Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร – บทที่ 1189 : มันสมองตระกูลหลิง!

  หลิงหยุนถึงกับตกใจไม่น้อย!

   ฮ่า..ฮ่า.. ดูข้าสิ! ตื่นเต้นมากจนทำถ้วยชาแตกทีเดียว! 

  หลิงเย่วหยิบผ้าขนหนูบนโต๊ะขึ้นมาเช็ดทำความสะอาดพร้อมกับพูดออกมาด้วยท่าทางสบายๆไม่รีบร้อน..

   หลิงหยุน..เจ้าไม่ต้องกังวลใจเรื่องของหลิงเจิ้นอีกแล้ว! 

   เอาล่ะ..เรื่องที่ควรต้องพูดต้องบอกให้เจ้ารู้ ข้าเองก็บอกกับเจ้าไปจนหมดแล้ว จากนี้เจ้าจะตัดสินใจทำเช่นใด ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับตัวเจ้าเองแล้ว! 

  หลังจากที่เก็บเช็ดทำความสะอาดโต๊ะแล้วหลิงเย่วก็จัดการรินชาลงไปในแก้วใบใหม่ พร้อมกับยกขึ้นจิบ และพูดกับหลิงหยุนต่อ..

   ขอบคุณลุงสอง!หลายวันมานี้ข้าทำให้ท่านต้องเหน็ดเหนื่อยนัก! 

  หลิงหยุนรู้ดีว่าตลอดสี่ห้าวันที่เขาไม่ได้กลับเข้าตระกูลหลิงนั้นหลิงเย่วไม่เพียงต้องยุ่งกับเรื่องของตระกูลซันและตระกูลเฉิน แต่ยังต้องคอยต้อนรับแขกคนสำคัญที่ทยอยเข้ามาเยี่ยมเยียนตระกูลหลิงอย่างต่อเนื่องด้วย อีกทั้งยังต้องคอยปลอบประโลมจิตใจหลิงลี่ หลิงเสี่ยว และหลิงหย่ง หลายวันมานี้เขาจึงต้องมีภารกิจวุ่นวายอย่างมากทีเดียว.

   นี่เจ้าเด็กตัวแสบ.. 

  หลิงเย่วจ้องมองหลิงหยุนพร้อมกับแสร้งทำน้ำเสียงดุดัน ต่อจากนี้ไป.. ห้ามเจ้าหายตัวไปเงียบๆเช่นนี้อีก อย่าลืมว่าเวลานี้เจ้าคือผู้นำตระกูลซึ่งเป็นเสาหลักของตระกูลหลิงเรา การที่เจ้าหายตัวไปเช่นนี้ ทำให้ข้าไม่สามารถตัดสินใจได้ในหลายๆเรื่องเลยทีเดียว! 

   ฮ่า..ฮ่า.. ลุงสอง! เรื่องในตระกูลหลิงทั้งหมดท่านตัดสินใจแทนข้าได้เลย เพราะทุกเรื่องที่ท่านตัดสินใจทำลงไป ล้วนแล้วแต่ต้องผ่านการไตร่ตรองมาอย่างดีเยี่ยมแล้ว ย่อมต้องเป็นการตัดสินใจที่ดีกว่าข้าเป็นแน่.. 

  หลิงหยุนรีบพูดจาประจบเอาใจหลิงเย่วขึ้นมาทันที..

  แต่หลิงเย่วก็เพียงแค่ยิ้มและคร้านที่จะต่อปากต่อคำกับหลิงหยุน จึงเป็นฝ่ายถามถึงแผนการที่หลิงหยุนคิดจะตระเตรียมให้กับตระกูลหลิงในวันข้างหน้าต่อไป..

   ช่างเถิด!ในเมื่อเจ้าเองก็กลับมาแล้ว ข้าก็ไม่มีอะไรต้องกังวลใจอีก ว่าแต่จากนี้ไปเจ้าคิดอ่านเช่นใดงั้นรึ! 

  ในเมื่อเรื่องของหลิงเจิ้นก็มีทางออกแล้ว..ความกระอักกระอ่วนใจระหว่างหลิงหยุนกับสมาชิกตระกูลหลิงก็อันตธานหายไปด้วยเช่นกัน ที่เหลือก็แค่ลงมือทำเท่านั้น..

   เอ่อ..ข้าเองก็ไม่ได้วางแผนการอะไรไว้ และยังไม่รู้ว่าจะเริ่มอย่างไรดี  หลิงหยุนดูเหมือนจะมีท่าทีลังเลที่จะตอบ..

  หลิงเย่วจึงยิ้มออกมาอย่างเข้าใจและพูดขึ้นว่า  หลิงหยุน.. เจ้าคือผู้นำตระกูล เจ้าจะตัดสินใจทำเช่นใดย่อมเป็นเรื่องที่สมควร อย่าได้คิดถึงจิตใจของข้าจนไม่กล้าพูดอะไรมากนัก จะให้เกิดความรู้สึกที่ตะขิดตะขวงใจเสียเปล่า.. 

   ขอบคุณท่านลุงสอง..! 

  หลิงหยุนต้องการฟังคำพูดประโยคนี้จากหลิงเย่ว..จากนั้นจึงตัดสินใจบอกเล่าเรื่องสำคัญที่ตนได้ลงมือจัดการไปแล้วให้หลิงเย่วฟัง

   เรื่องนี้ข้าเองก็เพิ่งจะสั่งเหล่ากุ่ยให้ไปจัดการแล้ว!

   ตระกูลหลิงจำเป็นต้องมีหน่วยข่าวกรองที่มีประสิทธิภาพอย่างน้อยหน่วยข่าวกรองของตระกูลหลิงก็จะต้องไม่ด้อยไปกว่าหน่วยข่าวกรองของตระกูลหลงกับตระกูลเย่ ข่าวคราวใดที่ตระกูลหลงกับตระกูลเย่ล่วงรู้ ตระกูลหลิงจะต้องได้รู้ด้วยเช่นกัน และจะต้องล่วงรู้ก่อนหน้าทั้งสองตระกูลด้วย.. 

  หลิงเย่วได้ฟังจึงร้องถามขึ้นทันที เจ้าคงจะให้องค์กรนักฆ่าช่วยฝึกฝนเรื่องนี้ให้กับนักรบตระกูลหลิงของเราให้สินะ 

  หลิงหยุนพยักหน้าพร้อมตอบกลับไปทันที ถูกต้อง! 

  หลิงเย่วได้ฟังก็ถึงกับยิ้มออกมา เยี่ยมทีเดียว! เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก ข้ากับเหล่ากุ่ยจะช่วยกันดูแลจัดการเรื่องนี้ให้ เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง! 

   เรื่องที่สอง..หลังจากที่เหล่าตระกูลเล็กทั้งสิบสองตระกูลยกเลิกสัญญาในธุรกิจต่างๆ กับตระกูลหลิง ธุรกิจมากมายจึงไร้คนบริหารจัดการ ตระกูลหลิงของเราจะทำเองทั้งหมดก็คงจะไม่สะดวกนัก ข้าจึงต้องการหาคนที่ไว้ใจได้มาช่วยบริหารจัดการแทน! 

   ไม่ทราบว่าท่านลุงพอจะมีคนที่ไว้ใจได้หรือไม่ 

  ระหว่างที่ไปพักอาศัยอยู่กับเย่ซิงเฉินหลายวันนั้นหลิงหยุนมักจะใช้เวลาว่างที่อยู่คนเดียวใคร่ครวญเรื่องต่างๆของตระกูลหลิง พร้อมกับคิดวางแผนไปด้วย  ดวงตาของหลิงเย่วเป็นประกายขึ้นมาทันทีเขายิ้มให้หลิงหยุนพร้อมกับพูดกระเซ้าเย้าแหย่ไปว่า

   หลิงหยุน..นักธุรกิจที่ข้ารู้จักก็ล้วนถูกเจ้าไล่กลับไปหมดแล้ว! ข้ายังจะเหลือใครที่เหมาะสมมาทำหน้าที่ได้อีกเล่า 

   ท่านลุงสอง..ฮ่า.. ฮ่า.. 

   แต่ข้าก็พอมีอยู่หนึ่งคนในใจเจ้าลองเดาดูสิ!  หลิงเย่วร้องบอกหลิงหยุน

  หลิงหยุนจึงพูดชื่อคนคนหนึ่งออกมาทันที ตระกูลต่ง.. ต่งซานชวน! 

   ฮ่า..ฮ่า.. เจ้าเด็กคนนี้นี่! 

  หลิงเย่วหัวเราะออกมาเสียงดังพร้อมกับยกมือขึ้นชี้หน้าหลิงหยุนแล้วตอบไปว่า..  เจ้ากับข้าสมแล้วที่เป็นลุงเป็นหลานกัน! ดูเหมือนเจ้าจะล่วงรู้ความคิดของข้า ข้าเองก็นึกถึงต่งซานชวนเช่นกัน.. 

  หลิงหยุนยกมือขึ้นเกาศรีษะด้วยความเก้อเขินแล้วจึงอธิบายให้กับหลิงเย่วฟังว่าเพราะเหตุใดตนถึงได้คิดว่าต่งซานชวนคือผู้ที่เหมาะสมที่สุด!

   ลุงสอง..เท่าที่ข้ารู้มา ในวันที่เหล่านักธุรกิจมาขอยกเลิกสัญญานั้น ต่งซานชวนตั้งใจมาเยี่ยมเยียนตระกูลหลิง และได้นำเงินจำนวนเจ็ดร้อยล้านหยวนมามอบให้กับตระกูลหลิงของเรา และเงินจำนวนนี้ต่งซานชวนก็ได้มาจากการขายทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลต่ง! 

  หลิงหยุนอธิบายต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง ท่านลุง.. การกระทำเช่นนี้ไม่ต่างจากการหยิบยื่นความอบอุ่นให้กับคนที่กำลังหนาวเหน็บ! มิตรภาพเช่นนี้ต่างหากเล่าที่ตระกูลหลิงของเราต้องการ.. 

   กระทำการเช่นใด..ย่อมได้รับผลเช่นนั้น! 

  หลิงเย่วพึมพำออกมาพร้อมกับพยักหน้าเห็นด้วยกับหลิงหยุนแต่ก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูลังเลใจ  เพียงแต่.. ข้าเกรงว่าคนเช่นต่งซานชวนจะไม่ยอมรับน่ะสิ!    หลิงเย่วเงยหน้าขึ้นมองหน้าหลิงหยุนพร้อมกับพูดต่อว่า เรื่องนี้.. เจ้าเองก็น่าจะรู้ดีเช่นกัน! 

  หลิงหยุนเข้าใจความหมายในคำพูดของหลิงเย่วดีแม้ว่าต่งยั่วหลานจะแต่งงานกับหลิงเสี่ยว แต่ตลอดหลายปีมานี้ ต่งซานชวนก็ไม่เคยอาศัยอำนาจบารมีของตระกูลหลิงหาผลประโยชน์เข้าตัวเลยแม้แต่น้อยนิด บุคคลที่มีคุณธรรมสูงส่ง และไม่ยอมก้มหัวให้ผู้ใดเช่นต่งซานชวนนั้น ใช่ว่าตระกูลหลิงจะสามารถพบพานได้ง่ายๆ ตระกูลหลิงจึงสมควรที่ต้องตอบแทนเขากลับไป..

   ฮ่า..ฮ่า.. เรื่องนี้คงต้องขึ้นอยู่กับวาทศิลป์ของท่านลุงสองแล้วล่ะ! 

  หลิงหยุนหยอกเย้าหลิงเย่วและทำเสียงกระซิบกระซาบ  ท่านลุงช่วยไปเจรจากับต่งซานชวนก่อน หากเขายังยืนกรานไม่ยอมรับข้อเสนอของเรา ข้าก็จะไปพบเขาด้วยตัวเองอีกครั้ง! 

   ได้สิ!ตกลงตามที่เจ้าบอก!     เอ่อ..ยังมีอีกสองสามเรื่อง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องสำคัญทั้งสิ้น! 

  หลิงหยุนหยุดครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงพูดต่อทันที  ลุงสอง.. ไม่ทราบว่าท่านพอจะมีผู้ใดที่เชี่ยวชาญเรื่องการบริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บ้างหรือไม่ 

  หลิงเย่วยิ้มพร้อมกับถามขึ้นอย่างรู้ใจ อ่อ.. คงจะเกี่ยวกับเรื่องบริษัทเทียนตี้คอร์ปอเรชั่นของเจ้าสินะ 

  หลิงหยุนพยักหน้าพร้อมกับอธิบายให้หลิงเย่วฟัง เวลานี้ผู้ที่ดูแลกิจการกลุ่มบริษัทเทียนตี้คอร์ปอเรชั่นของข้าทั้งหมดก็คือถังเมิ่ง เพียงแต่เขายังเด็กเกินไป ความรู้ ประสบการณ์ และมุมมองยังไม่กว้างไกลนัก หลังจากบริหารงานมาได้ร่วมเดือน เขาก็เริ่มบ่นกับข้าแล้วว่ามันเป็นงานที่ยากเกินไป เขาเองไม่สามารถที่จะรับมือได้ไหวอีกแล้ว.. 

