Devil’s love ทิ้งรักของนายปีศาจไป – ตอนที่ 90 บอส ช่วยด้วยค่ะ

บทที่90 บอส ช่วยด้วยค่ะ

ไหล่ของเจี่ยนถงสั่นคลอน……

“ในวีแชทโมเม้นต์ของฉันมีใครบ้าง เจี่ยนถง เธอรู้จักหมดเลยเชียวนะ”

หัวใจของเธอบีบรัดกะทันหัน!

ซูเมิ่ง“อื้ออออออ”ร้องเสียงหึ่งๆพร้อมกับเบิกตากว้าง……ไม่ได้ ไม่ได้! เจี่ยนถงดื่มเหล้าไม่ได้!

ซูเมิ่งมองผู้หญิงที่คุกเข่าอยู่บนพื้นได้ค่อยๆยกมือขึ้นมากุมวิสกี้ที่ย่าคุนยื่นมาให้ พร้อมกับได้ยินเสียงแหบพร่าของผู้หญิงคนนั้นพูดว่า “ฉันดื่มค่ะ”

“อื้อออออ!” ไม่ได้! ไม่ได้!

ซูเมิ่งเบิกตากว้าง พยายามเขยิบไปหาเจี่ยนถงอย่างสุดชีวิต แต่คนที่จับเธอไว้แรงเยอะเกินไป

เห้ออู่มองมาที่เธอพร้อมยิ้มอย่างเหลาะแหละ “ซูเมิ่ง วันนี้ต้องขอโทษเธอด้วยนะ แต่นี่เป็นเรื่องระหว่างพวกเรากับเจี่ยนถง เธออย่าสาระแนจะดีกว่า”

“อื้อๆ!”ไม่ใช่! ไม่ใช่อย่างนี้! เธอจะตายได้นะ! พวกคุณจะเอาเจี่ยนถงให้ตายเลยเเหรอ!

เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าดังขึ้น สีหน้าของซูเมิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง แต่วินาทีต่อมาก็ได้เปลี่ยนไปทันที!

ไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหน เธอได้เอาศีรษะไปชนคนที่จับเธอเอาไว้อย่างแรง อาศัยตอนที่คนคนนั้นโซซัดโซเซอยู่ ซูเมิ่งไม่เคยรับสายไวขนาดนี้มาก่อน “บอส! ช่วยด้วยค่ะ! อยู่ชั้นหก……”

มือที่อยู่ข้างๆได้ปัดมือถือของซูเมิ่งทิ้ง เห้ออู่หัวเราะอย่างเย็นชา “ซูเมิ่ง เธอเยี่ยม เธอเยี่ยมจริงๆ! เมื่อกี๊คือบอสใหญ่ผู้ลึกลับของเธอใช่มั้ย? ได้ วันนี้พวกฉันจะรออยู่ที่นี่ ฉันจะดูซิว่าบอสของเธอจะทำอะไรพวกเราได้!”

มือถือของซูเมิ่งยังอยู่ในโหมดคุยสายอยู่ ผู้ชายที่อยู่ในสายสีหน้าเย็นชา

จนกระทั่ง……

“ย่าคุน ให้เธอดื่ม! พวกเราดูหน่อยซิคุณหนูเจี่ยนที่เคยมีชื่อเสียงสะเทือนหาดเซี่ยงไฮ้ สลัดความหยิ่งยโสของเธอทิ้งยังไง!”

ผู้ชายที่อยู่ในสายได้กุมมือถือแน่นขึ้นทันที!

“เสิ่นยี พาคนมาด้วย ขึ้นไปชั้นหก”

เขาก้าวเท้าเดินไปที่ลิฟต์อย่างเร่งรีบ เสิ่นยีตกใจอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นได้รีบหยิบมือถือขึ้นมาติดต่อคนอื่น พร้อมเดินตามผู้ชายที่อยู่ข้างหน้าอย่างเร่งรีบ “บอส เกิดอะไรขึ้นครับ?”

ผู้ชายที่อยู่ในลิฟต์เม้มริมฝีปากบางไว้ ไม่พูดสักคำ แต่แววตาที่ดุร้ายเหมือนเหยี่ยวได้เผยความรู้สึกลึกๆในใจออกมา

ดิ๊ง!

เสิ่นซิวจิ่นออกจากลิฟต์ จากนั้นได้ผลักประตูหาคนทีละห้อง

เสิ่นยีมีความคิดแหลมคมอย่างเฉียบพลัน……เห็นได้ชัดว่าบอสร้อนรนใจมาก อีกอย่างกำลังตามหาคนด้วย

ในห้องVIPตึงเครียดขึ้นมาทันที ย่าคุนเล่นโทรศัพท์ในมือ พร้อมยิ้มร้ายๆ “ดื่มสิ คุณหนูเจี่ยนกำลังรออะไรอยู่? ฉันเตรียมจะโพสต์ลงไปในวีแชทโมเม้นต์แล้วนะ หลังจากทุกคนได้ยินข่าวที่คุณหนูเจี่ยนออกจากคุกแล้ว จะต้องคิดถึงเธอมากแน่ๆเลย”

“เดี๋ยว”เจี่ยนถงเรียกย่าคุนไว้ด้วยสีหน้าซีดเซียว สายตาจ้องย่าคุนทีหนึ่ง “ฉันดื่มค่ะ”

เธอรู้ว่าเธอไม่จำเป็นต้องไว้หน้าให้กับตระกูลเจี่ยน แต่ว่า….. เจี่ยนถงรู้ว่าตัวเองไม่เอาไหน ตระกูลเจี่ยนไม่เอาเธอละทิ้งเธอไปตั้งนานแล้ว แต่เธอยังคงไม่อยากให้ตระกูลเจี่ยนขายหน้าเพราะเธออีกเช่นเคย

“อื้อๆ!”อย่านะ! ซูเมิ่งเริ่มกระวนกระวายแล้ว

เจี่ยนถงดื่มเหล้าไม่ได้ ถ้าดื่มเหล้าก็คือเอาชีวิตไปเดิมพันเลย!

คนอื่นดื่มเหล้า มากสุดก็แค่เมาเหล้า เจี่ยนถงดื่มเหล้า นั่นคือไปเดินเล่นที่หน้าประตูนรกเลยนะ!

เจี่ยนถงมองซูเมิ่งแล้วยิ้มให้กับซูเมิ่งทีหนึ่ง รอยยิ้มนั้นกลับทำเอาซูเมิ่งอึ้ง…….ที่แท้เวลายัยเด็กโง่คนนี้ยิ้มขึ้นมาสวยขนาดนี้เลย

เจี่ยนถงกลับจะใช้แว็บเดียวนี้ จะมองซูเมิ่งให้เข้าไปอยู่ในใจ

“เอาล่ะๆ ไม่ใช่แยกตายจากกันสักหน่อย แค่ดื่มเหล้าเอง ต้องขนาดนี้เลยเหรอ”เห้ออู่พูดแดกดัน

แหย่ให้ซูเมิ่งมองเขาสายตาโกรธเคือง

เจี่ยนถงยิ้มอย่างสงบจิตสงบใจ ยกขวดเหล้ามาที่ปาก ตอนเงยหน้าเธอพูดกับอาลู่ว่า ถ้าพี่ไม่ตาย ก็จะตอบแทนบุญคุณของเธอต่อ ถ้าพี่ตายไปอยู่ขุมนรก เธอก็อย่ารังเกียจว่าพี่ไม่เอาไหนเลยนะ พี่….พยายามสุดความสามารถแล้ว

วิสกี้กรึ๊บหนึ่ง เต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นหึ่ง…..เธอไม่ได้ดื่มเหล้ามานานแค่ไหนแล้ว แค่ดื่มเข้าไปก็สำลักจนไออย่างรุนแรง เหล้าที่อยู่ในปากได้ไอออกมาจนเกือบหมด

“โถๆๆ คุณหนูเจี่ยน เหล้านี้แพงมากเลยนะ~อย่าสิ้นเปลืองสิ~”

คนที่โห่ร้องก็โห่ร้อง “รีบดื่ม รีบดื่ม”

คนที่เยาะเย้ยก็เยาะเย้ย “คุณหนูเจี่ยนกำลังรังเกียจว่าเหล้าอันนี้ไม่ดีหว่า ย่าคุน นายควรเอาเหล้าดีๆให้คุณหนูเจี่ยนหน่อยสิวะ”

อะไรเรียกว่าเมื่อตกต่ำแล้วผู้คนก็มารุมกันกระทืบซ้ำ?

เจี่ยนถงมีความแค้นใหญ่หลวงขนาดนั้นกับพวกเขาจริงเหรอ?

คนส่วนใหญ่ที่อยู่ที่นี่คือดูความเฮฮาแล้วไม่กลัวเรื่องจะใหญ่โต

“ปัง!”

เสียงกระแทกประตูดังสนั่น ผู้คนมองไปที่ประตูห้องVIPด้วยจิตใต้สำนึก หน้าห้องมีชายรูปร่างสูงใหญ่ที่หันหลังให้กับแสง

สายตาของเสิ่นซิวจิ่นไม่ได้ไปสนใจคนอื่นๆที่อยู่ในห้องVIPนี้ ดวงตาดั่งเหยี่ยววอกแวกอยู่ในห้องVIPแล้วหาเป้าหมายเจอ!

พอเห็นขวดเหล้าในมือผู้หญิงคนนั้นชัดแล้ว ม่านตาของเขาหดในทันที!

หัวใจของเขาลนลานอย่างไม่มีเหตุผล ไม่พิจารณาอะไรทั้งนั้น เขาก็ได้พุ่งไปคว้าขวดเหล้าในมือผู้หญิงมาไวอย่างกับสายลม จากนั้นได้ยื่นมือโอบเธอมาในอ้อมกอด

“ใคร? ฝีมือใคร!” ทันใดนั้น แววตาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดแดงของเขาได้กวาดผ่านใบหน้าของทุกคนอย่างน่าเกรงกลัว!

เห้ออู่ก็ช่าง ย่าคุนก็ดี ทุกคนที่อยู่ในนี้ต่างก็อึ้งค้าง……ทำไมถึงเป็นเขา?

“ประธาน…..เสิ่น?”

เห้ออู่เปิดปากเรียกอย่างหยั่งเชิง

“เสิ่นยี ให้ซูเมิ่งพูด” ซูเมิ่งยังถูกคนควบคุมตัวไว้ ที่จริงเสิ่นซิวจิ่นออกคำสั่งนี้ ปุ๊บ เสิ่นยีไม่ต้องทำอะไรเลย คนที่ควบคุมตัวซูเมิ่งไว้ก็ได้ปล่อยซูเมิ่งเหมือนได้สัมผัสโดนเผือกร้อนลวกมือทันที

“เธอดื่มไปเท่าไหร่?”เสียงของเสิ่นซิวจิ่นเย็นชา แต่ถ้าตั้งใจฟัง ก็สามารถฟังความตื่นเต้นและความกังวลจากน้ำเสียงของเขาออก

“ประธานเสิ่นมาทันเวลา เพิ่งดื่มไปสองสามกรึ๊บค่ะ”

สีหน้าของเสิ่นซิวจิ่นยังคงเย็นชาอีกเช่นเคย สองสามกรึ๊บสำหรับคนธรรมดาไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่สำหรับเจี่ยนถงแล้ว มือของเขาหล่นอยู่ที่เอวข้างซ้ายของเจี่ยนถงด้วยจิตใต้สำนึก

เจี่ยนถงแข็งทื่อไปทั้งตัว ไม่กล้าขยับ หน้าอกเจ็บแปล๊บๆ กระเพาะปวดแสบปวดร้อน วิสกี้สองกรึ๊บนี้ก็ทรมานจนเธอไม่สบายตัวแล้ว

สีหน้าของเสิ่นซิวจิ่นเย็นชา สายตาที่ดุร้ายเหมือนเหยี่ยวแว็บผ่านใบหน้าของทุกคน “เดี๋ยวค่อยคิดบัญชีกับพวกนาย อย่าคิดจะหนีแม้แต่คนเดียว”

แววตาเย็นชามีความแรงอาฆาตแว็บผ่าน จากนั้นได้ตะคอกว่า “เสิ่นยี ให้คนเฝ้าจับตาพวกมันไว้” พอพูดจบก็ได้โน้มตัวอุ้มเจี่ยนถงขึ้น และก้าวเท้ายาวเดินออกจากห้องVIP “ซูเมิ่ง ไปกับฉัน”

ซูเมิ่งรีบเดินตามไป

เจี่ยนถงเอาศีรษะซุกในอ้อมกอด ปล่อยให้เสิ่นซิวจิ่นอุ้มตัวเองไว้ หัวใจกลับหนาวสั่น……เธอเงียบกริบไม่พูดจา แต่ไม่อาจซาบซึ้งกับการช่วยเหลือของเสิ่นซิวจิ่นได้

เงียบกริบตลอดทาง

เสิ่นซิวจิ่นอุ้มเจี่ยนถงนั่งเข้าไปในรถยนต์ที่จอดอยู่ตรงชั้นล่าง “ซูเมิ่ง ขับรถ”

เขาอุ้มเจี่ยนถงไว้ พร้อมนั่งอยู่ที่เบาะหลัง

จู่ๆ เช็คใบหนึ่งได้ยื่นมาที่ตรงหน้าเขา “ประธานเสิ่น นี่คือห้าแสนหยวนสุดท้าย ฉันอิสระแล้วค่ะ”

แววตาเคร่งขรึมของผู้ชายจ้องมองอยู่ที่เช็ค เขาเป็นคนฉลาดมาก สามารถเดาเรื่องส่วนใหญ่ได้จากคำพูดของเจี่ยนถง ทันใดนั้นเขาเงยหน้า สายตาเยือกเย็นได้หล่นอยู่ที่หลังศีรษะของซูเมิ่งที่นั่งอยู่ฝั่งคนขับ

ซูเมิ่งกลัวจนเหงื่อแตก แม้แต่หายใจก็ยังไม่กล้าเสียงดัง

เสิ่นซิวจิ่นไม่ได้ถาม เธอก็ไม่ได้อธิบาย

เสิ่นซิวจิ่นดึงสายตากลับ จากนั้นได้หันมามองผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมกอด จู่ๆได้ยิ้มและพูดว่า “ผมได้พูดแบบนี้เหรอ? ผมบอกว่าให้คุณโอนเข้าไปในบัญชีเดือนละห้าล้านหยวน”

ผู้ชายยกข้อมือขึ้น จากนั้นหลุบตาดูนาฬิกาข้อมือทีหนึ่ง “ตอนนี้4ทุ่ม48นาที ยังเหลือเวลาอีก1ชั่วโมงกับอีก12นาที คุณสามารถโอนเงินเข้าบัญชีนั้นห้าล้านหยวน จำไว้นะ ที่ผมต้องการไม่เพียงแค่ห้าล้านหยวน ที่ผมพูดในตอนนั้นคือภายในหนึ่งเดือน โอนเงินห้าล้าน‘เข้าบัญชีนั้น’ ”

ผู้ชายย้ำคำนั้นเป็นพิเศษ

เจี่ยนถงเข้าใจในทันที!

“คุณทำแบบนี้ไม่ได้!”

“ไม่ ผมทำได้” ผู้ชายยิ้มมุมปาก

ม่านตาของเจี่ยนถงหดและตะคอก “คุณมันไร้ยางอาย!”

เขาวางอุบายเธอ! เขาโต้แย้งอย่างไม่มีเหตุผลชัดๆ! เขาเล่นเกมคำศัพท์!

ทำไมถึงได้ไร้ยางอายขนาดนี้!

“ปล่อยฉันลงไป!”เธอตะโกนด้วยความตื่นตระหนก “พี่เมิ่ง พี่เมิ่ง ไปธนาคาร พี่ส่งฉันไปธนาคาร!”

Devil’s love

Devil’s love

เซี่ยเวยเหมิงเสียชีวิตแล้ว เสิ่นซิวจิ่นส่งตัวเจี่ยนถงเข้าไปในเรือนจำหญิงสามปีในคุก คำพูดของเสิ่นซิวจิ่นที่ว่า“ดูแลเธอให้ดีๆ”ทำให้เจี่ยนถงทรมานและเปลี่ยนไปมาและเปลี่ยนไปมาก ยิ่งไปกว่านั้นคือตอนที่อยู่ในคุกถูก “ยินยอมที่จะบริจาคไตโดยไม่สมัครใจ”ก่อนเข้าคุก เจี่ยนถงพูด:ฉันไม่ได้ฆ่าเธอ เสิ่นซิวจิ่นไม่แสดงท่าทีอะไรหลังออกจากคุก เจี่ยนถงพูด:ฉันเป็นคนที่ฆ่าเซี่ยเวยเหมิง ฉันอาชญากรรมแล้วเสิ่นซิวจิ่นพูดด้วยสีหน้าซีดขาว:หุบปากไปเลย! อย่าให้ฉันได้ยินประโยคนี้อีก!เจี่ยนถงยิ้ม:จริงๆ ฉันเป็นคนที่ฆ่าเซี่ยเวยเหมิง ฉันติดคุกมาสามปี เจี่ยนถงหลบหนีไป เสิ่นซิวจิ่นตามหาเธอทั่วทุกมุมโลก เสิ่นซิวจิ่นพูด:เจี่ยนถง ฉันยกไตให้คุณ คุณมอบหัวใจให้ฉันเถอะ เจี่ยนถงเงยหน้ามองเสิ่นซิวจิ่น แล้วพูด…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset