Devil’s love ทิ้งรักของนายปีศาจไป – ตอนที่ 320 เมื่อความเชื่อมั่นถูกทำลาย เธอจะเจ็บ

เจี่ยนถงมองคนที่มาเปิดประตูรถข้างเธอ ตกใจมาก…….อุบัติเหตุครั้งนี้ คงจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

“เจอกันอีกแล้วนะ พ่อบ้านเซี่ย”

ชายชราแก่ลงมากเมื่อเทียบกับครั้งสุดท้ายที่เธอเจอ และจำได้ว่าพ่อบ้านเซี่ยเป็นพ่อบ้านของตระกูลเสิ่นมาทั้งชีวิต ในความทรงจำ ใบหน้าของชายชราคนนี้

บนใบหน้านั้น ไม่ค่อยมีรอยยิ้ม หน้าเดียวตลอด ทั้งร่างกายมีแค่อารมณ์ที่เกร็งและนิ่ง

แต่ในตอนนี้ชายชราคนนี้ ไม่มีสีหน้าเหมือนตอนที่เป็นพ่อบ้านของตระกูลเสิ่นแล้ว ร่างกายเขาผอมบาง เหมือนไม้ในทะเลทราย เหี่ยวเฉา

มองใบหน้านิ่งและเกร็งในความทรงจำ ตอนนี้ดูแย่มาก

“คุณยังจำฉันได้เหรอ!

มันยากมากที่คุณยังจำคนแก่อย่างฉันได้!”

พ่อบ้านเซี่ยหัวเราะเหมือนคนสติไม่ดี หัวเราะจนกระดูกชา

“เห็นคนแก่อย่างฉัน ตกใจไหม?ตะลึงไหม? ฮ่า”

“คุณตั้งใจชนรถ?” มีเลือดอุ่นไหลลงมาจากหน้าผาก เธอไม่ได้เอามือไปเช็ด จ้องมองคนตรงหน้าอย่างไม่กะพริบตา

ความจริงไม่ต้องถามแล้ว ตอนรถชนเข้ามา กะจะชนให้ตาย เธอเหลือบไปมองคนขับที่บาดเจ็บและกำแขนไว้ ถ้าไม่ใช่เพราะไหวพริบของคนขับรถคนนี้ดี เวลานี้ เธอคงจะเป็นมากกว่าการบาดเจ็บ

“ฉันชนเอง ทำไม?

คุณจะแก้แค้นเหรอ?”

พ่อบ้านเซี่ยพูดจาฉะฉาน นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเกลียดชังที่มีต่อเจี่ยนถง

“น่าเสียดายจริงๆ ไม่ได้ชนคุณให้ตายคาที่” สีหน้าพ่อบ้านเซี่ยเต็มไปด้วยความเสียดาย พลิกบทพูด

“ก็ดี ก็ดี ถ้าให้คุณตายง่ายๆแบบนั้น มันก็สบายคุณเกินไปแล้ว”

“ทำไม?” เธอถามอย่างใจเย็น

ทำร้ายเธอครั้งแล้วครั้งเล่า

“คำถามโง่ๆแบบนี้ คุณยังจะถามอีกเหรอ?

ทำไม?

คุณยังมีหน้ามาถามฉันว่าทำไมอีกเหรอ?

ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ เวยเหมิงของฉันจะตายได้อย่างไร?”

“เซี่ยเวยเหมิงไม่ใช่คุณเป็นคนฆ่าเองเหรอ?” เธอหัวเราเย็นชา “คุณฆ่าลูกสาวแท้ๆของตัวเอง ตอนคุณลงมือ ทำไมไม่คิดว่านั่นเป็นลูกสาวของคุณ?”

“หุบปาก” พ่อบ้านเซี่ยโกรธเคือง ตบไปหนึ่งที เจี่ยนถงหลบไม่ทัน โดนตบไปหนึ่งที ใบหน้าเล็กๆ ทันใดนั้นก็บวมแดงครึ่งหนึ่ง

เธอหัวเราะเยาะมากขึ้นเรื่อยๆ

“คุณยังหัวเราะ!

เพราะคุณ!

ทั้งหมดเพราะคุณ!

ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ฉันจะพลั้งมือฆ่าเวยเหมิงที่น่าสงสารของฉันได้อย่างไร?

ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ฉันจะมีโอกาสฆ่าเวยเหมิงได้อย่างไร?”

เจี่ยนถงหัวเราะน้ำตาเกือบจะไหลออกมา

กล้าฆ่าลูกสาวตัวเอง เป็นเพราะโอกาสที่เธอให้

“ฉันกระตุ้นให้คุณฆ่าคน?

ฉันเป็นคนขู่บังคับให้คุณฆ่าคน?คุณเห็นแก่ตัวเอง ฆ่าเวยเหมิง นี่คือความจริงที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้!”

“คุณหุบปาก หุบปาก หุบปาก!

ฉันทำเช่นนั้น เพราะไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้!

ฉันทำเช่นนั้น เพราะมีเหตุก่อน!

ฉันคิดว่าเวยเหมิงไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆของฉัน!

ถ้าคืนนั้นไม่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น ฉันก็จะไม่มีทางลงมือกับเวยเหมิง

ถ้าวันนั้นฉันไม่ได้ลงมือฆ่าเวยเหมิง ฉันก็จะรู้ในภายหลัง เวยเหมิงไม่ใช่ลูกของคนอื่น เธอเป็นลูกแท้ๆของฉัน!

ขอถามหน่อย ฉันจะโหดร้ายแค่ไหนก็ตาม แล้วจะลงมือกับลูกสาวของตัวเองได้อย่างไร?

เสือถึงร้ายก็ไม่กินลูกตัวเอง ทำไมฉันถึงใจร้ายได้ขนาดนั้น!

เป็นความผิดของคุณ!เป็นความผิดของคุณทั้งนั้น!

ทำให้พวกเราพ่อลูก ไม่สามารถเลี้ยงดูยามแก่เฒ่าได้ ที่มาของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ทั้งหมด ล้วนเป็นเพราะคุณ!”

เจี่ยนถงไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน จ้องมองใบหน้าน่าเกลียดที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา ทำไมถึงมีคนแบบนี้!

“คนที่ฆ่าคนคือคุณ ทำให้เซี่ยเวยเหมิงตายก็เป็นคุณ

คนที่คิดว่าเซี่ยเวยเหมิงไม่ใช่ลูกสาวของคุณก็เป็นคุณ

คนที่ใส่ร้ายฉัน ก็ยังเป็นคุณ!

ฉันยังไม่คิดบัญชีกับคุณ แต่คุณกลับจะมาทุบฉันก่อน!

เซี่ยเวยเหมิงเป็นลูกสาวของคุณ คุณก็จะไม่ลงมือเหรอ?

ไม่ใช่ลูกสาวของคุณ คุณก็จะแก้แค้นให้กับลูกชายนอกสมรสของคุณ?

ลูกสาวของคุณตายไม่ได้ แต่ลูกสาวของคนอื่นตายได้?

ฉันว่าคุณเป็นบ้าไปแล้ว!

ไม่ว่าจะเป็นใคร มันก็คือหนึ่งชีวิต ทำไมอยู่ในปากของคุณ ถึงเป็นแค่เรื่องเล็กๆ?

คนอย่างคุณ ถ้าไม่ได้เลวโดยสันดาน ก็คงจะเพราะจิตใจชั่วร้าย!”

“ฮ่า ฮ่าๆ เพราะคุณ จุดเริ่มต้นของความโชคร้ายทั้งหมด ทั้งหมดเป็นเพราะคุณ!

ถ้าไม่มีคุณ ฉันก็จะไม่ทำเรื่องฆ่าลูกตัวเองเช่นนี้!

วันนี้ คุณพูดจาไพเราะ งามดั่งดอกบัว เล่นลิ้น สับปลับ ฉันก็จะต้องล้างแค้นให้ลูกสาวที่น่าสงสารของฉัน!

แม้ฉันจะต้องสละชีวิตแก่ๆนี้ ก็จะลากคุณไปตายด้วย!”

คนขับรถที่อยู่ข้างๆ คงคาดไม่ถึง แค่เกิดอุบัติเหตุก็มากพอแล้ว แต่กลับได้ยินเรื่องที่น่ากลัวแบบนี้ด้วย เขากล้าโกรธแต่ไม่กล้าพูด

เจี่ยนถงหรี่ตามองคนขับรถที่หน้าซีดเพราะกลัว หรี่ตาลงแล้วเงยหน้าขึ้น

“ที่นี่คือตัวเมือง ไม่นานก็จะมีตำรวจจราจรมา เมื่อถึงเวลานั้นไม่ว่าคุณอยากจะทำอะไร ก็จะถูกยับยั้งทั้งหมด”

พ่อบ้านเซี่ยเหมือนจะคิดอะไรบางอย่าง หน้าเปลี่ยนกะทันหัน ดึงเจี่ยนถงลงจากรถอย่างหยาบคาย “คุณทำให้ฉันนึกถึง”

พูดไปด้วยแล้วดึงตัวเจี่ยนถงไปด้วย แล้วผลักเข้าไปที่เบาะนั่งข้างคนขับในรถออฟโรดของเขา

“ฉันจะพาคุณไปกระโดดน้ำ!” พูดจบ สตาร์ทรถ รถออฟโรดส่งเสียงยางแตะพื้นอย่างรุนแรง วิ่งไปอย่างรวดเร็ว

รถเร่งไปอย่างเร็ว ความเร็วที่น่ากลัว รถที่อยู่รอบข้างหลีกเลี่ยงกันแทบไม่ทัน กลัวว่าจะโดนลูกหลง ทยอยชิดข้างขับช้าลง หลีกทางให้กับรถออฟโรดที่บ้าคลั่ง

ในปีนี้ ไม่มีใครสบายเลย ทุกคนต่างมีครอบครัวเล็ก ครอบครัวใหญ่ มีคนแก่และเด็กที่ต้องดูแล ต่างก็เฝ้ารอตัวเองที่ไปทำงานเช้าไปเย็นกลับ ไม่มีใครอยากโดนรถที่บ้าคลั่งชนกระเด็นออกไป

รถกำลังขับไปอย่างรวดเร็ว เจี่ยนถงไม่สบายท้องไส้ปั่นป่วน อดทนอาการคลื่นไส้ภายใต้ความกดดัน วิงเวียน แต่ก็พยายามบังคับให้ตัวเองใจเย็นลง

“คุณรู้ได้อย่างไรว่าฉันเรียกรถ และนั่งอยู่ในรถคันนั้น?”

ภายใต้ความบังเอิญทั้งหมด ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทั้งที่รู้ กำลังเผชิญอยู่กับอันตรายตอนนี้ เธอก็ไม่อยากตายโดยไม่รู้เรื่อง

คิดว่าผู้หญิงที่อยู่ข้างกายไม่มีทางรอดในวันนี้ พ่อบ้านเซี่ยจึงไม่อยากปิดบัง หัวเราะอย่างเย็นชา

“มีคนเฝ้าอยู่ใต้ตึก เมื่อคุณออกมา ฉันก็จะได้รับข้อความ

พระเจ้ากำลังจะเอาชีวิตคุณ มิฉะนั้นจะให้โอกาสนี้กับฉันได้อย่างไร?

คุณชาย……..เสิ่นซิวจิ่นไอ้คนสารเลวนั่นส่งคนไปเฝ้าที่หน้าประตูของคุณ ไม่ยอมออกห่างเลย ฉันหาโอกาสไม่ได้เลย

เหอะๆ ต้องขอบคุณคุณด้วยซ้ำ ขอบคุณที่คุณหลอกให้เสิ่นซานออกไป มิฉะนั้นฉันก็จะหาโอกาสลงมือไม่ได้”

“มีคน คือใคร?”

“เรื่องนี้คุณไม่ต้องรู้!คุณแค่ว่า คนที่อยากให้คุณตาย ไม่ได้มีเพียงฉันคนเดียว !มีคนที่ไม่อยากให้คุณมีชีวิตอยู่ต่อไปมากกว่าฉัน!”

