Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – ตอนที่ 971 : การต่อสู้ที่รอคอยมานาน!

หลิงหยุนเองก็ไม่ใช่นักฆ่าหรือฆาตกรโดยสันดาน..
ก่อนที่จะเริ่มการต่อสู้เขาก็ได้ประกาศต่อหน้าทุกคนแล้วว่า จะไม่สังหารศิษย์ทั้งห้าของสำนักดาบสวรรค์ เพื่อตอบแทนที่สำนักดาบสวรรค์เคยช่วยชีวิตฉินจิวยื่อ..
แต่ทั้งหมดนั้นอยู่ในเงื่อนไขที่ว่าสำนักดาบสวรรค์ไม่ได้พายอดฝีมือมาซุ่มโจมตีเขาเช่นนี้!
หลิงหยุนตั้งใจไว้แล้วว่าไม่ว่าศิษย์สำนักดาบสวรรค์จะบีบบังคับฉินตงเฉี่วยมากเพียงใด หลิงหยุนก็จะปล่อยพวกเขาทั้งหมดไปอย่างปลอดภัย..
แต่ในเมื่องมีการจัดเตรียมยอดฝีมือมาสำหรับซุ่มโจมตีเขาเช่นนี้หลิงหยุนจึงจำเป็นต้องสังหารกัวเสี่ยวเทียน!
สำหรับหลิงหยุนแล้วสิ่งเดียวในสำนักดาบสวรรค์ที่ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้างก็คือ การที่มีฉินตงเฉี่วยซึ่งมีฐานะเป็นน้าหญิงของเขาอยู่เป็นศิษย์ในสำนักเท่านั้นเอง..
ด้วยเหตุนี้..ศิษย์สำนักดาบสวรรค์จึงเปรียบเสมือนคนในครอบครัวไปโดยปริยาย ข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้นเวลานี้จึงเป็นเรื่องที่ควรจะสามารถเจรจาตกลงกันดีๆได้ และในการประลองฝีมือกันนั้น แม้จะได้รับบาดเจ็บบ้าง และไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายแพ้หรือชนะ ก็นับว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัว..
แม้ว่าหลิงหยุนจะแสดงท่าทียะโสโอหังออกไปเช่นนั้นแต่ในใจก็ยังให้โอกาสสำนักดาบสวรรค์อยู่เสมอ
ไม่เช่นนั้นแล้ว..เหตุใดหลิงหยุนซึ่งสามารถสังหารหลิวซุ่ยเฟิงได้ภายในดาบเดียว แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ทำ!
อีกทั้งฮู๋วฉีเฟิงซึ่งเขาสามารถสังหารได้เป็นคนแรกนั้นเขาก็ยังเลือกที่จะไม่ทำเช่นกัน!
และท้ายที่สุด..กัวเสี่ยวเทียนซึ่งตกอยู่ภายใต้ฝ่ามือของเขานั้น เขาสามารถสังหารได้ในทันทีเช่นกัน แต่เขาก็ยังคงไม่ทำ!
ทั้งหมดนี้ไม่ใช่อุปนิสัยของเขาเลยแม้แต่น้อยเหตุผลที่เขายังคงอดทนได้เช่นนั้น ก็มีเพียงเหตุผลเดียวซึ่งก็คือฉินตงเฉี่วย!
หลิงหยุนเข้าใจความรู้สึกของฉินตงเฉี่วยดีและรู้ว่านางต้องลำบากใจมากเพียงใด เขาจึงไม่ต้องการให้นางต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกมากนัก
คืนนี้..หลิงหยุนตั้งใจว่าจะมาเพื่อปกป้องคุ้มครองฉินตงเฉี่วย และจะรับผิดชอบเพียงแค่การต่อสู้ที่จะเกิดขึ้นเท่านั้น หลังจากที่เขาเอาชนะสำนักดาบสวรรค์ได้แล้วนั้น ฉินตงเฉี่วยจะจัดการเช่นใด เขาก็จะไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่งเกี่ยว!
ฉินตงเฉี่วยเป็นคนเฉลียวฉลาดในเมื่อนางตั้งใจมาที่เขาหลงเหมินแห่งนี้ นางย่อมต้องคิดหาวิธีที่จะจัดการกับเรื่องราวต่างๆไว้แล้ว..
ฉินตงเฉี่วยเพียงแค่ต้องการอธิบาย..แต่กัวเสี่ยวเทียนกลับไม่เปิดให้โอกาสนางได้อธิบายเลยแม้แต่น้อย หลิงหยุนจึงต้องเป็นผู้หาโอกาสนี้ให้กับนาง
การที่เขาใช้ฝ่ามือกดลงศรีษะของกัวเสี่ยวเทียนนั้นก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะสังหารกัวเสี่ยวเทียนแต่อย่างใด เขาเพียงแค่ต้องการให้คนของสำนักดาบสวรรค์หยุดฟังคำอธิบายของฉินตงเฉี่วยบ้างเท่านั้น..
และหลังจากที่ศิษย์สำนักดาบสวรรค์ตั้งใจฟังคำอธิบายทั้งหมดของฉินตงเฉี่วยแล้วพวกเขาจะยอมรับหรือไม่นั้น หลิงหยุนก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่สังหารกัวเสี่ยวเทียน หนำซ้ำยังจะรักษาอาการบาดเจ็บให้กับเขาอีกด้วย..
หากหลังจากได้ฟังคำอธิบายของฉินตงเฉี่วยแล้วศิษย์สำนักดาบสวรรค์ยังไม่สามารถยอมรับได้ หลิงหยุนก็จะปล่อยให้ทุกคนกลับลงเขาไปอย่างปลอดภัย จากนั้น.. ต่างฝ่ายก็จะต่างคนต่างอยู่ ไม่ยุ่งเกี่ยวต่อกันอีก แม้ตายก็ไม่ต้องมาเผาผีกันเท่านั้นเอง..
หากต้องมีศัตรูเพิ่มขึ้นอีกหนึ่ง..หลิงหยุนก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก! และวันข้างหน้าหากศิษย์สำนักดาบสวรรค์ต้องการที่จะกลับมาแก้แค้น หลิงหยุนก็ไม่ได้รู้สึกกังวลใจอะไร!
หลิงหยุนไม่มีความจำเป็นและไม่สามารถทำเรื่องเลวร้ายด้วยการสังหารศิษย์สำนักดาบสวรรค์ต่อหน้าฉินตงเฉี่วยได้!
แต่ทั้งหมดนี้..กัวเสี่ยวเทียนกลับไม่ใส่ใจเลยแม้แต่นิดเดียว!
หลังจากกัวเสี่ยวเทียนพ่ายแพ้..ชีวิตของศิษย์สำนักดาบสวรรค์ทุกคนก็เสมือนหนึ่งตกอยู่ในน้ำมือของหลิงหยุนแล้ว เรียกได้ว่าจะบีบก็ตาย จะคลายก็รอด!
แต่นี่สำนักเล็กๆอย่างสำนักดาบสวรรค์ กลับไม่สำนึก และกัวเสี่ยวเทียนถึงกับกล้าที่จะขับน้าหญิงของเขาออกจากสำนัก..
แต่ก็ดี..เพราะสำนักเล็กๆกระจอกๆเช่นนี้ ฉินตงเฉี่วยอยู่ต่อไปก็ไม่มีอะไรดี หลิงหยุนต้องการให้ฉินตงเฉี่วยอาศัยโอกาสนี้ ถอนตัวออกจากสำนักดาบสวรรค์นี้เสีย!
ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานั้นเป็นขอบข่ายที่หลิงหยุนยังสามารถอดทนได้!
แต่สำนักดาบสวรรค์ถึงกลับกล้าใช้ฉินตงเฉี่วยเป็นเหยื่อล่อหลิงหยุนให้มาตกหลุมพรางที่ตนเองวางไว้และจากนั้นก็ให้ยอดฝีมือต่างๆ มาคอยซุ่มจัดการกับเขา และตั้งใจที่จะสังหารเขาให้สิ้นซากภายในคืนนี้!
กัวเสี่ยวเทียนเป็นฝ่ายปิดโอกาสที่จะมีชีวิตรอดเองและด้วยเหตุผลข้อนี้.. กัวเสี่ยวเทียนจึงสมควรต้องถูกฆ่า!
ดังนั้น..ทันทีที่ได้ยินว่ามีหน่วยซุ่มโจมตีซ่อนตัวเพื่อรอสังหารตนเองอยู่นั้น หลิงหยุนจึงฟาดฝ่ามือลงบนศรีษะของกัวเสี่ยวเทีนอย่างไม่ลังเล!
และเวลานี้..กะโหลกศรีษะของกัวเสี่ยวเทียนก็แตกออกจากกัน ก่อนจะร่วงลงจากร่าง!
“หนีเร็ว!”
หลังจากที่จี้เสี่ยวฉิงจุดพลุส่งสัญญาณแล้วร่างของนางที่ยืนอยู่ข้างฮู๋วฉีเฟิงก็กระโดดหนีลงเขาไปทันที!
จงชวนเยี่ยนที่ไม่เคยพบเจอภาพที่น่าสยดสยองเช่นนี้ภาพที่ศรีษะของมนุษย์ถูกทุบแตกราวกับแตงโม นางจึงได้แต่ยืนนิ่งด้วยความตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบกระโดดหนีตามไปเช่นกัน!
แทบไม่ต้องพูดถึงหลิวซุ่ยเฟิงซึ่งกระโดดหนีไปก่อนหน้านี้อย่างรวดเร็วแล้วทันทีที่กัวเสี่ยวเทียนสั่งให้ส่งสัญญาณนั้น เขาก็รีบใช้วิชาตัวเบาพาตัวเองพุ่งเข้าป่าไปอย่างสุดกำลัง
ศิษย์สำนักดาบสวรรค์ทั้งสี่คนมีสภาพราวกับนกที่แตกรังเพราะความตระหนกตกใจพวกเขาไม่รู้เลยว่าที่ดูเหมือนว่าทุกคนสามารถหนีไปได้อย่างรวดเร็วนั้น เป็นเพราะหลิงหยุนยังไม่ได้ขยับตัวเลยแม้แต่น้อยต่างหาก..
ฉินตงเฉี่วยวิ่งตรงไปยังร่างไร้ศรีษะของกัวเสี่ยวเทียนริมฝีปากของนางสั่นระริก และไม่สามารถพูดอะไรได้อยู่นานสองนาน..
“หลิงหยุน..เจ้าบอกว่าจะไม่สังหารพวกเขาไม่ใช่รึ แล้วนี่เจ้าสังหารศิษย์พี่ใหญ่ของข้าได้อย่างไรกัน?”
หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่..ฉินตงเฉี่วยจึงร้องถามหลิงหยุนด้วยน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม..
หลิงหยุนเงยหน้าขึ้นมองพลุที่ยังคงระบิดเป็นลูกไฟสวยงามไม่หยุดหลังจากนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ หลิงหยุนจึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา..
“เขาตายเพราะความโง่เขลาของตนเอง!เขาเที่ยวประณามผู้อื่นเป็นมาร และอ้างธรรมะเพื่อสังหารผู้ถูกประณามอย่างไร้เมตตา..”
ฉินตงเฉี่วยร้องตะโกนใส่หลิงหยุนเสียงดัง“ต่อให้เขาเป็นคนไร้เมตตา แต่เราก็ไม่ควรทำกับเขาเช่นนี้! เจ้าลืมแล้วรึว่าสำนักดาบสวรรค์มีบุญคุณต่อตระกูลฉิน และศิษย์พี่ใหญ่ก็ยังดีต่อข้ามากด้วย..”
หลิงหยุนรู้ว่าฉินตงเฉี่วยกำลังถูกเพลิงโทสะเผาผลาญเขาจึงไม่รีบร้อนนัก แต่เพียงแค่ยิ้ม และอธิบายอย่างให้นางฟังอย่างใจเย็น
“น้าหญิง..อุปนิสัยใจคอของข้าเป็นเช่นใดท่านย่อมรู้ดีที่สุด! หากคืนนี้สำนักดาบสวรรค์ไม่พาคนมาซุ่มโจมตีข้าเช่นนี้ ข้าจะไม่สนใจเลยว่าพวกมันจะพูดจาไม่ดีกับท่านเช่นใดบ้าง ตราบเท่าที่พวกเขาไม่ลงมือทำร้ายท่าน ข้าก็จะปล่อยพวกเขาไปอย่างแน่นอน.. แต่ท่านดูสิ่งที่พวกเขาทำกับท่านสิ!”…ไอรีนโนเวล
“น้าหญิง..ท่านเองก็เห็นกับตาแล้วไม่ใช่รึ ว่ากัวเสี่ยวเทียนทำอะไรลงไปบ้าง”
“น้าหญิง..ท่านลองใคร่ครวญดูให้ดี ในเมื่อพวกเขาเลือกที่จะนำยอดฝีมือมาซุ่มโจมตีเช่นนี้ตั้งแต่แรก สำหรับสำนักดาบสวรรค์แล้ว.. ท่านเป็นอะไรในสายตาของพวกเขา!”
หลิงหยุนหันไปมองหน้าฉินตงเฉี่วยนิ่งก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ในสายตาของศิษย์สำนักดาบสวรรค์ ท่านก็เป็นเพียงแค่เหยื่อที่พวกมันใช่ล่อข้าออกมาเพื่อลงมือสังหารเท่านั้นเอง!”
“คืนนี้..หากข้าไม่ตามท่านมา ข้ามีเหตุผลนับร้อยข้อที่จะทำให้เชื่อมั่นว่ากัวเสี่ยวเทียนต้องทำลายวรยุทธของท่าน และขับท่านออกจากสำนักอย่างแน่นอน จากนั้นพวกเขาก็จับตัวท่านไว้เป็นข้อต่อรอบกับข้า และร่วมมือกับยอดฝีมือคนอื่นๆ สังหารข้า!”
“น้าหญิง..ท่านครุ่นคิดเรื่องของสำนักดาบสวรรค์มาตลอดทั้งวัน แต่ในสายตาของศิษย์สำนักดาบสวรรค์ ท่านก็เป็นเพียงแค่เหยื่อที่ใช้ล่อข้าเท่านั้น!”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้..ท่านยังห่วงเรื่องมิตรภาพของศิษย์ร่วมสำนักไปเพื่ออะไร ตั้งแต่ที่ท่านก้าวเท้าขึ้นมาบนเขาแห่งนี้จนถึงตอนนนี้ กัวเสี่ยวเทียนคิดจะฟังคำอธิบายของท่านแม้สักนิดหรือไม่? เขาทำอะไรในฐานะศิษย์พี่ใหญ่ให้กับท่านบ้าง?”
หลิงหยุนถามฉินตงเฉีวยกลับ..และฉินตงเฉี่วยก็ได้แต่นิ่งเงียบ ไม่สามารถตอบคำถามของหลิงหยุนได้
เมื่อเห็นฉินตงเฉี่วยนิ่งเงียบไม่พูดไม่จาหลิงหยุนจึงพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนยิ่งขึ้น “และที่ข้าซัดฝ่ามือใส่กัวเสี่ยวเทียนเมื่อครู่ ก็ไม่ใช่เพื่อระบายความโกรธในใจของตัวเองอย่างที่ท่านคิด!”
“กัวเสี่ยวเทียนเลือกที่จะใช้พลังปราณที่แข็งแกร่งของตนเองสร้างดาบลมปราณและใช้พลังจิตควบคุมดาบเหิน แต่กลับถูกข้าซัดหมัดเข้าไปเป็นร้อยๆหมัดเช่นนั้น!”
“ท่านไม่คิดว่าเขาได้จุดไฟเผาตัวเองไปแล้วอย่างนั้นรึหากเขาไม่พยายามพูดคำพูดพวกนั้นออกมา อย่างน้อยเขาก็จะได้กลับลงเขาไปอย่างคนไร้วรยุทธ แต่เขาได้เลือกเส้นทางนี้เอง เขาเลือกที่จะรวบรวมกำลังที่มีทั้งหมดประกาศขับท่านออกจากสำนัก และสั่งให้จุดพลุส่งสัญญาณ..”
“การที่ข้าวางฝ่ามือไว้บนศรีษะของเขาเช่นนั้นอาจจะดูเหมือนว่าข้ากำลังสร้างความอัปยศให้กับสำนักดาบสวรรค์ แต่ความจริงแล้วข้ากำลังช่วยชีวิตของเขาต่างหากเล่า! แต่หลังจากที่เขารวบรวมกำลัง และเลือกที่จะพูดสองประโยคสุดท้ายนั้นออกมา.. เขาจึงต้องจบชีวิต!”
“หากจะพูดว่ากัวเสี่ยวเทียนตายด้วยน้ำมือของข้าก็ไม่ผิดนักแต่ในเมื่อเขาตั้งใจ และปรารถนาที่จะตายตั้งแต่แรก ข้าก็แค่ช่วยให้เขาตายอย่างทรมานน้อยที่สุด!”
หลิงหยุนกำลังพูดความจริง..สำหรับอาการของกัวเสี่ยวเทียนก่อนหน้านี้นั้น หลิงหยุนสามารถช่วยรักษาให้กลับมามีชีวิตได้ แต่ในเมื่ออีกฝ่ายร้องขอความตายเช่นนั้น เขาจะปล่อยไปเพื่ออะไร
ฉินตงเฉี่วยถึงกับอึ้งไปและพูดขึ้นว่า “แต่.. ด้วยทักษะทางการแพทย์ของเจ้า เจ้าก็สามารถที่จะช่วยชีวิตเขาได้นี่!”
หลิงหยุนยิ้มเย็นพร้อมกับถามขึ้นว่า“เหตุใดข้าต้องช่วยชีวิตเขาด้วยเล่า!”
“กัวเสี่ยวเทียนกล่าวหาข้าเป็นมารและมุ่งมั่นที่จะสังหารข้าเพื่อผดุงความถูกต้องเพียงอย่างเดียว ข้าสู้ทำให้เขาสมปรารถนาไม่ดีกว่างั้นรึ”
“ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่า..หลังจากที่เขาตายไปแล้ว ในยุทธภพยังจะมีผู้ใดจดจำเขาได้อีกหรือไม่”
ฉินตงเฉี่วยได้แต่นิ่งเงียบและไม่อาจโต้เถียงหลิงหยุนได้!
หลิงหยุนไม่พูดอะไรอีกและยืนนิ่งจ้องมองเหล่ายอดฝีมือที่กำลังวิ่งออกมาจากป่าทึบที่อยู่ตีนเขา หลิงหยุนได้ยินเสียงวิชาตัวเบา และเพียงแค่หลิงหยุนยกมือฝ่ามือขึ้นหันไปทางกระบี่โลหิตแดนใต้ที่วางอยู่บนพื้น กระบี่วิเศษเล่มนั้นก็พุ่งเข้าใส่มือของเขาทันที..
มือซ้ายของหลิงหยุนกำกระบี่โลหิตแดนใต้ไว้แน่นจากนั้นจึงใช้ด้ามกระบี่ชี้ไปทางป่าทึบพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“น้าหญิง..ข้ารู้ว่าท่านกำลังรู้สึกย่ำแย่ แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดคุยกันเรื่องนี้!”
“ท่านดูให้เห็นเองกับตาก็แล้วกันว่าสำนักดาบสวรรค์ของท่าน และศิษย์พี่ใหญ่กัวเสี่ยวเทียนของท่าน คิดจะจัดการกับข้าเช่นไรบ้าง”
ฉินตงเฉี่วยเกร็งไปทั้งร่างเมื่อรู้ตัวว่าตนเองกับหลิงหยุนได้ถูกเหล่ายอดฝีมือล้อมไว้หมดแล้ว!
ใบหน้าของฉินตงเฉี่วยซีดเผือดและได้แต่ถามออกไปว่า “หลิงหยุน.. เจ้าจะทำเช่นใด”
หลิงหยุนยิ้มมุมปากก่อนจะตอบกลับไปเสียงเบา“ข้าจะทำอะไรได้อีกเล่า ในเมื่อพวกมันขุดหลุมพรางเพื่อให้ข้ากระโดดลงไป และเวลานี้ข้าก็ได้กระโดดลงไปแล้ว ก็ต้องสู้กับพวกมัน!”
หลิงหยุนกำกระบี่โลหิตแดนใต้ไว้แน่นพลังปราณหมุนเวียนไปทั่วทั้งร่าง และหันไปมองฉินตงเฉี่วยพร้อมกับร้องตะโกนบอกอย่างมั่นอกมั่นใจ
“ข้ารอคอยการต่อสู้เช่นนี้มานานมากแล้ว!”
พรึบ..พรึบ.. พรึบ..
ยังไม่ทันที่หลิงหยุนจะพูดจบดียอดฝีมือนับสิบคนก็ขึ้นมาถึงยอดเขาหลงเหมิน และล้อมหลิงหยุนกับฉินตงเฉี่วยไว้!
“อามิตตาพุทธ!”
หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับยื่นมืออีกข้างไปคว้าร่างของฉินตงเฉี่วยไปไว้ด้านหลังตนเองแล้วจึงหันหน้าไปมองรอบๆ
ยอดฝีมือกลุ่มแรกที่ขึ้นมาบนเขานั้นมีทั้งหลวงจีนนักพรต และยอดฝีมือที่ไม่ใช่นักบวช..
หนึ่งในหลวงจีนทั้งหมดนั้น..รูปหนึ่งในมือถือคฑา อายุอานามน่าจะมากกว่าสามสิบปี รูปร่างสูงใหญ่ คิ้วดกหนา ดวงตาใหญ่โต น้ำเสียงนั้นดังกังวานใสราวกับเสียงระฆัง และคือผู้ที่ร้องออกมาว่าอามิตตาพุทธ..

DRAGON EMPEROR MARTIAL GOD

DRAGON EMPEROR MARTIAL GOD

ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..

Comment

Options

not work with dark mode
Reset