Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว – ตอนที่ 28 ช็อคค่ะ

จากที่เริ่มไปเรียนครั้งแรก ตอนนี้ 1 สัปดาห์ (ดูเหมือนที่โลกนี้จะมีแนวคิด 7 วัน เป็น 1 สัปดาห์ด้วยเช่นกัน) ก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ฉันเริ่มที่จะคุ้นเคยกับชีวิตภายในรั้วโรงเรียน และ ได้พบเจอกับทั้งสิ่งที่ชอบและไม่ชอบ อย่างแรก ความกังวลเกี่ยวกับระดับความยากในการเรียน ฉันพบว่าระดับความรู้ที่ได้รับมาจากญี่ปุ่นนั้นสูงกว่า ความรู้ในระดับประถมก็เพียงพอที่จะผ่านไปได้แล้ว แต่ถึงจะมีความรู้อยู่แล้วฉันก็ไม่ได้ปฏิเสธที่จะเรียนรู้อีกครั้ง เพราะสิ่งที่จำได้นั้นมีจำกัดและอาจสูญหายไปตามกาลเวลา

 

ทว่า เพราะฉันเข้าเรียน 『โซลออส』มันจึงไม่ได้สลักสำคัญ ยิ่งไปกว่านั้น ที่นี่ให้ความสำคัญกับเคลื่อนไหวร่างกายเสียมากกว่า และ ฉันกำลังกังวลเกี่ยวกับเรื่องการฝึกซ้อมในตอนนี้

 

「เฮ้อ ~」

 

หลังจากจบชั่วโมงคาบเช้า และกลับมาที่ห้องนั่งเล่น ทันทีที่นั่งลงไปยังเก้าอี้ที่ว่างอยู่ ฉันก็ถอนหายใจออกมาอย่างความอ่อนล้า

 

「อะโน เป็นยังไง… บ้างคะ…」

 

*หวาหวา*ผู้ที่รีบเข้ามาหาฉันด้วยความเป็นห่วงก็คือซาฟีน่าซึ่งนั่งอยู่ติดกัน หลังจบศึกซ้อมต่อสู้ตั้งแต่วันแรกที่เข้าเรียน เธอก็เข้ามาอยู่ข้างๆฉัน เอาเถอะ ต้องขอบคุณเธอล่ะนะที่ทำให้ฉันไม่จำเป็นต้องวิตกกังวลกับเรื่องอะไรหลายๆอย่าง เพราะดูเหมือนว่าเธอจะคุ้นเคยกับพื้นที่เป็นอย่างดี ทำให้ไม่ต้องกลัวเลยว่าจะหลงทาง อย่างกับฝันที่เป็นจริงเลยล่ะ

 

「ซึมขนาดนั้นเลยเรอะ ไม่จริงน่า อย่างท่านแมรี่เนี่ยนะไม่ถนัดเรื่องดาบ คาดไม่ถึงเลยนะเนี่ย」

 

ผู้ที่นั่งฝั่งตรงข้ามมองมาด้วยความประหลาดใจก็คือซาฮะ ฉันสูดลมหายใจและถอนหายใจยาวออกมาอีกครั้งให้กับคำพูดนั้น

 

ใช่แล้ว ฉันเพิ่งจะค้นพบองค์ประกอบที่น่ากังวล ฉันค้นพบว่าตัวเองมีปัญหากับวิชาดาบ

 

(ขอแก้ไขซักหน่อย ไม่ใช่ว่าไม่ถนัดวิชาดาบหรอกนะ ปัญหามันเป็นอีกเรื่องนึง… ฉัน ไม่สามารถจับดาบได้น่ะ)

 

ขณะที่กำลังเขียนตัว の ลงบนโต๊ะ ฉันก็บ่นออกมาในใจ

 

(ทำไมฉันจับมันไม่ได้น่ะเหรอ? เหตุผลก็ง่ายๆเลย เพราะมันจะหักยังไงล่ะ…)

 

จับดาบ แล้วก็เหวี่ยง มองเผินๆเหมือนง่ายแต่ในความจริง มันเป็นเรื่องยากสุดๆสำหรับฉัน อย่างแรกเลย ต้องจับเบาๆเพื่อที่ด้ามจับจะได้ไม่พัง ซึ่งพอเหวี่ยงเต็มแรงจากในสภาพแบบนั้น ก็เป็นธรรมดาที่ดาบจะหลุดจากมือ และ ในจังหวะที่ออกแรงฟันอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ผ่ายตรงข้ามบาดเจ็บจึงจำเป็นต้องออมแรงเอาไว้ ผลลัพธ์ก็คือ ฉันทำพลาดในจังหวะปะทะ บางครั้ง ถึงขั้นดาบหลุดออกจากมือ นั่นเป็นสิ่งที่น่าอับอายอย่างมาก จึงช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกหดหู่

