Devil’s love ทิ้งรักของนายปีศาจไป – ตอนที่ 233 ช่างน่าขำ

ไออุ่นที่คุ้นเคยกลิ่นที่คุ้นเคย ความคุ้นเคยที่………น่ากลัว เต็มในใจ!

ตัวสั่นเทา ความกลัว ตระหนกตกใจ ทั้งหมดนี้ล้วนแสดงออกมาทางขนตาคู่นั้นที่ปิดไว้แน่น แม้แต่ริมฝีปากที่ถูกปรนนิบัติอย่างนุ่มนวล ก็สั่นสะท้านไปด้วย

การสั่นสะท้านนี้ ได้ถูกส่งไปยังชายหนุ่มที่อยู่ข้างหลัง ในสายตาของเขา มีความสงสาร ความโดดเดี่ยว ความเสียใจ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป………. จะไม่ทรยศต่อผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว!

จะไม่ยอมทำให้ผู้หญิงคนนี้รู้สึกกลัวอีกแล้ว……..มันเป็นการละเลยในหน้าที่ของเขา

แขนที่แข็งแรงทั้งสองข้าง โอบกอดขึ้นไป จากด้านหลัง โอบรอบไหล่หญิงสาวบนเก้าอี้นอนที่กำลังสั่นเทาไว้ ริมฝีปากของเขาก็ยิ่งนุ่มนวลขึ้น แขนคู่นั้น ดูเหมือนจะมีกำลังออกมาปกป้องผู้หญิงในอ้อมแขนคนนี้ให้ได้

รู้อยู่เต็มอกว่า เธอกลัว……แต่ ขอเพียงเธอไม่ผลักเขาออก เขาจะไม่โลภละโมบกลิ่นเธอในเวลานี้ได้อย่างไร?

จาวจาวเบิกตากว้าง กะพริบตาปริบๆ……..ชายหนุ่มที่โผล่มาอย่างกะทันหันคนนี้ คือใครกัน?

สถานการณ์ของเธอไม่ค่อยจะดีนัก แต่เธอลืมไปว่า ทั้งสองข้างของตัวเองมี“แม่ทัพทั้งสอง”ซ้ายคนขวาคนกำลังจ้องมองเธอ เวลานี้ดวงตาคู่ที่ยังไม่ถูกค่านิยมของเมืองใหญ่ครอบงำ เปล่งประกายความอยากรู้อยากเห็น

“เฮ้ ชายหนุ่มคนนั้นเป็นเจ้าสำนักของพวกคุณหรือ?”

เสิ่นเอ้อมองดูเด็กผู้หญิงข้างกายราวกับเป็นคนปัญญาอ่อน……คิดได้อย่างไร สมัยไหนแล้วยังมี“เจ้าสำนัก”อีกหรือ?

“ใช่แล้ว พวกคุณเป็นมาเฟียใช่ไหม? ฉันดูแล้วพวกคุณจะต้องเป็นมาเฟีย ”

จาวจาวพูดจอแจไม่หยุด แต่ก็ไม่กล้าพูดเสียงดัง กลัวว่าตัวเองเสียงดังจะไปรบกวนคู่รักใต้ชายคาได้

เสิ่นเอ้อรู้สึกรำคาญขึ้นมา“มาเฟียอะไร หน้าตาผมดูเหมือนเป็นมาเฟียไหม?”

แล้วก็ใช้สายตาที่มองคนปัญญาอ่อน มองไปทางเด็กผู้หญิงข้างกายอย่างโหดเหี้ยมแวบหนึ่ง

ทันใดนั้น เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น

“เพียะ!”

ทันใดนั้นเสียงตบไปที่ใบหน้าดังกังวานไปทั่วป่าในสายลมกับ แสงแดด เสียงนก และกลิ่นหอมดอกไม้

เสิ่นเอ้อรีบเงยหน้ามองไปตามเสียง ทันใดนั้น หัวใจเขา แน่นขึ้นมาทันที

“Boss……”

เขามองไปทางชายหนุ่มที่ถูกตบจนหน้าหันที่ใต้ชายคา ชายหนุ่มก้มหน้าลง ฝ่ามือนี้ เห็นได้ชัดว่าตบได้ไม่เบา ผมตรงหน้าผากที่ยาวเล็กน้อย ได้ตกลงมาปกปิดถึงใต้ตา

หัวใจของเสิ่นเอ้อตุ้มๆต่อมๆ“Boss………”

เขาอยากจะเดินเข้าไป เพิ่งจะก้าวเท้าขึ้น ก็ถูกชายหนุ่มร่างกายสูงใหญ่ใต้ชายคาคนนั้นโบกไม้โบกมือ ให้เขาไม่ต้องเดินเข้าไป

เสิ่นเอ้อทำได้เพียงรออยู่ในห้องโถงใหญ่อย่างกังวล มองดูชายหญิงคู่นั้นอย่างประหม่า แล้วสวดอ้อนวอน…….ลูกพี่ เวลานี้คุณจะเบลอไม่ได้นะ ขออย่าได้ระเบิดอารมณ์โกรธออกมาเลย

ชายหนุ่มค่อยๆเงยหน้าขึ้น ไม่รู้ว่าหญิงสาวบนเก้าอี้นอน ลุกขึ้นมาอย่างลุกลี้ลุกลนตั้งแต่เมื่อไหร่ ในมือจับผ้าห่มผืนบางที่คลุมบนตัวเธอไว้แน่นๆ มองดูเขาด้วยความประหม่า เขาเห็นความกลัวในสายตาเธออย่างชัดเจน

เจ็บจี๊ดในใจเหมือนถูกเข็มทิ่มแทง

เขาอยากจะเดินเข้าไปกอดเธอไว้ เพิ่งจะทำท่าเดินไปทางเธอ สีหน้าหญิงสาวเปลี่ยนไปทันที“อย่าเข้ามา!”

“เสี่ยวถง…….”

“ฉันบอกว่าอย่าเข้ามา !”เธอกรีดร้อง ในแววตาเต็มไปด้วยความกลัว เป็น “ความกลัว”ที่ออกมาจากในจากข้างในกระดูก

“อย่ากลัว”

อย่ากลัวหรือ?

เขาบอกเธอว่า“อย่ากลัวหรือ?”

ในใจเขาคิดอะไรอยู่ จึงมาขอร้องให้เธอ“ไม่ให้กลัว” ?

“เสี่ยวถง อย่ากลัว……”อย่ากลัวผม…….

เขาอยากจะพูด“อย่ากลัวผม”แต่จุกในลำคอมาก จนทำให้เขาไม่อาจจะเปิดปากพูดได้

ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ต้องบอกกับผู้หญิงที่ตัวเองรักว่า “อย่ากลัวผมเลย”

หญิงสาวเพียงแต่ยืนอยู่ตรงนั้น มองดูเขาด้วยสีหน้าระมัดระวัง ราวกับเขาเป็นไอ้เลวทรามชั่วสุดๆ

ทำไม……..วินาทีแรกที่พบเจอเขา ความเจ็บปวดในใจที่หายไปนานแล้วก็เจ็บขึ้นมาอีกครั้ง?

มันบีบแน่นจนหายใจลำบาก

“เสิ่นซิวจิ่น! คุณกลับไปเถอะ!”เธอมองมาทางเขา แล้วพูดด้วยความสิ้นหวัง“ทำไม ยังต้องตามมาหาด้วย?”

“เสี่ยวถง ผมมา รับคุณกลับบ้าน กลับไปกับผม ”

แล้วเขาก็ก้าวเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว

แต่เธอเหมือนนกที่ตระหนกตกใจ ก้าวถอยหลังไปอีก ถอยไปถึงขอบบันได กรีดร้องด้วยความหวาดกลัว แล้วร่างกายก็ล้มลงพื้นอย่างควบคุมไม่ได้

ทันใดนั้น สีหน้าชายหนุ่มเปลี่ยนไป เขาก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว คว้าเธอไว้อย่างรวดเร็ว

“เป็นอะไรไหม? ไหนผมดูหน่อย ให้ผมดูว่าบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า ?”รู้สึกว่าเขามือไม้ซุ่มซ่ามเล็กน้อย กำลังจะตรวจเช็ดให้เธอ

เพียะ~!

เสียงตบของฝ่ามือดังกังวานขึ้นอีกครั้ง!

เขามองดูมือที่ถูกเธอปัดออก บนหลังมือ เป็นสีแดงจ้ำๆ

“ออกไป! คุณออกไป!”

ในใจของเธอสับสนวุ่นวาย…..“คุณออกไป! ”

“เสี่ยวถง คุณสงบสติอารมณ์บ้าง ใจเย็น…….”

ใจเย็นหรือ?

เขาบอกให้เธอสงบสติอารมณ์หรือ?

ใช่ ถูกต้อง!

เธอควรจะสงบสติอารมณ์ หายใจเข้าลึกๆ ต้องใจเย็นๆ แล้วจัดการเขาอย่างใจเย็น!

จะกลัวไม่ได้

“คุณเสิ่น”ผ่านไปเนิ่นนาน เธอถึงระงับความกลัวลึกๆในใจเธอได้ เธอพยายามจะทำให้ตัวเองเป็นปกติบ้าง

“หากจะมาเข้าพักโรงแรม ทางร้านเราไม่มีห้องว่างแล้ว”

“ผมไม่เข้าพัก ผมมารับคุณกลับบ้าน”

“ฉันไม่ไป”เธอพูด ทั้งๆที่กลัวคนตรงหน้านี้มาก แต่ก็บังคับตัวเองเงยหน้าขึ้นมองสบตาเขา

“คุณเสิ่น ฉันจะไม่ไปกับคุณ ที่นี่เป็นบ้านของฉัน ชาตินี้ฉันจะอยู่ที่นี่ตลอดไป ถ้าคุณเสิ่นไม่ได้จะมาเข้าพัก ก็เชิญคุณออกจากที่นี่ไป”

ไม่ว่าอย่างไร……….เธอก็ยังกลัวอยู่ สายตาที่จ้องมองเขาสั่นไหวขึ้นมาเล็กน้อย เหมือนจะหลบ

“เสี่ยวถง หยุดสร้างปัญหาได้แล้ว……ได้ไหม? เรากลับบ้านกัน มีคำหนึ่งที่อาจจะพูดช้าไป ผม…..”รักคุณ……

“สร้างปัญหาหรือ?

ใครเป็นคนสร้างปัญหากันแน่?

คุณเสิ่น ท่านเป็นท่านประธานใหญ่ที่มีเงินทองไหลเข้ามาทุกวัน ส่วนฉันเป็นชาวบ้านธรรมดาที่เปิดโฮมสเตย์อยู่ทะเลสาบเอ๋อร์ไห่ กลับบ้านหรือ?

บ้าน คืออะไร?”

ที่จริง เธอสามารถมีเหตุผลและใจเย็นกว่านี้ เธอรู้ว่า เธอควรจะมีเหตุผลและใจเย็นมากกว่านี้ และก็ต้องเฉยเมยกว่านี้ เหมือนกับตอนที่ทำกับลู่หมิงชู……..ไม่รัก ก็ไม่ให้โอกาส ใจดำจนถึงที่สุด

เธอ…..เป็นอะไรไปกันแน่!!!

ความคิดนับพันวนเวียนอยู่ในหัวสมอง มีความคิดมากมายอยากจะโพล่งออกมา แต่ก็จับไม่ได้ใจความ

แต่ถูกความคิดของตัวเองนั้นทิ่มแทงจนเจ็บปวด!

ตัวเองถูกตัวเองทิ่มแทงจนเจ็บ…….เหมือนกับชีวิตของเธอเป็นเรื่องตลก!

เดินไปไม่กี่ก้าว เธอก็หยิบอุปกรณ์ชุดชาบนโต๊ะชาขึ้นมา แล้วขว้างปาไปบนตัวของเขา“ไป! เสิ่นซิวจิ่น!คุณฟังฉันให้ดีนะ!

ฉันจะไม่ไปกับคุณ!

ที่นี่ก็คือบ้านของฉัน!

ฉันสาบานว่า ชาตินี้ฉันจะไม่ไปจากที่นี่แม้แต่ก้าวเดียว!

คุณไปให้พ้น !

ไปให้พ้นจากMemory House!

คนที่ไม่สมควรจะอยู่สถานที่นี้ที่สุดก็คือคุณ !”

ถ้วยชา กาน้ำ ถาด แต่ละอย่างขว้างไปใส่เขา

น้ำชาที่กำลังเดือดร้อนๆ ไหลออกมา!

เธอกะพริบตาแวบหนึ่ง เอาน้ำตาในดวงตากลับเข้าไป……..ถ้าหากชีวิตคนเรานี้ มีชีวิตอยู่เพียงเพราะใครบางคนเท่านั้น มันจะเป็นเรื่องที่ตลกที่สุด

นี่เป็นสิ่งที่เธอเกลียดตัวเองที่สุด

เพื่ออาลู่ เพื่อชดเชยที่ติดค้างความฝันของอาลู่ เธอมีชีวิตอยู่เพียงแค่ร่างกายที่ไร้วิญญาณ

เธอเป็นคนที่ควรจะตายไปแล้ว!

แต่ว่า สามปีแล้ว เขาปรากฏตัวมาทำไม แล้วทำให้หัวใจที่เฉื่อยชาแล้วของเธอ เจ็บปวดขึ้นมาอีกครั้งหรือ?

หรือว่า ชีวิตของเธอเจี่ยนถง วิญญาณของเธอยังมีชีวิตอยู่ เพียงเพราะเสิ่นซิวจิ่นคนนี้หรือ?

ช่างน่าขำสิ้นดี!

“ไป !ไปให้พ้น !ไป! ”

ชายหนุ่มยืนอยู่ตรงนั้น แล้วแต่เธอจะขว้างปา มองดูเธอเงียบๆ แล้วก็เหลือบมองดูสิ่งของรกเต็มพื้น กล่าวอย่างเคร่งขรึม“ทุบถ้วยชาหมดแล้ว ทุบถาดแล้ว ทุบกาน้ำแล้ว……..ทุบพอใจแล้วหรือยัง?”

หญิงสาวใจขึ้น“ไม่พอ! ทุบคุณ ฉันทุบอย่างไรก็ไม่พอ! ” พูดจบอยากจะหยิบสิ่งของขึ้นทุบต่อ มองดูรอบกายที่ยุ่งเหยิงรกเต็มพื้น และในมือที่ว่างเปล่า อึ้งไป……ทันใดนั้นก็นิ่งไปครู่หนึ่ง“ฮือๆ…….”แม้แต่สวรรค์ก็ช่วยเขา ข้างมือว่างเปล่า อยากจะทุบก็ไม่สิ่งของให้ทุบ!

ชายหนุ่มยืนมองดูหญิงสาวที่นั่งร้องไห้อยู่ที่พื้น ผ่านไปครู่หนึ่ง เสียงเคร่งขรึมเอ่ยขึ้น“คุณอยากจะทุบอะไร ผมจะช่วยคุณเอามา”

Devil’s love

Devil’s love

เซี่ยเวยเหมิงเสียชีวิตแล้ว เสิ่นซิวจิ่นส่งตัวเจี่ยนถงเข้าไปในเรือนจำหญิงสามปีในคุก คำพูดของเสิ่นซิวจิ่นที่ว่า“ดูแลเธอให้ดีๆ”ทำให้เจี่ยนถงทรมานและเปลี่ยนไปมาและเปลี่ยนไปมาก ยิ่งไปกว่านั้นคือตอนที่อยู่ในคุกถูก “ยินยอมที่จะบริจาคไตโดยไม่สมัครใจ”ก่อนเข้าคุก เจี่ยนถงพูด:ฉันไม่ได้ฆ่าเธอ เสิ่นซิวจิ่นไม่แสดงท่าทีอะไรหลังออกจากคุก เจี่ยนถงพูด:ฉันเป็นคนที่ฆ่าเซี่ยเวยเหมิง ฉันอาชญากรรมแล้วเสิ่นซิวจิ่นพูดด้วยสีหน้าซีดขาว:หุบปากไปเลย! อย่าให้ฉันได้ยินประโยคนี้อีก!เจี่ยนถงยิ้ม:จริงๆ ฉันเป็นคนที่ฆ่าเซี่ยเวยเหมิง ฉันติดคุกมาสามปี เจี่ยนถงหลบหนีไป เสิ่นซิวจิ่นตามหาเธอทั่วทุกมุมโลก เสิ่นซิวจิ่นพูด:เจี่ยนถง ฉันยกไตให้คุณ คุณมอบหัวใจให้ฉันเถอะ เจี่ยนถงเงยหน้ามองเสิ่นซิวจิ่น แล้วพูด…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset