Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว – ตอนที่ 20 สงบสุขแล้วค่ะ

วันต่อมา…

 

ที่หมู่บ้านเอเนรัสเกิดความวุ่นวายขึ้น

 

เพราะการจัดการมอนสเตอร์ลงได้ราวกับปาฏิหาริย์ ฉันกับทุตเต้กระจายข่าวไปว่าเป็นฝีมือของบุคคลที่ดูเหมือนอัศวินสีเงินซึ่งบังเอิญผ่านมา ขณะเดียวกัน ก็มีเรื่องการเตรียมงานเทศกาลดอกพริมโรส ทำให้คนในหมู่บ้านต่างยุ่งกัน

 

ความน่าเชื่อว่ามีอัศวินสีเงินปรากฏตัวเพิ่มสูงขึ้น เมื่อท่านเคล้าส์ไปตรวจสอบศพของมอนสเตอร์ หลังจากยืนยันสภาพที่เกิดเหตุแล้ว พบว่าเกิดจากใครบางคนใช้เวทย์โจมตีที่มีความรุนแรงระดับผู้กล้า

 

「ฮ่าห์~… ความสงบสุขนี่เยี่ยมไปเลยน้า」

 

「จริงด้วยค่ะ คุณหนู」

 

ตัวฉันที่เป็นคนแพร่ข่าวลือ กำลังนั่งอย่างสง่างามบนเก้าอี้ในสวนของบ้านพักด้วยใบหน้าที่ผ่อนคลาย

 

「ทั้งที่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น ยังทำตัวแบบนี้ได้อีกนะคะ」

 

ผู้ที่เดินมาทางบ้านพักด้วยสีหน้าเหน็ดเหนื่อยคือมากิลูก้า

 

「เรื่องการเตรียมงาน ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือค่ะ… มากิลูก้าจะรับด้วยไหม?」

 

「รบกวนด้วยค่ะ」

 

ฉันถือถ้วยของตัวเองขึ้นมา ในนั้นเป็นชาซึ่งเป็นที่นิยม มากิลูก้ายิ้มตอบรับและนั่งลงบนเก้าอี้

 

ทุตเต้เตรียมถ้วยให้มากิลูก้าในทันที จากนั้นก็รินชาให้ด้วยความคล่องแคล่ว

 

「แล้ว คนอื่นล่ะ?」

 

「ซาฮะที่ถูกมอนสเตอร์โจมตี ดูเหมือนกระดูกซี่ร้าว ต้องพักรักษาตัวค่ะ ที่จริง ถ้าขอให้นักบวชร่ายเวทย์รักษาก็จะหายอย่างรวดเร็ว แต่ท่านเคล้าส์บอกว่าเป็นการลงโทษ ปล่อยให้ร่างกายรักษาตัวเองไปน่ะค่ะ」

 

(แบบสปาร์ตันสินะ ขอแสดงความเสียใจด้วย… แต่ที่เขาบาดเจ็บก็เพราะเอาตัวปกป้องฉัน ดังนั้น ไปเยี่ยมซักหน่อยดีกว่า)

 

「งั้น หลังจากนี้ ไปเยี่ยมซักหน่อยแล้วกัน」

 

「ไม่จำเป็นหรอกค่ะ… ตาบ้านั่น เห็นเมื่อครู่ กำลังทำซิทอัพอยู่เลย…」

 

(เอ๋? ได้ยังไง! หรือว่าหายแล้ว? นายเป็นพวกนั้นรึไง ตัวละครในเกม RPG ที่นอนพักในโรงแรมคืนเดียวก็เลือดเต็มหลอด)

 

เอาเถอะ ขณะที่เก็บเรื่องนั้นไว้ในใจ ก็ยกชาขึ้นมาด้วยท่วงท่าที่งดงาม

 

「อืม… แล้ว ท่านเรย์ฟอร์ซล่ะ」

 

「ฝ่าบาทในตอนนี้ ออกไปกับท่านเคล้าส์ดูการจัดการกับซากมอนสเตอร์และระบบรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านอยู่ค่ะ หายากนะคะ ทั้งที่ปกติแล้วไม่ค่อยจะปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณะชนแท้ๆ」

 

「เหรอ… อาจจะมีอะไรอยู่ในใจล่ะมั้ง…」

 

