Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – บทที่ 1145 : หน่วยนภา!

  ระหว่างที่เฉินจิ้งเฉวียนกำลังครุ่นคิดอยู่นั้นจู่ๆ เสียงของโทคุงวาวะ ฮิโรชิก็ดังขึ้น  คุณเฉิน.. พวกเราชาวญี่ปุ่นแตกต่างจากชาวจีนอย่างพวกคุณมาก หากมีใครกล้าบังอาจเหยียดหยามพวกเรา พวกเราจะไม่คิดมากเหมือนกับชาวจีน แต่จะจัดการบดขยี้มันผู้นั้นทันที! 

  จากนั้นโทคุงวะฮิโรชิก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจ  คุณเฉิน.. คุณไม่จำเป็นต้องกังวลใจไป ในวันประลองไม่ว่าตระกูลหลิงจะมาไม้ใหน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเราตระกูลโทคุงาวะเอง พวกเราจะจัดการทุกอย่างแทนตระกูลเฉินเอง! 

  คำพูดอวดดีของโทคุงาวะฮิโรชินั้น ทำให้เฉินจิ้งเฉวียนรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก แต่เพราะตระกูลเฉินเป็นฝ่ายเชิญตระกูลโทคุงาวะให้มาช่วยในการประลองครั้งนี้ เขาจึงต้องข่มความโกรธ และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ   ถ้าเช่นนั้นการประลองในครั้งนี้คงต้องมอบให้ท่านโทคุงาวะเป็นผู้จัดการแทนข้า! 

  และการที่ตระกูลโทคุงาวะยินยอมมาช่วยตระกูลเฉินประลองในครั้งนี้ก็ย่อมต้องมีข้อแลกเปลี่ยนอย่างแน่นอน เฉินจิ้งเฉวียนต้องรับปากว่าจะยกหม้อเสินหนงให้ตระกูลโทคุงาวะครอบครอง และยังจะให้ผลประโยชน์อื่นๆอย่างมากมายอีกด้วย!

  เหตุผลที่เฉินจิ้งเฉวียนยอมรับปากตระกูลโทคุงาวะเพราะจำเป็นต้องอาศัยตระกูลโทคุงาวะให้ช่วยสังหารหลิงหยุนให้นั่นเอง และหากสามารถสังหารหลิงหยุนได้ คนอื่นๆในตระกูลหลิงนั้น ตัวเขาเองย่อมสามารถเอาชนะได้อย่างง่ายดาย..

  เพราะหากจะหวังพึ่งเหล่าแวมไพร์ฝั่งตะวันตกก็คงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะเวลานี้เฉินเจี้ยนกุ่ยก็หายตัวไปไม่ได้ข่าวคราว และไม่มีผู้ใดรู้ว่าเฉินเจี้ยนกุ่ยเป็นตายร้ายดีเช่นใด

  ด้วยเหตุนี้..ตราบใดที่การประลองยังไม่สิ้นสุด เฉินจิ้งเฉวียนก็จำเป็นต้องอดทนอดกลั้นต่อท่าทียะโสโอหังชองโทคุงาวะ ฮิโรชิไปก่อน!

  จากการร่วมมือกันของสองตระกูลรวมทั้งการประชุมในคืนนี้ ทำให้ซันเจิ้นหวู่กับเฉินจิ้งเฉวียนมั่นใจในชัยชนะเป็นอย่างมาก!

  แต่หลังจากที่ได้รับรายงานว่าแผนสร้างความวุ่นวายให้กับตระกูลหลิงนั้นล้มเหลวงเฉินจิ้นเฉวียนก็หงุดหงิดใจจนไม่มีอารมณ์ที่จะประชุมต่อ หลังจากเจรจากันต่ออีกเพียงครู่หนึ่ง เขาจึงขอตัวกลับไปพักผ่อนที่ห้อง..

  ทางด้านซันเจิ้นหวู่เองก็เช่นกัน..เขาได้สั่งให้ซันเจี๋วยหลานชายไปส่งคนตระกูลไป๋หลี่กลับไปพักผ่อนที่บ้านตระกูลซัน ส่วนตัวเขากับซันเทียนหลัวนั้น ก็ได้แอบไปเจรจาลับกับเฉินจิ้งเฉวียนและเฉินไห่เผิงต่อ..

  ……

   เจิ้นหวู่..ท่านนี้คือไต้ซือหลู่หมิงฉู่แห่งหน่วยนภา! ไต้ซือหลู่หมิงฉู่ได้ทราบเรื่องของพวกเราสองตระกูลหมดแล้ว..    หลู่หมิงฉู่นั้นเป็นศิษย์ของปรมาจารย์หลัวฮ่านถังแห่งวัดเส้าหลินเขาอยู่ในด่านกลางขั้นพลังเหนือธรรมชาติแล้ว อีกทั้งยังเชี่ยวชาญ 72 กระบวนท่าวัดเส้าหลินมากด้วย..

  ในหน่วยนภานั้นมียอดฝีมือเพียงแค่ไม่กี่ร้อยคนเท่านั้นและทุกคนก็ล้วนแล้วแต่อยู่ในขั้นที่สามารถใช้พลังเหนือธรรมชาติได้แล้วทั้งสิ้น..

  แต่ยอดฝีมือในหน่วยนภานั้นจะรวมกลุ่มกันก็ต่อเมื่อประเทศชาติกำลังประสบกับภัยพิบัติครั้งใหญ่เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติ ภัยที่มนุษย์เป็นผู้สร้างขึ้น หรือแม้แต่การถูกรุกรานจากต่างชาติ ยอดฝีมือจากหน่วยนภานี้จึงจะรวมตัวกันต่อสู้เพื่อประเทศชาติของตนเอง..

  แต่ในยามปกตินั้น..ยอดฝีมือเหล่านี้จะเป็นอิสระต่อกัน ต่างคนต่างก็มีสำนัก และครอบครัวของตนเองที่ต้องดูแล หรือไม่ต่างก็แยกย้ายกันไปฝึกฝนวิชาตามที่ต่างๆ ดังนั้นหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ และต้องแยกย้ายกันในแต่ละครั้ง หลายคนอาจไม่เคยพบเจอกันอีกเลย ซึ่งอาจนานถึงเจ็ดแปดปี หรืออาจจะเป็นสิบหรือยี่สิบปีก็เป็นได้..

  อย่างเฉินจิ้งเฉวียนเป็นต้น..ตัวเขาเองก็ไม่ได้ปฏิบัติภารกิจให้กับหน่วยนภานานกว่าสิบปีแล้วเช่นกัน!

  แม้ว่ารัฐบาลจะมีภารกิจลับชั่วครั้งชั่วคราวอยู่บ้างแต่ก็จะเรียกตัวไปครั้งละสามถึงห้าคนเท่านั้น อีกทั้งเวลานี้ประเทศจีนก็เจริญรุ่งเรื่องอย่างมาก จึงไม่มีเรื่องหนักหนาสาหัสที่ทางรัฐบาลจะต้องส่งคนจากหน่วยนภาไปจัดการ..

  และก็เป็นปกติที่คนในหน่วยนภาอาจจะขัดแย้งกันเองเพราะต่างก็มาจากตระกูล และสำนักที่ต่างกัน แต่หากทางรัฐบาลเรียกตัวไปเมื่อใด ยอดฝีมือเหล่านี้จะยอมทิ้งความแค้นส่วนตัวไปก่อน และคิดถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก..

  และนี่คือความคิดของยอดฝีมือในหน่วยนภา..หากต้องปฏิบัติภารกิจระดับชาติ พวกเขาจะยอมทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง จนกว่าภารกิจที่ได้รับมอบหมายจะเสร็จสิ้น!

  และตราบใดที่รัฐบาลไม่ได้เรียกตัวและสิ่งที่พวกเขาทำอยู่นั้นไม่เป็นอันตรายต่อประเทศชาติ ก็จะไม่มีผู้ใดเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้ง หรือมิตรภาพของยอดฝีมือภายในหน่วยนภาเลย..

  ความบาดหมางระหว่างตระกูลเฉินกับตระกูลหลิงก็นับเป็นเรื่องส่วนตัวเช่นกัน ด้วยเหตุนี้การที่ตระกูลเฉินจะเชิญตระกูลโทคุงาวะ ซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่นให้มาเข้าร่วมประลองด้วย จึงไม่นับว่าเป็นความผิดอะไร..

