Devil’s love ทิ้งรักของนายปีศาจไป – ตอนที่ 267 เจี่ยนถงที่เห็นแก่ตัวและไร้หัวใจ

ณ เมืองS ในพื้นที่ที่ศรีวิไลที่สุด ผู้หญิงคนนั้นเลือกซื้อแบรนด์ที่แพงที่สุดในห้างชั้นนำ เธอพูดว่า “ฉันมาเลือกชุดค่ะ”

พนักงานแบรนด์เนมตัดสินคนเก่งเป็นที่สุด ผู้หญิงคนนี้เดินเข้ามากะเผลกๆ มองตาเดียวก็รู้ว่าขาหัก แต่ทั้งๆที่ขาหัก ผู้หญิงคนนั้นกลับพยายามยืดตัวให้ตรง เห็นแบบนี้ ก็ยิ่งรู้สึกขัดหูขัดตา

เสื้อผ้าบนตัวของเธอ มองแวบเดียว ก็รู้แล้วว่าไม่มีแบรนด์เนมขึ้นชื่อสักชิ้น ของที่ใส่ล้วนแล้วแต่เป็นของธรรมดาที่หาได้ทั่วไป

ร่างกายสูงเพรียวของพนักงานขาย ไม่ยอมขยับไปไหน ผู้หญิงคนนั้นจึงเอ่ยพูดขึ้นมาว่า “ฉันมาเลือกชุด” นิ้วมือเรียวยาวของพนักงานชี้ไปยังมุมมุมหนึ่ง “ทางนั้น ลดสามสิบเปอร์เซ็นต์”

เธอขี้เกียจขยับ

แต่วินาทีต่อมา ร่างกายของเธอก็เครียดเกร็ง เมื่อคนขาหักมองมาที่เธอ ด้วยแววตาเยือกเย็น

เจี่ยนถงเพียงแค่ยืนมองพนักงานคนนั้นเงียบๆ ไม่ได้เอ่ยต่อว่า ไม่ได้แสดงท่าทีกรุ่นโกรธ

หัวใจของเธอตอนนี้ เหมือนมีรูโหว่ อะไรก็เติมเข้าไปไม่ได้ ไม่มีสิ่งใดรั่วไหลออกมา

“ฉันมาซื้อชุดค่ะ” เธอเพียงแค่มองพนักงานขายคนนั้นนิ่งๆ ในดวงตาแข็งทื่อ ชวนให้คนมองหวาดกลัว

คราวนี้ ในที่สุดเธอก็ได้รับการปฏิบัติที่ “เท่าเทียม”

“คุณผู้หญิง ไม่ทราบว่าต้องการชุดแบบไหนคะ?”

“สีดำ อ่อนโยน เคร่งขรึม”

“………..” คำพูดแปลกๆถูกเอ่ยออกมา แน่นอนว่าชุดสีดำไม่ได้ขาดสต๊อกหรอก เพียงแต่ว่าไม่ว่าผู้หญิงคนไหนมาซื้อชุดสีดำ ก็มักจะพุ่งเข้าใส่ชุดเซ็กซี่น่าค้นหาเสียมากกว่า

เป็นทางการ?

นั่นมันชุดไว้อาลัยแล้วหรือเปล่า?

“ฉันต้องการ ตัวที่สวยที่สุด ฉันอยาก….” เจี่ยนถงนิ่งไปชั่วขณะ ดวงตาแข็งทื่อคู่นั้น ไหวระริก จดจ้องมาที่ใบหน้าของพนักงานขาย “ฉันอยากให้เขาเห็น แล้วตกตะลึง จนไม่สามารถละสายตาไปจากฉันได้อีก”

พนักงานขายเผยสีหน้าตลกออกมา

ชุดสีดำ เป็นทางการ…….แค่นี้ก็ว่าแปลกแล้วนะ

นี่ยังจะอยากให้คนตกตะลึงจนละสายตาไม่ได้ด้วยเหรอ?

