Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – ตอนที่ 739-740

บทที่ 739 : อ่างเก็บน้ำมี่หยิวน!
รถตู้ของเหล่ากุ่ยขับไปตามถนนด้วยความเร็วสูง..
หลิงหยุนนั่งอยู่ในรถแต่สายตากลับจ้องมองผ่านกระจกหน้าต่างขึ้นไปบนท้องฟ้า และได้แต่ภาวนาอยู่ในใจขอไม่ให้ฝนตกลงมาในวันนี้
แม้จะภาวนาเช่นนั้น..แต่หลิงหยุนก็มั่นใจว่าถึงอย่างไรวันนี้ฝนก็ต้องตกหนักอย่างแน่นอน
“นายน้อยสี่..คืนนี้ข้าจะไปกับท่านด้วย!”
เหล่ากุ่ยที่นั่งนิ่งมานานได้หันหลังไปพูดกับหลิงหยุนด้วยน้ำเสียงต่อรองเขารู้ว่าหลิงหยุนนั้นได้เตรียมการที่จะไปช่วยเกาเฉินเฉินในคืนนี้
“แต่ตระกูลหลิงต้องการคนคุ้มครอง..”หลิงหยุนได้แต่ถอนหายใจพร้อมตอบกลับไป
หากหลิงหยุนหาเกาเฉินเฉินพบและสามารถช่วยนางออกมาได้สำเร็จโดยไม่ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูก็ดีไป แต่หากต้องเผชิญหน้ากับเฉินเจี้ยนกุ่ย ก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงการต่อสู้กับแวมไพร์ได้!
และเฉินเจี้ยนกุ่ยที่กระเหี้ยนกระหืออยากจะพัฒนาร่างของตนเองด้วยการดื่มเลือดของเกาเฉินเฉินนั้นนางจึงเปรียบเสมือนสมบัติล้ำค่าของมัน และแน่นอนว่าเฉินเจี้ยนกุ่ยคงไม่ยอมให้เขาช่วยนางออกมาได้ง่ายๆอย่างแน่นอน
“หลังจากการต่อสู้เมื่อคืนนี้ ทั้งปักกิ่งก็สั่นสะเทือนไปหมด เวลานี้ทุกคนต่างก็พพากันคาดเดาว่าจอมยุทธคนใหนที่เข้ามาช่วยปกป้องตระกูลหลิงไว้ ในช่วงเวลาสั้นๆแค่นี้ ตระกูลเฉินไม่กล้าลงมือซ้ำอีกเป็นแน่!”
เหล่ากุ่ยยังพูดให้หลิงหยุนมั่นใจอีกว่า..“เวลานี้นายผู้เฒ่าก็อยู่ในระดับเริ่มต้นขั้นเซียงเทียน-8 แล้ว อีกทั้งตระกูลหลงเองก็คอยสนับสนุนตระกูลหลิงอยู่ ส่วนตระกูลเย่เองก็ไม่สนใจอะไร และไม่คิดยื่นมือเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้แน่ เช่นนี้แล้วต่อให้ตระกูลเฉินกำแหงเพียงใด ก็คงไม่กล้าส่งจอมยุทธที่เก่งกาจทั้งสามคนของตนมาแน่..”
ความหมายของเหล่ากุ่ยนั้นหลิงหยุนเข้าใจดี..ตราบใดที่ตระกูลเฉินไม่ส่งจอมยุทธผู้สูงส่งทั้งสามคนในตระกูลมา หลิงลี่ก็สามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย และหากมีใครกล้าบุกมา ก็คงต้องตายสถานเดียว!
“นายน้อยสี่..ข้าเองก็คุ้นเคยกับเส้นทางในเมืองหลวงมากกว่าท่าน และหากท่านต้องต่อสู้กับพวกมัน ใครจะเป็นคนปกป้องเกาเฉินเฉินเล่า”
“ยิ่งไปกว่านั้น..นายผู้เฒ่าก็จะต้องกังวลใจและเป็นห่วงหากท่านบุกไปที่นั่นเพียงคนเดียว!”
ในที่สุดเหล่ากุ่ยก็ต้องพูดความจริงออกมาว่าหลิงลี่และเขาล้วนเป็นห่วง เกรงว่าเมื่อหลิงหยุนตกอยู่ในอันตรายจะไม่มีคนคอยช่วยเหลือ!
เวลานี้..บุคคลที่สำคัญที่สุดในตระกูลหลิงก็คงไม่พ้นหลิงหยุน!
“เอาล่ะ..ถ้าเช่นนั้นหลังทานอาหารเย็นแล้ว ท่านกับเพียร์ซก็ออกไปช่วยเกาเฉินเฉินพร้อมกับข้าในคืนนี้!” ในที่สุดหลิงหยุนก็ตกลงให้เหล่ากุ่ยไปด้วย
เหล่ากุ่ยส่งหลิงหยุนกลับไปที่บ้านส่วนตัวเขาก็กลับไปที่บ้านตระกูลหลิง..
ทันทีที่หลิงหยุนกลับถึงบ้านเขาก็สัมผัสได้ถึงพลังชีวิตที่กระจายออกมาจากกระสอบสมุนไพรที่ถังเมิ่งสั่งให้คนยกเข้าไป
หลิงหยุนหันไปมองจึงพบว่ากระสอบสมุนไพรนั้นตั้งอยู่ที่มุมหนึ่งของบ้านและมีสมาชิกแก๊งมังกรเขียวนั่งเฝ้าอยู่ หลิงหยุนจึงเอ่ยถามขึ้นมาทันที
“ถังเมิ่งจัดการพาพวกนายไปทานข้าวเที่ยงแล้วหรือยัง”
“พี่หยุน..พวกเราทุกคนกินกันเรียบร้อยแล้ว แต่พี่ถังดูเหมือนมีเรื่องจะคุยกับพี่..”
หลิงหยุนถามขึ้นอย่าประหลาดใจ“ถังเมิ่งมีเรื่องอะไรที่จะต้องคุยกับข้า”
สมาชิกแก๊งมังกรเขียวตอบกลับพร้อมกับเกาศรีษะ“ได้ยินว่าเป็นเรื่องบริษัทขนส่ง ฉันได้ยินมาว่าพี่ถังจะซื้อบริษัทขนส่ง..”
หลิงหยุนนั้นเข้าใจความคิดของถังเมิ่งได้ทันทีถังเมิ่งคงคิดว่าหลิงหยุนจะต้องอาศัยอยู่ในปักกิ่งนาน และคงต้องมีการขนส่งอยู่บ่อยครั้ง เขาจึงคิดจะซื้อบริษัทขนส่ง และถึงเวลานั้นหากต้องการจัดส่งอะไรให้หลิงหยุนอีก ก็จะเป็นเรื่องที่ทำได้สะดวกง่ายดายมากขึ้น..
“พวกเจ้าสองคนไปหาหินหรืออิฐมาให้ข้า..”
หลิงหยุนเดินไปเปิดห้องเก็บของในบ้านจากนั้นจึงนำหินไปวางเป็นค่ายกลหลุมพลังอยู่ภายในห้อง แล้วจึงสั่งให้คนของแก๊งมังกรเขียวช่วยกันย้ายสมุนไพรเข้าไปเก็บไว้ด้านในเพื่อป้องกันไม่ให้พลังชีวิตเล็ดรอดออกมาได้อีก
หลังจากขนย้ายเรียบร้อยแล้วหลิงหยุนก็จัดการปิดประตูห้องเก็บของ และเรียกเงินออกมาปึกหนึ่งส่งให้คนของแก๊งมังกรเขียวทั้งสองคน
“พวกเจ้าสองคนไปจัดการเปิดโรงแรมนอนพักผ่อนแล้วก็เอาเงินหนึ่งหมื่นหยวนนี้ไปหาอะไรกินกัน..”
สมาชิกแก๊งมังกรเขียวทั้งสองคนถึงกับตกใจและไม่กล้าที่จะรับเงินของหลิงหยุน!
“พี่หยุน..พวกเรารับไว้ไม่ได้ พี่เป็นหัวหน้าของลูกพี่เรา พวกเราทำงานให้กับพี่ไม่ได้หวังเงินทอง หากพี่ถังรู้ต้องฆ่าพวกเราแน่ๆ!”
หลิงหยุนนั้นได้แต่งตั้งให้ถังเมิ่งกับตี้เสี่ยวอู๋เป็นที่ปรึกษาและพี่ใหญ่ของแก๊งมังกรเขียว แม้ว่าตี้เสี่ยวอู๋จะไม่สนใจกับตำแหน่งนี้มากนัก แต่ถังเมิ่งกลับตรงข้าม..
ถังเมิ่งให้อาปิงคัดเลือกพี่น้องแก๊งมังกรเขียวยี่สิบแปดคนมาทำงานให้กับตนเองและในการเดินทางมาปักกิ่งครั้งนี้ ถังเมิ่งก็ได้ให้ห้าในยี่สิบแปดคนเดินทางมากับเขาด้วย ให้ทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดและคนขับรถให้กับตนเอง ดูถังเมิ่งจะมีความสุขอย่างมาก
“ถังเมิ่ง..เจ้าเด็กนี่มีความสุขได้มากกว่าข้าจริงๆ!”
“เอาเถอะ..แล้วข้าจะบอกกับถังเมิ่งเอง”
ไม่มีของฟรีในโลก!หลิงหยุนเข้าใจคำพูดนี้ดี กฎระเบียบเข้มงวดเพียงใด ก็สู้ผลประโยชน์ที่เพียงพอไม่ได้
หลังจากที่คนของแก๊งมังกรเขียวออกไปแล้วหลิงหยุนก็จัดการโทรหาถังเมิ่ง และสั่งให้เขารีบกลับมาบ้านโดยเร็ว หลังจากนั้นหลิงหยุนก็เดินลงไปยังห้องใต้ดิน
เมื่อเดินผ่านค่ายกลเขาวงกตเข้าไปหลิงหยุนก็พบกับเกาเทียนหลงที่กำลังนั่งนิ่งอยู่ในห้อง..
สองวันที่ผ่านมานี้นอกเหนือจากต้องดูแลคนในครอบครัวของตนเองแล้ว เกาเทียนหลงเองก็มุ่งมั่นฝึกฝนอย่างหนักเพื่อที่จะพัฒนากำลังภายในของตนเองให้ก้าวหน้าโดยเร็วที่สุด
เมื่อเห็นว่าหลิงหยุนเข้ามาเกาเทียนหลงจึงรีบลุกขึ้นทันที
“ทุกคนเป็นอย่างไรกันบ้าง”
หลิงหยุนใช้จิตหยั่งรู้สำรวจไปทั่วบริเวณก็พบว่าสมาชิกตระกูลเกาล้วนหลับกันหมดแล้ว
“สองวันมานี้พวกเขาดีขึ้นกว่าก่อนมากท่านปู่และท่านพ่อของข้าดูเหมือนจะจงรักภักดีต่อเฉินเจี้ยนกุ่ยน้อยลงเรื่อยๆ”
“หลิงหยุน..ข้าต้องขอบคุณที่เจ้ามอบศิลาก้อนนี้ให้ใช้รักษาทุกคน!” เกาเทียนหลงร้องบอกหลิงหยุนพร้อมกับชี้นิ้วไปทางศิลาเกลาใจที่เกาจิ้นสงถือไว้
“ถ้าเช่นนั้นก็ดี..”หลิงหยุนพยักหน้าและถามเกาเทียนหลงว่า “แล้วเลือดเหลือเพียงพอหรือไม่”
เกาเทียนหลงขมวดคิ้วเล็กน้อย“พวกเขาต่างก็ปฏิเสธที่จะดื่มเลือด ทุกคนดูมีสติกันมากขึ้น มีเพียงเวลากลางคืนที่ไม่สามารถหักห้ามตัวเองได้เท่านั้น แต่ก็จะดื่มกันเพียงแค่เล็กน้อย เลือดที่เหลือจึงน่าจะยังใช้ไปได้อีกนาน..”
หลิงหยุนถามเกาเทียนหลงอีกสองสามเรื่องและเมื่อมั่นใจว่าไม่มีสิ่งใดผิดปกติ เขาจึงได้บอกกับเกาเทียนหลงว่า
“คืนนี้ข้าจะไปช่วยเฉินเฉิน..”
เกาเทียนหลงได้ยินถึงกับตื่นเต้นดีใจอย่างมาก“จริงรึ! นี่เจ้ารู้ที่ซ่อนของน้องสาวข้าแล้วงั้นรึ?”
หลิงหยุนตอบอย่างมั่นใจ“แม้จะยังไม่รู้ แต่ก็เหมือนกับรู้นั่นล่ะ! ข้าได้โปรยหมื่นลี้ล่าวิญญาณลงบนร่างของเฉินเจี้ยนกุ่ย และจะตามรอยของมันไป!”
“เจ้าต้องการให้ข้าช่วยอะไรหรือไม่”
หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับส่ายหน้า“ไม่ต้อง.. เจ้าทำหน้าที่ดูแลคนในครอบครัวของเจ้าให้ดี เวลานี้ข้าได้เลือดของเฉินเจี้ยนกุ่ยมาแล้ว สองวันมานี้ข้ากำลังศึกษาหาวิธีที่จะใช้เลือดของมันให้เป็นประโยชน์ ไม่ว่าอย่างไร.. ข้าก็จะต้องทำลายเลือดของมันในตัวทุกคนให้จงได้!”
“อ่อ..ข้ามีข่าวดีจะบอกเจ้าด้วย!”
หลิงหยุนได้เล่าให้เกาเทียนหลงฟังว่าเขาได้สังหารยอดฝีมือตระกูลเฉินไปเป็นร้อยคน และนินจากอีกหลายคน เกาเทียนหลงได้ยินถึงกับเลือดในกายสูบฉีดขึ้นมาทันที!
“น้องของผู้นำตระกูลเฉินที่ชื่อเฉินไห่คุนก็ถูกข้าสังหารเมื่อคืนตระกูลเฉินพ่ายแพ้ให้กับข้ายับเยิน!”
“อะไรนะ!เฉินไห่คุนถูกเจ้าฆ่าตายงั้นรึ?!” เกาเทียนหลงถึงกับตกใจ
หลิงหยุนพูดกับเกาเทียนหลงอย่างไม่สนใจอะไรนัก“ที่ตระกูลเกาต้องพบกับหายนะเช่นนี้ เป็นเพราะคนในตระกูลไม่สนใจฝึกฝนวรยุทธ แต่กลับไปใช้วิธีอื่นแทน! เจ้าเองก็อย่าหมกมุ่นฝึกฝนจนลมปราณแตกซ่านล่ะ..”
หลิงหยุนเป็นห่วงว่าเกาเทียนหลงจะหมกมุ่นอยู่กับการฝึกฝนจนลมปราณแตกซ่านและกลายเป็นมารไป
“หากถึงเวลากินเจ้าก็ต้องกินเมื่อถึงเวลาพักเจ้าก็ต้องพัก ข้าจะมอบยันต์ชำระใจให้เจ้าไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน”
หลังจากพูดคุยกับเกาเทียนหลงแล้วหลิงหยุนก็เดินออกมาจากห้องใต้ดินไปจากนั้นก็ขับรถแลนด์โรเวอร์ของตนเองออกไปจากบ้านทันที
หลิงหยุนขับรถแลนด์โรเวอร์ไปตามถนนวงแหวนที่ห้าตรงไปยังคฤหาสน์ชานเมืองด้านใต้ของตระกูลเฉินเมื่อคืนเพื่อต้องการช่วยลุงสอง หลิงหยุนจึงต้องหยุดการช่วยเกาเฉินเฉินไว้ชั่วคราวก่อน
หลิงหยุนแสร้งทำเป็นขับรถผ่านหน้าคฤหาสน์ตระกูลเฉินไปและแน่นอนว่าเขาสัมผัสได้ถึงร่องรอยของหมื่นลี้ล่าวิญญาณ หลิงหยุนยิ้มอย่างผู้ชนะ และรีบเร่งความเร็วมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของปักกิ่งทันที
หลิงหยุนขับรถไปตามร่องรอยของหมื่นลี้ล่าวิญญาณรถของเขาขับตามถนนวงแหวนที่หก จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือของถนนวงแหวนที่หกข้ามเขตชุนยี่ และในที่สุดก็ถึงเมืองเหวยโหยวซึ่งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของปักกิ่ง..
“เฉินเจี้ยนกุ่ยมันเอาตัวเกาเฉินเฉินไปซ่อนไว้ที่ใหนกันแน่”
หลิงหยุนได้แต่พึมพำออกมาแต่ก็ยังคงขับรถไล่ล่าไปตามร่องรอยของหมื่นลี้ล่าวิญญาณไม่หยุด และวกกลับเข้าไปที่อ่างเก็บน้ำมี่หยิวน
“อ่างเก็บน้ำมี่หยิวนงั้นรึ!”
หลังจากขับต่อไปอีกราวครึ่งชั่วโมงหลิงหยุนก็ไปถึงอ่างเก็บน้ำมี่หยิวน เขาขับไปตามถนนที่มุ่งหน้าไปทางป่าลึกด้านเหนือ
เวลานั้นเกือบจะสี่โมงครึ่งแล้วท้องฟ้าก็เริ่มมืดครึ้มและมีเมฆหนา เมฆลอยต่ำคล้ายจะมีฝนตกลงมาได้ทุกเมื่อ
ถนนหนทางก็เริ่มขับได้ยากขึ้นหลิงหยุนจึงต้องหาที่จอดดรถไว้ในที่ที่มีต้นไม้ขึ้นหนาแน่น และไม่มีผู้คนผ่านไปมา!
หลิงหยุนเดินเข้าไปในป่าลึกมากขึ้นเรื่อยๆและยิ่งเข้าไปลึกมากเท่าไหร่ ร่องรอยของหมื่นลี้ล่าวิญญาณก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และนั่นบ่งบอกว่าน่าจะเป็นสถานที่ที่เฉินเจี้ยนกุ่ยอาศัยอยู่
“ใช่แน่แล้ว..มันต้องซ่อนเฉินเฉินไว้ในถ้ำแน่ๆ!”
หลิงหยุนร้องออกมาระหว่างที่เดินสำรวจไปตามภูเขาที่อยู่รอบอ่างเก็บน้ำมี่หยิวน..

DRAGON EMPEROR MARTIAL GOD

DRAGON EMPEROR MARTIAL GOD

ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..

Comment

Options

not work with dark mode
Reset