 

(หลังจากเกิดเหตุ ทุกคนต่างก็มองมาด้วยสายตาอบอุ่น… ฉันไม่ทนไม่ไหวน้า)

 

นึกขึ้นมาแล้วก็ *กรี๊ด~~ *อยากจะมุดลงรูไปจริงๆ ตอนที่ท่านเคล้าส์ฝึกให้เป็นการต่อสู้แบบมือเปล่า จึงไม่พบกับปัญหานี้

 

(ไม่ใช่แค่ควบคุมร่างกายตนเองเท่านั้น แต่ต้องนึกถึงอาวุธในมือด้วย ยิ่งไปกว่านั้นยังต้องเรียนรู้วิชาดาบ อ่านการเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย… อ้าาาา เกลียดตัวเองจริงๆ!)

 

ฉันเอามือกุมศีรษะคราง*อ้าอ้า*อยู่เพียงลำพัง ซาฟีน่าทำได้เพียงแค่มอง ส่วนซาฮะพอมองแล้วก็ยกมือทั้งสองข้างขึ้นโพสท่าพร้อมส่ายหน้า*ไม่ไหวไม่ไหว*

 

「จริงด้วย คาบบ่ายได้ลงเรียนอะไรรึเปล่า? 」

 

ในขณะที่ฉันกำลังเอาหน้าฟุบอยู่บนโต๊ะ ปลดปล่อยออร่าด้านลบออกมา ซาฮะก็ตั้งคำถามเพื่อเปลี่ยนเรื่อง แต่ ตอนนี้ฉันไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะตอบ…

 

「เอ เอ่อ… ต่อจากนี้ คือ พวกเราจะได้ศึกษาเกี่ยวกับนิเวศวิทยาของมอนสเตอร์ร่วมกันค่ะ」

 

ผู้ที่ตอบกลับไปแทนที่ฉันซึ่งกำลังซึมอยู่คือซาฟีน่า ที่โรงเรียนนี้มีระบบพื้นฐานที่อนุญาตให้เลือกวิชาเรียนและเข้าเรียนได้ตามต้องการ แต่เพราะเรา 3 คนปรึกษากันว่าจะเลือกลงวิชาไหนบ้าง ผลทำให้วิชาเรียนของเรา 3 คนแทบจะเหมือนกันทั้งหมด

 

「นิเวศวิทยา!!」

 

ฉันมีปฏิกิริยากับคำพูดของซาฟีน่า *ปั๊บ*ตบโต๊ะเงยหน้าขึ้นมา ความหดหู่เมื่อครู่ปลิวหายไปไหนไม่รู้ *ปิ๊งปิ๊ง*ดวงตาเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น

 

「ท่านแมรี่เนี่ย ชอบวิชานิเวศวิทยาสินะคะ…」

 

「ก็ มอนสเตอร์น่ะ มอนสเตอร์! สิ่งมีชีวิตในโลกแฟนตาซีที่อยากศึกษามานาน เพราะกำลังจะได้เห็นของจริงก็เลยตื่นเต้นยังไงล่ะ」

 

「แฟนตาซี?」

 

「อ่า อืม… ไม่มีอะไรหรอก แค่พูดไปเรื่อยเปื่อย…」

 

ด้วยความตื่นเต้นทำให้ฉันเผลอหลุดคำบางคำออกไป ซาฟีน่าที่ได้ยินจึงมีเครื่องหมาย ? เกิดขึ้น ซึ่งฉันปล่อยให้มันผ่านไปเหมือนไม่มีอะไร

 

「แต่… ฉัน… ขอสารภาพตามตรงว่าไม่อาจเข้าเรียนวันนี้เลยค่ะ…」

 

「อร่า ทำไมล่ะ?」

 

ฉันตั้งคำถามกับซาฟีน่าที่ทำท่าพร้อมจะร้องไห้ออกมาได้ทุกเมื่อ

 

「ก็เพราะ… วันนี้ จะต้องเจอกับกริฟฟอนตัวเป็นๆน่ะค่ะ… ฉัน กลัว กลัวมากเลย」

 

「แต่ ถ้าในอนาคตจะเข้ากองทัพล่ะก็ รีบทำความคุ้นเคยกับกริฟฟอนเอาไว้จะดีกว่านะ ไม่แน่ว่าอาจจะมีพรสวรรค์จนได้เป็นอัศวินเวหาที่มีชื่อเสียงก็ได้นา」