  แต่มันคือการสะสางปัญหาที่สั่งสมมานานระหว่างสองตระกูลเท่านั้น!

  เรื่องส่วนตัวก็อย่างหนึ่งเรื่องของตระกูลก็เรื่องหนึ่ง ภารกิจของรัฐบาลก็อีกเรื่อง ทุกอย่างล้วนไม่ข้องเกี่ยวกัน!

  สำหรับผู้ที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกในหน่วยนภานั้นจะได้รับผลประโยชน์มากมายจากทางรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นสิทธิพิเศษในเรื่องต่างๆมากมาย รวมทั้งทรัพยากรที่ใช้สำหรับการฝึกฝนวิชาที่แต่ละคนต้องการ..

  เพียงแค่เหตุผลสองข้อนี้..ก็ทำให้ยอดฝีมือหลายๆคน ยินดี และเต็มใจที่จะเข้าร่วมเป็นสมาชิกหน่วยนภาได้แล้ว!

  ไต้ซือหลู่หมิงฉู่ก็เป็นยอดฝีมืออีกหนึ่งคนที่เฉินจิ้งเฉวียนเชิญมาช่วยในการประลองครั้งนี้ และทั้งคู่มีความสนิทสนมกันดั่งพี่น้อง..

  ระหว่างนั้นเฉินจิ้งเฉวียนก็แอบบอกกับซันเจิ้นหวู่ผ่านทางกระแสจิตว่า..

  –ต่อหน้าตระกูลโทคุงาวะและตระกูลไป๋หลี่ เจ้าอย่าได้แพร่งพายการทำงาน และฐานะของข้าในหน่วยนภาให้พวกเขาล่วงรู้!-

  ซันเจิ้นหวู่พยักหน้าอย่างเข้าใจ..

  จากนั้นเฉินจิ้งเฉวียนก็ได้ย้ำให้ซันเจิ้นหวู่มั่นใจอีกครั้ง เจิ้นหวู่.. มีไต้ซือหลู่หมิงฉู่อยู่ข้างเรา ตระกูหลหลิงต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน! เจ้าอย่าได้กังวลใจไป  ไอรีนโนเวล

  ….  ในการประลองทั้งหมดห้ายกนั้นตระกูลซันจะต้องเป็นฝ่ายเริ่มประลองในสองยกแรก และเฉินจิ้งเฉวียนเองก็สังเกตเห็นว่าซันเจิ้นหวู่มีสีหน้าหนักอกหนักใจ และเป็นกังวล เขาจึงย้ำอีกครั้งเพื่อให้ซันเจิ้นหวู่มั่นใจ..

   อาวุโสเฉิน..นี่ท่านมั่นใจถึงเพียงนี้เชียวรึ!  ซันเจิ้นหวู่ถึงกับร้องถามออกมาด้วยความตื่นเต้นดีใจ!

  เฉินจิ้งเฉวียนพยักหน้าพร้อมกับพูดขึ้นว่า เจิ้นหวู่.. เจ้ามั่นใจได้! ข้ากับไต้ซือหลู่หมิงฉู่ล้วนฝึกวรยุทธจากเส้าหลินมาด้วยกัน รับรองว่าต้องตระกูลหลิงไม่มีทางเอาชนะไต้ซือได้แน่! 

  ซันเจิ้นหวู่ได้ฟังถึงกับนิ่งอึ้งไป..แต่หลังจากนิ่งไปครู่ใหญ่ในที่สุดก็ถอนหายใจออกมา และตัดสินใจพูดออกไปว่า

   แต่หนังตาของข้ากระตุกอยู่ตลอดเวลา..อาวุโสเฉิน! ข้าเกรงว่าหลิงหยุนจะลงสนามประลองเองตั้งแต่ยกแรกน่ะสิ! และข้าว่าเขาน่าจะยังมีไพ่ในมือที่พวกเราต่างก็ยังไม่รู้อีกด้วย! 

  เฉินจิ้งเฉวียนยิ้มเย็นพร้อมตอบกลับไปทันที เป็นเช่นนั้นก็ดีสิ! หากหลิงหยุนเริ่มประลองตั้งแต่ยกแรก ทางฝ่ายเราก็มียอดฝีมือที่สามารถใช้พลังเหนือธรรมชาติได้มากกว่าสิบคน ข้าไม่เชื่อว่าไพ่ในมือของหลิงหยุนจะมีมากจนกระทั่งถึงยกที่ห้า! 

   อย่าลืมว่านอกเหนือจากยอดฝีมือที่เจ้าเห็นข้ายังจะมียอดฝีมือจากหน่วยนภามาร่วมการประลองในครั้งนี้อีกถึงสี่คน! 

   เจิ้นหวู่..ในเมื่อพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันประกาศสนามประลองแล้ว ข้าจะบอกกับเจ้าให้รู้ว่า.. ยอดฝีมือจากหน่วยนภาอีกสี่คนที่จะมาร่วมนั้น ล้วนแล้วแต่เคยเป็นศัตรูของหลิงหยุนทั้งสิ้น! 

   หนึ่งในนั้นก็คือไต้ซือจากวัดเส้าหลินซึ่งเป็นอาจารย์ของเจี้ยนห่าวกับเจี้ยนจื่อหลานชายของข้ายังมีเจ้าสำนักเขาหลงหู่ สองมือกระบี่จากสำนักกระบี่เทียนซัน และสำนักกระบี่คุนหลุน.. 

   หลิงหยุนบังอาจสังหารหลานชายที่เก่งที่สุดของข้าไม่เพียงเท่านั้นพวกเขาทั้งคู่ยังเป็นศิษย์เอกของท่านไต้ซือจื้อกงด้วย และไต้ซือจื้อกงเองก็ต้องการที่จะสังหารหลิงหยุนให้กับศิษย์ของเขาเป็นการแก้แค้นอยู่แล้ว.. 

   ในการต่อสู้บนยอดเขาหลงเหมินนั้นหลิงหยุนก็ได้สังหารศิษย์ทั้งห้าคนของสำนักเขาหลงหู่ไป และยังได้สังหารศิษย์สำนักกระบี่คุนหลุนไปถึงสองคน ส่วนอีกสองคนได้รับบาดเจ็บสาหัส! 

   สำหรับสำนักกระบี่เทียนซันนั้น..เท่าที่ข้ารู้มา เวลานี้แม่บุญธรรมของหลิงหยุนก็ยังอยู่ที่สำนักกระบี่เทียนซันเช่นกัน! 

   ส่วนตี๋ยั่วถังแห่งสำนักเทียนซันก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกับศัตรูหัวใจของฉินจิวยื่อเช่นนี้แล้วเจ้าว่าตี๋ยั่วถังจะไม่พยายามอย่างดีที่ที่สุดในการประลองกับตระกูลหลิงงั้นรึ 

  หลังจากที่ซันเจิ้นหวู่ได้ฟัง..เขาก็ถึงกับตื่นเต้นดีใจจนกระโจนลุกขึ้นยืนจากโซฟาทันที!

  ไม่แปลกที่เฉินจิ้งเฉวียนดูมั่นอกมั่นใจนักว่าจะสามารถเอาชนะการประลองกับหลิงหยุนและตระกูลหลิงในครั้งนี้ได้!

  นั่นเพราะเขามีทั้งยอดฝีมือทั้งจากวัดเส้าหลินหน่วยนภา สำนักเขาหลงหู่ สำนักกระบี่คุนหลุน และสำนักกระบี่เทียนซันนี่เอง!

  เฉินจิ้งเฉวียนยิ้มพร้อมกับพูดขึ้นว่า ในเมื่อศัตรูของหลิงหยุนโคจรมารวมกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากันเช่นนี้ เจ้ายังคิดว่าตระกูลหลิงจะมีโอกาสชนะอีกงั้นรึ ข้าว่า.. หลิงหยุนจะมีชีวิตอยู่ถึงแค่สิ้นเดือนสิงหาคมนี้ต่างหากเล่า! 

  จากนั้นเฉินจิ้งเฉวียนจึงหันไปทางซันเจิ้นหวู่พร้อมกับถามขึ้นว่า เจิ้นหวู่.. เจ้ายังมีอะไรค้างคาใจอีกหรือไม่ 

  ซันเจิ้นหวู่ร้องตอบด้วยความตื่นเต้นดีใจ อาวุโสเฉิน.. ข้าไม่มีสิ่งใดคาใจอีกแล้ว! หลังจากการประลองครั้งนี้สิ้นสุด ตระกูลซันจะยินดีเชื่อฟังตระกูลเฉิน! 