เจี่ยนถงสีหน้าเคร่งขรึม…….เธอคิดไม่ออกจริงๆ “มีคน” เป็นใคร

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า คุณว่าคุณน่าสงสารแค่ไหน ในเมื่อวันนี้คุณก็ไม่มีทางรอดแล้ว ฉันจะบอกคุณอีกเรื่องแล้วกัน

คุณยังจำเรื่องที่เกิดขึ้น ในคืนที่เสิ่นยีรับคุณไปหาท่านแก่เสิ่นได้ไหม?

คุณคิดว่ามันจะบังเอิญอะไรขนาดนั้น หลังจากที่เสิ่นยีส่งคุณกลับไป รถเพิ่งออก คุณก็เกิดเรื่องทันที?

ฉันจะบอกคุณ เป็นเพราะคนในครอบครัวของคุณ คนในครอบครัวของคุณกับเสิ่นยีร่วมมือกัน เสิ่นยียืนยันส่งคุณไปที่ข้างทางที่ห่างไกล คนในครอบครัวของคุณเป็นคนจ้างนักเลงพวกนั้น

คุณช่างน่าสงสารจริงๆ สู้ตอนนั้นตายในคุกเสียจะดีกว่า”

พ่อบ้านเซี่ยอยากจะชื่นชมกับความน่าสมเพชของผู้หญิงข้างๆ แต่เห็นแค่ความสงบ

“ทำไมคุณไม่ตกใจ?

ทำไมคุณไม่ถามฉัน คนคนนั้นคือใคร?

ทำไมคุณไม่เสียใจ?

คุณร้องไห้สิ!ร้องไห้สิ!ร้อง!ฉันสั่งให้คุณร้อง!”

เหมือนจะโมโหเพราะความสงบของเจี่ยนถง พ่อบ้านเซี่ยเหมือนป่วยทางจิต ทุกครั้งที่โมโห ก็ยิ่งเหยียบคันเร่งเร็วขึ้น สมรรถนะของรถออฟโรดนั้นดีมาก ฉายแสงไปตามท้องถนน

รถกำลังจะเสียการควบคุม รถที่อยู่สองข้างทาง ค่อยๆจอดกันหมด หลีกเลี่ยงไกลๆ บางคนกลัวจนเปิดประตูรถ แล้ววิ่งลงจากรถ

อยู่ในเมืองนี้มาตั้งนาน เด็กวัยรุ่นที่แข่งรถกันกลางดึก คิดว่ามีเงินไม่กลัวใบสั่งฝ่าไฟแดงไปอย่างรวดเร็ว แต่วิธีขับแบบนี้ที่แสดงถึงไม่กลัวตาย เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกจริงๆ

ถ้าเจอคนโรคจิตจะทำอย่างไร เมื่อโดนชนขึ้นมาอย่างมากก็ต้องปล่อยไป

พ่อบ้านเซี่ยเสียสติ “ร้องไห้!คุณร้องไห้เดี๋ยวนี้!”

เจี่ยนถงหันมาช้าๆ มองพ่อบ้านเซี่ยด้วยสายตาที่เย็นชา

“เป็นพี่ชายของฉัน ใช่ไหม”

ประโยคเดียว ทำให้พ่อบ้านเซี่ยตกใจผ่อนคันเร่งลง

อันที่จริงเจี่ยนถงรู้สึกมาตลอดว่าเหตุการณ์ที่ถูกโจมตีในคืนนั้น บังเอิญเกินไป สงสัยในใจ เพียงแค่ไม่รู้ว่าเป็นใคร

แต่วันนี้ เมื่อพ่อบ้านเซี่ยพูดถึงเรื่องในคืนนั้น บอกว่าเรื่องทั้งหมดเป็นความร่วมมือของคนในบ้านกับเสิ่นยี เธอจึงมั่นใจในความคาดเดาของเธอที่อยู่ในใจ

ยังจำได้ ก่อนเกิดเหตุในคืนนั้น เจี่ยนโม่ป๋ายยังบุกไปสร้างปัญหาที่บริษัท แววตาตอนที่เจี่ยนโม่ป๋ายออกมาจากบริษัท แล้วประโยคนั่น เหมือนแค่พูดลอยๆ

ริมฝีปากของเธอซีดเล็กน้อย ความขมขื่นที่มุมปากที่มองไม่เห็น มุมปากยกขึ้น เหมือนไม่ใส่ใจ

เธอเคยหวังว่า เธอเดาผิด เธออ่อนไหวเกินไป

และเธอก็เคยหวังว่า จะลืมมันไปจากความสับสน

พ่อบ้านเซี่ยถูกท่าทีที่สงบของเธอ ทำให้โกรธมากขึ้น ความมีเหตุผลลอยหายไป เธอยิ่งสงบ เขาก็ยิ่งไม่อยากเห็นเธอมีความสุขเช่นนี้

เขาไม่ชอบท่าทีที่สงบของผู้หญิงคนนี้!

เธอมีสิทธิ์อะไรใจเย็นขนาดนี้?

ทำไมเธอถึงไม่บ้าเหมือนเขา?

ทำไมเขาไม่มีอะไรเลย ลูกชายลูกสาวก็ไม่มีแล้ว โดดเดี่ยวหัวเดียวกระเทียมลีบเหมือนหมาที่ไม่มีเจ้าของ ทำไมผู้หญิงคนนี้ที่อยู่ในเหตุการณ์เดียวกัน สามารถทำตัวสงบเช่นนี้ได้

ทำไมเธอถึงอยู่อย่างปลอดภัยไม่ได้รับความสูญเสีย ไม่สนใจอะไรเลย!

เขาไม่!

เขาไม่ต้องการเห็นเธอมีสติเช่นนี้!

“คุณฉลาดขนาดนี้ เคยคิดหรือไม่ ว่าตอนที่คุณปู่ของคุณยังอยู่ ตอนคุณเกิดมา คนที่ลักพาตัวคุณ เป็นคนที่คุณรู้จัก?”

เจี่ยนถงเปลือกตากระตุก “หมายความว่าอย่างไร?”

“เหอะๆ คุณฉลาดขนาดนี้ เดาไม่ออกเหรอ?

คนที่อายุเท่าคุณปู่ของคุณ มีความอดทนสามารถทำเรื่องแบบนั้นได้ สิ่งที่คุณรู้ และสิ่งที่ฉันรู้ คุณไม่รู้ว่าหมายความว่าอะไรเหรอ?”

เจี่ยนถงกัดฟันแน่น ไม่กล้าคิด

เป็นไปไม่ได้!

“ก็คือท่านแก่เสิ่น คุณปู่ของเสิ่นซิวจิ่นที่คุณรักมาตลอด” จริงๆเรื่องนี้ เขาก็รู้หลังจากที่เซี่ยเวยเหมิงเกิดเรื่อง เขาบังเอิญได้ยิน กลัวว่าจะถูกจับได้ จึงได้ยินมาแค่ไม่กี่ประโยค

สิ่งที่เขารู้ ก็มีเพียงสองสามประโยคนี้ แต่…..พอแล้ว เพียงพอที่จะให้ผู้หญิงเลวคนนี้อยู่ไม่สุขแล้ว!

ในใจเธอ มีก้อนหินใหญ่ ทุบเข้ามากะทันหัน!

ทุบเป็นหลุมที่ลึก!

คำพูดของพ่อบ้านเซี่ย หมายความว่าอย่างไร?

เธออยากทำเป็นไม่รู้เรื่อง เป็นไปไม่ได้!

ตระกูลเสิ่นกับตระกูลเจี่ยนมีความแค้นต่อกัน

ท่านแก่ตระกูลเสิ่นกับท่านแก่ตระกูลเจี่ยนมีความแค้นต่อกัน

นอกจากนี้ ก็ไม่มีคำอธิบายอื่นอีกแล้ว

แต่ถ้าเป็นแบบนี้ ทำไม……ทำไมคุณปู่ต้องให้เธอใกล้ชิดกับเสิ่นซิวจิ่น?

ทำไมคุณปู่ไม่เคยพูดเรื่องนี้กับเธอ?

ทำไมคนนอกถึงไม่รู้ว่าพวกเขาสองตระกูลมีความแค้นต่อกัน?