  หลิงเย่วหัวเราะหึๆพร้อมตอบกลับยิ้มๆ  หลิงหยุน.. เวลานี้นักธุรกิจ และผู้คนในแวดวงสังคมชั้นสูงของประเทศนี้ ล้วนแล้วแต่รู้ว่าบริษัทเทียนตี้คอร์ปอเรชั่นนี้เป็นของเจ้า 

   เรื่องที่เจ้ากว้านซื้อธุรกิจมากมายในจิงฉูมาเป็นของตนเองนั้นตระกูลหลิงเองก็รับรู้ทุกความเคลื่อนไหวของเจ้า แม้ถังเมิ่งจะเป็นเด็กที่มีหัวทางด้านธุรกิจไม่ธรรมดา แต่ต่อให้เขาใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีช่วยเจ้าบริหารกิจการ แต่ก็คงเป็นเรื่องที่ยากเย็นเกินไปสำหรับเด็กอายุขนาดนี้.. 

   หลิงหยุน..เจ้าคงจะรู้แล้วว่าหลังจากที่สิ้นชื่อตระกูลซันกับตระกูลเฉิน วันที่สองตระกูลหลี่ก็ได้ส่งคนสำคัญของตระกูลมาเยี่ยมเยียนตระกูลหลิงทันที และได้ปรึกษาหารือกับข้าถึงเรื่องสำคัญหลายเรื่องในปักกิ่ง แต่เจ้าคงจะยังไม่รู้ว่าตระกูลหลี่ได้แสดงเจตจำนงค์อย่างชัดเจนที่จะลงทุนในกลุ่มบริษัทเทียนตี้คอร์ปอเรชั่นของเจ้า.. 

   ….. 

  หลิงหยุนได้แต่นิ่งเงียบไปเพราะไม่รู้จะตอบอะไร

  หลิงเย่วจึงพูดต่อทันที เรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้.. เจ้าว่าเด็กอย่างถังเมิ่งจะรับมือไหวงั้นรึ 

   ไม่เพียงแค่ตระกูลหลี่เท่านั้น..ตระกูลเล็กอื่นๆ ล้วนแล้วแต่จมูกไวไม่ต่างจากจมูกมด เวลานี้ทุกคนต่างก็พากันเข้าหาตระกูลหลิงของเราเพื่อหวังพึ่งใบบุญ เวลานี้ตระกูลหลิงจึงไม่ต่างจากต้นไม้ใหญ่ที่เหล่านกาจะบินมาเกาะอาศัย.. 

   ฮ่า..ฮ่า.. 

  หลิงหยุนที่นั่งฟังอยู่ถึงกับหัวเราะออกมาอย่างขบขันและร้องอุทานออกมา  มิน่า.. หลายวันนี้ถังเมิ่งถึงได้กระหน่ำส่งข้อความมาให้ข้ามากมายนับไม่ถ้วน ทุกข้อความล้วนคร่ำครวญว่าตนเองจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว! ที่แท้เรื่องราวก็เป็นเช่นนี้นี่เอง! 

  หลิงเย่วได้ฟังก็ถึงกับหัวเราะออกมาเช่นกัน ฮ่า.. ฮ่า.. นี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น ตระกูลหลิงของเราผงาดขึ้นมาเช่นนี้ คงจะมีเรื่องให้วุ่นวายปวดหัวตามมาอีกมากมายทีเดียว!     ลุงสอง..ท่านหมายความเช่นใดงั้นรึ! 

   ข้าก็หมายความว่า..ไม่มีตระกูลซันกับตระกูลเฉินแล้ว อีกทั้งตระกูลหลงกับตระกูลเย่ก็ยังคงนิ่งเงียบไม่เคลื่อนไหวเช่นนี้ ปักกิ่งคงต้องวุ่นวายเป็นแน่! 

   และในช่วงเวลาที่ตระกูลหลิงได้ผงาดขึ้นมาเป็นเสาหลักทั้งสามพร้อมกับตระกูลหลงและตระกูลเย่เช่นนี้ ก็เป็นช่วงเวลาที่มีค่าและสำคัญยิ่งสำหรับตระกูลหลิงของเราอีกด้วย! 

   เวลานี้..เรื่องในจิงฉูไม่สำคัญเท่ากับเรื่องในปักกิ่ง เจ้าเรียกถังเมิ่งมาปักกิ่ง และให้เขาติดตามเรียนรู้เรื่องการทำธุรกิจจากข้า หรือไม่ก็ให้เขาโทรปรึกษาข้า ประชุมผ่านวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ก็ได้.. 