ฉันหันหน้าหนีมากิลูก้า พลางจิบชาของตัวเอง

 

ไม่รู้ว่าทำไม แต่น่าจะเป็นเพราะคำพูดที่ฉันพูดกับองค์ชายในตอนนั้น ว่าแต่มันส่งผลมากเกินไปหน่อยล่ะมั้ง หยุดคิดถึงเรื่องนั้นดีกว่า

 

「แล้วงานเทศกาลดอกพริมโรสในวันนี้ล่ะ ยังจัดตามเดิมอยู่ไหม?」

 

「ค่ะ ดูเหมือนว่าจะจัดได้โดยไม่มีปัญหา ถึงจะเกิดเรื่องวุ่นวายจากการที่มอนสเตอร์ปรากฏตัว… เอาเถอะ เรื่องนั้นคงทำให้ปีนี้มีคนมาร่วมงานเพิ่มขึ้นล่ะนะ」

 

「เห~…ทำไมล่ะ?」

 

「ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะท่านอัศวินสีเงินยังไงล่ะคะ!」

 

มากิลูก้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยดวงตาที่เป็นประกาย

 

(อะเระ? หรือว่าเธอ… จะมีด้านที่เป็นสาวน้อยช่างฝัน?)

 

「แสดงว่าตำนานเป็นความจริงสินะคะ… คงต้องทำการสำรวจที่นี่เพิ่มขึ้นซะแล้ว」

 

「หมายความว่ายังไง?」

 

「ท่านอัศวินสีเงินน่ะ จะมาเยือนสถานที่แห่งนี้ในยามที่ดอกพริมโรสผลิบานยังไงล่ะคะ มีการคาดเดากันไปต่างๆนานา โดยส่วนตัวดิฉันเชื่อว่าคงกำลังรอคอยใครบางคนที่สัญญาว่าจะมาพบกันอีกครั้งในยามที่ดอกไม้ผลิบาน… ไม่ก็ มาชมดอกไม้เพื่อระลึกถึงคนรักที่จากไปทุกๆ 5 ปี… หรือ อาาาา… วิเศษไปเลยค่ะ」

 

(ทำหน้าแบบสาวน้อยช่างฝันก็เป็นด้วยสินะ… คนที่สนใจแต่องค์ความรู้มีเป้าหมายอยู่ที่งานวิจัยหายไปไหนแล้วเนี่ย)

 

ฉันเหลือบมองแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ จึงดื่มชาเพื่อกลบเกลื่อน

 

「แต่ ดิฉันคิดว่าท่านอัศวินสีเงินในคราวนี้ เป็นคนละกันกับในตำนานค่ะ」

 

「พรูด」

 

มากิลูก้ากลับมาเป็นคนเดิม ทำสีหน้าครุ่นคิดพูดเรื่องนั้น ทำเอาฉันเผลอพ่นชาออกมา

 

「 หะ เห~… ทำไม คือ เรื่องนั้น ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ?」

 

เหงื่อเย็นๆไหลออกมา *กริ๊กกริ๊ก*ถ้วยชาในมือของฉันสั่นอย่างไม่อาจควบคุม ทุตเต้เข้ามาจับถ้วยในมือของฉันอย่างเงียบๆ ก่อนที่จะนำไปวางบนโต๊ะ

 

(ขอบคุณนะ ทุตเต้… ตัวฉันนี่ยังคงรับมือกับเรื่องไม่คาดฝันไม่ได้เรื่องเลยสินะ)

 

ฮ่าห์~ ขณะที่ผ่อนลมหายใจออก มากิลูก้าก็มองมาด้วยสีหน้าแปลกๆ

 

「เป็นธรรมดานี่คะ ไม่มีเหตุผลเลยที่ท่านอัศวินสีเงินจะยังมีชีวิตอยู่ในตอนนี้ เพราะเรื่องราวมันผ่านมาเป็นร้อยปีแล้วค่ะ」

 

「นะ นั่นสินะ…」

 

(นึกว่าเป็นความคิดที่ดีแล้วเชียว… นั่นสินะ ในเมื่อได้เป็นตำนานก็หมายความว่าไม่มีชีวิตอยู่แล้วนี่นา)

