Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว – ตอนที่ 47 ดูเหมือนมันจะวุ่นวายนิดหน่อยค่ะ

ประมาณ 2 สัปดาห์หลังจากการแข่งขันได้จบลง ฉันที่ขังตัวเองอยู่ในห้อง เอาแต่ขลุกตัวอยู่ในที่นอนโดยแทบไม่ได้ทานอะไร จมอยู่กับความสิ้นหวัง ไม่อยากเด่น อยากอยู่อย่างปกติไม่เป็นที่สนใจเหมือนนักเรียนทั่วไปคนนึง อ้า ภาพของผู้คนที่ต่อสู้ด้วยในการแข่งอยู่ในซอกหลืบของความทรงจำ ตอนที่รับรู้ว่าชนะอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเป็นผู้ชนะการแข่ง ยิ่งไปกว่านั้น ช่วงตอนกลางงานประลองมีคนเรียกฉันว่าอะไรอย่าง『องค์หญิงสีขาว』ออกมาด้วย ชนะตัวเก็งอย่างซาฮะกับซาฟีน่าโดยไม่ต้องสู้ แถมยังเป็นผู้ชนะในการแข่งไปอีก แน่นอนว่าทุกคน จะไม่สงสัยก็แปลกแล้ว จะต้องเกิดความสงสัยตัวฉันแน่ๆเลย ถึงจะไม่ใช่ก็มีปัญหากับความคาดหวังแปลกๆ ฉันแค่อยากจะมีชีวิตเรียบง่ายไม่เป็นเป้าสายตาใคร ความคิดลบเช่นนั้น ลอยวนเวียนสร้างความเจ็บปวดอยู่ในหัวของฉัน ทำให้ฉันยิ่งซุกตัวอยู่แต่ในผ้าห่ม ไม่อยากออกไปไหน

 

ทว่า ผ่านไปสองสัปดาห์ ตัวฉันที่ผมเผ้ายุ่งเหยิงก็ดันตัวคลานออกมาจากผ้าห่ม เหตุผลก็ง่ายๆเลย เพราะจะเริ่มการสอบข้อเขียนกันในวันนี้ยังไงล่ะ

 

ฉันมองดูแสงจากดวงอาทิตย์ที่ลอดผ่านกรอบหน้าต่างไม้แล้วก็*เฮ้อ~ *ออกมาอย่างหดหู่ แล้วก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น โดยไม่รอการตอบรับทุตเต้บุคคลเดียวที่ได้รับการอนุญาตจากฉันก็เข้ามาในห้องพร้อมชุดเปลี่ยน แปรง อุปกรณ์อาบน้ำ และอื่นๆ

 

「ดูเหมือนจะรู้สินะว่า วันนี้ ฉันต้องไปโรงเรียนน่ะ」

 

「เพราะวันนี้เป็นวันสอบข้อเขียน จึงคิดว่า คนจริงๆจังแบบคุณหนูน่าจะลุกขึ้นมาแล้วน่ะค่ะ」

 

「สมกับที่เป็นเมดของฉันเลยนะ」

 

ฉันถอนหายใจออกมาพร้อมส่งยิ้มให้ ทุตเต้โค้งแสดงความเคารพ เตรียมข้าวของให้ฉันออกไปข้างนอก เตรียมเครื่องอาบน้ำที่ใช้ประจำให้ ล้างหน้าล้างตัว แล้วก็เปลี่ยนชุด ฉันนั่งบนเก้าอี้ประจำเพื่อเริ่มทำผม ปกติฉันให้ทุตเต้ทำผมเป็นประจำทุกเช้าวันละครั้ง ซึ่งไม่ได้ทำในช่วงหลายวันมานี้ ทำให้คิดได้ว่าเธอทำเพื่อฉันมามาก คิดถึงในช่วง 2 สัปดาห์มานี้ ทุตเต้ยอมรับความเอาแต่ใจของฉัน รอจนฉันสงบใจได้เอง

 

「ขอบคุณนะ… ทุตเต้」

 

「จู่ๆ มีอะไรอย่างนั้นหรือคะ… คุณหนู?」

 

「อืม… เปล่าหรอก… แค่อยากพูดน่ะ」

 