  ในที่สุดซันเจิ้นหวู่ก็เข้าใจแล้วว่าช่องว่างระหวางตระกูลเฉินกับตระกูลหลิงนั้นห่างไกลกันมากจริงๆ แม้แต่ตระกูลซันเองก็ยังห่างไกลกับตระกูลเฉินมากนัก!

  เมื่อเป็นเช่นนี้หลังจากสิ้นสุดการประลอง ตระกูลซันก็จะใช้โอกาสนี้ฝากตัวกับตระกูลเฉิน เขาเชื่อมั่นว่าการทำเช่นนั้น จะทำให้ตระกูลซันมีแต่ได้กับได้!

   ฮ่า..ฮ่า.. ฮ่า.. 

  เฉินจิ้งเฉวียนดูเหมือนจะดีใจกับผลการเจรจาในครั้งนี้มากเขายิ้มพร้อมกับลุกขึ้นยืน และพูดขึ้นว่า

   เอาล่ะ..แยกกันไปพักผ่อนก่อน พรุ่งนี้พวกเราจะต้องเข้าไปบ้านตระกูลหลิง! 

  …..

  หลังจากที่ซันเจิ้นหวู่กับลูกชายกลับไปแล้วเฉินไห่เผิก็หันไปพูดกับเฉินจิ้งเฉวียนว่า  ซันเจิ้นหวู่.. เจ้าจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ คิดจะหาผลประโยชน์โดยที่ตัวเองไม่ต้องลงแรงเลยงั้นสิ! 

  แต่หลังจากที่คนตระกูลซันกลับไปแล้วสีหน้าของเฉินจิ้งเฉวียนกลับเปลี่ยนเป็นหนักอกหนักใจ และกังวลขึ้นมาแทน เฉินไห่เผิงเห็นเช่นนั้นจึงถามขึ้นว่า..

   ท่านลุงใหญ่..มีอะไรอีกงั้นรึ 

  เฉินจิ้งเฉวียนจึงตอบผ่านกระแสจิต..

  –มีเรื่องหนึ่งที่ข้ายังกังวลใจนัก..ซึ่งก็คือท่าทีของตระกูลหลง!-

  –ไห่เผิง..เจ้าต้องรู้ว่าตระกูลเฉินของเราเตรียมการมานานหลายปี ก็เพื่อจะจัดการกับตระกูลหลงและตระกูลเย่ แต่กลับกลายเป็นว่าต้องมาสู้กับตระกูลหลิงเช่นนี้ ข้าเองก็คิดไม่ถึงเช่นกัน!-

  –หลิงหยุนเพียงคนเดียว..แต่กลับสามารถทำลายความแข็งแกร่งของตระกูลเฉินที่เฝ้าบ่มเพาะมานาน เท่านั้นยังไม่พอ.. มันยังคิดที่จะทำให้ตระกูลเฉินของเราต้องสิ้นชื่อไปด้วย!-

  –การที่ข้าตัดสินใจท้าประลองกับตระกูลหลิงเช่นนี้ก็เพราะยอมไม่ได้ที่จะเห็นตระกูลหลิงผงาดขึ้นมาได้อีกครั้ง และค่อยๆแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ!-

  –แต่ข้าก็รู้ดีว่า..ระหว่างที่ตระกูลเฉินกับตระกูลซันประลองกับตระกูลหลิงนั้น ไม่ว่าฝ่ายใดจะเป็นฝ่ายแพ้หรือว่าชนะ ตระกูลหลงและตระกูลเย่ก็ย่อมทำตัวเป็นนักตกปลา ที่คอยเกาะเกี่ยวเอาผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น..-

  –ตระกูลหลงนั้นหูตากว้างไกลย่อมสามารถรู้ความเคลื่อนไหวของตระกูลเฉินได้ไม่ยาก..–

  –ข้าสังหรณ์ใจว่า..ตระกูลเฉินของเรากำลังถูกตระกูลหลงยืมมือ เดิมทีตระกูลเฉินของเราวางแผนเล่นงานตระกูลเกาก่อน จากนั้นจึงค่อยจัดการกับตระกูลหลิง และบีบให้ตระกูลหลิงไปจัดการกับตระกูลหลงต่อ..–