ตอนที่อยู่เอ๋อร์ไห่ คุณหญิงเจี่ยนเคยพูดเรื่องที่เธอถูกลักพาตัวตอนเธอเกิด แต่บอกว่า ท่านแก่เจี่ยนมีธุรกิจที่ใหญ่ มีคนหมั่นไส้ จึงมีคนคิดกลอุบาย บีบบังคับ ข่มขู่ เพื่อหวังผลประโยชน์

แต่ตระกูลเสิ่นมีธุรกิจที่ใหญ่โต ร่ำรวยมาหลายรุ่นอายุคน ตระกูลเจี่ยนแค่ตระกูลเดียวจะกล้าเป็นคู่แข่งได้อย่างไร ท่านแก่เสิ่นจะให้ความสำคัญกับตระกูลเจี่ยนได้อย่างไร ความแค้นของพวกเขาสองตระกูล คงไม่ใช่เรื่องในธุรกิจแน่นอน

จำได้ว่าคุณปู่เคยปฏิบัติต่อความรักที่เธอให้เสิ่นซิวจิ่น ก็มีปฏิกิริยาแปลกๆ

และนึกถึงทุกครั้งที่เธอเจอท่านแก่เสิ่นในตระกูลเสิ่น ความรังเกียจในสายตาของท่านแก่เสิ่น

คุณปู่เคยบอกว่าไม่คุ้ม ปู่พยายามเกลี้ยกล่อม แต่คำเกลี้ยกล่อมเหล่านั้น เป็นแค่เปลือกนอก เห็นได้ชัดว่าเกลี้ยกล่อมให้เธอยอมแพ้ และให้กำลังใจเธอในบางเรื่อง แม้กระทั่งสนับสนุนเธอ

ตอนนี้เธอเพิ่งมาไตร่ตรอง หลายๆครั้ง ระหว่างเธอกับเสิ่นซิวจิ่น เหมือนว่าจะมีคุณปู่คอยเติมเชื้อเพลิงให้เปลวไฟ หาโอกาสให้เธออยู่คนเดียว จัดงานวันเกิดให้เธอ

ตอนงานวันเกิดอายุ18ปี คุณปู่บอกว่า หนูโตขึ้นแล้ว จงกล้าที่จะไล่ตามสิ่งที่คุณรัก หลานสาวของฉันจะต้องกล้าหาญ

เธอรู้สึกดี ได้ยินเสียงเพลงบรรเลง ดังนั้นในงานวันเกิดอายุ 18ปี เธอสารภาพอย่างเปิดเผย ต่อหน้าทุกคน

เธอมั่นใจ คุณปู่บอกว่า เธอเป็นลูกสาวในตระกูลเจี่ยนที่โดดเด่นที่สุด

เธอไม่กล้าคิดต่อไป ไม่กล้าคิดรายละเอียดอีกมากมายเหล่านั้น

ผู้หญิงข้างคนขับ ไม่สามารถควบคุมสีหน้าอยู่ในสภาพที่สงบได้อีกต่อไป

ใบหน้าเล็กๆนั้น เศษขี้เถ้า ความเจ็บปวดในดวงตา ราวกับว่าจะดึงทุกสิ่งรอบตัวลงสู่ขุมนรก ดูเหมือนว่าเธอ… ถูกครอบงำโดยบุคคลสำคัญในชีวิตของเธอ ผลักเธอลงเหวกับมือ!

ในชีวิต เธอผู้ถูกฝังไว้ตามกาลเวลา คุณปู่ที่ครั้งหนึ่งเคยรู้สึกย้อนแย้งแปลกๆ ในที่สุด ก็สามารถอธิบายได้แล้ว

ไม่แปลกใจเลย ไม่แปลกใจเลยที่คุณปู่ให้ความสำคัญกับเธอขนาดนั้น แต่สุดท้ายกลับยืนข้างเจี่ยนโม่ป๋าย บอกว่าทุกอย่างของตระกูลเจี่ยน เป็นของเจี่ยนโม่ป๋าย

บอกว่ากลัวคนอื่นจะทำร้ายเธอ ดังนั้นต้องกอดเธอไว้ข้างกายและเลี้ยงดูเธอเอง แต่เป็นเพราะเด็กสาวตัวน้อยที่เพิ่งเกิด ได้รับ “ความสำคัญ” จากท่านแก่เสิ่นของตระกูลเสิ่นก็แค่นั้น

เลี้ยงดูอย่างดี!

ที่แท้ก็แค่ให้เธอมีความโดดเด่นกว่าคุณหนูที่ร่ำรวยทั่วไป เพราะในหาดเซี่ยงไฮ้มีคุณหนูที่ร่ำรวยมากมาย ไม่โดดเด่น จะเข้าตาผู้สืบทอดตระกูลของตระกูลเสิ่นได้อย่างไร

ความคิดของเธอเริ่มสับสน แยกไม่ออกว่าอันไหนดีจริงหรือไม่จริง

เธอแยกความทรงจำที่มีความสุขกับคุณปู่ไม่ได้ เรื่องเล็กน้อยเหล่านั้น เรื่องไหนเป็นความจริงใจของคุณปู่ และเรื่องไหนเป็นแผนการ หรือว่า……..ทุกเรื่องเป็นเรื่องเท็จหมด!

สิ่งที่อยู่ด้านนอกรถ ถอยหลังอย่างรวดเร็ว ฉากนอกรถที่ถอยหลังเร็ว ผู้หญิงมองๆอยู่ ทันใดนั้นเอื้อมมือไปดึงที่จับประตูรถ

เธอจะถอยหลังไปพร้อมกับฉากเหล่านั้น ย้อนอดีตไปด้วยกัน ย้อนกลับไปตอนที่คุณปู่ยังอยู่ เธอจะถามด้วยตัวเอง เธอจะถามให้เข้าใจ เธอต้องการรู้ ทั้งหมดนี้ เรื่องไหนเป็นเรื่องจริง เรื่องไหนเป็นเรื่องปลอม!

เธออยากย้อนเวลากลับไป ย้อนกลับไปเมื่อคุณปู่ยังมีชีวิตอยู่ เธอจะยืนตรงหน้าคุณปู่ เธอจะถามด้วยตัวเอง

“คุณปู่ ท่านรักหนูจริงๆไหม?”

“คุณบ้าไปแล้ว!” พ่อบ้านเซี่ยอยากให้เธอตาย แต่เมื่อได้เห็นความบ้าคลั่งนี้กับตา ในใจกระตุกอย่างไม่สบายใจ

จู่ๆก็เปลี่ยนสีหน้าแล้วตะโกน

เสียงตะโกนที่เจ็บปวดใจ ด้วยน้ำเสียงที่หยาบกร้าน เหลือเพียงแต่แววตาที่สิ้นหวัง!

“ฉันจะกลับไป!”

เธอจะกลับไป กลับไปอยู่ตรงหน้าคุณปู่!

Devil’s love

Devil’s love

เซี่ยเวยเหมิงเสียชีวิตแล้ว เสิ่นซิวจิ่นส่งตัวเจี่ยนถงเข้าไปในเรือนจำหญิงสามปีในคุก คำพูดของเสิ่นซิวจิ่นที่ว่า“ดูแลเธอให้ดีๆ”ทำให้เจี่ยนถงทรมานและเปลี่ยนไปมาและเปลี่ยนไปมาก ยิ่งไปกว่านั้นคือตอนที่อยู่ในคุกถูก “ยินยอมที่จะบริจาคไตโดยไม่สมัครใจ”ก่อนเข้าคุก เจี่ยนถงพูด:ฉันไม่ได้ฆ่าเธอ เสิ่นซิวจิ่นไม่แสดงท่าทีอะไรหลังออกจากคุก เจี่ยนถงพูด:ฉันเป็นคนที่ฆ่าเซี่ยเวยเหมิง ฉันอาชญากรรมแล้วเสิ่นซิวจิ่นพูดด้วยสีหน้าซีดขาว:หุบปากไปเลย! อย่าให้ฉันได้ยินประโยคนี้อีก!เจี่ยนถงยิ้ม:จริงๆ ฉันเป็นคนที่ฆ่าเซี่ยเวยเหมิง ฉันติดคุกมาสามปี เจี่ยนถงหลบหนีไป เสิ่นซิวจิ่นตามหาเธอทั่วทุกมุมโลก เสิ่นซิวจิ่นพูด:เจี่ยนถง ฉันยกไตให้คุณ คุณมอบหัวใจให้ฉันเถอะ เจี่ยนถงเงยหน้ามองเสิ่นซิวจิ่น แล้วพูด…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset