู่มากอีกทั้งยังคุ้นเคยเสียจนไม่รู้จะคุ้นเคยยังไง “พ่อ! ผมเป็นลูคีเมีย! เวลาแบบนี้พ่อกลับไม่ได้ห่วงร่างกายของผม แต่ไปห่วงว่าผมมีตัวอย่างของพ่อกับแม่และรายงานการจับคู่ได้ยังไงงั้นเหรอ? !”

คุณหญิงเจี่ยนพุ่งเข้าไป “ลูกจ้ะ! ลูกจ้ะ! ลูกอย่าเพิ่งโมโห ไม่ใช่ว่าพ่อไม่เป็นห่วงลูกนะ”

เจี่ยนเจิ้นตงรู้ว่าเขาเป็นคนไร้เหตุผลจึงขมวดคิ้ว “ที่ฉันถามเรื่องรายงานนี้ ก็เพราะแปลกใจที่ฉันกับแม่แกไม่เคยตรวจการจับคู่นี้”

เจี่ยนโม่ป๋ายกำหมัดแน่น “เมื่ออาทิตย์ก่อนพ่อกับแม่ไปตรวจร่างกายทุกครึ่งปีไม่ใช่เหรอ? ผมวานให้เพื่อนช่วย”

เจี่ยนเจิ้งตงเข้าใจแล้ว

เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ทำไมต้องหลบๆ ซ่อนๆ? แกบอกเรา มีหรือที่เราจะไม่ทำเพื่อลูกชายของตัวเอง และไปตรวจเพื่อจับคู่?”

“พ่อลูกพูดถูก มีเหรอที่พวกเราจะทนเห็นลูกชายของเราต้องทุกข์ทรมานได้?”

เจี่ยวโม่ป๋ายรู้สึกขมขื่นและทนไม่ได้ เขาหลับตาลง กำหมัดแน่นจนสั่นและทันใดนั้นก็ลืมตาขึ้น

“ถ้าผมไม่เอาตัวอย่างของพ่อกับแม่ไปให้คนช่วยทดสอบ จะรู้ได้ยังไงว่าตอนที่พ่อกับแม่ไปตรวจเพื่อจับคู่ จะไม่เห็นแก่ตัวและไม่ช่วยผม หรือจะทำอะไรกับผลตรวจหรือเปล่า?”

“โม่…โม่ป๋าย ลูกพูดอะไรน่ะ! ลูกเป็นลูกชายคนเดียวของเรานะ!” คุณหญิงเจี่ยนมองไปที่ลูกชายด้วยความตกใจ คำกล่าวหาของลูกชายดังก้องอยู่ในหูของเธอ… นี่คือลูกชายของเธอ! ทำแบบนี้กับเธอได้ยังไง!

“โม่ป๋าย ลูกพูดแบบนี้กับพ่อแม่ของลูกได้ยังไง? หรือว่าพ่อแม่ในสายตาลูกเป็นคนที่เห็นแก่ตัวขนาดนั้น เห็นแก่ตัวเสียจนไม่อยากจะช่วยเหลือเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเอง?”

น้ำตาของคุณหญิงเจี่ยนร่วงราวกับสายฝน เจี่ยนโม่ป๋ายยังคงนิ่งเฉยและพูดพลางเยาะเย้ย

“หรือว่าไม่ใช่ล่ะ? หรือว่าพ่อกับแม่ไม่เห็นแก่ตัว?

ถงถงล่ะ?

ถงถงก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของพ่อกับแม่!

พ่อกับแม่เองก็ไม่สนใจเธอเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?”

“นั่นมัน นั่นมัน…”

“นั่นคืออะไร? นั่นเพราะตระกูลเสิ่นมีอิทธิพลมากเกินไป พ่อกับแม่กลัวเสิ่นซิวจิ่น ใช่ไหม?”

เจี่ยนโม่ป๋ายมองดูคุณหญิงเจี่ยนด้วยรอยยิ้มที่ประชดประชัน “ผมจะกล้าเชื่อพ่อกับแม่ได้ยังไง?”

ทันใดนั้นหมัดก็ตรงเข้าไปที่เขา “แกมันปากดี!” เจี่ยนเจิ้นตงมีใบหน้าที่สงบและจ้องมองกันและกันด้วยความโมโห

“เจิ้นตงๆ อย่านะ อย่าทำ!” คุณหญิงเจี่ยนรักลูก และรีบเข้าไปขวางระหว่างพ่อลูก และขวางสามีของเธอ

“โม่ป๋ายไม่สบาย! เขาเองก็ร้อนใจ ลูคีเมียนะ! คุณจะให้เขาเป็นอะไรได้? เขายังเด็กอยู่ เขายังไม่มีครอบครัว เขากำลังจะต้องเผชิญหน้ากับความตาย จะไม่ให้เขาร้อนรนได้เหรอ? เขาจะเหมือนกับคนที่ไม่มีเรื่องอะไรได้งั้นเหรอ!

เจิ้นตง! โม่ป๋ายเป็นลูกของเรานะ ลูกชายคนเดียวของเรา!”

เจี่ยนเจิ้นตงสูดหายใจลึก “โม่ป๋าย แกไม่ควรคิดแบบนี้กับพ่อแม่ ฉันกับแม่เป็นพ่อแม่ของแกนะ!”

เจี่ยนโม่ป๋ายกัดฟันและไม่ตอบอะไรอีก เขาคิดอะไรบางอย่างได้จนลืมเงยหน้าและถามขึ้น “พ่อ พ่อคงรู้ว่าเสี่ยวถงอยู่ที่ไหน ใช่ไหม?”

เขามองไปข้างหน้าอย่างคาดหวังไปยังพ่อของเขาเอง

เจี่ยนเจิ้นตงเม้มปากและไม่พูดอะไร

เจี่ยนโม่ป๋ายยื่นมือออกไปจับแขนเสื้อของเจี่ยนเจิ้นตง “พ่อ ครอบครัวเราเหลือเพียงเสี่ยวถงที่ช่วยผมได้ พ่อบอกผมเถอะว่าเสี่ยวถงอยู่ที่ไหน ผมขอร้อง!”

“แกพูดเพ้อเจ้ออะไร แกไม่มีรายงานการจับคู่ของเธอเสียหน่อย แกจะรู้ได้ยังไงว่าจะเข้าคู่กันได้?”

เจี่ยนเจิ้นตงถาม

คุณหญิงเจี่ยนช่วยเสริม “นั่นสิ เจอถงถงก็ไม่หมายความว่าจะเข้าคู่กันได้”

เจี่ยนเจิ้นตงโบกมือ “ดึกมากแล้ว แกไปพักผ่อนก่อนเถอะ พรุ่งนี้ฉันจะหาเส้นสายถามดูเรื่องหาไต ทั้งประเทศมีคนตั้งมากมาย จะหาไม่เจอเลยเหรอ? ในประเทศไม่มี ก็ไปต่างประเทศ พ่อจะต้องช่วยแกแน่”

“โม่ป๋าย อย่าอดนอน ฟังที่พ่อพูด ไปพักก่อนเถอะ เรื่องสำคัญแบบนี้ พ่อแม่ต้องช่วยลูกแน่” คุณหญิงเจี่ยนรักลูกตนเองแต่ก็รู้ดีว่ารีบร้อนไปก็ไม่มีประโยชน์ จึงได้แต่ให้ลูกไปพักก่อน ไม่ต้องสิ้นเปลืองแรงกายและพลังงาน

เธอเอื้อมมือออกไปที่เจี่ยนโม่ป๋าย

“เสี่ยวถงช่วยผมได้จริงๆ! เสี่ยวถงเข้าคู่กับผมได้! เสี่ยวถงเป็นคนเดียวที่ช่วยผมได้!” เจี่ยนโม่ป๋ายเข้าใจในสิ่งที่พ่อของเขาพูด แต่ว่าเขาไม่กล้าเสี่ยง

แหล่งขายไตนั้นมีมาก แต่ถ้า ถ้าหากว่าไม่มีที่เข้ากับเขาได้ล่ะ?

เขาไม่เข้าใจ ทำไมเขาเป็นโรคที่มีความน่ากลัวขนาดนี้แล้ว พ่อของเขากลับไม่ค่อยจะตื่นตระหนกเลย

เจี่ยนโม่ป๋ายตะโกนอย่างตื่นเต้น “ตอนเสี่ยวถงอายุสิบแปดได้บริจาคตัวอย่างเลือดไว้ เธอบอกผมว่า ถ้าหากว่าบนโลกนี้มีคนป่วยแล้วเข้ากับเธอได้ เธอก็ยอมจะช่วยชีวิตคน

และความเข้ากันกับเสี่ยวถง ผม…ผมหาข้อมูลมาแล้ว มีเพียงเสี่ยวถงที่ช่วยผมได้ อีกทั้งเธอยังเป็นน้องสาวของผมเอง

พ่อ บอกผมมาเถอะว่าเสี่ยวถงอยู่ที่ไหน?”

คุณหญิงเจี่ยนที่อยู่ข้างๆ หน้าซีดขาวเหมือนกระดาษเปล่า แล้วจู่ ๆ ก็พูดออกมาอย่างตื่นเต้น “เป็นไปไม่ได้!”

“ทำไมถึงเป็นไปไม่ได้? แม่! แม่อยากให้ผมหาย หรือไม่หายกันแน่!” เจี่ยนโม่ป๋ายรีบถามขึ้น

“เป็นไปไม่ได้…บนโลกนี้ จะมีเรื่องบังเอิญแบบนี้ได้เหรอ?” เธอไม่เชื่อๆ ๆ!

“บังเอิญอะไร? เจี่ยนถงเป็นน้องสาวผม ระหว่างญาติสนิท ปกติก็มีสัดส่วนที่จะเข้าคู่กันได้มากอยู่แล้ว”

เจี่ยนโม่ป๋ายไม่เข้าใจ แม่ของเขามีปฏิกิริยาแบบนี้หมายความว่าอย่างไร มันแปลกประหลาดมาก

“โม่ป๋าย!” ทันใดนั้นคุณหญิงเจี่ยนก็ยื่นมือออกไปกำเสื้อของเจี่ยนโม่ป๋ายแน่น “ลูก ลูกมั่นใจนะ?”

บนโลกนี้มีเรื่องบังเอิญจริงๆ อย่างนั้นเหรอ?

“แม่ แม่เป็นอะไรกันแน่?”

“เจี่ยนถง เจี่ยนถงไม่ใช่ลูกของฉัน” คุณหญิงเจี่ยนหน้าซีดขาว เมื่อพูดจบก็เหมือนจะใช้แรงทั้งหมดที่มีไปแล้วและล้มลงใส่เจี่ยนโม่ป๋าย

“แม่ แม่พูดเพ้อเจ้ออะไร!”

“จริงๆ เจี่ยนถงไม่ใช่ลูกของแม่ เธอมีน้องสาว แต่ไม่ใช่เธอ ตอนแม่คลอด แม่คลอดได้ราบรื่น มีสติสัมปชัญญะมาก แม่ให้กำเนิดเด็กผู้หญิง และพยาบาลที่มีหน้าที่ทำความสะอาดเด็กแรกเกิด พอเธอทำความสะอาดเด็กเสร็จ แม่ให้เธออุ้มเด็กให้แม่ดู เธอเป็นเด็กผู้หญิง ขาไม่มีปาน แต่เสี่ยวถงมีปานที่เท้าขวา

แม่ไม่กล้าจะพูดออกมา แม่อยากจะพาเธอไปตรวจดีเอ็นเอที่โรงพยาบาล แต่พ่อของลูกก็รักเธอมาก เธอถูกพ่อของลูกเลี้ยงมาข้างกายตั้งแต่เล็ก เธอเป็นเด็กฉลาด ถ้าแม่พาเธอไปจริงๆ และพ่อของลูกรู้เรื่องเข้า…

เดิมทีพ่อของลูกก็ไม่ได้ชอบแม่อยู่แล้ว” เธอเองก็กลัวผลตรวจดีเอ็มเอที่แท้จริง หากมีใครรู้ ไม่แน่ว่าจะถูกคนอื่นเข้าใจผิดได้ว่าเธอไปมีอะไรกับคนอื่น

“อย่างไรเสียเธอก็เป็นเด็กผู้หญิง ตอนนั้นแม่คิดว่าไม่ส่งผลอะไรถึงลูก ต่อมาเธอทุ่มตัวเอง แม่ไม่ได้หยุดและยังโชคดีด้วยซ้ำ”

เจี่ยนโม่ป๋ายอึ้งไป

ทันใดนั้นก็มีเสียงเบาๆ “เธอก็เลยคิดเองเออเอง เธอคิดว่าคุณพ่อจะใจดีให้คนอื่นเลี้ยงหลานตัวเองเหรอ?” เจี่ยนเจิ้นตงที่อยู่ข้างๆ พูดขึ้น

Devil’s love

Devil’s love

เซี่ยเวยเหมิงเสียชีวิตแล้ว เสิ่นซิวจิ่นส่งตัวเจี่ยนถงเข้าไปในเรือนจำหญิงสามปีในคุก คำพูดของเสิ่นซิวจิ่นที่ว่า“ดูแลเธอให้ดีๆ”ทำให้เจี่ยนถงทรมานและเปลี่ยนไปมาและเปลี่ยนไปมาก ยิ่งไปกว่านั้นคือตอนที่อยู่ในคุกถูก “ยินยอมที่จะบริจาคไตโดยไม่สมัครใจ”ก่อนเข้าคุก เจี่ยนถงพูด:ฉันไม่ได้ฆ่าเธอ เสิ่นซิวจิ่นไม่แสดงท่าทีอะไรหลังออกจากคุก เจี่ยนถงพูด:ฉันเป็นคนที่ฆ่าเซี่ยเวยเหมิง ฉันอาชญากรรมแล้วเสิ่นซิวจิ่นพูดด้วยสีหน้าซีดขาว:หุบปากไปเลย! อย่าให้ฉันได้ยินประโยคนี้อีก!เจี่ยนถงยิ้ม:จริงๆ ฉันเป็นคนที่ฆ่าเซี่ยเวยเหมิง ฉันติดคุกมาสามปี เจี่ยนถงหลบหนีไป เสิ่นซิวจิ่นตามหาเธอทั่วทุกมุมโลก เสิ่นซิวจิ่นพูด:เจี่ยนถง ฉันยกไตให้คุณ คุณมอบหัวใจให้ฉันเถอะ เจี่ยนถงเงยหน้ามองเสิ่นซิวจิ่น แล้วพูด…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset