Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – ตอนที่ 708 : นองเลือดอีกครั้ง!

บทที่ 708 : นองเลือดอีกครั้ง!
ภายในคฤหาสน์ตระกูลหลิง..
ทั้งศัตรูและคนในตระกูลหลิงต่างก็ต่อสู้เพื่อรักษาชีวิตกันอย่างดุเดือดดาบและกระบี่ปะทะกันเป็นพัลวัน รวมทั้งเสียงร้องตะโกนที่ดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า รวมถึงเสียงสั่งฆ่าก็ดังไม่หยุดเช่นกัน!
แม้ว่าเวลานี้ตระกูลหลิงจะอยู่ในช่วงตกต่ำแต่เมื่อสิบแปดปีก่อนนั้น ตระกูลหลิงก็เคยเป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของประเทศจีนร่วมกับตระกูลหลง และตระกูลฉิน..
และถึงแม้ธุรกิจต่างๆจะถูกตระกูลใหญ่อื่นๆฮุบไปมากมาย แต่บ้านซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษตระกูลหลิงก็ยังคงตั้งตระหง่านอยู่ที่เดิมเช่นเดียวกับเมื่อสิบแปดปีก่อน!
บ้านของบรรพบุรุษตระกูลหลิงหลังนี้ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของปักกิ่งถัดไปจากถนนวงแหวนที่ห้า ภายในบริเวณบ้านถูกแบ่งออกเป็นเก้าชั้น และแต่ละชั้นก็จะมีสวนกว้างใหญ่ที่ตกแต่งไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
เหล่านินจาทั้งสามสิบหกคนที่ตระกูลเฉินส่งมานั้นตระกูลเฉินไม่ได้ส่งมาเพื่อโจมตีตระกูลหลิง แต่ส่งมาสังหารคนตระกูลหลิงทั้งหมด!
ตระกูลเฉินรู้ดีว่า..ในบรรดาเจ็ดตระกูลใหญ่แห่งปักกิ่งนั้น ตระกูลหลิงนับว่าอ่อนแอกว่าตระกูลเกาด้วยซ้ำไป และในสายตาของคนตระกูลเฉิน ตระกูลหลิงก็เป็นเพียงแค่มดเล็กๆตัวหนึ่งเท่านั้น
ตระกูลเฉินรู้ดีว่าตระกูลหลิงมียอดฝีมือขั้นเซียงเทียนอยู่เพียงแค่สามคนเท่านั้นซึ่งก็คือหลิงลี่ซึ่งอยู่ในขั้นเซียงเทียน-1 หลิงเจิ้นซึ่งอยู่ในขั้นเซียงเทียน-2 และหลิงเย่วซึ่งอยู่ในขั้นเซียงเทียน-1 ยิ่งไปกว่านั้นทั้งสามคนนี้ต่างก็เคยได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์เมื่อสิบแปดปีก่อนด้วย
ส่วนทายาทรุ่นใหม่ของตระกูลหลิงนั้นไม่ว่าจะเป็นลูกชายทั้งสองคนของหลิงเจิ้นซึ่งก็คือหลิงห่าวกับหลิงหย่ง หลิงซิ่วลูกสาวของหลิงเย่ว และลูกชายของเขาอีกสองคนคือหลิงเฟิงกับหลิงเลี่วย รวมทั้งหลิงซวี่ซึ่งเป็นลูกสาวของหลิงเสี่ยวนั้น ทุกคนล้วนแล้วแต่ยังไม่มีใครเข้าสู่ขั้นเซียงเทียนเลยแม้แต่คนเดียว
จึงเห็นได้ชัดว่า..เหล่านินจาที่ตระกูลเฉินส่งมาในคืนนี้นั้น ตั้งใจส่งมาสังหารเสาหลักของตระกูลหลิงทั้งสิ้น
แต่ตระกูลเฉินนั้นยังไม่รู้ว่าอาการบาดเจ็บของเหล่ากุ่ยได้ถูกหลิงหยุนทำการรักษาให้จนหายดีแล้ว และเวลานี้ได้เข้าสู่ระดับสูงสุดขั้นเซียงเทียน-2 แล้วด้วย!
จากเหตุการณ์เมื่อสิบแปดปีก่อนนั้นทำให้ตระกูลหลิงได้สูญเสียหน่วยกล้าตายไปจำนวนมาก และเวลานี้ก็เหลืออยู่เพียงเก้าคน แต่ทั้งเก้าคนล้วนแล้วแต่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้ทั้งเก้าคนต่างก็ต้องกลายเป็นคนพิการไป บ้างสูญเสียขา บางก็สูญเสียแขน จึงไม่สามารถช่วยอะไรได้!