“ทำตามที่เธอสั่ง” วิเวียนที่ยืนอยู่หน้าประตู หอบหายใจรุนแรง เธอเดินตามหลังเจี่ยนถงมาอย่างไม่ค่อยวางใจ เธอวิ่งจนส้นรองเท้าส้นสูงของเธอเกือบหัก แต่เธอไม่สนใจ เปิดกระเป๋าควักแบล็กการ์ดออกมา แล้วยื่นให้พนักงานขาย “ทำตามที่เธอสั่ง ชุดสีดำเป็นทางการ……ที่สวยจนคนเห็นต้องตกตะลึง”

เธอพูดต่อไปไม่ไหว

เธอเข้าใจดีกว่าใคร ว่าเจี่ยนถงในตอนนี้ ไร้สติแค่ไหน

พนักงานขายไม่รู้จักเจี่ยนถง แต่ว่ารู้จักวิเวียน วิเวียนเป็นพนักงานระดับสูงของร้านแห่งนี้ ที่มียอดขายในแต่ละเดือนมากกว่าหกหลัก

ลูกค้าเส้นใหญ่ขนาดนี้ เธอไม่กล้าขัดใจหรอก

อยากถามอยู่หรอก ว่าผู้หญิงขาหักคนนั้นเป็นใคร แต่กลับพบว่าวิเวียนที่เก่งมากๆในสายตาของเธอเคารพและนอบน้อมต่อผู้หญิงคนนั้นมากขนาดไหน

เมื่อพนักงานขายเดินกลับมา ก็มีคนมาเพิ่มด้วยอีกหนึ่งคน “คุณวิเวียน นี่คือนักออกแบบของแบรนด์เราค่ะ วันนี้บังเอิญเข้ามาเยี่ยมร้านพอดี นี่เป็นโอกาสที่หนึ่งปีมีหนเลยนะคะ ส่วนคำสั่งของคุณผู้หญิงท่านนี้ ฉันหาชุดที่เหมาะสมไม่ได้จริงๆค่ะ ฉันก็เลยส่งต่อให้นักออกแบบจัดการ เขายินดีที่จะแก้ไขชุดให้คุณผู้หญิงท่านนี้ค่ะ”

วิเวียนพยักหน้า “แบบนั้นก็ดีเลย” เธอหันไปมองคนต่างชาติข้างๆ “Thank you”

ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรมาก ทุกอย่างดำเนินการอย่างเงียบๆ

นักออกแบบชาวต่างชาติคนนั้น เหมือนจะเข้าใจความต้องการของเจี่ยนถง

มือของนิ่ง แล้วก็เร็วมาก

หลังจากที่เลือกชุดสีดำมาได้ชุดหนึ่ง ก็นำมาทาบลงบนตัวของเจี่ยนถง จากนั้นก็เริ่มตัดชุด

ทุกอย่าง ดำเนินไปตามความต้องการของเจี่ยนถง ความต้องการที่ดูแปลกๆและขัดแย้งกัน

สีดำ เป็นทางการ…..สวยจนคนมองต้องตะลึงไม่อาจละสายตาได้

ใช่แล้ว ชุดนี้ มันดูขัดแย้งจนไม่น่ามีใครกล้าเอาไปใส่

“คุณผู้หญิง ถ้าเปิดหลังได้ไหมครับ?”

นักออกแบบเอ่ยถามเป็นภาษาอังกฤษ

เจี่ยนถงเอ่ยถาม “มันดูเคร่งขรึมและสวยจนตกตะลึงไหม?”

“ครับ คุณผู้หญิง”

“งั้นก็ได้”

วิเวียนมองเจี่ยนถงอย่างประหลาดใจ เธอรู้ ว่าเจี่ยนถงไม่ชอบเปิดเผยแผ่นหลังให้ใครเห็น เพราะว่าแผ่นหลังของเธอ ไม่ค่อยสมบูรณ์แบบเท่าไหร่

มือของนักออกแบบยังคงนิ่งเหมือนเดิม ถึงแม้จะเห็นรอยมีดน่ากลัวบริเวณข้างเอวของเธอแล้วก็ตาม

“คุณกล้าหาญมาก” เมื่อทุกอย่างสิ้นสุดลง นักออกแบบต่างชาติคนนั้นก็เอ่ยปากชมขึ้นมา พร้อมกับมอบกอดให้เจี่ยนถงอย่างสุภาพบุรุษ “ขอแสดงความเสียใจด้วย พระเจ้าจะคุ้มครองเขาอยู่บนสวรรค์”

เมื่อพนักงานขายได้ยินประโยคสุดท้าย ก็เบิกตากว้างจ้องมองมาที่เจี่ยนถง……เป็นอย่างนี้นี่เอง

หลังจากที่กลับมาจากห้าง ก็ตรงกลับบ้านไปเก็บกระเป๋า

ซีเฉินมารับเธอด้วยตัวเอง

ทุกอย่าง เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว

ในตอนที่เครื่องบินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า หัวใจของเธอ ก็หนักอึ้งจนไม่อาจหายใจได้อย่างปกติ

ฟ้ามืดแล้วก็กลับมาสว่าง ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงอิตาลี

เสิ่นซานเตรียมรถรอแล้ว ทันทีที่พวกเขาลงมาจากเครื่อง จะได้ตรงไปที่โรงพยาบาลเลย

ตลอดทาง หญิงสาวไม่ได้เอ่ยถามอะไร ไม่ได้ถามถึงความเป็นไปของผู้ชายคนนั้น ไม่ได้ถามว่าเขาจะรอดไหม หรือว่าพ้นขีดอันตรายแล้วหรือยัง

บริเวณหน้าห้องพยาบาล เสิ่นเอ้อยืนเฝ้าอยู่ตรงนั้นด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ คนที่อยู่กับเขา เจี่ยนถงเองก็รู้จัก เพราะล้วนแล้วแต่เป็นคนของเสิ่นซิวจิ่นทั้งนั้น ทุกคนสวมใส่ชุดสูทสีดำ บรรยากาศอึมครึม นิ่งเงียบ

ซีเฉินเอ่ยถามเสิ่นเอ้อ “ยู่สิงอยู่ข้างในเหรอ?”

ไป๋ยู่สิงเป็นคนที่มากับเสิ่นซิวจิ่นในครั้งนี้

“คุณชายไป๋อยู่ข้างในครับ”

เขาก้มหน้ามองหญิงสาวที่ยังคงนิ่งข้างกาย “พร้อมหรือยัง?” มือของเขากุมลูกบิดประตูเอาไว้

“เดี๋ยวก่อน”

หญิงสาวนิ่งเงียบมาตลอดทาง ไม่ได้ดื่มน้ำ ไม่ได้ทานข้าว เธอเงียบเกินไป ซีเฉินเห็นแบบนั้นก็ขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ เครื่องบินตกหลุมอากาศกี่ครั้ง เธอก็ไม่หือไม่อือ เพียงแค่มองออกไปนอกหน้าต่างนิ่งๆไม่พูดไม่จา

วันนี้ ถือเป็นคำแรกที่ผู้หญิงคนนี้พูดออกมา

แต่กลับทำให้ทุกคนรอบด้านตกใจ

เสียงของเธอแหบแห้งเหมือนเสียงประตูที่ขึ้นสนิมดังขึ้นมาอย่างขาดๆหายๆ

ทุกคนรู้ดี ว่าลำคอของเธอคงไม่ไหวแล้ว แต่ว่าเสียงแหบๆฟังไม่ได้ศัพท์นี้ ถึงขีดจำกัดที่ทำให้คนทนมองไม่ได้อีกต่อไป

เหมือนมีกระดาษทรายสองแผ่นมาขัดกันจนเกิดเป็นเสียง “สากๆ”

ไม่ว่าใคร ก็รับรู้ได้ว่าเธอเจ็บคอจบแทบจะไม่ไหวแล้ว

ซีเฉินอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือขึ้นมาบีบลำคอของตัวเองเบาๆ

“มีอะไรเหรอ?” เขามุ่นคิ้ว แล้วเอ่ยถามอย่างไม่พอใจเล็กน้อย

ทุกสายตาต่างจดจ้องมาที่ผู้หญิงที่ยืนอยู่หน้าประตู เพื่อรอฟังว่ามีเรื่องสำคัญอะไร

ผู้หญิงคนนั้นกลับหยิบตลับแป้งออกมา ส่องกระจกแต่งหน้า ราวกับว่ารอบข้างไม่มีคนมองอยู่

“เวลานี้ยังจะมีกระจิตกระใจมาแต่งหน้าอีกเหรอ?” ซีเฉินแสยะยิ้ม เริ่มไม่พอใจจริงๆแล้ว

เพียงแค่โทสะเหล่านั้น ถูกเขาเก็บซ่อนเอาไว้ภายใต้ความอดทน

ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้สนใจเขาเลยสักนิด เธอหยิบลิปสติกขึ้นมา ละเลียดทาลงบนริมฝีปากอย่างช้าๆ ไม่ว่าใครได้มาเห็น ต่างก็ต้องคิดว่าเธอเย็นชาไร้หัวใจเป็นที่สุด

“พอได้แล้ว!” ซีเฉินกดเสียงต่ำ

แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับหันมามองเขาแล้วถามว่า “สวยหรือยัง?”

“คุณอย่า…….” มากเกินไปได้ไหม!

“ถ้าเขาเห็น ก็คงละสายตาหนีไม่ได้ใช่ไหม” ซีเฉินพูดยังไม่ทันได้จบ ก็พบว่าหญิงสาวตรงหน้า ก้มหน้าลงเล็กน้อย แล้วพูดพึมพำอยู่คนเดียว

ชั่วขณะนั้น ลำคอของเขาก็ตีบตัน หัวใจเจ็บแปล็บๆ

“สวยแล้ว” ผ่านไปสักพัก เขาก็เสียงอ่อนลง “เข้าไปกันเถอะ ถ้าเขารู้ว่าคุณตั้งใจแต่งตัวมาหาเขา เขาคงดีใจมากแน่ๆ”

“อืม”

ทันทีที่เปิดประตูออก หญิงสาวที่แต่งตัวมาอย่างสวยงาม ก็หยุดยืนอยู่ตรงหน้าประตู

Devil’s love

Devil’s love

เซี่ยเวยเหมิงเสียชีวิตแล้ว เสิ่นซิวจิ่นส่งตัวเจี่ยนถงเข้าไปในเรือนจำหญิงสามปีในคุก คำพูดของเสิ่นซิวจิ่นที่ว่า“ดูแลเธอให้ดีๆ”ทำให้เจี่ยนถงทรมานและเปลี่ยนไปมาและเปลี่ยนไปมาก ยิ่งไปกว่านั้นคือตอนที่อยู่ในคุกถูก “ยินยอมที่จะบริจาคไตโดยไม่สมัครใจ”ก่อนเข้าคุก เจี่ยนถงพูด:ฉันไม่ได้ฆ่าเธอ เสิ่นซิวจิ่นไม่แสดงท่าทีอะไรหลังออกจากคุก เจี่ยนถงพูด:ฉันเป็นคนที่ฆ่าเซี่ยเวยเหมิง ฉันอาชญากรรมแล้วเสิ่นซิวจิ่นพูดด้วยสีหน้าซีดขาว:หุบปากไปเลย! อย่าให้ฉันได้ยินประโยคนี้อีก!เจี่ยนถงยิ้ม:จริงๆ ฉันเป็นคนที่ฆ่าเซี่ยเวยเหมิง ฉันติดคุกมาสามปี เจี่ยนถงหลบหนีไป เสิ่นซิวจิ่นตามหาเธอทั่วทุกมุมโลก เสิ่นซิวจิ่นพูด:เจี่ยนถง ฉันยกไตให้คุณ คุณมอบหัวใจให้ฉันเถอะ เจี่ยนถงเงยหน้ามองเสิ่นซิวจิ่น แล้วพูด…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset