Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – ตอนที่ 981 : ชีวิตเป็นเดิมพัน!

  หลิงหยุนถือกระบี่ไว้ด้วยสองมือพร้อมกับกระโดดหมุนตัวขึ้นไปกลางอากาศในระดับเหนือศรีษะของคู่ต่อสู้ จากนั้นจึงฟันกระบี่ในมือลงไปด้วยความเร็วสูงสุด และรุนแรงที่สุด!
กระบี่ในมือของหลิงหยุนตัดผ่านอากาศลงมาอย่างรวดเร็วพลังปราณสีดำที่พวยพุ่งออกจากปลายกระบี่นั้น พุ่งเข้าใส่ร่างของมือกระบี่คุนหลุนทั้งสามคนอย่างรุนแรง!
มืออกระบี่คนแรกที่กระโดดออกมารับมือกับหลิงหยุนก็คือจื่อหยาง..เขายืนประจันหน้ากับหลิงหยุนอย่างไม่เกรงกลัว ในขณะเดียวกันก็เดินลมปราณขั้นสุดพร้อมกับยกกระบี่ในมือขึ้นเหนือหัวเพื่อรับกระบี่สีดำของหลิงหยุน..
ปัง!
พลังปราณจากกระบี่ทั้งสองเล่มกระทบกันอย่างรุนแรงจนเกิดเป็นลมหมุนพัดเอาเศษดิน และหินที่อยู่บนพื้น ปลิวขึ้นหมุนล้อมรอบร่างของคนทั้งสองไว้ทันที
จื่อเยี่ยเห็นกระบี่ของหลิงหยุนมีพลังที่รุนแรงมากจึงรีบพยุงร่างของหลี่เคิ่นวู๋กระโดดหลบออกไปทางด้านข้าง เพื่อให้พ้นรัศมีไอกระบี่ในมือของหลิงหยุน..
หลังจากที่หลี่เคิ่นวู๋ถูกพาตัวกระโดดออกไปแล้วเขาจึงได้พบว่าจุดที่ตนเองยืนอยู่ก่อนหน้านั้น ได้กลายเป็นร่องลึกราวหนึ่งฟุต และถูกลากยาวไปไกลถึงสามฟุต จึงได้แต่มองด้วยความตกตะลึง!
หลิงหยุนควรจะต้องหมดเรี่ยวแรงและเหนื่อยล้าบ้างสิ! แต่เหตุใดกระบี่ของเขายังคงมีพลังรุนแรงเช่นนี้ได้
หลังจากที่จื่อหยางยกกระบี่ในมือขึ้นรับกระบี่สีดำของหลิงหยุนเขาก็ถึงกับร้องตะโกนออกมาเสียงดัง หลิงหยุนเองก็เช่นกัน! และร่างของจื่อหยางก็ถูกแรงกระบี่ที่รุนแรงของหลิงหยุนจนถึงกับไถลออกไปข้างหลังถึงสามก้าว..
ครืด..ครืด.. ครืด..
ทุกก้าวที่ไถลออกไปนั้น..หินแกร่งใต้เท้าของจื่อหยางก็ถึงกับแตกละเอียดด้วย เพียงเท่านี้ก็เป็นเครื่องยืนยันพลังที่แข็งแกร่งของหลิงหยุนได้เป็นอย่างดีแล้ว!
“ยังอยากจะทดสอบเพลงกระบี่คุนหลุนของเจ้ากับเพลงกระบี่ของข้าอีกหรือไม่”
ทันทีที่เท้าสัมผัสกับพื้นและได้แสดงความรุนแรงของเพลงกระบี่นวสังหารให้ฝ่ายตรงข้ามประจักษ์แก่สายตาแล้ว หลิงหยุนก็ร้องตะโกนถามออกมาทันที!
เพลงกระบี่ที่รุนแรงและรวดเร็วของหลิงหยุนนั้น แทบไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้มีโอกาสหายใจเลยด้วยซ้ำไป และนี่คือยุทธวิธีการต่อสู้ของหลิงหยุน!
และยังไม่ทันที่ร่างของจื่อหยางซึ่งไถลออกไปนั้นจะหยุดนิ่งสนิทดีเขาก็เห็นกระบี่ที่สองของหลิงหยุนฟาดฟันลงมาอีกครั้ง และครั้งนี้มือกระบี่คุนหลุนทั้งสองคนถึงกับตกใจ และรีบยกกระบี่ในมือตนเองขึ้นต้านทานไว้อีกครั้ง!
ปัง!ปัง!
เสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นอีกถึงสองครั้งและครั้งนี้ทั้งจื่อหยางและจื่อกวงต่างก็แทบจะไม่สามารถต้านกระบี่ที่สองของหลิงหยุนไว้ได้ ร่างของทั้งคู่ไถลล่นออกไปพร้อมๆกันถึงแปดก้าว..
หลังจากที่จื่อหยางและจื่อกวงถอยล่นออกไปไกลถึงแปดก้าวแล้วพวกเขาทั้งคู่จึงสามารถทรงตัวได้อีกครั้ง ทั้งสองคนตกใจอย่างมาก และหันไปมองหน้ากันด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหวาดผวา..
ทั้งคู่ล้วนแล้วแต่เป็นยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-8แต่ขณะที่พวกเขาทั้งสองร่วมมือกันแล้ว กลับยังไม่สามารถหยุดกระบี่ที่รุนแรงของหลิงหยุนเพียงคนเดียวได้ เช่นนี้แล้วจะไม่ให้พวกเขาตกใจจนแทบช็อคได้อย่างไรกันเล่า
“ท่านอาจื่อเยี่ย..ข้าได้รับบาดเจ็บภายในเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ยังไม่ถึงกับตาย! ท่านไม่ต้องห่วงข้า รีบไปช่วยทุกท่านก่อนเร็วเข้า!”
หลี่เคิ่นวู๋กลืนโอสถเม็ดลงไปเพื่อระงับธาตุไฟในจุดตันเถียนไว้แล้วและเมื่อเห็นว่ามือกระบี่คุนหลุนอีกสองคนกำลังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ จึงรีบร้องบอกจื่อเยี่ยให้ไปช่วยทั้งคู่ทันที!
“ก็ดี..”
จื่อเยี่ยพยักหน้าพร้อมกับกระโดดเข้าไปยืนเคียงข้างจื่อหยางทันทีและเวลานี้มือกระบี่คุนหลุนทั้งสามคนก็กำลังยืนต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กัน..
และมือกระบี่ทั้งสามคนก็ล้วนแล้วแต่เป็นยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-8!
มือกระบี่คุนหลุนทั้งสามคนหันไปมองหน้ากันทันทีที่ดวงตาทั้งสามคู่ประสานกัน ทั้งหมดต่างก็พยักหน้า แล้วร่างทั้งสามก็กระโดดพุ่งเข้าใส่หลิงหยุนไม่ต่างจากนกยักษ์สามตัว!
ท่ามกลางค่ำคืนที่มืดมิด..กระบี่สีเงินทั้งสามเล่มที่พุ่งเข้าใส่ร่างของหลิงหยุนพร้อมๆ กันนั้น ก็ได้ทอประกายระยิบระยับเมื่อต้องกับแสงจันทร์
หลิงหยุนเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะวิ่งตรงไปด้านหน้าพร้อมกับยกกระบี่สีดำในมือขึ้นเหนือศรีษะเพื่อต้านกระบี่ทั้งสามไว้ แต่แล้วก็ต้องถึงกับตกตะลึง!
เคร้ง..เคร้ง.. เครั้ง..
เสียงกระบี่ทั้งสามกระทบกับกระบี่ของหลิงหยุนดังขึ้นถึงสามครั้งแต่ครั้งนี้มือกระบี่คุนหลุนทั้งสามกลับไม่ใช่ฝ่ายล่าถอย แต่เป็นหลิงหยุนที่กำลังถูกผลักให้ไถลล่นออกไปทางด้านหลังแทน….ไอลีนโนเวล
เมื่อสถานการณ์กลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบเช่นนี้ทั้งหลี่เคิ่นวู๋ ศิษย์สำนักดาบสวรรค์ เหล่านักบวชจากเขาหลงหู่ และยอดฝีมือคนอื่นๆ ก็ดูเหมือนจะตื่นเต้นดีใจอย่างมาก..
เพราะตั้งแต่ประมือกันมานี่เป็นครั้งแรกที่หลิงหยุนถูกบีบให้เป็นฝ่ายล่าถอยเช่นนี้ได้..
หลิงหยุนยังคงอยู่ในอาการสงบนิ่งแต่ในใจนั้นสั่นสะท้านบ้างเล็กน้อย และแววตาเริ่มฉายแววเอาจริงมากขึ้น..
มือกระบี่คุนหลุนทั้งสามผสานรวมเป็นหนึ่งเดียวเช่นนี้ทั้งความแข็งแกร่ง พลังปราณ แม้กระทั่งความเร็วก็ประสานรวมเป็นหนึ่งด้วยเช่นกัน เพลงกระบี่คุนหลุนจึงยิ่งมีพลังมากขึ้น!
หลังจากเป็นฝ่ายที่ทำให้หลิงหยุนสามารถถอยล่นไปได้เช่นนั้นมือกกระบี่ทั้งสามจึงได้แต่ยืนนิ่ง หากพวกเขาทั้งสามคนยังสามารถประสานรวมเป็นหนึ่งเช่นนี้ต่อไปได้ แล้วหลิงหยุนยังไม่สามารถทลายฝ่าไปได้ หลิงหยุนก็คงจะต้องตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อย่างแน่นอน!
“ท่านอาทั้งสาม..หลิงหยุนดูเหมือนใกล้จะหมดกำลังแล้ว พวกท่านทั้งสามช่วยขวางเขาไว้ก่อน ข้าจะไปจับตัวฉินตงเฉี่วยไว้ต่อรองกับเขาเอง!”
หลี่เคิ่นวู๋เพิ่งจะพ่ายแพ้ให้แก่หลิงหยุนแม้กระทั่งกระบี่ที่เขารักก็ยังถูกหลิงหยุนฟันขาด ความคับแค้นใจที่มีต่อหลิงหยุนเวลานี้จึงพุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุด เมื่อเห็นสัญญาณแห่งชัยชนะปรากฏขึ้น จึงได้ลืมเลือนศีลธรรมและความถูกต้องไปจนสิ้น..
หลี่เคิ่นวู๋นับว่าเป็นยอดฝีมือที่ล้ำเลิศคนหนึ่งอีกทั้งยังฉลาดเป็นกรด เมื่อเห็นว่าหลิงหยุนออกจะเป็นห่วงเป็นใยฉินตงเฉี่วยเช่นนี้ จึงคิดที่จะจับตัวนางเพื่อใช้เป็นเครื่องมือต่อรองกับหลิงหยุน!
หลิงหยุนซึ่งกำลังเตรียมตัวจะตอบโต้มือกระบี่คุนหลุนทั้งสามเมื่อได้ยินคำพูดของหลี่เคิ่นวู๋ ดวงตาของเขาก็เป็นประกายวูบขึ้นมาทันที และลูกนัยน์ตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีขาวและดำอย่างน่ากลัว!
เนตรหยิน-หยาง!
และคำพูดของหลี่เคิ่นวู๋ก็ได้จุดประกายไฟแห่งเพลิงโทสะภายในใจหลิงหยุนได้สำเร็จ!
หลิงหยุนกวาดสายตามองไปรอบๆและพบว่าเวลานี้เขาอยู่ห่างจากร่างของฉินตงเฉี่วยไปไม่ไกลนัก จากนั้นสายตาของหลิงหยุนก็ได้เคลื่อนไปจับอยู่ที่ร่างของมือกระบี่คุนหลุนทั้งสามแทน และได้แต่คิดในใจว่าถึงแม้หลี่เคิ่นวู๋จะไม่สามารถเอาชนะเขาได้ แต่ก็ใช่ว่าจะจัดการกับฉินตงเฉี่วยไม่ได้ หากหลี่เคิ่นวู๋ต้องการสังหารฉินตงเฉี่วยก็ย่อมทำได้อย่างแน่นอน..
และยังไม่ทันที่คำพูดของหลี่เคิ่นวู่จะจบดีกระบี่ในมือของยอดฝีมือสำนักคุนหลุนทั้งสามคนก็ชี้ไปทางร่างของหลิงหยุนพร้อมกันแล้ว และทั้งหมดก็กระโดดเข้าไปยืนขวางระหว่างหลิงหยุนกับฉินตงเฉี่วยไว้ทันที!
หากหลิงหยุนต้องการช่วยฉินตงเฉี่วยให้รอดพ้นจากเงื้อมือของหลี่เคิ่นวู๋เขาก็ต้องฝ่าด่านมือกระบี่คุนหลุนทั้งสามนี้ไปให้ได้..
และในเวลาเดียวกันนั้นเองร่างของหลี่เคิ่นวู๋ก็เริ่มเคลื่อนไหว เขาแสยะยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะใช้วิชาตัวเบากระโดดเข้าไปหาฉินตงเฉี่วยในทันที..
แต่ถึงแม้หลี่เคิ่นวู๋จะรวดเร็วอย่างยิ่งแล้วแต่หลิงหยุนนั้นกลับรวดเร็วยิ่งกว่า!
ในเวลาเพียงแค่เสี้ยววินาที..หลิงหยุนก็ได้ใช้มังกรพรางขั้นสุดเคลื่อนร่างผ่านกระบี่ทั้งสามเล่มของมือกระบี่คุนหลุนที่กำลังจ่อหน้าอกของตนเองไปได้อย่างรวดเร็ว
มือกระบี่ทั้งสามเองก็รู้ว่า..นี่คือวินาทีแห่งความเป็นความตาย ทั้งสามจึงไม่กล้าที่จะประมาท และรีบเดินพลังปราณขั้นสุด ก่อนจะพุ่งกระบี่ในมืออกไปขวางหน้าหลิงหยุนไว้เช่นกัน
หลิงหยุนเองก็ยกกระบี่วิเศษในมือขึ้นต้านทานกระบี่ทั้งสามไว้อย่างรวดเร็วแต่พลังปราณรอบตัวกระบี่ของหลิงหยุน ก็ถูกพลังปราณที่แข็งแกร่งของกระบี่ทั้งสามฟันขาดสะบั้น และปลายกระบี่ของยอดฝีมือทั้งสามก็แทงเข้าที่หน้าอกของหลิงหยุนพร้อมกัน!
ชัวะ!
หลิงหยุนถึงกับตกใจในพลังปราณที่รุนแรงของมือกระบี่ทั้งสามและในที่สุดเลือดสีแดงก็ไหลพุ่งออกจากหน้าอกของเขาทันที!
และนี่เป็นครั้งแรกที่หลิงหยุนได้รับบาดเจ็บ!
แต่หลิงหยุนกลับไม่ยอมถอยเขาไม่สนใจกับอาการบาดเจ็บของตนเอง และยังคงพาร่างที่ได้รับบาดเจ็บนั้นพุ่งเข้าใส่กระบี่ทั้งสามอย่างไม่เกรงกลัว มือซ้ายของเขากำหมัดแน่น พร้อมกับใช้หมัดปีศาจเถียนกังชกเข้าที่หน้าอกของจื่อหยางอย่างสุดกำลัง..
และนี่คือการต่อสู้ที่ใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน..ใช้ชีวิตแลกชีวิต!
ปัง!
ร่างของจื่อหยางถูกหมัดของหลิงหยุนชกเข้าที่หน้าอกอย่างแรงจนถึงกับลอยละลิ่วออกไป และสั่นสะท้านอย่างรุนแรง!
เมื่อร่างของจื่อหยางลอยละลิ่วออกไปเช่นนั้นกำแพงที่กั้นระหว่างหลิงหยุนกับฉินตงเฉี่วยจึงเกิดช่องว่างขึ้น หลิงหยุนไม่ตามไปสังหารจื่อหยาง แต่กลับรีบพุ่งร่างผ่านช่องว่างนี้เข้าไปหาฉินตงเฉี่วยทันที!
แต่ถึงกระนั้นก็ยังช้าไปหนึ่งก้าวอยู่ดี..
เพราะเวลานี้หลี่เคิ่นวู๋ได้ไปถึงหน้าฉินตงเฉี่วยก่อนหลิงหยุนหนึ่งก้าวแล้วในขณะที่มือข้างหนึ่งของหลี่เคิ่นวู๋ได้ยื่นออกไป และเกือบจะคว้าร่างของฉินตงเฉี่วยได้นั้น..
“น้าหญิง..”
หลิงหยุนร้องตะโกนออกมาอย่างโกรธแค้นในใจนึกถึงยันต์เทวะเหินขึ้นมาได้ และทันทีที่ยันต์เทวะเหินปรากฏขึ้นในมือแล้ว หลิงหยุนก็รีบแปะเข้าที่ลำตัวของตนเองทันที จากนั้นหลิงหยุนก็สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้นจากเดิมถึงสองเท่า..
เมื่อเห็นว่าเกือบจะคว้าร่างของฉินตงเฉี่วยไว้ได้แล้วหลี่เคิ่นวู๋ก็ร้องออกมาอย่างมั่นอกมั่นใจ
“พวกเรายอดฝีมือกว่าสี่สิบคน..หากวันนี้ไม่สามารถเอาชนะเจ้าได้ วันข้างหน้าจะมีหน้าไปพบเหล่าชาวยุทธได้อย่างไรกัน”
แต่หลี่เคิ่นวู๋กลับประหลาดใจอย่างมากเมื่อพบว่าฉินตงเฉี่วยกลับไม่มีอาการตื่นตกใจ หรือหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย สีหน้าของนางยังคงเรียบเฉย อีกทั้งยังยิ้มให้เขาเล็กน้อยด้วย…
“เจ้าเด็กดื้อสู้เพื่อข้าเช่นนี้แล้ว!หากข้ายังปล่อยให้เจ้าจับตัวได้ ข้าจะยังมีหน้าเป็นน้าหญิงของเขาได้อย่างไรกันเล่า”
ระหว่างที่พูดนั้น..ฉินตงเฉี่วยก็ได้หยิบยันต์เตโชออกมาสามแผ่น พร้อมกับปิดยันต์ในมือลงไปที่ลำตัว และแขนทั้งสองข้างของหลี่เคิ่นวู๋อย่างรวดเร็ว!
หลังจากร้องสั่งให้ยันต์ทำงานแล้วฉินตงเฉี่วยก็ใช้มังกรพรางร่างหลบหนี และร่างบอบบางของนางก็เคลื่อนหนีไปทางซ้ายมือ ในขณะที่ยังทิ้งเงาไว้ในตำแหน่งเดิม ส่วนร่างจริงนั้นได้ไปยืนอยู่ข้างหลิงหยุนแล้ว!
วิชาตัวเบาของฉินตงเฉี่วยนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าหลิงหยุนเลย..
ฉินตงฉี่วยรู้ตัวดีว่านางเป็นเสมือนจุดอ่อนของหลิงหยุนและเพื่อไม่ให้หลิงหยุนต้องถูกลากเข้าไปในกับดักโดยใช้นางเป็นเหยื่อล่ออีกครั้ง ฉินตงเฉี่วยจึงได้หยิบยันต์เตโชออกมาเตรียมไว้สามแผ่นก่อนแล้ว..
ตูม!
เสียงระเบิดดังสนั่นไปทั่วทั้งขุนเขาแม้ว่าหลี่เคิ่นวู๋จะมีพลังปราณปกป้องร่างกาย แต่เวลานี้ร่างทั้งร่างของเขาก็ไหม้เกรียม และมีเลือดไหลออกมาตามร่างกายเต็มไปหมด
เวลานี้ไฟที่ร้อนแรงและทรงพลังของยันต์เตโช ก็กำลังเผาร่างของหลี่เคิ่นวู๋อยู่!
“อ๊าก!”
หลี่เคิ่นวู๋ได้กลายเป็นมนุษย์เพลิงไปในทันทีผิวหนังของเขาถูกไฟเผาไหม้ และกำลังดิ้นเร่าๆ
เมื่อหลิงหยุนเห็นฉินตงเฉี่วยปลอดภัยดีและเห็นว่านางได้เตรียมตั้งรับไว้เป็นอย่างดีโดยใช้ยันต์เตโชที่เขามอบไว้ให้ ก็ได้แต่โล่งใจ..
เสียงร้องตะโกนโหวกเหวกอื้ออึงดังขึ้นทั่วทั้งบริเวณ..
“เจ้าลงนรกได้แล้ว!”
กระบี่ที่ทรงพลังและรวดเร็วของหลิงหยุนพุ่งเข้าใส่ร่างของหลี่เคิ่นวู๋อย่างรวดเร็วกลิ่นอายสังหารในตัวเขารุนแรงขึ้นกว่าเดิมมาก และครั้งนี้ไม่เหลือความปราณีให้กับหลี่เคิ่นวู๋อีกเลย..
“คุณชาย..ระวัง!”
จื่อกวงและจื่อเยี่ยเห็นหลี่เคิ่นวู๋ตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิตเช่นนั้นก็รีบกระโดดเข้าไปช่วยต้านกระบี่ในมือของหลิงหยุนไว้ได้ทันท่วงที..
จื่อเยี่ยกระโดดเอาร่างของตนเองเข้าไปขวางระหว่างหลี่เคิ่นวู๋กับกระบี่ในมือของหลิงหยุนไว้ไอสีดำจากกระบี่ในมือเขาจึงพุ่งเข้าใส่แผ่นหลังของจื่อเยี่ยทันที และแผ่นหลังของจื่ยเยี่ยก็เกิดเป็นบาดแผลยาวลึกจนเห็นกระดูกสีขาว!
จื่อเยี่ยผลักร่างที่มีเปลวไฟลุกโชนของหลี่เคิ่นวู๋ให้ล้มลงไปแล้วร่างของทั้งคู่ก็กลิ้งลงไปกับฟื้น ทั้งเลือดที่พุ่งออกมา และไฟที่ลุกโชนนั้น เป็นภาพที่น่าสยดสยองเกินกว่าที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้!
เวลานี้ทั้งซีเสียและชิงเฟิงก็รีบกระโดดเข้าไปช่วยต้านหลิงหยุนไว้อีกแรง..
หลิงหยุนจัดการดึงร่างของฉินตงเฉี่วยไปไว้ที่ด้านหลังของตนเองแล้วยกมือขึ้นเช็ดเลือดที่ริมฝีปากอย่างไม่ยี่หระ จากนั้นจึงหันไปมองยอดฝีมือทั้งสี่คนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“พวกเจ้าฟังคำของข้าให้ดี!ใครก็ตามที่กล้าทำร้ายท่านน้าของข้า มันผู้นั้นต้องแลกด้วยชีวิต!”
ระหว่างนั้นหลิงหยุนก็ได้แอบเรียกยันต์บำบัดออกมาแปะไว้ที่หน้าอกของตนเองแต่อาการบาดเจ็บของหลิงหยุนที่เกิดจากการผสานรวมเป็นหนึ่งของมือกระบี่ทั้งสามนั้น ก็นับว่าสาหัสพอควร..
อีกทั้งเวลานี้..พละกำลัง และพลังปราณในตัวของหลิงหยุนก็ใกล้หมดแล้วจริงๆ!
ระหว่างที่หลิงหยุนได้แอบรักษาตัวเองอยู่เงียบๆและกำลังครุ่นคิดหาวิธีสังหารยอดฝีมือทั้งสี่ที่อยู่ตรงหน้านั้น เครื่องมือสื่อสารในตัวเขาก็เริ่มสั่น..
หลิงหยุนถึงกับหน้าเปลี่ยนสีและรีบยกเครื่องมือสื่อสารขึ้นมากดรับทันที..
“พี่ใหญ่..ที่บ้านถูกคนล้อมไว้แล้ว รีบกลับมาเร็วเข้า!”

DRAGON EMPEROR MARTIAL GOD

DRAGON EMPEROR MARTIAL GOD

ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..

Comment

Options

not work with dark mode
Reset