 

「ดังนั้นแล้ว ดิฉันจึงคิดว่า! ในครั้งนี้จะต้องเป็นลูกหลานของท่านอัศวิน หรือไม่ก็ผู้สืบทอดแน่เลยค่ะ!」

 

หวา~~ จู่ๆ มากิลูก้าก็ส่งเสียงดังพร้อมยื่นหน้าเข้ามาใกล้

 

(เอาเถอะ ยังไงก็เข้าใจไปคนละทาง ดังนั้นถือว่าสำเร็จล่ะนะ)

 

ฉันหันไปทางด้านข้าง ส่งสายตาไปยังทุตเต้ที่รู้ความจริง ซึ่งเธอก็รับรู้จึงหันมามอง ฉันยกนิ้วชี้ขึ้นแตะริมฝีปาก *ชี่~~*ส่งสัญญาณออกไป ดูเหมือนทุตเต้จะเข้าใจในสิ่งที่ฉันต้องการสื่อ จึงเอามือปิดปากพยักหน้า*หงึกหงึก*อย่างแรง

 

(ว่าแต่ ดอกพริมโรสจะบานคืนนี้สินะ งั้นตอนนี้จะทำอะไรดี… อืม ในเมื่อเป็นงานเทศกาลคงจะมีร้านค้าที่น่าสนใจ…)

 

ฉันระลึกภาพงานเทศกาลที่เห็นทางโทรทัศน์ในชาติก่อน ด้วยความรู้สึกตื่นเต้น

 

「หมดเรื่องแล้วสินะ งั้นไปงานเทศกาลกันเถอะ」

 

ในขณะที่ฉันลุกขึ้นและกำลังจะออกเดินด้วยความรู้สึกตื่นเต้น

 

「เธอนี่ร่าเริงจังนะ… เหมือนซาฮะไม่มีผิดเลยค่ะ」

 

มากิลูก้าเหลือบมองมาทางฉันที่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ พูดออกมาพร้อมกับถอนหายใจ ทำเอาฉันที่ได้ยินถึงกับทรุด วางมือทั้งสองข้างและหัวเข่าลงไปแนบพื้น (TL: Orz)

 

「ฉะ ฉันเนี่ยนะ… กับซาฮะ… เหมือนกัน…」

 

「อ่า ขอโทษนะคะ… ที่พูดเกินไป」

 

เมื่อเห็นฉันแสดงอาการแบบนั้น มากิลูก้าก็กล่าวขอโทษที่ทำให้เสียใจ

 

「อะเระ? ทำอะไรอยู่น่ะ ท่านแมรี่? กำลังส่องดูมดอยู่เหรอ?」

 

ขณะที่ฉันกำลังรู้สึกเจ็บปวด อยู่ๆตัวต้นเหตุของเรื่องบ้าๆนี้ก็โผล่เข้ามา

 

「ไม่มีอะไรหรอก แค่รู้สึกช็อคนิดหน่อยน่ะ…」

 

ฉันลุกขึ้นมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พร้อมทั้งท่าเอามือป้องปากหัวเราะ*โอะโฮะโฮะ*

 

「ยิ่งไปกว่านั้น ซาฮะเคลื่อนไหวแบบนี้ไม่เป็นไรเหรอ? กระดูกร้าวอยู่ใช่ไหม?」

 

「ร้าว? อ้อ จะว่าไปแล้วคงใช่ล่ะมั้ง?」

 

(อย่าลืมสิ อาการบาดเจ็บของตัวเองไม่ใช่เรอะ)

 

ฉันทำหน้าตกใจมองไปทางซาฮะ ซึ่งกำลังหัวเราะเพราะหลอกได้สำเร็จ คิดว่าใบหน้าก็ดูดีอยู่หรอก แต่น่าเสียดายที่อยู่กับเขา

 

「แล้ว กำลังจะทำอะไรเหรอ ทั้งสองคน」

 

「กำลังดื่มชากันอยู่ แล้วก็คุยกันเรื่องหมู่บ้าน เลยคิดว่าจะไปดูสถานที่จัดงานเทศกาลซักหน่อยน่ะ」

 

「โอ้ ดีเลย ผม กำลังหิวอยู่ ได้จังหวะพอดี」

 

(นี่คิดจะให้ฉันเลี้ยงรึไง? เอาเถอะ เพราะฉันเป็นคนทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ เลี้ยงอะไรซักอย่างแทนคำขอโทษก็แล้วกันนะ)

 

「ถ้ามาด้วยกันล่ะก็ จะสั่งอะไรก็ได้นะ」

 

ฉันทอดสายตาข้ามซาฮะออกไปด้านนอก

 

「อ๊ะ รอด้วยค่ะ ดิฉันขอไปด้วย」

 

มากิลูก้าที่นั่งฟังเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบรีบลุกขึ้นตามหลังฉันกับซาฮะมาด้วยกัน

 

เมื่อเดินมาที่ประตูหน้า ก็พบกับร่างของท่านเคล้าส์และองค์ชาย พอองค์ชายรับรู้ว่าพวกเรามาก็เดินเข้ามาหา ฉันจึงกล่าวคำทักทาย

 

「อรุณสวัสดิ์ค่ะ ท่านเรย์ฟอร์ซ」

 

「ครับ คุณหนูแมรี่ อาการเป็นอย่างไรบ้าง?」

 

「ค่ะ ไม่เป็นอะไรแล้ว…」

 

「อย่างนั้นหรือครับ ถ้าเช่นนั้นก็โล่งอก… อา แล้วทุกคนมาทำอะไรกันหรือครับ?」

 

「กำลังจะไปที่หมู่บ้านค่ะ ว่าจะไปชมงานเทศกาลกัน」

 

「เห~ เป็นความคิดที่ดีเหมือนกัน ตัวผมเองก็ไม่เคยร่วมงานแบบนี้มาก่อน ขอไปด้วยได้ไหมครับ?」

 

「ถ้าท่านเรย์ฟอร์ซยังไม่เหนื่อยล่ะก็…」

 

ตอนเดาได้ว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้ก็ช่วงกลางบทสนทนาไปแล้ว ถ้าเป็นช่วงต้นก็ยังพอเลี่ยง สุดท้ายจึงได้แต่ปล่อยไปตามทิศทางการสนทนา องค์ชายตอบกลับมาว่าไม่มีปัญหา เดินมาอยู่ข้างๆฉัน ร่วมเดินทางไปกับพวกเรา

 

(ทำไม… นี่มันสมาชิกเดิมที่เดินทางไปตอนเกิดเรื่องเลยไม่ใช่เหรอ… ฮะ! ไม่ม่าย! จะไปปักธงเหตุการณ์แปลกๆให้ตัวเองไม่ได้นะ แมรี่! ใช่แล้ว นี่คืออีเวนท์เที่ยวชมงานเทศกาลกับเพื่อนๆเป็นครั้งแรกยังไงล่ะ ใช่แล้ว ตามนั้นล่ะ! สนุกให้เต็มที่ไปเลย ~ )

 

ขณะที่คิดกังวลไปเองคนเดียวอยู่ในใจ พวกเราทั้ง 5 คนก็เดินไปเรื่อยๆจนถึงใจกลางหมู่บ้าน

 

Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว

Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว

อ่านนิยาย เรื่องDouyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu neอ่านนิยาย เรื่องดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว ชาติที่แล้วในช่วงชีวิตก่อนที่จะตายฉันได้วิงวอน [ถ้าได้เกิดใหม่ขอร่างกายที่ไม่ว่าจะเจออะไรก็ไม่แพ้ได้ง่ายๆ] และดูท่าว่าคำขอนั้นจะถูกส่งไปถึง หลังจากมาเกิดใหม่ก็เป็นต่างโลกซะแล้ว ทั้งพละกำลังที่แข็งแกร่งสุดๆ ทั้งพลังป้องกันที่ไร้เทียมทาน ทั้งพลังเวทที่แข็งแกร่งที่สุด ทั้งความเร็วที่เร็วที่สุด การโจมตีทางกายภาพก็ทำอะไรไม่ได้ การโจมตีด้วยเวทมนต์ก็ไร้ผล เพราะว่าไม่มีทางแพ้ทุกๆอย่างไม่ว่าอะไรก็ตามเลยทำให้มีค่า สเตตัสทุกอย่างเต็ม MAX

Options

not work with dark mode
Reset