  –แต่เมื่อตระกูลหลิงมีหลิงหยุน..เหตุการณ์ก็กลับตาลปัตรไปหมด! หลิงหยุนไม่เพียงช่วยตระกูลเกาได้ แต่ยังมีสัมพันธ์อันดีกับตระกูลฉิน และมันเองก็ได้สร้างเมืองจิงฉูให้กลายเป็นฐานกำลังที่แข็งแกร่งของตนเองด้วย..–

  –เวลานี้สถานการณ์ของเหล่าตระกูลใหญ่ได้แบ่งออกเป็นพันธมิตรสองขั้วขั้วหนึ่งคือตระกูลหลิง ตระกูลฉิน และตระกูลเกา ที่กำลังจะมาจัดการกับตระกูลเฉินและตระกูลซัน..–

  –มาถึงตอนนี้..ตระกูลหลงกับตระกูลเย่กำลังคิดอ่านอะไรอยู่ ข้าเองก็ยังไม่แน่ใจ และไม่อาจคาดเดาได้!-

  –ดังนั้น..ในการประลองครั้งนี้ไม่ว่าฝ่ายใดจะเป็นฝ่ายแพ้ หรือว่าชนะ ก็ล้วนแล้วแต่ต้องตกอยู่ในกำมือของตระกูลหลงและตระกูลเย่ทั้งสิ้น!-

   และนี่คือสิ่งที่ข้ากังวลใจและหนักใจอย่างที่สุด! 

  หลังจากที่ได้ฟัง..เฉินไห่เผิงก็ถึงกับเย็นแผ่นหลังวาบขึ้นมาทันที!

   ลุงใหญ่..เช่นนี้แล้วพวกเราควรทำเช่นใด    แม้ว่าเฉินไห่เผิงจะเป็นถึงผู้นำตระกูลแต่ก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากพอ หลังจากที่ได้ฟังคำพูดของเฉินจิ้งเฉวียน จึงอดที่จะตกใจจนร้องถามออกมาไม่ได้!

  แต่จะว่าไป..เรื่องนี้แม้แต่ผู้ที่แข็งแกร่งเช่นเฉินจิ้งเฉวียนยังเป็นกังวล จึงไม่แปลกที่เฉินไห่เผิงจะตกอกตกใจ

  เฉินจิ้งเฉวียนเห็นท่าทางของเฉินไห่เผิงก็ได้แต่แอบถอนหายใจเขายกมือขึ้นโบกไปมาพร้อมกับพูดขึ้นว่า

   ไห่เผิง..ข้าเพิ่งจะบอกว่าเป็นเรื่องที่ข้าหนักใจและกังวลเท่านั้น ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริง และต่อให้เกิดขึ้นจริง ข้ายังอยู่ทั้งคน ข้าย่อมมีวิธีจัดการของข้า.. 

  จากสิ่งที่เฉินจิ้งเฉวียนกังวลใจนั้นทำให้เห็นว่าตระกูลใหญ่ในปักกิ่งนั้น แต่ละตระกูลก็ล้วนแล้วแต่จ้องที่จะทำร้ายกันและกัน..

  ระหว่างนั้นเฉินจิ้งเฉวียนก็ถามเฉินไห่เผิงขึ้นว่า ไห่เผิง.. เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดหลิงเจิ้นจึงยอมถอยให้ และปล่อยให้หลิงหยุนขึ้นมาเป็นผู้นำตระกูลแทนเช่นนี้ แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ใหนกันแน่? 

   หลิงเจิ้นงั้นรึ! 

  หลังจากที่ได้ยินเฉินจิ้งเฉวียนพูดเรื่องนี้ขึ้นมาเฉินไห่เผิงก็เพิ่งจะนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาเช่นกัน!

 

DRAGON EMPEROR MARTIAL GOD

DRAGON EMPEROR MARTIAL GOD

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร
Status: Ongoing
ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..

Comment

Options

not work with dark mode
Reset