   เจ้าคิดเห็นเช่นใด! หลิงเย่วเสนอวิธีการแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้กับหลิงหยุนพร้อมกับสอบถามความเห็น..

  หลิงหยุนตบต้นขาพร้อมกับร้องออกมาอย่างตื่นเต้น เยี่ยมมาก! ลุงสองท่านช่วยให้ข้าหายปวดหัวได้มากทีเดียว! 

  หลิงเย่วหัวเราะพร้อมกับตอบไปว่า เจ้ามีเรื่องอะไรก็บอกข้ามา.. ข้าพร้อมที่จะช่วยเจ้าแบ่งเบาอยู่แล้ว! 

  หลิงหยุนยิ้มออกมาอย่างมีความสุขพร้อมกับพูดขึ้นว่า ข้ายังมีน้องชายอีกหนึ่งคนชื่อว่าตี้เสี่ยวอู๋.. 

   เวลานี้เขาน่าจะเข้าสู่ขั้นเซียงเทียนแล้ว..เขามีหน้าที่ช่วยข้าฝึกลูกศิษย์อีก 72 คนซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญของข้าในวันข้างหน้า ข้าอยากจะให้พวกเขาทั้งหมดมาปักกิ่ง เพื่อที่ข้าจะสามารถฝึกฝนวิชาให้กับพวกเขาด้วยตัวเองได้! 

  หลิงเยว่ยิ้มพร้อมตอบกลับไปทันที กองกำลังของเจ้าก็คือกองกำลังของตระกูลหลิงเช่นกัน เรื่องนี้ข้าจะจัดการให้เอง.. 

   หลิงหยุน..มีเรื่องหนึ่งที่ข้ายังหาโอกาสบอกกับเจ้าไม่ได้เสียที เพราะตั้งแต่เจ้ากลับมาปักกิ่งครั้งนี้ ก็มัวแต่ยุ่งอยู่กับการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับซันและตระกูลเฉินข้าจึงยังไม่ได้บอกกับเจ้าเสียทีว่า ข้าได้ถือวิสาสะซื้อสำนักฝึกวรยุทธแห่งหนึ่งไว้ให้กับเจ้า ศิษย์ของเจ้าก็จะได้สามารถไปฝึกฝนวิชาที่นี่ได้! 

   …… 

  หลิงหยุนถึงกับนิ่งอึ้งไปอีกครั้ง..ดูเหมือนว่าหลิงหยุนเองก็ลืมคิดถึงเรื่องนี้ไปเช่นกัน แต่คิดไม่ถึงว่าหลิงเย่วจะได้คิด และตระเตรียมทุกอย่างไว้ให้กับตนเรียบร้อยแล้ว..

  สมกับที่ได้รับฉายามันสมองตระกูลหลิงจริงๆ!

   ลุงสอง..ท่านช่างรอบคอบนัก! 

  หลิงหยุนร้องบอกหลิงเย่วด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความสุขและได้แต่คิดว่าทำงานกับคนเฉลียวฉลาดเช่นหลิงเย่ว ทำให้เขาลดความกังวลไปได้มากเลยทีเดียว!

   ลุงสอง..อีกไม่กี่วันก็จะเป็นวันมอบตัวเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว หลิงยูน้องสาวของข้า และเพื่อนๆที่เมืองจิงฉูคงจะต้องเดินทางมาปักกิ่ง ข้า… 

  หนิงหลิงยู่เองได้แจ้งหลิงหยุนมาล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันที่ 10 กันยายนนั้นจะเป็นวันมอบตัวเข้ามหาวิทยาลัยหยานจิง และหลิงหยุนเองก็จำเรื่องนี้ได้ขึ้นใจ!

  แทบไม่ต้องรอให้หลิงหยุนพูดจบหลิงเย่วชิงตอบกลับไปทันที  หลิงหยุน.. เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องกังวลใจไป ข้าจะให้คนจัดการจองโรงแรมไว้ให้ แต่หากไม่ต้องการให้อยู่โรงแรม จะให้เพื่อนๆ ของเจ้าไปอยู่ที่บ้านหลังเล็กแทนก็ได้ ที่นั่นค่อนข้างกว้างขวางใหญ่โต เพื่อนๆของเจ้าอยากจะอยู่นานเท่าไหร่ก็ได้ตามสบาย.. 

   เจ้ายังมีเรื่องอื่นอีกหรือไม่ 

 

DRAGON EMPEROR MARTIAL GOD

DRAGON EMPEROR MARTIAL GOD

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร
Status: Ongoing
ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..

Comment

Options

not work with dark mode
Reset