ดังนั้น..ตระกูลเฉินจึงเริ่มกำจัดจากตระกูลหลิงที่นับว่าน่ากลัวน้อยที่สุดในเวลานี้ และตั้งใจที่จะทำลายตระกูลหลิงให้สิ้นซากในทันที!
ชนวนที่เป็นสาเหตุของการทำลายล้างตระกูลหลิงในคืนนี้ก็ไม่มีอะไรมากมายเมื่อเฉินเจี้ยนกุ่ยกลับมาที่คฤหาสน์ของตนเอง และพบว่าหลิงเย่วถูกคนช่วยออกไปได้แล้ว แน่นอนว่าเมื่อหลิงเย่วกลับไป ตระกูลหลิงย่อมรู้แล้วว่าเรื่องราวทั้งหมดนั้นล้วนเป็นฝีมือของตระกูลเฉิน จึงไม่จำเป็นที่พวกมันจะต้องทำอะไรลับๆล่อๆอีกในเมื่อทุกอย่างถูกเปิดเผยแล้วเช่นนี้
หลังจากที่เฉินเจี้ยนกุ่ยได้รายงานเรื่องนี้ให้กับผู้นำตระกูลเฉินทราบแล้วผู้นำตระกูลเฉิน – เฉินไห่เผิงซึ่งเป็นพ่อของเฉินเจี้ยนกุ่ยก็ถึงกับโกรธแค้นอย่างมากเมื่อทราบข่าวว่ายอดฝีมือในคฤหาสน์ตระกูลเฉินถูกสังหารตายจนหมด เขาจึงรีบสั่งให้คนของตนเองแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งไปจัดการสังหารหลิงหยุน ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งไปจัดการถล่มตระกูลหลิงให้สิ้นซาก!
“เจ้าอาจจะช่วยชีวิตหลิงเย่วลูกชายของเจ้าได้แต่ก็ต้องแลกกับการล่มสลายของตระกูลหลิง!”
ถึงแม้ว่าเฉินเจี้ยนกุ่ยจะทำงานได้รวดเร็วมากแต่ใครจะคิดว่าเจสเตอร์เองก็เร็วไม่แพ้กัน! เจสเตอร์พาหลิงเย่วออกมาจากบ้านตระกูลเฉินก่อนที่เฉินเจี้ยนกุ่ยจะไปถึงด้วยซ้ำ อีกทั้งเฉินเจี้ยนกุ่ยเองก็เสียเวลาต่อสู้กับหลิงหยุนอยู่ช่วงหนึ่ง จึงทำให้มันรายงานล่าช้าไปบ้าง!
หลิงเย่วนั้นไม่ใช่คนโง่และสมองไม่ได้เป็นอัมพาต! เมื่อเห็นว่าหลิงหยุนเพื่อต้องการช่วยเขานั้นถึงกับสังหารยอดฝีมือของตระกูลเฉินไปเป็นร้อย จึงคาดการณ์ไว้แล้วว่าตระกูลเฉินจะต้องโกรธแค้นอย่างมาก และจะต้องส่งคนมาจัดการกับตระกูลหลิงให้สิ้นซากอย่างแน่นอน ในเมื่อหน้ากากของพวกมันก็ถูกฉีกออกแล้ว..
ทันทีที่หนีออกมาจากคฤหาสน์ตระกูลเฉินได้แล้วหลิงเย่วก็ได้แต่อ้อนวอนขอร้องให้เจสเตอร์รีบพาเขากลับไปที่ตระกูลหลิงโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาจำเป็นต้องรีบไปรายงานเรื่องนี้ให้หลิงลี่ทราบโดยด่วน เพื่อที่ตระกูลหลิงจะได้เตรียมรับมือได้ทัน
แต่เมื่อเจสเตอร์ส่งหลิงเย่วที่บ้านตระกูลหลิงแล้วระหว่างนั้นเหล่านินจาทั้งสามสิบหกคนที่เฉินไห่เผิงส่งมาก็กำลังอยู่บนถนนใกล้บ้านตระกูลหลิงแล้วเช่นกัน
เมื่อหลิงเย่วมาถึงคฤหาสน์ตระกูลหลิงนั้นหลิงลี่ก็กำลังพูดคุยอยู่กับเหล่ากุ่ยอย่างตื่นเต้นดีใจ และกำลังทำท่าทางเลิ่กลั่กเพราะไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไรดีเมื่อต้องเผชิญหน้ากับทายาทที่ตนเองไม่เคยได้พบหน้ามาถึงสิบแปดปี
และเพราะเหตุการณ์เร่งด่วนหลิงเย่วจึงไม่สนใจกฎระเบียบ เขาไม่สามารถรอให้คนไปรายงานการมาของตนได้ จึงได้รุดเข้าไปหาหลิงลี่ที่สวนด้านในทันที และรีบรายงานเรื่องราวทั้งหมดให้หลิงลี่ทราบ
แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเมื่อหลิงลี่ได้ฟังจะเดือดดาลถึงเพียงนี้!ทันทีที่ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของหลิงเย่ว หลิงลี่ก็รู้ได้ทันทีว่าตระกูลหลิงกำลังตกอยู่ในอันตราย เขารีบโทรสั่งหลิงเจิ้นให้มาที่บ้านบรรพบุรุษตระกูลหลิงทันที และสั่งให้เตรียมการป้องกันให้พร้อม
ในเวลาเดียวกันนั้น..หลิงลี่ก็หันไปมองหน้าเหล่ากุ่ยพร้อมด้วยแววตาที่มีเพียงเหล่ากุ่ยเท่านั้นที่รู้
เหล่ากุ่ยจึงตอบกลับไปทันที“ใช่แล้วท่านผู้นำตระกูล! คนที่ไปช่วยคุณชายสองออกมาจากคฤหาสน์ตระกูลเฉินที่ชานเมืองด้านใต้นั้น เป็นนายน้อยหลิงหยุนอย่างแน่นอน!”
คนอื่นอาจจะไม่รู้จักเจสเตอร์แต่เหล่ากุ่ยนั้นรู้จักดี เขาแทบไม่ต้องรอให้หลิงเย่วรายงานเรื่องราวทั้งหมดด้วยซ้ำไป เพียงแค่เห็นเจสเตอร์พาหลิงเย่วกลับมา เหล่ากุ่ยก็สามารถเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดได้ในทันที
หลิงลี่ได้ฟังถึงกับตกใจจนแทบช็อคภายในคฤหาสน์ชานเมืองด้านใต้ของตระกูลเฉินนั้น มียอดฝีมือขั้นเซียงเทียนที่แข็งแกร่งอยู่นับสิบๆคน แต่ทั้งหมดกลับถูกหลานชายของเขาสังหารตายหมดงั้นหรือนี่!
เมื่อหลิงลี่ได้ฟัง..เขายังอดคิดไม่ได้ว่าตนเองนั้นกำลังฝันไปด้วยซ้ำ! แต่ยังคงฟังเหล่ากุ่ยพูดต่อด้วยท่าทีสงบนิ่ง
“ท่านผู้นำตระกูล..ท่านอย่าได้กังวลใจไป ข้าจะหาทางติดต่อนายน้อยให้เขารีบมาช่วย ตราบใดที่นายน้อยกลับมาช่วยทัน ตระกูลเฉินไม่มีทางรอดแน่!”
แต่ในเวลานั้น..หลิงหยุนเองก็กำลังต่อสู้กับยอดฝีมือของตระกูลเฉิน มีหรือที่จะสามารถรับโทรศัพท์ได้ อีกทั้งเขาก็ได้จัดการเก็บมันไว้ในแหวนพื้นที่เรียบร้อยแล้ว!
เหล่ากุ่ยโทรหาหลิงหยุนถึงสองครั้งสองคราแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ เหล่ากุ่ยถึงกับตกใจสุดขีดเช่นกัน เพราะรู้ดีว่าหลิงหยุนได้เก็บโทรศัพท์เข้าไปในแหวนพื้นที่แล้ว!
และในเวลานั้นเองก็มีนินจาทั้งหมดสามสิบหกคนบุกเข้ามาในบ้านตระกูลหลิง และการต่อสู้ภายในบ้านบรรพบุรุษตระกูลหลิงจึงเริ่มต้นจากนั้นมา!
แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นนินจาแต่พวกมันก็คร้านที่จะปิดบังตนเอง เพราะได้รับคำสั่งมาให้สังหารคนในตระกูลหลิงไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว จึงไม่มีความจำเป็นต้องอำพรางตน!
หลิงลี่หลิงเย่ว เหล่ากุ่ย เจสเตอร์ และหลิงเจิ้นที่เพิ่งมาถึง ต่างก็รีบตรงไปที่สวนด้านหน้าทันที และในเวลานั้นเหล่านินจาก็ได้บุกเข้ามาถึงสวนที่ห้าภายในบ้านของตระกูลหลิงแล้ว!
“คนตระกูลหลิงยอมตายมากกว่าที่จะยอมคุกเข่าให้พวกแก!”
หลิงลี่เห็นศัตรูตั้งใจเข้ามาสังหารคนตระกูลหลิงถึงในบ้านความโกรธก็พวยพุ่งขึ้นมาทันที เขาคว้ากระบี่พุ่งออกไปสู้กับเหล่าศัตรูทันที!
คนในตระกูลหลิงต่างก็เป็นเดือดเป็นแค้นขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นเหล่านินจาไร้ยางอายตั้งใจบุกเข้ามาถึงสวนชั้นที่ห้าของบ้านตระกูลหลิงเพื่อสังหารพวกเขา!
“เหล่ากุ่ย..ท่านช่วยคุ้มครองท่านพ่อและคนตระกูลหลิงคนอื่นๆด้วย!”
หลิงเจิ้นเองก็ร้องตะโกนสั่งเหล่ากุ่ยพร้อมกับคว้ากระบี่ในมือพุ่งเข้าใส่ศัตรูอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าหลิงลี่เสียอีก!
หลิงเย่วที่เพิ่งมาถึงบ้านก็พุ่งตามหลิงเจิ้นไปโดยไม่พูดไม่จา ทุกคนต่างก็ไม่มีใครเรียกร้องให้ปกป้องคุ้มครองตนเอง ทุกคนต่างก็พุ่งเข้าสังหารศัตรูที่อยู่ตรงหน้าทันที
หลังจากเหตุการณ์เมื่อสิบแปดปีก่อนตระกูลหลิงได้แอบฝึกหน่วยกล้าตายไว้ร่วมร้อยคน และเวลานี้ก็ได้ใช้ประโยชน์จากพวกเขา ทุกคนล้วนเดินเข้าใส่ศัตรูอย่างไม่เกรงกลัว!
อีกทั้งทายาทตระกูลหลิงรุ่นใหม่ไม่ว่าจะเป็นหลิงหย่ง หลิงซิ่ว หลิงเฟิง หลิงเลี่วย ทั้งสี่คนต่างก็ถือกระบี่ในมือพุ่งเข้าใส่ศัตรูด้วยความโกรธแค้น และไม่หวาดกลัวต่อความตาย!
ตลอดสิบแปดปีมานี้พวกเขาล้วนแล้วแต่ถูกคนตระกูลอื่นเหยียดหยาม มักถูกทำให้ได้รับความอัปยศอับอาย และเป็นที่ขบขันของลูกหลานในตระกูลอื่น พวกเขาจึงสุดที่จะทนอีกต่อไป!
ถึงแม้ว่าจะยังอ่อนหัดแต่ทุกคนก็สู้อย่างเต็มที่ และสุดความสามารถของตนเอง!
แต่เพราะเวลานี้หลานชายคนโตของตระกูล– หลิงห่าว และหลานสาวคนเล็ก – หลิงซวี่ ได้ออกไปปฏิบัติงานให้กับกลุ่มอินทรีย์ จึงไม่ได้อยู่ร่วมต่อสู้ในครั้งนี้ด้วย
เหล่ากุ่ยรุดตามเข้าไปในสนามต่อสู้และคอยคุ้มครองหลิงลี่ผู้นำตระกูลคนก่อนอยู่เงียบๆ ภาพการปะทะกันภายในสวนบ้านตระกูลหลิง เสียงอาวุธของทั้งสองฝั่งกระทบกันดังสนั่นไปทั่วทั้งบริเวณ และเสียงร้องตะโกนเข่นฆ่ากันนั้น ทำให้เหล่ากุ่ยได้แต่แอบถอนหายใจอยู่เงียบๆ พร้อมกับอดคิดไม่ได้ว่าเหตุการณ์เมื่อสิบแปดปีก่อนกำลังจะเวียนกลับมาอีกครั้งงั้นหรือ
หลิงหยุนเองก็สามารถมองเห็นภาพเหล่านั้นจากระยะสูงหนึ่งพันเมตรเช่นกัน!
ภาพที่มีแต่การนองเลือดและซากศพ..
เหล่ากุ่ยทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครองตระกูลหลิงมานานถึงสามสิบปีเขารู้ดีกว่าใครๆ ว่าสายเลือดตระกูลหลิงนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นสายเลือดที่ไม่เคยยอมแพ้!
ชัวะ!ชัวะ!
สิ้นเสียงดาบฟันที่ดังขึ้นสองครั้งหลิงลี่ก็พบว่าหลิงหย่งกับหลิงเฟิงได้รับบาดเจ็บ!
-เหล่ากุ่ย..เจ้าจะมาวนเวียนอยู่รอบตัวข้าทำไม รีบไปช่วยหลายชายของข้าเร็วเข้า!-
หลิงลี่ฟาดฟันกระบี่ในมือใส่เหล่านินจาที่อยู่ด้านหน้าสองคนพร้อมกับส่งกระแสจิตบอกเหล่ากุ่ยให้ไปช่วยหลานชายของเขา
“นายผู้เฒ่า..ท่าน..”
เหล่ากุ่ยเห็นทายาทตระกูลหลิงได้รับบาดเจ็บจึงใช้เพลงกระบี่ปราบเทวะที่หลิงหยุนสอนให้ฟันเข้าที่ไหล่ของนินจาที่กระโดดมาทางด้านหลังของหลิงลี่
“เจ้าไม่ต้องห่วงข้า!ข้ายังตายไม่ได้จนกว่าจะได้พบกับหลานชายของข้าเสียก่อน!”
หลิงลี่ร้องตะโกนบอกด้วยสีหน้าตื่นเต้นพร้อมกับกระโดดเข้าใส่ร่างของเหล่านินจาเพื่อหมายสังหารพวกมัน
“เจ้าอย่าลืมว่าข้าเองก็เคยเข้าสู่ขั้นเซียงเทียน-4มาแล้ว!” หลิงลี่กวัดแกว่งกระบี่ในมือพร้อมกับหันมาบอกเหล่ากุ่ยอีกครั้ง
เมื่อเป็นเช่นนี้เหล่ากุ่ยจำต้องกวัดแก่วงกระบี่ในมือขับไล่นินจาสองคนตรงหน้า แล้วกระโดดเข้าไปหาหลิงลี่พร้อมกับยื่นยันต์สองชนิดให้กับเขา
มันคือยันต์เกราะยันต์เพชร และยันต์เตโช!
และนี่คือยันต์ระดับห้าที่หลิงหยุนได้ปลุกเสกก่อนที่จะออกเดินทางมาจากเมืองจิงฉูและเขาได้มอบยันต์แต่ละชนิดให้เหล่ากุ่ยไว้ใช้ในยามวิกฤติ
หลังจากที่ยื่นยันต์ทั้งหมดให้กับหลิงลี่แล้วเหล่ากุ่ยก็พูดขึ้นว่า “ท่านผู้นำตระกูล.. ยันต์ทั้งสามชนิดที่ข้ามอบให้ท่าน ท่านเก็บไว้ใช้ในยามวิกฤติ!”
จากนั้นเหล่ากุ่ยก็กระโดดไปยืนอยู่ด้านหน้าหลิงหย่งและหลิงเฟิง จากนั้นก็หยิบยันต์บำบัดสองแผ่นไปแปะไว้บนบาดแผลของคนทั้งคู่พร้อมกับตะโกนสั่งให้ยันต์ทำงาน
เหล่ากุ่ยตั้งใจช่วยทายาททั้งสี่คนของตระกูลหลิงเพราะรู้ดีว่าในวันข้างหน้าทั้งสี่คนนี้จะเป็นแขนขาให้กับหลิงหยุนได้!
ในระหว่างการต่อสู้นั้นเหล่ากุ่ยก็ไม่ลืมที่จะหยิบยันต์บำบัดออกมา พร้อมกับร้องบอกทั้งสี่คนว่า “พวกท่านแต่ละคนถือยันต์นี่ไว้ หากใครได้รับบาดเจ็บ ก็ใช้ยันต์นี่ปิดไว้บนบาดแผลพร้อมกับร้องสั่งให้ยันต์ออกฤทธิ์ บาดแผลของพวกท่านก็จะหายในทันที เข้าใจหรือไม่”
ทั้งหลิงหย่งและหลิงเฟิงยังคงตะลึงพวกเขาต่างก็คิดว่ากำลังฝันไป เพราะจู่ๆบาดแผลที่ถูกฟันลึกถึงกระดูกกลับหายไปในพริบตา
ในเมื่อมีของวิเศษเช่นนี้พวกเขายังจะต้องกลัวอะไรอีก! ฆ่ามัน!
เด็กรุ่นใหม่ทั้งสี่คนต่างก็ต่อสู้ปกป้องตระกูลหลิงอย่างไม่กลัวตายพวกเขาร้องตะโกนพร้อมกับพุ่งใส่นินจาสองคนที่พุ่งเข้ามาเพื่อสังหารพวกเขาทันที!

DRAGON EMPEROR MARTIAL GOD

DRAGON EMPEROR MARTIAL GOD

ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..

Comment

Options

not work with dark mode
Reset