 

ซาฮะตบไหล่พูดกระตุ้นซาฟีน่าด้วยความเป็นจริง ที่ประเทศนี้ กริฟฟอนไม่ได้จัดเป็นมอนสเตอร์ที่ดุร้าย พวกมันถูกจัดเป็นสิ่งมีชีวิตที่ใช้เป็นพาหนะเช่นเดียวกับพวกม้า มีลำตัวครึ่งบนเป็นนกอินทรีย์ครึ่งล่างเป็นสิงโต มอนสเตอร์ที่มีปีกขนาดใหญ่และมีสติปัญญาสูง ปัจจุบันได้รับตำแหน่งเป็นคู่หูของเหล่าอัศวินทำหน้าที่ปกป้องผืนฟ้าของประเทศ

 

(กริฟฟอนไรเดอร์เหรอ… อู… เท่ห์สุดๆเลย)

 

ฉันจินตนาการถึงภาพตัวเองขึ้นขี่กริฟฟอนบินไปในท้องฟ้า แค่นึกถึงก็รู้สึกดีใจจนเนื้อเต้นแล้ว

 

「โยช! ไปกันเลย」

 

ฉันยืนขึ้นชูหมัดด้วยกำลังใจเต็มเปี่ยมลืมความหดหู่เมื่อครู่ไปจนหมดสิ้น

 

「อะโน… อันที่จริง… คือ ฉัน… ขอผ่าน」

 

「โฮร่าโฮร่า ไปกันเลย ซาฟีน่า」

 

「เเเอ๋」

 

ฉันจัดการใช้แขนของตัวเองคล้องแขนของซาฟีน่าที่กำลังจะหนี บังคับให้ลุกขึ้น และลากไปยังจุดหมายปลายทางด้วยกัน ขอสารภาพตามตรง เพราะไม่รู้ว่าคลาสเรียนจัดขึ้นที่ไหน เลยจำเป็นต้องใช้กำลังบังคับพาซาฟีน่าไปด้วย

 

―――――――――

 

และ ฉันกำลังรู้สึกแปลกๆ

 

ฉันในตอนนี้ เดินทางมายังป่าซึ่งห่างจากตัวอาคารเรียน นักเรียนคนอื่นๆก็มารวมกันอยู่ที่นี่ และตรงหน้าก็มีอาจารย์อิคซ์ยืนอยู่

 

(ไม่ใช่ สาเหตุที่รู้สึกแบบนั้นไม่มีทางเป็นเพราะอาจารย์อิคซ์อยู่แล้ว)

 

สาเหตุนั้นมาจากสิ่งที่อยู่ไกลออกไปทางด้านหลังของอาจารย์

 

「เอ ~ เอาล่ะ มีใครสนใจจะลองสัมผัสกริฟฟอนตัวเป็นๆไหม」

 

เมื่อได้ยินคำพูดของอาจารย์ความตึงเครียดของฉันก็ค่อยๆลดลง

 

(ความรู้สึกตึงเครียดเมื่อซักครู่มันมาจากไหนกัน? มั่นใจว่า มาจากทางป่านี้ คงเป็นเพราะตื่นเต้นที่จะได้เห็นกริฟฟอนเป็นครั้งแรกล่ะนะ แต่ว่านะ แต่ว่านี่… แบบนี้… มัน…)

 

ฉันหับกลับไปมองทางกริฟฟอนอีกครั้ง แล้วก็ต้องหน้าเบ้

 

(…กลิ่นนี่มัน!! กลิ่นเหม็นสาบ ฉุนกึกเลย)

 

อันที่จริงเขาก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่สำหรับผู้ที่ไม่เคยได้สัมผัสกับพวกสัตว์มาก่อนแบบฉันนั้น กลิ่นสาบเฉพาะตัวของสัตว์ทำให้ต้องผงะไปเลยล่ะ สิ่งที่เปล่งประกายอยู่ภายในใจของฉันจนถึงเมื่อซักครู่ ตอนนี้เริ่มส่งเสียงและทำท่าจะพังครืนลง…

 

「อย่างที่พูดไว้คราวก่อน กริฟฟอนตัวนี้ครั้งหนึ่งเคยประจำการร่วมกับอัศวินเวหา ซึ่งตอนนี้ได้เกษียณอายุไปแล้ว หากลูกเจี๊ยบอย่างพวกเจ้ามองแบบดูถูกก็คงจะโกรธซึ่งไม่ควรเลย อาจถูกจิก กัด ข่วน จนบาดเจ็บหนัก… หรือถ้าโชคไม่ดีอาจถูกกินไปเลยก็ได้」

 

อาจารย์อิคซ์กล่าวเตือนเรื่องอันตราย*ฮุฮุ*และส่งรอยยิ้มออกมา ไม่ต้องบอกก็คงเดาได้ พอซาฟีน่าได้ยินแบบนั้นก็หน้าซีดไปเลย

 

「เอาล่ะ เริ่มจากใครดี?」

 

คำพูดของอาจารย์อิคซ์ ทำให้พวกเราเงยหน้าขึ้นมามองกันไปมา แต่ก็ไม่มีใครเสนอตัว

 

「คุณซาฮะกับคุณซาฟีน่า… อยากจะลองก่อนไหม?」

 

「หา? ผมเหรอ?」

 

「ฮี้」

 

ไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูดขึ้นมา แต่นักเรียนในชั้นเริ่มแสดงท่าทีเห็นด้วยกับคำพูดนั้น พูดตามความจริง ตั้งแต่เหตุการณ์ที่ลานประลองคราวนั้น ความสามารถของทั้งคู่ก็ถูกทุกคนประเมินเอาไว้สูง ส่วนฉันน่ะเหรอ เพราะว่าแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลยตอนอยู่ที่ลานประลอง ตอนซ้อมดาบเอง ก็ทำดาบหลุดมือ เรื่องประเมินค่าจึงไม่ต้องพูดถึง

 

ซาฮะทำหน้าปั้นยากมองมาทางฉัน ให้ถูกคือมองมาทางซาฟีน่าที่กำลังเกาะฉันอยู่… พอเธอรู้ตัวว่าถูกมอง ก็หดคอสะบัดหน้าซ้ายขวาอย่างรวดเร็วจนเกิดภาพติดตา

 

ฉันถอนหายใจออกมาครั้งหนึ่ง ยกมือขึ้น เดินหาอาจารย์

 

「อาจารย์อิคซ์คะ… ฉันกับคุณซาฮะ เราสองคนขอลองก่อนได้ไหมคะ?」

 

「หือ? ไม่มีปัญหา เอเร็คเซียล่ะโอเคไหม?」

 

「ไม่มีปัญหาครับ」

 

เด็กผู้ชายคนนี้เป็นใครกัน? ซาฮะที่ปกติมักจะทำตัวมีปัญหากลับพูดตอบอาจารย์อย่างชัดถ้อยชัดคำ

 

(คุ ดูเหมือน มันจะไปกระตุ้นศักดิ์ศรีในฐานะลูกผู้ชายของซาฮะสินะ ถึงอย่างงั้น พอนึกถึงพฤติกรรมตอนที่อยู่ตามลำพังกับฉันแล้ว… นี่มันไอ้บ้าชัดๆ!)

 

แม้จะหรี่ตาบ่นเขาอยู่ในใจ ถึงอย่างงั้นฉันก็ไม่ได้พูดอะไร ปล่อยซาฟีน่าให้ยืนอยู่ตรงนั้น แล้วก้าวออกไปด้วยกันกับซาฮะ

 

ดูเหมือนว่ามันจะได้ยิน และเข้าใจในสิ่งที่พูดกัน กริฟฟอนที่หมอบอยู่จนถึงตอนนี้จึงยกตัวขึ้นมา

 

(ใหญ่! ถึงจะรู้อยู่แล้วก็เถอะ นี่มันใหญ่จริงๆ! แถม ยิ่งเข้าใกล้ กลิ่นมันยิ่งเหม็นด้วย)

 

「 กริฟฟอนนั้นฉลาดกว่าที่พวกเธอคิด ดังนั้น จงปฏิบัติต่อมันโดยคิดว่าเป็นคนเช่นกัน」

 

ในขณะที่พวกเรากำลังตรงเข้าไปหากริฟฟอน อาจารย์อิคซ์ก็ให้คำแนะนำมาจากข้างหลัง

 

(ปฏิบัติต่อคนเหรอ… พูดอีกอย่าง คงจะเหมือนกับเวลาเจอชาวต่างชาติที่พูดกันคนละภาษาสินะ งั้น เริ่มต้นจากการทักทายก่อน…)

 

ฉันยืดอกเดินเข้าหากริฟฟอนที่ยกตัวขึ้นมาจากนั้นก็หยุดยืนทักทายความความสุภาพ ส่วนซาฮะยืนดูสถานการณ์อยู่ข้างหลังหนึ่งก้าว

 

「สวัสดี คุณกริฟฟอน」

 

จับจีบกระโปรงขึ้นมาเล็กน้อย โค้ง แม้จะต้องทนกับกลิ่นเหม็นสาบ แต่ฉันก็กล่าวทักทายออกไปด้วยรอยยิ้ม

 

(เผลอหลุดออร่าไม่ชอบใจไปนิดหน่อยแต่ก็… ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร)

 

ตอบสนองต่อเสียงเรียกแล้ว เหรอ? จังหวะที่ฉันกำลังคิดเช่นนั้น คุณกริฟฟอนที่มองมาก็…

 

คุณกริฟฟอนก็…

 

 

 

หนีอย่างสุดกำลัง

 

 

 

ถึงอย่างนั้น เพราะมีปลอกคอและโซ่ล่ามเอาไว้ มันจึงไม่สามารถหนีไปจากจุดนั้นได้ ถึงอย่างงั้น พวกเรา ไม่สิ ที่ถูกคือ มันพยายามหนีฉัน ดูตลกอยู่เหมือนกันที่*พั่บพั่บ*มันพยายามตีปีกหนีอย่างเต็มที่แบบนั้น

 

(ไม่ไม่ไม่ ถ้าดึงแรงแบบนั้นล่ะก็… อา เห็นไหม ขนที่คอหลุดจนเห็นเนื้อทำเอาดูหน้าตาน่าเกียดพิลึกเลย)

 

ไม่รู้ว่าท่วงท่าสง่างามก่อนหน้านี้มันหายไปไหนหมด กริฟฟอนพยายามหนีอย่างหมดท่า ไม่กี่นาที่ต่อมา หมดแรงแล้วอย่างงั้นเหรอ มันล้มตัวลงราวกับจะบอกว่า จะต้มยำทำแกงยังไงก็เชิญ

 

(มะ ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นซักหน่อย… ใช่แล้ว ถึงฉันจะรู้สึกไม่ชอบกลิ่นสาบก็เถอะ… เพราะมีสติปัญญาสูงเลยสัมผัสถึงพลังของฉันได้ แล้วก็คิดว่าฉันกำลังจะฆ่ามันเพราะไม่สึกไม่พอใจสินะ… อูยยย… ช็อค…)

 

ฉันที่กำลังช็อค*ซิคซิค*ถอยไปอยู่ข้างหลังทรุดตัวลงไปอยู่ข้างๆซาฟีน่า ซาฮะที่ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นก็ยืนงงไปพักหนึ่ง ทางด้านกริฟฟอนที่สูญเสียความสง่างามไปแล้ว ทุกคนต่างเข้ามาลูบมันอย่างอ่อนโยนด้วยแววตาสงสาร และชั่วโมงเรียนในวันนี้ก็จบลงไปทั้งอย่างนั้น

 

วันต่อมา น่าจะเป็นฝีมือของซาฮะที่แพร่ข่าวลือโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้มันแพร่กระจายไปหนักกว่าเดิม แม้จะไม่ใช่เรื่องดีนักแต่ฉันก็ยังรักษาความลับเอาไว้ได้ ทว่า การที่มอนสเตอร์พยายามหนีสาวน้อยแบบฉันอย่างสุดกำลัง มันทำให้ช็อคไปหลายวันทีเดียว…

 

Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว

Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว

อ่านนิยาย เรื่องDouyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu neอ่านนิยาย เรื่องดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว ชาติที่แล้วในช่วงชีวิตก่อนที่จะตายฉันได้วิงวอน [ถ้าได้เกิดใหม่ขอร่างกายที่ไม่ว่าจะเจออะไรก็ไม่แพ้ได้ง่ายๆ] และดูท่าว่าคำขอนั้นจะถูกส่งไปถึง หลังจากมาเกิดใหม่ก็เป็นต่างโลกซะแล้ว ทั้งพละกำลังที่แข็งแกร่งสุดๆ ทั้งพลังป้องกันที่ไร้เทียมทาน ทั้งพลังเวทที่แข็งแกร่งที่สุด ทั้งความเร็วที่เร็วที่สุด การโจมตีทางกายภาพก็ทำอะไรไม่ได้ การโจมตีด้วยเวทมนต์ก็ไร้ผล เพราะว่าไม่มีทางแพ้ทุกๆอย่างไม่ว่าอะไรก็ตามเลยทำให้มีค่า สเตตัสทุกอย่างเต็ม MAX

Options

not work with dark mode
Reset