เราสองคนมองหน้ามองตากันผ่านกระจกเต็มตัวแลกเปลี่ยนบทสนทนากันแบบนั้น หลังจากทุตเต้แต่งตัวให้ฉันเสร็จ ที่แรกที่ไปก็คือห้องอาหาร ตลอด 2 สัปดาห์มานี้ เพราะทำให้ทุกคนเป็นห่วง จึงอยากกล่าวขอโทษท่านพ่อท่านแม่ที่คอยเฝ้าดูแลอยู่ห่างๆโดยไม่ว่ากล่าวอะไรรอจนฉันสงบใจได้

 

แล้ว ตรงทางเดินไปยังห้องอาหาร ฉันก็พบกับพ่อบ้านกำลังพูดคุยกับท่านพ่อ เฟรดดิดอยู่ แม้จะเป็นชุดทำงานแต่ก็ดูอย่างกับชุดยูนิฟอร์มของทหารยังไงยังงั้น ท่านพ่อกำลังออกคำสั่งด้วยท่าทางเคร่งขรึม ฉันที่ยังไม่ทันได้เตรียมใจ ไม่รู้ว่าควรจะทำหน้ายังไงดี พอท่านพ่อรู้สึกถึงฉัน ก็หันขวับมามองหน้า สีหน้าที่เคร่งขรึมนั้นทลายลง พร้อมพุ่งเข้ามาแบบสุดตัว

 

「แแแแมรี่! นางฟ้าตัวน้อยของข้า!」

 

ตะโกนออกมาแบบนั้นแล้วท่านพ่อก็พุ่งเข้ามากอดฉันซะเต็มแรง ตอนที่ฉันคิดว่ามันแน่นไปหน่อย ท่านพ่อก็อุ้มตัวฉันขึ้นด้วยลำแขนที่บึกบึน

 

「โอ้ หายดีแล้วรึ? จะไปโรงเรียนอย่างงั้นรึ?」

 

ท่านพ่ออุ้มขึ้นมาเพื่อที่จะมองหน้าฉันตรงๆ สิ่งที่ฉันทำลงไปทำให้เขากังวลมาเลยสินะ พอรับรู้เช่นนั้น ฉันก็โค้งศีรษะลงแล้วตอบกลับไป

 

「ค่ะ ท่านพ่อ ต้องขออภัยที่ทำให้เป็นห่วงค่ะ」

 

ฉันส่งยิ้มและกล่าวออกไปเช่นนั้น ท่านพ่อก็ร้องไห้ออกมาด้วยความยินดี ก่อนจะกอดฉันแน่นอีกครั้ง พร้อมทั้งเอาแก้มมาถูไถด้วย

 

「อาา นางฟ้าของข้า ดีจริง ดีจริงๆ ถ้ายังขังตัวเองอยู่ในห้องต่อไปล่ะก็ ข้าคงต้องไปทุบโรงเรียนทิ้งซะแล้วล่ะ」

 

(นะ? ท่านพ่อ เมื่อกี้ ว่าอะไรนะ? รู้สึกเหมือนจะได้ยินอะไรที่มันอันตรายชอบกล)

 

ด้วยอ้อมกอดที่รุนแรงของท่านพ่อ ทำให้ฉันได้ยินคำพูดไม่ถนัด จึงไม่ได้รับรู้ว่าในคำพูดของท่านพ่อนั้นมีคำพูดอันตรายแฝงอยู่ จากนั้นไม่นาน ก็มีเสียง*อะแฮ่ม*ดังมาจากทางด้านหลังของท่านพ่อ พอเราทั้งคู่มองไป ก็พอท่านแม่ที่กำลังยืนส่งยิ้มอย่างอ่อนโยนมา

 

「ท่านแม่!」

 

พอฉันถูกปล่อยจากอ้อมกอดของท่านพ่อ ก็ตรงมาหาท่านแม่ แล้วความนุ่มนวลดุจขนแกะก็พุ่งเข้ามา เธอเองก็คุกเข่าลง แล้ว*กิ้ว*กอดฉันเอาไว้แน่น เจ้าภูเขาแฝดอันอวบอิ่มของเธอ*มุนิ้ว*อัดเข้ามาตรงหน้าฉัน

 

(อา นุ่มจัง… ไม่ใช่แล้ว หายใจไม่ออก!)

 

ฉันตะเกียกตะกายเอาหน้าออกมาจากอ้อมกอดของท่านแม่ และเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าท่านแม่ได้สำเร็จ

 

「แมรี่… หายดีแล้วสินะ ไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม?」

 

「ค่ะ ต้องขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงค่ะ」

 

ในรอยยิ้มนั่นมีน้ำเสียงที่เป็นกังวลแฝงอยู่ เพื่อลบมันทิ้งฉันจึงใช้น้ำเสียงร่าเริงตอบกลับไป

 

(นั่นสินะ รอบตัวเรามีเหล่าผู้คนที่คอยเป็นห่วง จะให้พวกเขาต้องเป็นกังวลไม่ได้ หนูสำนึกผิดแล้วและจะจำไว้ ไม่ทำผิดซ้ำอีกแล้วค่ะ)

 

แล้วฉันที่ถูกโอบกอดด้วยความอบอุ่นของครอบครัว ก็ตรงไปยังห้องอาหารเพื่อรับประทานอาหารเช้า

 

 

 

หลังจากรับประทานอาหารเช้าเป็นที่เรียบร้อย ฉันก็สวมชุดยูนิฟอร์มหลังจากที่ไม่ได้ใส่มาซักพัก ขึ้นรถม้าที่เตรียมรอไว้ตรงประตูหน้า หลังจากที่คนขับรถม้าเห็นว่าฉันกับทุตเต้ขึ้นรถเป็นที่เรียบร้อยก็ออกเดินทาง เมื่อคิดว่าฉันกำลังมุ่งหน้าไปโรงเรียนก็รู้สึกปวดท้องขึ้นมา เพราะหยุดเรียนไปถึง 2 สัปดาห์จึงไม่รู้ว่าควรจะทำหน้าแบบไหนกับทุกคนดี ยิ่งใกล้ถึงโรงเรียนก็ยิ่งกังวล สิ่งที่ตัดสินใจไปเมื่อเช้าสั่นคลอนมากขึ้นๆ ไม่ได้เรื่องเลยนะตัวฉัน

 

「ไหวรึเปล่าคะ? คุณหนู หน้าดูซีดมากเลยนะคะ」

 

「ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรหรอก ไปห้องนั่งเล่นกันเถอะ」

 

เพราะไม่อยากให้ทุตเต้มองมาด้วยความเป็นห่วงอีกแล้ว ฉันจึงทำตัวให้เข้มแข็ง สูดหายใจลึกๆ แล้วมุ่งหน้าไปยังห้องนั่งเล่น

 

ระหว่างทาง เหล่านักเรียนหันมองมาทางนี้ แล้วก็ส่งเสียงกระซิบกระซาบกันแต่ก็ปล่อยมันผ่านไป เพราะต้องพยายามทำให้หัวใจที่กำลังเต้นตึกตักสงบลง เมื่อมาถึงที่หมาย ฉันก็สูดหายใจลึกๆไม่รู้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่ของวัน เดินไปที่ทางเข้าห้องโถง

 

เกิดเสียงดังอื้ออึงขึ้นมา ทำเอาฉันอยากจะวิ่งหนีแต่ทุตเต้ที่อยู่ข้างหลังก็ดันเอาไว้ *ฉึบฉึบ*ให้เดินเข้าไปในห้อง

แล้ว ก็มีหมาน้อยวิ่งมาจากอีกฟาก ตอนแรกคิดว่างั้น ผมสีเกาลัดนุ่มๆยาวถึงหลัง เด็กสาวที่อยู่ในชุดยูนิฟอร์มแบบเดียวกับฉันกระโดดพุ่งเข้ามาอย่างรุนแรง

 

「แมรี่ซาาาาม้าาาา」

 

การแทคเกิลที่รุนแรงไม่ต่างกับการโจมตีพุ่งเข้ามาที่ท้อง แต่ด้วยสกิลการโจมตีไร้ผลที่ทำงานขึ้นมาทำให้ฉันสามารถรับร่างของซาฟีน่าเอาไว้ได้

 

(ว่าแต่ พุ่งเข้ามาจนทำให้สกิลทำงานขึ้นมาเนี่ย… คงจะเป็นห่วงมากเลยสินะ)

 

ขณะที่ฉันกำลัง*โอ๋โอ๋*ซาฟีน่าที่เข้ามากอดและร้องไห้ ซาฮะก็เดินเข้ามาหา

 

「ท่านแมรี่ หายแล้วเหรอ? ร่างกาย ไม่เป็นไรแล้วเหรอ?」

 

ไม่บ่อยนักที่จะมีสายตาแสดงความเป็นห่วงจากซาฮะมายังฉัน ทำให้รู้สึกแปลกใจนิดหน่อย แต่ก็รู้สึกผิดที่ทำให้เขากังวลด้วย จึงยิ้มตอบไป

 

「ไม่เป็นไรแล้ว ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะ คุณซาฮะกับซาฟีน่าเองหายดีแล้วสินะ」

 

ทั้งสองคนหมดสติไปเพราะใช้พลังเวทย์จนหมด นี่จึงเป็นพบกันอีกครั้งหลังจากตอนนั้น ฉันรู้สึกโล่งอกที่ทั้งสองคนปลอดภัยดี

 

「ฉันแค่พลังเวทย์หมดไปเท่านั้น พอลืมตาตื่นขึ้นในวันถัดมาก็หายเรียบร้อยแล้วค่ะ ท่านแมรี่น่าเป็นห่วงมากกว่าอีกค่ะ ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงไม่ยอมเล่าให้ฟังเลยล่ะคะ?」

 

(หือ?)

 

ซาฟีน่าที่เกาะอยู่ปล่อยตัวจากฉันแล้วพูดขึ้น คำพูดที่แสดงขึ้นความเป็นห่วงของเธอ และในคำพูดของเธอนั้น รู้ว่าฉันมีบางสิ่งที่ปิดบังทุกคนอยู่

 

(เอ๋? หรือว่า ความลับเรื่องที่ฉันมีพลังโกงจะแตก…)

 

เหงื่อเย็นๆไหลท่วมเต็มหลังของฉัน

 

「เอ๋? นั่น หมายความ ว่ายังไงเหรอ?」

 

ฉันพยายามทำตัวให้นิ่งสงบ แต่กลับเสียงสั่นแถมพูดตะกุกตะกัก ทำให้ทั้งคู่มองด้วยความเป็นห่วง สิ่งที่ฉันทำลงไปในตอนประลอง รวมถึงตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันคงไม่แปลกที่จะรู้ว่าความแข็งแกร่งของฉันมันไม่ปกติ ยิ่งเป็นคนที่สนิทแบบทั้งคู่ยิ่งแล้วใหญ่

 

「คุณหนู…」

 

คงเพราะรับรู้ได้ถึงสถานการณ์ ทุตเต้จึงส่งเสียงแสดงความเป็นกังวลออกมา ฉันหันหลังกลับไปมองแล้วพยักหน้า และเตรียมใจก่อนจะหันกลับมาหาทั้งคู่อีกครั้ง

 

「ขอโทษด้วยนะ แต่ว่า…」

 

「ปิดเอาไว้จริงๆด้วยสินะคะ เรื่องที่ว่าท่านแมรี่กำลังป่วยอยู่เนี่ย」

 

「หา?」

 

ในจังหวะที่ฉันเตรียมใจและเปิดปากสารภาพถึงความสามารถกับทั้งคู่ คำพูดของฉันก็ถูกหยุดเอาไว้ ด้วยคำพูดถึงเรื่องที่ไม่รู้ว่าไปเอามาจากไหนอย่างมั่นใจของซาฟีน่า

 

「อย่างนี้นี่เอง… ก็รู้สึกสงสัยกับข้อมูลที่มากิลูก้าเล่ามาอยู่ ทั้งหมดนั่นหมายถึงเรื่องนี้เองสินะ」

 

「เอ่อ อะโน ว่าไงนะ?」

 

การประมวลผลของฉันตามทิศทางการสนทนาไม่ทัน ทั้งสองก็แปลความออกมา

 

「อย่างที่เขาพูดกันว่า สวรรค์ไม่ได้ประทานพรถึงสองอย่าง ท่านแมรี่ที่มีทั้งพรสวรรค์ทั้งด้านความรู้และทักษะ แต่ก็มีร่างกายที่ไม่สามารถตามสิ่งนั้นได้คอยฉุดรั้งเอาไว้ ที่ความแข็งแกร่งมันขึ้นๆลงๆมาจนถึงตอนนี้เป็นเพราะอย่างนี้นี่เอง」

 

「เอ๋? หา?」

 

ฉันไม่สามารถเข้าใจความหมายแฝงในสิ่งที่ซาฮะพูด ภายในหัวของฉันจึงอยู่สภาวะสับสน

 

「ทั้งอย่างนั้นกลับไม่แสดงออกมาให้เห็น เป็นห่วงเป็นใยฉันยิ่งกว่าตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้น ยังพยายามฝืนตัวเองเพื่อทำตามความคาดหวังของพวกเรา… ที่หายตัวไปก่อนถึงการแข่งขัน เพราะต้องการซ่อนไม่อยากให้ใครมาเห็นตอนที่กำลังทรมานจากอาการป่วยสินะคะ」

 

ดวงตาของซาฟีน่ารื้นด้วยน้ำตา ไม่รู้ว่าสะเทือนใจถึงขนาดไหน เธอกุมมือของฉันขึ้นมาถึงระดับอกอย่างอ่อนโยน

 

「วินาทีที่ผลการแข่งถูกประกาศออกมา พอรู้ว่าหน้าที่จบลง ก็สลบไปโดยไม่รู้ตัว ต้องใช้ชีวิตอยู่ระหว่างความเป็นความตายมาจนถึงตอนนี้ เข้มแข็งมากเลยค่ะท่านแมรี่」

 

สุดท้าย ซาฟีน่าก็บ่อน้ำตาแตก*อุแง้*และเริ่มร้องไห้ออกมา เสียงร้องดังก้องไปทั่วทั้งห้อง ตามมาด้วยเสียงซุบซิบถึงเรื่องที่ไม่จริงจากรอบทิศทาง

 

「เดี๋ ซาฟีน่า! เรื่องนั้นใคร! นั่นมันไม่จริง!」

 

「ไม่ต้องปิดแล้วล่ะ มากิลูก้าบอกน่ะ ตอนที่เธอยังไม่ได้สติได้ยินท่านเลกาเลียกับผู้อำนวยการโรงเรียนคุยกันว่าอย่างงั้น」

 

ไม่ต้องพูดอะไรแล้วล่ะ ฉันรู้ความจริงหมดแล้ว ซาฮะเอามือตบไหล่และส่งยิ้มมาโดยสื่อความหมายแบบนั้น ทำให้ฉันยิ่งไม่เข้าใจสถานการณ์ยิ่งเข้าไปอีก

 

「เอ๋? ท่านพ่อน่ะนะ กับผู้อำนวยการ?」

 

ท่านพ่อมาพูดคุยถึงที่โรงเรียน เรื่องนั้นฉันไม่รู้มาก่อนเลย จึงหันไปหาทุตเต้ที่อยู่ข้างหลัง เธอตอบคำถามฉันแบบไร้เสียงโดยการพยักหน้า เป็นการตอบว่าเรื่องที่ท่านพ่อมาที่นี่เป็นความจริง

 

「ลอร์ดเลกาเลียเล่าว่า บุตรสาวของตนมีร่างกายอ่อนแอและบอบบางมาตั้งแต่เด็ก เป็นบุตรสาวที่แค่เพียงใช้ชีวิตประจำวันโดยไม่มีเมดส่วนตัวยังยาก แล้วในตอนที่ห่างสายตาและไปชนะในการต่อสู้ จึงเข้าใจผิดไปว่าแข็งแรงดีแล้วนั่นเอง เสียใจที่ไม่ได้รับรู้เลยว่าบุตรสาวนั้นกำลังฝืนตัวเองเพื่อความคาดหวังของคนรอบตัว แล้วก็กล่าวโทษโรงเรียนที่ไม่ได้รับรู้เรื่องนั้น และปิดท้ายว่าบุตรสาวของตนจะหยุดเรียนจนกว่าจะหายดีค่ะ」

 

ระหว่างที่กำลังคุยกันอยู่นั้น ไม่รู้ว่ายืนแอบฟังอยู่หรือไง เจ้าของผมโรลม้วนเกลียวแนวตั้งสีทอง มากิลูก้าก็เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น แถมยังมีองค์ชายเดินประกบมาด้วยกัน

 

「ผมได้เข้าไปคุยกับผู้อำนวยหลังจากที่ลอร์ดเลกาเลียออกจากห้องไป ว่าในทันทีที่ประกาศผลการแข่งขันว่าคุณหนูแมรี่เป็นผู้ชนะ รู้ว่าเธอล้มลง เรื่องที่เธอปิดบังเอาไว้เพื่อไม่ให้ทุกคนกังวล แล้วก็หลั่งน้ำตาออกมา ไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่าจะได้เห็นลอร์ดเลกาเลียคนนั้นแสดงท่าทางแบบนั้นออกมาให้เห็น จากนั้น หลังที่สลบไปหนึ่งวันเต็มๆ ก็ได้ยินว่าเธอไม่ยอมออกจากห้อง เพราะไม่อยากให้พวกเราเป็นห่วง จึงไม่ยอมให้ใครเข้าไปในห้อง ซ่อนตัวตนที่อ่อนแอเอาไว้ไม่ให้ใครเห็น」

 

องค์ชายเข้ามาสนับสนุนในเรื่องที่มากิลูก้าพูดเข้าไปอีก เหล่านักเรียนในห้องที่รับฟังด้วยความสนใจต่างพยักหน้า

 

(Oh my god! ท่านพ่อ ทำไมถึงได้ด่วนสรุปเรื่องราวไปแบบนั้น เกิดข่าวลือมั่วซั่วไปหมดแล้วเนี่ย)

 

ทุตเต้ที่ได้ยินคำพูดซึ่งเต็มไปด้วยความเป็นห่วงจากมากิลูก้าและองค์ชายหัวเราะแห้งๆ เข้ามากระซิบข้างหูฉัน

 

「ที่ทั้งสองท่านพูดเป็นความจริงค่ะ หลักฐานก็คือ การที่ท่านผู้อำนวยการอนุญาตให้ดิฉันอยู่ข้างกายคุณหนูได้เป็นกรณีพิเศษค่ะ นายท่านได้แจ้งให้ดิฉันทราบเมื่อวันก่อน」

 

คำพูดของทุตเต้ พูดถึงเรื่องราวเบื้องหลังที่เกิดขึ้นซึ่งฉันเพิ่งจะเคยรับรู้เป็นครั้งแรก ทำให้รับรู้ถึงสถานการณ์ปัจจุบัน เรื่องที่มีพลังโกงนั้น แม้จะโล่งอกที่ไม่มีใครสังเกต แต่ก็ตกอยู่ในสภาพปัจจุบันที่ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ฉันจึงร้องตะโกนในใจว่า

 

(ทำไม มันถึงได้วุ่นวายแบบนี้!)

 

Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว

Douyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu ne – ดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว

Status: Ongoing
อ่านนิยาย เรื่องDouyara Watashi no Karada wa Kanzen Muteki no You desu neอ่านนิยาย เรื่องดูเหมือนว่าร่างกายของฉันจะแข็งแกร็งไร้เทียมทานซะแล้ว ชาติที่แล้วในช่วงชีวิตก่อนที่จะตายฉันได้วิงวอน [ถ้าได้เกิดใหม่ขอร่างกายที่ไม่ว่าจะเจออะไรก็ไม่แพ้ได้ง่ายๆ] และดูท่าว่าคำขอนั้นจะถูกส่งไปถึง หลังจากมาเกิดใหม่ก็เป็นต่างโลกซะแล้ว ทั้งพละกำลังที่แข็งแกร่งสุดๆ ทั้งพลังป้องกันที่ไร้เทียมทาน ทั้งพลังเวทที่แข็งแกร่งที่สุด ทั้งความเร็วที่เร็วที่สุด การโจมตีทางกายภาพก็ทำอะไรไม่ได้ การโจมตีด้วยเวทมนต์ก็ไร้ผล เพราะว่าไม่มีทางแพ้ทุกๆอย่างไม่ว่าอะไรก็ตามเลยทำให้มีค่า สเตตัสทุกอย่างเต็ม MAX

Options

not work with dark mode
Reset